4 ความสัมพันธ์: กฎหมายภาษาละตินสถาปัตยกรรมงานบริการชุมชน
กฎหมาย
กฎหมาย เป็นระบบของกฎและแนวทางปฏิบัติซึ่งบังคับใช้ผ่านสถาบันทางสังคมเพื่อควบคุมพฤติกรรม ในทุกที่ที่เป็นไปได้ กฎหมายก่อร่างการเมือง เศรษฐศาสตร์และสังคมในหลายวิถีทาง และใช้เป็นสื่อกลางความสัมพันธ์ระหว่างบุคคลในทางสังคม กฎหมายสัญญาวางระเบียบทุกอย่างตั้งแต่การซื้อตั๋วรถโดยสารประจำทางถึงการซื้อขายบนตลาดตราสารอนุพันธ์ กฎหมายว่าด้วยทรัพย์สินนิยามสิทธิและหนี้ซึ่งเกี่ยวข้องกับการโอนและกรรมสิทธิ์ของสังหาชิดมทรัพย์ส่วนตัวและอสังหาริมทรัพย์ กฎหมายทรัสต์ (Trust law) ใช้กับสินทรัพย์ที่ถือไว้เพื่อการลงทุนและความมั่นคงทางการเงิน ขณะที่กฎหมายละเมิด (tort) อนุญาตให้เรียกร้องให้มีการจ่ายค่าสินไหมทดแทนหากสิทธิหรือทรัพย์สินของบุคคลได้รับความเสียหาย หากความเสียหายนั้นถูกประกาศว่า มิชอบด้วยกฎหมายในบทบัญญัติแห่งกฎหมาย กฎหมายอาญาให้วิธีการซึ่งรัฐสามารถดำเนินคดีกับผู้กระทำผิดได้ กฎหมายรัฐธรรมนูญกำหนดกรอบสำหรับการบัญญัติกฎหมาย การคุ้มครองสิทธิมนุษยชน และการเลือกตั้งผู้แทนทางการเมือง กฎหมายปกครองใช้เพื่อทบทวนการวินิจฉัยของหน่วยงานภาครัฐ ขณะที่กฎหมายระหว่างประเทศควบคุมกิจการระหว่างรัฐเอกราชในกิจกรรมตั้งแต่การค้าไปจนถึงระเบียบทางสิ่งแวดล้อมหรือการปฏิบัติทางทหาร นักปรัชญากรีก อริสโตเติล เขียนไว้เมื่อ 350 ปีก่อนคริสตกาลว่า "นิติธรรมดีกว่าการปกครองของปัจเจกบุคคลใด ๆ" ระบบกฎหมายกล่าวถึงสิทธิและความรับผิดชอบในหลายวิถีทาง ความแตกต่างทั่วไปสามารถตัดสินได้ระหว่างเขตอำนาจซีวิลลอว์ ซึ่งประมวลกฎหมายของตน และระบบคอมมอนลอว์ ที่ซึ่งผู้พิพากษาบัญญัติกฎหมายนั้นไม่ถูกรวบรวม ในบางประเทศ ศาสนาเป็นที่มาของกฎหมาย กฎหมายเป็นบ่อเกิดอันมีคุณค่าของการสอบสวนอย่างคงแก่เรียน ไปยังประวัติศาสตร์กฎหมาย ปรัชญา การวิเคราะห์เศรษฐกิจหรือสังคมวิทยา กฎหมายยังยกประเด็นที่สำคัญและซับซ้อนเกี่ยวข้องกับความเสมอภาค ความเป็นธรรมและความยุติธรรม ผู้ประพันธ์ อานาตอล ฟร็องส์ กล่าวใน..
