โลโก้
ยูเนี่ยนพีเดีย
การสื่อสาร
ดาวน์โหลดได้จาก Google Play
ใหม่! ดาวน์โหลด ยูเนี่ยนพีเดีย บน Android ™ของคุณ!
ฟรี
เร็วกว่าเบราว์เซอร์!
 

มวยไชยา

ดัชนี มวยไชยา

มวยไชยา เป็นศิลปะมวยไทยประจำถิ่นอำเภอไชยา จังหวัดสุราษฎร์ธานี มีชื่อเสียงมากสมัยรัชกาลที่ 5 - 6 จนมีนักมวยจากไชยาได้รับพระราชทานบรรดาศักดิ์เป็นหมื่นมวยมีชื่อ.

23 ความสัมพันธ์: บุญส่ง เทพพิมลพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัวพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวกรมราชทัณฑ์กระจับกลองยาวสอน ศักดิ์เพชรหมื่นมวยมีชื่อ (ปล่อง จำนงทอง)อำเภอบางสะพานอำเภอไชยาจังหวัดสุราษฎร์ธานีจังหวัดตรังจังหวัดประจวบคีรีขันธ์จำเริญ ทรงกิตรัตน์จ้อย เหล็กแท้ณปภพ ประมวญตาลปี่นิล ปักษีนุ้ย อักษรชื่นแม่ไม้มวยไทยโทรโข่งเต็ม กัณหา

บุญส่ง เทพพิมล

นายบุญส่ง เทพพิมล เป็นหัวหน้าคณะมวย ณ ศรีวิชัย ซึ่งสืบสายเลือดมาจากเต็ง เทพพิมล และเป็นหลานของนุช เทพพิมล นักมวยชื่อดังของไชยา รวมทั้งเป็นหลานของตาเริก อดีตนายกองมวยบ้านวียง นักชกผู้นี้เคยต่อกรกับไอ้ยางตัน ทองใบ ยนตรกิจมาแล้ว บุญส่งเป็นบุตรแม่เอียด เทพพิมล ที่บ้านเวียง ตำบลตลาด เคยฝึกมวยตั้งแต่อายุประมาณ 16-17 ปี เคยชกมาไม่น้อยกว่า 90 ครั้ง โดยตระเวนชกตั้งแต่ชุมพรตลอดภาคใต้เขาเคยพิชิตไอ้ลิงดำ นบ ชมศรีเมฆ เป็นประวัติการณ์เพียงในยกแรก และหมัดแรก ท่ามกลางความตกตลึงพรึงเพริดของบรรดาผู้ไม่เคยคาดคิด นายนบ หรือลิงดำโซเซลุกขึ้นได้ ขณะที่ผู้ตัดสินนับยังไม่ถึงแปด นบลุกขึ้นมามิใช่เพื่อต่อสู้กับนายบุญส่ง เขาลุกขึ้นมายืนด้วยขาสั่นเทา หมัดห้อยข้างลำตัว ตาลอย แสยะปากเห็นฟันขาว เพื่อรับหมัดเหวี่ยงควายเข้าปุ่มแอก แล้วล้มตึงคว่ำหน้าไม่ไหวติงอีกเลย นายนบ ชมศรีเมฆ อ้ายลิงดำจอมทรหด ซึ่งมวยไทย และมวยเทศสมัยเป็นสวนสนุก ไม่เคยมีใครทำให้เขาหมอบได้เลย ต้องหมอบด้วยฝีมือนายแผลด หรือบุญส่ง เทพพิมล เมื่อกลับเข้ากรุงเทพฯ นายนบ ชมศรีเมฆ ต้องผละจากอาชีพการชกมวย เพราะเสียคนด้วยโรคเมาหมัดและอายุสั้น นอกจากนั้น นายบุญส่ง เทพพิมล ยังเคยชนะแก้ว เลือดเมืองกาญจน์, ปฐม บุญยเกียรติ เคยเสมอกับ อุดม สุขเลิศ และผลัดแพ้ผลัดชนะกับ อารีย์ แม่นดี แห่งเมืองสงขลา ถึง 6 ครั้ง ปัจจุบันอายุ 66 ปี ตั้งบ้านเรือนอยู่บ้านเลขที่ 43 หมู่ที่ 4 ต.ตลาด มีชีวิตอยู่อย่างสงบและสุขสบาย หมวดหมู่:นักมวยไทยชาวไทยยุคคาดเชือก หมวดหมู่:บุคคลจากจังหวัดสุราษฎร์ธานี‎‎.

