ความคล้ายคลึงกันระหว่าง คลอเฟนะมีนและเยื่อจมูกอักเสบจากภูมิแพ้
คลอเฟนะมีนและเยื่อจมูกอักเสบจากภูมิแพ้ มี 6 สิ่งที่เหมือนกัน (ใน ยูเนี่ยนพีเดีย): ภูมิแพ้สารต้านฮิสตามีนฮิสตามีนโรคหวัดไดเฟนไฮดรามีนเยื่อจมูกอักเสบ
ภูมิแพ้
ูมิแพ้ (allergy) คือความผิดปกติจากภาวะภูมิไวเกินของระบบภูมิคุ้มกัน อาการภูมิแพ้เกิดขึ้นเมื่อระบบภูมิคุ้มกันของมนุษย์ตอบสนองต่อสสารที่ไม่เป็นอันตรายต่อร่างกายซึ่งมีอยู่ทั่วไปในธรรมชาติ ซึ่งสารที่ก่อให้เกิดการตอบสนองนั้นเรียกว่า สารก่อภูมิแพ้ โดยอาการตอบสนองต่อสารเหล่านี้ไม่ใช่ความผิดปกติแต่กำเนิด, สามารถคาดเดาได้ และไม่เรื้อรัง ภูมิแพ้เป็นหนึ่งในความผิดปกติจากภาวะภูมิไวเกินและถูกเรียกในเชิงวิชาการว่า ประเภทที่หนึ่ง (type I) หรือ ประเภทเฉียบพลัน (immediate) อาการภูมิแพ้เหล่านี้เฉพาะเจาะจงเนื่องจากเกิดขึ้นโดยการกระตุ้นเซลล์เม็ดเลือดขาวที่มากเกินไป คือ แมสต์เซลล์ และเบโซฟิล โดยแอนติบอดีที่ชื่อว่า อิมมูโนโกลบูลินอี (IgE) การกระตุ้นนี้ส่งผลให้เกิดการอักเสบซึ่งมีระดับตั้งแต่ทำให้ระคายเคืองไปจนถึงการเสียชีวิต ภูมิแพ้ระดับเบา เช่น เยื่อจมูกอักเสบ พบได้ทั่วไปในหมู่ประชากรของมนุษย์และก่อให้เกิดอาการ เช่น ตาแดง, การคัน, น้ำมูกไหล, กลาก, ลมพิษ และหอบหืด ซึ่งภูมิแพ้นี้เองที่ในบางสถานการณ์อาจจะเป็นต้นเหตุสำคัญในอาการหอบหืด ในคนไข้บางราย อาการแพ้รุนแรงต่อสภาวะแวดล้อม, สารก่อภูมิแพ้ทางโภชนาการ หรือยาบางชนิด อาจส่งผลให้เกิดอาการตอบสนองที่เป็นอันตรายต่อชีวิตที่เรียกว่าแอนาฟิแล็กซิส นอกจากนี้อาการแพ้อาหารหรืออาการตอบสนองต่อพิษของการกัดต่อยจากแมลง เช่น ต่อและผึ้ง ก็มักเกี่ยวข้องกับอาการรุนแรงเหล่านี้ การทดสอบหลากหลายวิธีเพื่อวินิจฉัยอาการภูมิแพ้ เช่น การนำสารก่อภูมิแพ้ที่น่าจะเป็นไปได้ทาลงบนผิวหนังเพื่อให้เกิดอาการแพ้ เช่น อาการบวม หรือการทดสอบเลือด ต่างก็สามารถช่วยให้ค้นพบสารก่อภูมิแพ้แบบเจาะจงที่เป็นอิมมูโนโกลบูลินอีได้ การรักษาภูมิแพ้ เช่น การหลีกเลี่ยงการสัมผัสกับสารก่อภูมิแพ้ หรือการรับประทานยาต้านฮิสทามีน ก็สามารถป้องกันการเกิดอาการภูมิแพ้แบบเจาะจงได้ หรือไม่ว่าจะเป็นการรับสารสเตอรอยด์ซึ่งจะช่วยปรับปรุงระบบภูมิคุ้มกัน และยาบรรเทาอาการคัดจมูกก็สามารถบรรเทาอาการแพ้ลงได้ ส่วนมากแล้วยาเหล่านี้เป็นยาที่ใช้รับประทาน ยกเว้นอะดรีนาลินที่จำเป็นต้องรับผ่านทางการฉีดยา นอกจากนี้แล้วยังมีอีกวิธีคือการบำบัดด้วยสารก่อนภูมิแพ้ ซึ่งจะฉีดสารก่อนภูมิแพ้เข้าไปในร่างกายทีละน้อยเพื่อให้ร่างกายสร้างระบบภูมิคุ้มกันต่ออาการแพ้นั้นได้เอง.