ใหม่!!: การบริการสังคมและกฎหมาย · ดูเพิ่มเติม »
ภาษาละติน
ษาละติน (Latin) เป็นภาษาโบราณในภาษากลุ่มอินโด-ยูโรเปียน มีต้นกำเนิดในที่ราบลาติอุม (Latium) ซึ่งเป็นพื้นที่รอบๆกรุงโรม และได้ชื่อว่าเป็นภาษาทางการในการสื่อสารของจักรวรรดิโรมัน ต่อมาภาษาละตินได้ถูกกำหนดให้เป็นภาษาสื่อสารและในพิธีสวดของศาสนจักรโรมันคาทอลิก และยังเป็นภาษาที่ใช้โดยนักวิทยาศาสตร์ นักปรัชญา และนักเทววิทยาของยุโรป ตั้งแต่ตลอดยุคกลางจนมาถึงยุคสมัยใหม่ ภาษาละตินจึงเป็นภาษาต้นฉบับของงานเขียนที่ทรงคุณค่าทั้งทางประวัติศาสตร์ และทางวรรณกรรมเป็นจำนวนมาก ภาษาอังกฤษได้รับคำในภาษาละตินเข้ามาในภาษาตนเป็นจำนวนมาก เนื่องจากอิทธิพลของเจ้าปกครองชาวแองโกล-นอร์มัน ซึ่งใช้ภาษาฝรั่งเศส นอกจากนี้คำศัพท์ที่ใช้ในสาขาวิทยาศาสตร์และการแพทย์ ล้วนเป็นคำศัพท์ภาษาละตินหรือสร้างจากภาษาละติน ภาษาละตินเป็นภาษามีวิภัติปัจจัย (การผันคำ) มีการก 7 การก (case), มีเพศ 3 เพศ, และมีพจน์ 2 พจน์ ภาษาอื่น ๆ อีกหลายภาษาที่ใช้ในปัจจุบัน พัฒนาสืบต่อมาจากภาษาละตินพื้นบ้าน ซึ่งจะเรียกกลุ่มภาษาเหล่านี้ว่า ภาษากลุ่มโรมานซ์ ภาษาที่อยู่ในกลุ่มภาษาโรมานซ์ที่สำคัญได้แก่ ภาษาฝรั่งเศส ภาษาโรมาเนีย ภาษาอิตาลี ภาษาโปรตุเกส และภาษาสเปน ภาษาส่วนใหญ่ในภาษากลุ่มอินโด-ยูโรเปียนก็มีความสัมพันธ์บางอย่างกับภาษาละติน แม้ภาษาละตินในปัจจุบัน จะมีผู้ใช้น้อยมากจนถูกนับว่าเกือบเป็นภาษาสูญแล้ว แต่การศึกษาภาษาละตินในโรงเรียนและในมหาวิทยาลัยก็ยังคงมีอยู่อย่างแพร่หลาย นอกจากนี้อักษรละติน (ที่พัฒนามาจากอักษรกรีก) ยังคงมีใช้ในหลายภาษา และเป็นอักษรที่ใช้มากที่สุดในโลก.
ใหม่!!: การบริการสังคมและภาษาละติน · ดูเพิ่มเติม »
สถาปัตยกรรม
ปัตยกรรม (architecture) หมายถึง ผลงานศิลปะที่แสดงออกสิ่งก่อสร้าง รวมถึงสิ่งแวดล้อมที่เกี่ยวข้องทั้งภายในและภายนอกสิ่งปลูกสร้างนั้น ที่มาจากการออกแบบของมนุษย์ ด้วยศาสตร์ทางด้านศิลปะ การจัดวางที่ว่าง ทัศนศิลป์ และวิศวกรรมการก่อสร้าง เพื่อประโยชน์ใช้สอย สถาปัตยกรรมยังเป็นสื่อความคิด และสัญลักษณ์ทางวัฒนธรรมของสังคมในยุคนั้นๆด้ว.