ใหม่!!: มวยไชยาและบุญส่ง เทพพิมล · ดูเพิ่มเติม »

พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว

ระบาทสมเด็จพระปรเมนทรมหาวชิราวุธฯ พระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว หรือ พระบาทสมเด็จพระรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราวุธ พระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว (1 มกราคม พ.ศ. 2423 – 26 พฤศจิกายน พ.ศ. 2468) เป็นพระมหากษัตริย์ไทยรัชกาลที่ 6 ในราชวงศ์จักรี เสด็จพระราชสมภพเมื่อวันเสาร์ เดือนยี่ ขึ้น 2 ค่ำ ปีมะโรง ตรงกับวันที่ 1 มกราคม..

ใหม่!!: มวยไชยาและพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว · ดูเพิ่มเติม »

พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว

ระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาจุฬาลงกรณ์ พระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว  (20 กันยายน พ.ศ. 2396 – 23 ตุลาคม พ.ศ. 2453) เป็นพระมหากษัตริย์สยาม รัชกาลที่ 5 แห่งราชวงศ์จักรี เสด็จพระราชสมภพเมื่อวันอังคาร เดือน 10 แรม 3 ค่ำ ปีฉลู ตรงกับวันที่ 20 กันยายน..

ใหม่!!: มวยไชยาและพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว · ดูเพิ่มเติม »

กรมราชทัณฑ์

ทัณฑสถาน หญิงเชียงใหม่ กรมราชทัณฑ์ (Department of Corrections) เป็นหน่วยงานของกระทรวงยุติธรรม ทำหน้าที่ดูแลเรือนจำและนักโทษ จากคดีต่าง.

ใหม่!!: มวยไชยาและกรมราชทัณฑ์ · ดูเพิ่มเติม »

กระจับ

กระจับมวยไทยกระจับ (กระจับนักมวย) คืออุปกรณ์ป้องกันตัวอย่างหนึ่งในกีฬาชกมวยหรือรวมถึงศิลปะต่อสู้ชนิดอื่น ที่นักมวยจะต้องสวมใส่เพื่อให้เกิดความกระชับและป้องกันแรงกระแทกที่จะเกิดบริเวณอวัยวะเพศ เนื่องจากในกีฬาประเภทนี้มีความเสี่ยงที่จะพลาดพลั้งทำให้บาดเจ็บบริเวณท้องน้อยและช่วงขาหนีบได้ง่าย แม้จะมีกติกากำหนดห้ามไว้แล้วก็ตาม เช่น กีฬามวยมีกติกาห้ามชกใต้เข็มขัด เป็นต้น.

ใหม่!!: มวยไชยาและกระจับ · ดูเพิ่มเติม »

กลองยาว

150px กลองยาว เป็นเครื่องดนตรี สำหรับตีด้วยมือ ตัวกลองทำด้วยไม้ มีลักษณะกลมกลวง ขึงด้วยหนังมีหลายชนิด ถ้าทำด้วยหนังหน้าเดียว มีรูปยาวมากใช้สะพายในเวลาตี เรียกว่ากลองยาวหรือเถิดเทิง.

ใหม่!!: มวยไชยาและกลองยาว · ดูเพิ่มเติม »