คลอเฟนะมีนและภูมิแพ้ · ภูมิแพ้และเยื่อจมูกอักเสบจากภูมิแพ้ ·
สารต้านฮิสตามีน
รต้านฮิสตามีน (antihistamine) หรือ ทั่วไปเรียกว่า ยาแก้แพ้ เป็น ยา ที่ใช้กำจัดหรือลดผลของ ฮิสตามีน (histamine) ซึ่งเป็นเป็นสารเคมีที่ถูกปลดปล่อยภายในร่างกายจาก ปฏิกิริยาภูมิแพ้ (allergic reactions) โดยผ่านการกระทำที่ ตัวรับฮิสตามีน (histamine receptors) สารที่มีผลในการรักษาจะออกฤทธิ์ในการยับยั้งตัวรับฮีสทามีนนี้จึงถูกเรียกว่า สารต้านฮีสตามีน - สารอื่นที่มีผลต้านฮีสทามีนแต่ไม่ออกฤทธิ์ที่ ตัวรับฮิสตามีน จะไม่เป็นสารต้านฮีสทามีนที่แท้จริง โดยทั่วไป สารต้านฮีสตามีนจะหมายถึง ตัวรับปฏิปักษ์ H1 ซึ่งเรียกว่า สารต้านฮิสตามีน-H1 เราพบว่า สารต้านฮิสตามีน-H1เป็น ตัวทำการกลับ (inverse agonist) ที่ตัวรับฮิสตามีน-H1มากกว่าที่จะเป็น ตัวรับปฏิปักษ์ per se.
คลอเฟนะมีนและสารต้านฮิสตามีน · สารต้านฮิสตามีนและเยื่อจมูกอักเสบจากภูมิแพ้ ·
ฮิสตามีน
ีสตามีน (Histamine) เป็นสารที่มีบทบาทสำคัญในกระบวนการอักเสบ หลั่งจากมาสต์เซลล์ (Mast cell) เบโซฟิล และเกล็ดเลือด เมื่อเนื้อเยื่อถูกทำลาย ฮีสตามีนที่หลังมาจากเซลล์เหล่านี้จะจับกับตัวรับ (Receptor) ที่เส้นเลือดฝอยและเส้นเลือดดำขนาดเล็ก (Venule) ทำให้เส้นเลือดขยายตัวและเพิ่มการไหลผ่านของพลาสมาในเส้นเลือ.
คลอเฟนะมีนและฮิสตามีน · ฮิสตามีนและเยื่อจมูกอักเสบจากภูมิแพ้ ·
โรคหวัด
อหอยส่วนจมูกอักเสบเฉียบพลัน หรือโรคเยื่อจมูกและลำคออักเสบเฉียบพลัน (Acute nasopharyngitis) เรียกโดยทั่วไปว่า โรคหวัด หรือ ไข้หวัด (Common cold) เป็นโรคติดเชื้อไวรัสในทางเดินหายใจส่วนบนที่กระทบต่อจมูกเป็นหลัก อาการของโรคมีทั้งไอ เจ็บคอ น้ำมูกไหล และไข้ซึ่งมักหายไปเองในเจ็ดถึงสิบวัน แต่บางอาการอาจอยู่ได้นานถึงสามสัปดาห์ ไวรัสกว่า 200 ชนิดเป็นสาเหตุของโรคหวัด โดยไรโนไวรัสเป็นชนิดที่พบบ่อยที่สุด การติดเชื้อทางเดินหายใจส่วนบนจำแนกได้หลวม ๆ ตามบริเวณที่ได้รับผลจากไวรัส โดยโรคหวัดกระทบต่อจมูก คอหอย (คอหอยอักเสบ) และโพรงจมูก (โพรงจมูกอักเสบ) เป็นหลัก ส่วนใหญ่อาการเกิดจากภูมิคุ้มกันของร่างกายตอบสนองต่อการติดเชื้อมากกว่าการทำลายเนื้อเยื่อจากไวรัสเอง การล้างมือเป็นวิธีการป้องกันหลัก และหลักฐานบางชิ้นสนับสนุนประสิทธิภาพของการสวมหน้ากากอนามัย โรคหวัดไม่มีวิธีรักษาจำเพาะ แต่สามารถรักษาอาการได้ โรคหวัดเป็นหนึ่งในโรคติดต่อที่พบบ่อยที่สุดในมนุษย์ และอยู่คู่กับมนุษยชาติมาแต่โบราณ ผู้ใหญ่ติดโรคหวัดโดยเฉลี่ยสองถึงสามครั้งต่อปี ขณะที่เด็กโดยเฉลี่ยติดโรคหวัดระหว่างหกถึงสิบสองครั้งต่อปี.