ใหม่!!: การบริการสังคมและสถาปัตยกรรม · ดูเพิ่มเติม »
งานบริการชุมชน
มืองนอร์ทวิล รัฐมิชิแกน สหรัฐอเมริกา งานบริการชุมชน หรือกฎหมายไทยเรียก งานบริการสังคมหรืองานสาธารณประโยชน์ (community service) เป็นงานบริการหรือกิจกรรมที่บุคคลหรือกลุ่มบุคคลทำให้เปล่าเพื่อประโยชน์สาธารณะ ผู้ทำงานบริการชุมชนอาจเรียก "อาสาสมัคร" (volunteer) แต่ใช่ว่าทุกคนที่ทำงานบริการชุมชนจะเป็นอาสาสมัคร บางคนอาจถูกบังคับให้ทำงานบริการชุมชนตามคำสั่งศาลเพื่อแทนโทษทางอาญา เช่น ทำงานบริการชุมชนแทนค่าปรับที่ไม่มีเงินชำระ หรือตามคำสั่งของรัฐเพื่อแทนการเป็นทหาร หรือตามคำสั่งของสถาบันการศึกษาเพื่อเป็นส่วนหนึ่งในการสำเร็จวิชาศึกษาเล่าเรียน เป็นต้น สำหรับกรณีบริการชุมชนตามคำสั่งศาลนั้น ผู้ต้องโทษทางอาญาจะต้องทำงานบริการชุมชนหรือหน่วยงานสาธารณะภายในเขตอำนาจศาลนั้น ๆ แทนการไม่ต้องรับโทษหรือวิธีการบังคับอย่างอื่นทางอาญา ไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน เช่น กักขัง หรือปรับ เป็นต้นว่า ค่าปรับอาจลดลงตามจำนวนชั่วโมงที่ทำงานบริการชุมชนแล้วแต่ศาลจะกำหนดอัตรา ในบางกรณี งานบริการชุมชนอาจมีลักษณะเป็นโทษทางอาญาอยู่ในตัว เป็นต้นว่า ผู้ทิ้งขยะเรื่อยเปื่อยอาจต้องทำความสะอาดสวนสาธารณะหรือทางหลวง หรือผู้ขับรถยนต์ขณะเมาสุราอาจต้องไปอธิบายให้นักเรียนฟังว่าเป็นไฉนพฤติกรรมของเขาจึงเป็นโทษต่อสังคม ศาลอาจให้ผู้ต้องโทษเลือกประเภทงานบริการชุมชนเองก็ได้ แต่มักให้ผู้นั้นอยู่ภายใต้การกำกับดูแลขององค์กรหรือเจ้าพนักงานที่เชื่อถือได้ เช่น พนักงานคุมประพฤติ หรือองค์การสาธารณประโยชน์ และบางครั้ง ศาลอาจห้ามผู้ต้องโทษทำงานบางประเภท เช่น ทนายความที่ต้องโทษอาจต้องห้ามให้บริการทางกฎหมายบางประการต่อสังคม ในสหรัฐอเมริกา ศาลหลายศาลวางรายการสำหรับให้ผู้เยาว์ที่กระทำความผิดได้ทำงานเพื่อบ้านเมืองหรือหน่วยงานราชการบ้านเมืองโดยมีเจ้าพนักงานตำรวจหรือนายอำเภอคอยกำกับ เพื่อไม่ต้องรับโทษจำคุก และในบางโอกาส ผู้ต้องขังอาจได้รับอนุญาตให้ทำงานบริการสังคมภายนอกที่คุมขังก็ได้ เช่น งานผลิตแสงสว่าง งานซ่อมบำรุง งานเอกสาร งานในไร่ งานสงวนที่ดิน หรืองานโยธาอื่น ๆ โดยอาจได้รับการลดวันในที่คุมขังด้วยก็ได้ การบริการของผู้ต้องขังเช่นนี้มักจัดว่าเป็นแรงงานนักโทษประเภทหนึ่ง มากกว่าจะเป็นการบริการสังคม ทฤษฎีเกี่ยวกับการเลือกให้ทำงานบริการชุมชนแทนการลงโทษนั้นอย่างน้อยมีอยู่ว่า งานบริการชุมชนจะสร้างคุณประโนชน์ให้แก่สังคมมากกว่าการลงโทษผู้กระทำความผิด ทั้งยังประหยัดค่าใช้จ่ายในการคุมขัง และเป็นหนทางหนึ่งในการอบรมสั่งสอนผู้กระทำความผิดให้เห็นแก่ส่วนรวมและเป็นพลเมืองดีอีกด้ว.
ใหม่!!: การบริการสังคมและงานบริการชุมชน · ดูเพิ่มเติม »