โลโก้
ยูเนี่ยนพีเดีย
การสื่อสาร
ดาวน์โหลดได้จาก Google Play
ใหม่! ดาวน์โหลด ยูเนี่ยนพีเดีย บน Android ™ของคุณ!
ดาวน์โหลด
เร็วกว่าเบราว์เซอร์!
 

การ์โล อันเชลอตตีและดีดีเย ดรอกบา

ทางลัด: ความแตกต่างความคล้ายคลึงกันค่าสัมประสิทธิ์การเปรียบเทียบ Jaccardการอ้างอิง

ความแตกต่างระหว่าง การ์โล อันเชลอตตีและดีดีเย ดรอกบา

การ์โล อันเชลอตตี vs. ดีดีเย ดรอกบา

การ์โล อันเชลอตตี (Carlo Ancelotti; เกิดวันที่ 10 มิถุนายน ค.ศ. 1959 เป็นอดีตนักฟุตบอลและผู้จัดการทีมฟุตบอลชาวอิตาลี ปัจจุบันเป็นผู้จัดการทีม อันเชลอตตีเล่นนตำแหน่งกองกลางและประสบความสำเร็จในกับโรมา ในตำแหน่งผู้จัดการทีม ซึ่งได้ 1 ถ้วยสกูเดตโต และ 4 ถ้วยโกปปาอีตาเลีย และเป็นส่วนหนึ่งของเอซีมิลาน ในช่วงปลายทศวรรษที่ 80 อันเชลอตติได้รับ 2 ถ้วยสกูเดตโตและ 2 ถ้วยยุโรป ในระยะเวลา 5 ปี อันเชลอตติลงแข่งขันในฐานะนักฟุตบอลทีมชาติอิตาลี 26 นัด ยิงได้ 1 ประตู และลงแข่งในฟุตบอลโลก 1986 และ 1990 หลังจากเป็นผู้จัดการทีมเรจเจียนา, ปาร์มา, ยูเวนตุส ได้รับว่าจ้างเป็นผู้จัดการทีมเอซีมิลานในปี ค.ศ. 2001 นำพาทีมชนะสกูเดตโตใน ค.ศ. 2004 และชนะในแชมเปียนส์ลีกใน ค.ศ. 2003 และ ค.ศ. 2007 ต่อมาเป็นผู้จัดการทีมเชลซี โดยในฤดูกาลแรกก็นำทีมชนะในพรีเมียร์ลีกและถ้วยเอฟเอคัพ 2 ครั้ง อันเชลอตติถือเป็นหนึ่งใน 2 คน ที่ไม่ใช่ชาวอังกฤษที่นำทีมชนะ 2 ครั้ง อีกคนหนึ่งคือ อาร์แซน แวงแกร์ ของอาร์เซนอล ในปลายปี ค.ศ. 2015 อันเชลอตติได้รับการประกาศอย่างเป็นทางการจากบาเยิร์นมิวนิก ในบุนเดสลีกา เยอรมนี ว่าในฤดูกาลหน้า จะได้รับแต่งตั้งให้เป็นผู้จัดการทีมแทนที่ของเปป กวาร์ดีโอลา ที่ประกาศก่อนหน้านั้นว่าจะไม่ทำทีมต่อ. ีดีเย อีฟว์ ดรอกบา เตบีลี (Didier Yves Drogba Tébily) เกิดเมื่อ 11 มีนาคม ค.ศ. 1978 ที่เมืองอาบีจาน ประเทศโกตดิวัวร์ (ไอวอรีโคสต์) เป็นอดีตนักฟุตบอลของเชลซีในพรีเมียร์ลีกอังกฤษ เคยเป็นกัปตันทีมชาติไอวอรีโคสต์และยังเป็นเจ้าของสถิติยิงประตูสูงสุดในทีมชาติที่ 65 ประตู รวมถึงเป็นนักเตะผู้ทำประตูสูงสุดในพรีเมียร์ลีก ฤดูกาล 2006-2007 ด้วยจำนวน 20 ประตู (33 ประตูถ้ารวมทุกการแข่งขัน) และเป็นผู้ทำประตูสูงสุดในพรีเมียร์ลีก ฤดูกาล 2009-2010 ด้วยจำนวน 29 ประตู ดีดีเย ดรอกบา เป็นนักฟุตบอลคนแรกที่ทำประตูในสนามเวมบลีย์ จากการยิงประตูให้เชลซีเอาชนะแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดไปด้วยคะแนน 1-0 ดรอกบาย้ายจากออแล็งปิกเดอมาร์แซย์มาร่วมทีมเชลซีช่วงกลางปี 2004 แม้ปัญหาอาการบาดเจ็บจะรบกวนเขาบ่อยครั้งในฤดูกาลแรกแต่ดรอกบาก็ยังทำประตูได้ถึง 16 ครั้งรวมทุกรายการหนึ่งในนั้นเป็นประตูในนัดชิงชนะเลิศคาร์ลิงคัพ ฤดูกาล 2005/06 ดรอกบาทำได้ 16 ประตูอีกครั้ง ในจำนวนนั้น 12 ประตูเกิดขึ้นในพรีเมียร์ลีกและช่วยให้เชลซีป้องกันแชมป์ไว้ได้ แต่ก่อนที่เชลซีจะป้องกันแชมป์ได้นั้น ดรอกบาถูกกล่าวหาอย่างหนักถึงการพุ่งล้มหลังจากสองเกมปัญหาที่เขาใช้มือเล่นบอล แต่ดรอกบาสามารถสยบเสียงวิจารณ์ด้วยผลงานอันยอดเยี่ยมในเกมกับเวสต์แฮมเมื่อเดือนมีนาคมปี 2006 เชลซีที่กำลังตามหลังอยู่ทั้งประตูและจำนวนผู้เล่นพลิกกลับมาเอาชนะไปได้ 4-1 ในฤดูกาลต่อมาดรอกบาทำได้ถึง 33 ประตูซึ่งเป็นการที่ยิงในพรีเมียร์ลีก 20 ลูก ทำให้เขาคว้ารางวัลรองเท้าทองคำของพรีเมียร์ลีกไปครอง ดรอกบายังสร้างสถิติลงสนามมากที่สุดในฤดูกาลเดียวที่ 60 นัดมากเป็นอันดับสองในประวัติศาสตร์สโมสร เขาจบฤดูกาลด้วยการยิงประตูแรกของสโมสรในนิวเวมบลีย์ให้เชลซีเอาชนะแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดในนัดชิงชนะเลิศเอฟเอคัพ ปี 2007 ฤดูกาล 2007/08 ดรอกบาโดนอาการบาดเจ็บที่หัวเข่ารบกวนและต้องลงเล่นในศึกฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติในแอฟริกา ทำให้เขาจบฤดูกาลด้วยการยิงได้เพียง 15 ประตู หนึ่งในนั้นคือการยิงสเปอส์ที่นิวเวมบลีย์ในนัดชิงชนะเลิศคาร์ลิงคัพที่เชลซีแพ้ไป ดรอกบายิงลิเวอร์พูลถึง 2 ประตูที่สแตมฟอร์ดบริดจ์ในเกมยูฟ่าแชมเปียนส์ลีกรอบรองชนะเลิศ และจบทัวร์นาเมนต์นั้นด้วยใบแดงในนัดชิงชนะเลิศกับแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด การมาของผู้จัดการทีมใหม่อย่างลูอิส เฟลีปี สโกลารี ในฤดูกาล 2008/09 มาพร้อมกับความคาดหวังที่จะทำให้เกมรุกของเชลซีมีคุณภาพขึ้น แต่ดรอกบายังคงถูกรบกวนจากอาการบาดเจ็บ ทำให้เล่นไม่ได้อย่างที่เคย แม้จะทำประตูเบิร์นลีย์ได้ในคาร์ลิงคัพ เขากลับโดนลงโทษห้ามแข่งถึงสามนัดจากการฉลองประตูที่ไม่เหมาะสม เมื่อกุส ฮิดดิงค์เข้ามาคุมทีมตั้งแต่กลางเดือนกุมภาพันธ์ ดรอกบาก็เรียกฟอร์มเก่งกลับมาได้อีกครั้งด้วยการทำประตูสำคัญให้ทีมหลายครั้ง แต่ก็ต้องพบกับเหตุการณ์พลิกผันอีกครั้งในเกมแชมเปียนส์ลีกรอบรองชนะเลิศกับบาร์เซโลนา หลังจากเชลซีตกรอบด้วยประตูในช่วงทดเวลาของอีเนียสตา ดรอกบาแสดงความไม่พอใจคำตัดสินของทอม เฮนนิง โอเฟรโบ ทำให้ถูกลงโทษห้ามแข่งสามนัดในฤดูกาลหน้า ในนัดชิงเอฟเอคัพปีนั้น ดรอกบาทำประตูตีเสมอเอฟเวอตัน ซึ่งเป็นประตูที่ 4 ของเขาจาก 4 เกมในนิวเวมบลีย์ การทำคนเดียวสองประตูในนัดเปิดฤดูกาลพรีเมียร์ลีก 2009/10 เป็นสัญญาณที่ดีว่าดรอกบาน่าจะรักษาฟอร์มการเล่นจากช่วยท้ายฤดูกาลก่อนไว้ได้ การ์โล อันเชลอตตีวางแทกติกให้ดรอกบาและอาแนลกาได้เล่นคู่กัน ทำให้เขายิงได้ถึง 18 ประตูจาก 21 เกมในช่วงคริสต์มาส และจบฤดูกาลด้วยจำนวน 37 ประตูรวมทุกรายการ ช่วยให้เชลซีคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกและดรอกบาคว้ารางวัลรองเท้าทองคำไปครอง ประตูชัยของเขาในเอฟเอคัพนัดชิงชนะเลิศยังช่วยให้เชลซีคว้าดับเบิลแชมป์ฟุตบอลลีกและถ้วยได้เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ ดรอกบายังได้รับการโหวตให้เป็นผู้เล่นยอดเยี่ยมประจำฤดูกาลโดยแฟนบอลอีกด้วย ดรอกบาเริ่มต้นค้าแข้งในดิวิชัน 2 ของลีกฝรั่งเศสกับทีมเลอม็อง ก่อนที่จะย้ายขึ้นมาเล่นในดิวิชัน 1 กับทีมแก็งก็อง จากนั้นออแล็งปิกเดอมาร์แซย์คว้าตัวดรอกบาไปร่วมทีมและเขาก็ไม่ทำให้ผิดหวังด้วยการทำ 18 ประตูจากการลงสนาม 35 นัดในลีก ยิ่งไปกว่านั้นดรอกบายังยิงในยูฟ่าคัพอีก 6 ประตู ทำให้มูรีนโยวางตัวดรอกบาเป็นเป้าหมายหลักในช่วงตลาดซื้อขายนักเตะกลางปี และก็คว้าตัวเขามาได้สำเร็จ ดรอกบาลงเล่นทีมชาติครั้งแรกในปี 2002 เขานำทีมชาติโกตดิวัวร์เข้าไปเล่นในฟุตบอลโลกเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์เมื่อปี 2006 ในฐานะกัปตันทีมและต่อด้วยครั้งที่ 2 ในปี 2010 แม้ดรอกบาจะทำประตูได้ทั้งสองครั้ง แต่ทีมชาติของเขาก็ไม่สามารถผ่านรอบแบ่งกลุ่มไปได้ ในการแข่งขันระดับทวีป โกตดิวัวร์ยังไม่ประสบความสำเร็จเท่าที่ควร โดยแพ้อียิปต์ในการดวลจุดโทษในนัดชิงชนะเลิศเมื่อปี 2006 คว้าอันดับ 4 ในปี 2008 ที่กานา และตกรอบ 8 ทีมสุดท้ายในปี 2010 ในช่วงปี 2012 เชลซีได้ไปเล่นยูฟ่าแชมเปียนส์ลีกในรอบชิงชนะเลิศกับบาเยิร์นมิวนิก โดยเขาเป็นฮีโร่โขกทำประตูให้ทีมในนาทีที่ 88 ซึ่งช่วยทำให้เชลซีตีเสมอบาเยิร์นมิวนิก 1-1 (หลังผ่าน 120 นาที) จึงได้ดวลจุดโทษตัดสิน ปรากฏว่า เขายิงเป็นคนสุดท้ายช่วยให้ทีมเชลซีชนะจุดโทษด้วยผล 4-3 จึงคว้าแชมป์มาได้ ซึ่งเป็นแชมป์ยูฟ่าแชมเปียนส์ลีกครั้งแรกของสโมสรนับตั้งแต่ก่อตั้งสโมสรมา ซึ่งดรอกบาก็ถูกโหวตให้เป็น ยูฟ่าแมนออฟเดอะแมตช์ ในการแข่งขันฤดูกาล 2011-2012 ดรอกบาได้ย้ายไปเล่นให้กับกาลาทาซาไรในซือเปร์ลีก ตุรกี เป็นระยะเวลา 1 ปี ก่อนที่ก่อนเปิดฤดูกาล 2014-15 ได้ถูกเรียกตัวจากโชเซ มูรีนโย ให้กลับมายังเชลซีในตำแหน่งกองหน้าอีกครั้ง แม้อายุจะมากแล้วถึง 35 ปีก็ตาม หลังจบฤดูกาล 2014-15 ดรอกบาได้ตกลงเซ็นสัญญาหนึ่งปีกับมอนทรีออลอิมแพกต์ในเมเจอร์ลีกซอกเกอร์ สหรัฐอเมริก.

ความคล้ายคลึงกันระหว่าง การ์โล อันเชลอตตีและดีดีเย ดรอกบา

การ์โล อันเชลอตตีและดีดีเย ดรอกบา มี 4 สิ่งที่เหมือนกัน (ใน ยูเนี่ยนพีเดีย): ยูฟ่าแชมเปียนส์ลีกสโมสรฟุตบอลบาเยิร์นมิวนิกสโมสรฟุตบอลเชลซีเอฟเอคัพ

ยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก

ูฟ่าแชมเปียนส์ลีก (UEFA Champions League; ชื่อเดิม: ยูโรเปียนคัพ; European Cup) เป็นการแข่งขันฟุตบอลระหว่างสโมสรต่าง ๆ ภายในทวีปยุโรป ซึ่งจัดการแข่งขันโดยสมาคมฟุตบอลยุโรป (ยูฟ่า) เริ่มการแข่งขันครั้งแรกในปี ค.ศ. 1955 ก่อนจะเปลี่ยนมาใช้ชื่อปัจจุบันเมื่อปี ค.ศ. 1992 โดยทีมที่ได้อับดับที่ 1-3 ในแต่ละลีกจะได้ไปแข่งโดยอัตโนมัติ ส่วนที่ 4 จะได้ไปเพลย์ออฟรอบสุดท้ายทั้งนี้ขึ้นอยู่กับมาตรฐานของแต่ละลีกเช่นกันจากการจัดอันดับคะแนนลีกของยูฟ่า ลักษณะของการแข่งขันรายการนี้จะเป็นการนำทีมที่มีคะแนนสะสมมากที่สุดของแต่ละลีกสูงสุดของแต่ละประเทศในทวีปยุโรปมาแข่งขันกัน โดยพิจารณาออกมาเป็นโควตาของแต่ละลีก พรีเมียร์ลีกของอังกฤษ, ลาลีกาของสเปน และบุนเดสลีกาของเยอรมนีมีโควตาสี่ทีม ส่วนเซเรียอาของอิตาลีมีโควตาสามทีมเป็นต้น ทั้งนี้ สโมสรที่ชนะเลิศมากที่สุดคือ เรอัลมาดริด (สเปน, 12 ครั้ง) อันดับสองคือ เอซีมิลาน (อิตาลี, 7 ครั้ง) อันดับสามคือ บาเยิร์นมิวนิก (เยอรมัน, 5 ครั้ง) โดยสโมสรที่ชนะเลิศ 3 สมัยติดต่อกันหรือชนะเลิศครบ 5 สมัย จะได้รับถ้วยรางวัลไปเป็นกรรมสิทธิ์ของสโมสร เช่นเดียวกับถ้วยรางวัลอื่น ๆ ของยูฟ่า โดยที่เรอัลมาดริดได้ไปเมื่อ ค.ศ. 1958, อายักซ์ (ค.ศ. 1973), บาเยิร์นมิวนิก (ค.ศ. 1976), เอซีมิลาน (ค.ศ. 1994) และลิเวอร์พูล (ค.ศ. 2005) บาเซโลน่า (ค.ศ. 2015) ปัจจุบันในฤดูกาล 2016-17 สโมสรที่ชนะเลิศคือ เรอัลมาดริด และเป็นแชมป์สมัยที่สิบสองในรายการนี้ โดยเอาชนะยูเวนตุสไป 4-1 ในช่วง 90 นาที ในนัดชิงชนะเลิศ 2017.