คลอเฟนะมีนและโรคหวัด · เยื่อจมูกอักเสบจากภูมิแพ้และโรคหวัด ·
ไดเฟนไฮดรามีน
ฟนไฮดรามีน (Diphenhydramine).
คลอเฟนะมีนและไดเฟนไฮดรามีน · เยื่อจมูกอักเสบจากภูมิแพ้และไดเฟนไฮดรามีน ·
เยื่อจมูกอักเสบ
ื่อจมูกอักเสบ (Rhinitis) หรือ ไข้หวัดอักเสบ (Coryza) เป็นการระคายเคืองและการอักเสบของเยื่อเมือกภายในจมูก มักจะแสดงอาการทั่วไปเช่นคัดจมูก, มีน้ำมูก, จาม และ น้ำเมือกหยด โรคนี้ถือเป็นโรคสามัญที่ประชากรส่วนใหญ่ในหลายประเทศมักจะป่วยเป็นประจำ การอักเสบอาจเกิดจากเชื้อไวรัส, แบคทีเรีย, จุลปรสิต หรือ ละออง นอกจากนี้ อากาศหนาวก็เป็นสาเหตุได้เช่นเดียวกัน ซึ่งในบรรดาสาเหตุทั้งหมดนี้ เยื่อจมูกอักเสบจากภูมิแพ้เป็นกรณีที่พบได้มากที่สุด ภาวะเยื่อจมูกอักเสบอาจแสดงอาการอื่นร่วมด้วยอาทิ คันจมูก, ไอ, ปวดหัว, ล้า, ละเหี่ย และรับรู้ช้าลง และยังอาจส่งผลให้มองเห็นพร่ามัวและเกิดการบวมบริเวณรอบดวงตา นอกจากนี้ การอักเสบยังก่อให้เกิดเมือกจำนวนมาก ซึ่งนำมาซึ่งภาวะคัดจมูกและมีน้ำมูก ในกรณีของการอักเสบจากภูมิแพ้นั้นมีสาเหตุมาจากการสลายเกล็ดของแมสต์เซลล์ ซึ่งเมื่อเซลล์ถูกสลายเกล็ดจะปล่อยฮิสตามีนและสารอื่นๆออกมาที่ทำร่างกายเมื่อยล้าและละเหี่ย สามารถทำการป้องกันการเป็นเยื่อจมูกอักเสบได้โดยรับวัคซีนจำพวกวัคซีนไข้หวัดใหญ่, วัคซีนต้านอดีโนไวรัส, วัคซีนโรคหัด, วัคซีนโรคหัดเยอรมัน, วัคซีนต้านเยื่อหุ้มสมองอักเสบ, วัคซีนป้องกันเชื้อฮีโมฟิลุสชนิดบี, วัคซีนโรคคอตีบ และหากเป็นโรคนี้แล้ว ยาทานจำพวกสารต้านฮิสทามีนหรือคอร์ดิโคสเตียรอยด์จะช่วยทุเลาอาการลงได้.
คลอเฟนะมีนและเยื่อจมูกอักเสบ · เยื่อจมูกอักเสบและเยื่อจมูกอักเสบจากภูมิแพ้ ·
รายการด้านบนตอบคำถามต่อไปนี้
- สิ่งที่ คลอเฟนะมีนและเยื่อจมูกอักเสบจากภูมิแพ้ มีเหมือนกัน
- อะไรคือความคล้ายคลึงกันระหว่าง คลอเฟนะมีนและเยื่อจมูกอักเสบจากภูมิแพ้
การเปรียบเทียบระหว่าง คลอเฟนะมีนและเยื่อจมูกอักเสบจากภูมิแพ้
คลอเฟนะมีน มี 43 ความสัมพันธ์ขณะที่ เยื่อจมูกอักเสบจากภูมิแพ้ มี 20 ขณะที่พวกเขามีเหมือนกัน 6, ดัชนี Jaccard คือ 9.52% = 6 / (43 + 20)
การอ้างอิง
บทความนี้แสดงความสัมพันธ์ระหว่าง คลอเฟนะมีนและเยื่อจมูกอักเสบจากภูมิแพ้ หากต้องการเข้าถึงบทความแต่ละบทความที่ได้รับการรวบรวมข้อมูลโปรดไปที่: