การแข่งขันระหว่างสโมสรฟุตบอลลิเวอร์พูลกับสโมสรฟุตบอลแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดและภาษาอังกฤษ

ทางลัด: ความแตกต่างความคล้ายคลึงกันค่าสัมประสิทธิ์การเปรียบเทียบ Jaccardการอ้างอิง

ความแตกต่างระหว่าง การแข่งขันระหว่างสโมสรฟุตบอลลิเวอร์พูลกับสโมสรฟุตบอลแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดและภาษาอังกฤษ

การแข่งขันระหว่างสโมสรฟุตบอลลิเวอร์พูลกับสโมสรฟุตบอลแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด vs. ภาษาอังกฤษ

การแข่งขันระหว่างสโมสรฟุตบอลลิเวอร์พูลกับสโมสรฟุตบอลแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด (Liverpool F.C.–Manchester United F.C. rivalry) หรือสื่อมวลชนไทยเรียกว่า ศึกแดงเดือด หรือ วันแดงเดือด เป็นการแข่งขันฟุตบอลระหว่างลิเวอร์พูลกับแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด ถือเป็นหนึ่งในการแข่งขันนัดสำคัญที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในฟุตบอลยุโรป ทั้ง 2 ทีมเป็นสโมสรที่ประสบความสำเร็จในอังกฤษ โดยผลงานทั้งสองทีมรวมได้รับรางวัล 121 ถ้วย ในที่นี้เป็น 80 ถ้วยที่สำคัญ โดยลิเวอร์พูลชนะ 59 รางวัล (จาก 41 รายการสำคัญ) ส่วนแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดชนะ 62 รางวัล (จาก 39 รายการสำคัญ) ทั้งนี้นอกเหนือจากการแข่งขันบนสนาม ทั้งสองทีมยังมีรายได้มากมาย และมีผู้สนับสนุนมากมาย จากแฟนฟุตบอลทั่วโลก นักฟุตบอลที่อยู่กับแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดมายาวนานอย่างไรอัน กิกส์ กล่าวไว้ว่า "บางทีอาจเป็นนัดการแข่งขันที่โด่งดังที่สุดในฟุตบอลอังกฤษ" โดยการแข่งขันของทั้งสองทีมนี้มักเกิดตอนมื้อกลางวัน เนื่องจากสื่อให้ความสนใจและเพื่อไม่ให้แฟนดื่มเหล้าก่อนเริ่มเกม. ษาอังกฤษ หรือ ภาษาอังกฤษใหม่ เป็นภาษาในกลุ่มภาษาเจอร์แมนิกตะวันตกที่ใช้ครั้งแรกในอังกฤษสมัยต้นยุคกลาง และปัจจุบันเป็นภาษาที่ใช้กันแพร่หลายที่สุดในโลก ประชากรส่วนใหญ่ในหลายประเทศ รวมทั้ง สหราชอาณาจักร สหรัฐอเมริกา แคนาดา ออสเตรเลีย ไอร์แลนด์ นิวซีแลนด์ และประเทศในแคริบเบียน พูดภาษาอังกฤษเป็นภาษาที่หนึ่ง ภาษาอังกฤษเป็นภาษาแม่ที่มีผู้พูดมากที่สุดเป็นอันดับสามของโลก รองจากภาษาจีนกลางและภาษาสเปน มักมีผู้เรียนภาษาอังกฤษเป็นภาษาที่สองอย่างกว้างขวาง และภาษาอังกฤษเป็นภาษาราชการของสหภาพยุโรป หลายประเทศเครือจักรภพแห่งชาติ และสหประชาชาติ ตลอดจนองค์การระดับโลกหลายองค์การ ภาษาอังกฤษเจริญขึ้นในราชอาณาจักรแองโกล-แซ็กซอนอังกฤษ และบริเวณสกอตแลนด์ตะวันออกเฉียงใต้ในปัจจุบัน หลังอิทธิพลอย่างกว้างขวางของบริเตนใหญ่และสหราชอาณาจักรตั้งแต่คริสต์ศตวรรษที่ 17 จนถึงกลางคริสต์ศตวรรษที่ 20 ผ่านจักรวรรดิอังกฤษ และรวมสหรัฐอเมริกาด้วยตั้งแต่กลางคริสต์ศตวรรษที่ 20 ภาษาอังกฤษได้แพร่หลายทั่วโลก กลายเป็นภาษาชั้นนำของวจนิพนธ์ระหว่างประเทศและเป็นภาษากลางในหลายภูมิภาค ในประวัติศาสตร์ ภาษาอังกฤษกำเนิดจากการรวมภาษาถิ่นหลายภาษาที่สัมพันธ์อย่างใกล้ชิด ซึ่งปัจจุบันเรียกรวมว่า ภาษาอังกฤษเก่า ซึ่งผู้ตั้งนิคมนำมายังฝั่งตะวันออกของบริเตนใหญ่เมื่อคริสต์ศตวรรษที่ 5 คำในภาษาอังกฤษจำนวนมากสร้างขึ้นบนพื้นฐานรากศัพท์ภาษาละติน เพราะภาษาละตินบางรูปแบบเป็นภาษากลางของคริสตจักรและชีวิตปัญญาชนยุโรปDaniel Weissbort (2006).