การ์โล อันเชลอตตีและยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก · ดีดีเย ดรอกบาและยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก · ดูเพิ่มเติม »

สโมสรฟุตบอลบาเยิร์นมิวนิก

มสรฟุตบอลบาเยิร์นมิวนิก (FC Bayern Munich) หรือ สโมสรฟุตบอลไบเอิร์นมึนเชิน (FC Bayern München) เป็นสโมสรในประเทศเยอรมนี อยู่ที่เมืองมิวนิก รัฐบาวาเรีย อีกชื่อหนึ่งอาจเรียกว่า บาวาเรียมิวนิก หรือ ไบเอิร์นมึนเชิน เป็นสโมสรฟุตบอลที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดในประเทศเยอรมนี โดยสามารถคว้าแชมป์ลีกสูงสุด (บุนเดสลีกา) มาครองได้มากถึง 24 ครั้ง แชมป์สโมสรโลก 2 ครั้ง ยูโรเปี้ยนคัพ/ยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก 5 ครั้ง ยูฟ่าคัพวินเนอร์สคัพ 1 ครั้ง และยูฟ่าคัพ 1 ครั้ง สโมสรก่อตั้งขึ้นในปี..

การ์โล อันเชลอตตีและสโมสรฟุตบอลบาเยิร์นมิวนิก · ดีดีเย ดรอกบาและสโมสรฟุตบอลบาเยิร์นมิวนิก · ดูเพิ่มเติม »

สโมสรฟุตบอลเชลซี

มสรฟุตบอลเชลซี (Chelsea Football Club) เป็นสโมสรฟุตบอลอาชีพที่ตั้งอยู่ในเขตฟูลัม, ลอนดอน ซึ่งเล่นอยู่ในพรีเมียร์ลีก ลีกสูงสุดของฟุตบอลอังกฤษ สโมสรฟุตบอลเชลซีก่อตั้งขึ้นเมื่อวันที่ 10 มีนาคม..

การ์โล อันเชลอตตีและสโมสรฟุตบอลเชลซี · ดีดีเย ดรอกบาและสโมสรฟุตบอลเชลซี · ดูเพิ่มเติม »

เอฟเอคัพ

อฟเอคัพ (FA Cup) เป็นการแข่งขันฟุตบอลถ้วยที่ใช้การแข่งขันแบบแพ้คัดออก (น็อกเอาต์) ซึ่งจัดการแข่งขันโดยสมาคมฟุตบอลอังกฤษ (เอฟเอ) เริ่มการแข่งขันเป็นครั้งแรกเมื่อ ค.ศ. 1872 ปัจจุบันมีสโมสรฟุตบอลเข้าร่วมทั้งสิ้น 762 ทีม โดยสโมสรที่ชนะเลิศสูงสุดคือ อาร์เซนอล จำนวน 13 ครั้ง ลักษณะของฟุตบอลเอฟเอคัพ จะมีสโมสรฟุตบอลหลายระดับร่วมการแข่งขัน โดยสโมสรในระดับล่างของฟุตบอลอังกฤษ จะแข่งขันรอบคัดเลือก แบบแพ้คัดออกเสียก่อน โดยสโมสรในลีกระดับสูง จะเข้าร่วมแข่งขันในรอบหลังๆ เช่น สโมสรในลีกวันและลีกทู จะเข้ามาแข่งขันในรอบแรกเมื่อจบรอบคัดเลือก ในขณะที่สโมสรจากพรีเมียร์ลีก จะเข้ามาร่วมแข่งขันในรอบที่สาม.

การ์โล อันเชลอตตีและเอฟเอคัพ · ดีดีเย ดรอกบาและเอฟเอคัพ · ดูเพิ่มเติม »

รายการด้านบนตอบคำถามต่อไปนี้

การเปรียบเทียบระหว่าง การ์โล อันเชลอตตีและดีดีเย ดรอกบา

การ์โล อันเชลอตตี มี 23 ความสัมพันธ์ขณะที่ ดีดีเย ดรอกบา มี 27 ขณะที่พวกเขามีเหมือนกัน 4, ดัชนี Jaccard คือ 8.00% = 4 / (23 + 27)

การอ้างอิง

บทความนี้แสดงความสัมพันธ์ระหว่าง การ์โล อันเชลอตตีและดีดีเย ดรอกบา หากต้องการเข้าถึงบทความแต่ละบทความที่ได้รับการรวบรวมข้อมูลโปรดไปที่:

Hey! เราอยู่ใน Facebook ตอนนี้! »