สอน ศักดิ์เพชร

นายสอน ศักดิ์เพชร นักมวยชื่อดังคนหนึ่งของไชยา ที่เคยต่อสู้ไม่แพ้ไม่ชนะกับนายตู้ ไทยประเสริฐ ชาวบ้านพาไล จังหวัดนครราชสีมา น้องชายของ หมื่นชงัดเชิงชก (แดง ไทยประเสริฐ) ที่สนามมวยสวนกุหลาบ จากคำบอกเล่าของนายบุญเทอด หรือบุญ ณ ไชยา ว่านายสอน ศักดิ์เพชร เกิดที่บ้านตำบลเวียง ได้เริ่มหัดมวยตั้งแต่ยังเด็ก เช่นเดียวกับเด็กอื่นของเมืองไชยา โดยเฉพาะที่บ้านเวียงนี้ขึ้นชื่อว่าเป็นตำบลบ้านมวยยิ่งกว่าบ้านอื่นๆ นายสอนมีนิสัยซุกซนคึกคะนองและโลดโผนโจนทะยาน ในขั้นแรกก็ไม่ได้ฝึกหัดกับครู แต่ตำบลบ้านเวียงในสมัยนั้นมีมวยดีอยู่หลายคน นักมวยฝีมือเยี่ยมในสมัยโน้น อาจเทียบได้กับหัวหน้าคณะซึ่งผิดกับในสมัยปัจจุบันนี้ ตรงที่หัวหน้าคณะจะต้องจัดเจนด้วย เรียกว่านายกองมวย เตรียมตัวเป็นทหารป้องกันเขตแดน และรักษาความสงบเรียบร้อยของบ้านเมือง หรืออย่างน้อยก็ในอำเภอหรือตำบลที่ตัวเองอยู่ เมื่อนายสอนรุ่นหนุ่ม และได้ฝึกหัดวิชามวยอย่างจริงจังกับนายกองมวยจนมีฝีมือเข้าขั้นแล้วก็เริ่มชกมวยคาดเชือกตามประเพณี ครั้งหนึ่งในชีวิตของนายสอน ศักดิ์เพชรนั้น ได้เป็นเหตุบังเอิญให้เด็กหนุ่มรุ่นราวคราวเดียวกัน แต่อยู่ที่ตำบลเลม็ดอันเป็นตำบลที่ใกล้เคียงกัน ต้องทิ้งบ้านเพื่อหลบหน้าเพราะความอับอาย แต่กลับไปดีมีหน้ามีตาที่บ้านเมืองอื่น เมื่อนายสอน มีอายุ 18-19 ปี ได้เปรียบคู่ชกมวยกับหนุ่มรุ่นราวคราวเดียวกันในงานประจำปี (ผู้เขียนต้องขอปิดนามเพื่อป้องกันกระทบกระเทือนจิตใจ) ผลลัพธ์ของการชกต่อยในวันนั้นคู่ชกของนายสอนต้องพ่ายแพ้ฝีมืออย่างยับเยินที่สุด ทำให้ผู้แพ้ไม่อยากอยู่ดูหน้าใครในอำเภอไชยาอีกต่อไป นี่ก็แสดงถึงอติมานของลูกผู้ชายที่ได้รับการฝึกหัดมวยอันเป็นมรดกมวยล้ำค่าของไทย เจ้าหนุ่มผู้แพ้จึงตัดสินใจออกเดินทางไปจังหวัดสงขลา เมืองดอกไม้งามของเมืองใต้ เด็กหนุ่มผู้เต็มเปี่ยมไปด้วยเกียรติภูมิ ได้พยายามรับราชการเริ่มตั้งแต่ตำแหน่งเล็กๆจนได้รับพระราชทานบรรดาศักดิ์เป็นขุนในเวลาต่อมา จึงนับได้ว่านายสอน ศักดิ์เพชร นักมวยชาวไชยาได้มีส่วนส่งเสริมท่านขุนสหภูมิเดียวกันอยู่บ้างเหมือนกัน เมื่อนายสอน ศักดิ์เพชร เติบโตขึ้น ความคึกคะนองก็เติบโตตามตัว ได้เที่ยวราวีมวยดีตามตำบลและอำเภอต่างๆของ จังหวัดสุราษฎร์ธานี เกือบทุกแห่งที่จัดให้มีการชกมวยและปราบใครต่อใคร จนเป็นที่เลื่องลือและครั่นคร้ามแก่นักมวยด้วยกันทางปักษ์ใต้ จนหาคู่ชกยากขึ้นทุกที ครั้นเมื่อทางกรุงเทพฯจัดให้ชกมวย โดยสรรหานักมวยจากหัวเมืองปักษ์ใต้ฝ่ายเหนือ เพื่อเก็บเงินซื้อปืนให้กองเสือป่า ภายใต้การควบคุมของพระยานนทิเสนสุเรนทรภักดี (แม็ก เศียรเสวี) ที่สนามบริเวณโรงเรียนสวนกุหลาบวิทยาลัย นายสอนเป็นผู้หนึ่งที่ได้ถูกการคัดเลือกให้เดินทางเข้ากรุงเทพฯ พร้อมกับนักมวยไชยา พุมเรียงและสุราษฎร์ธานี ขณะนั้นนายสอน ศักดิ์เพชร มีอายุประมาณ 30 ปี (พ.ศ. 2464) พึงสังเกตว่าสมัยนั้นนักมวยอายุ 18 – 19 ปี เรียกว่าเป็นมวยเด็ก กว่าจะหาประสบการณ์ได้มากเพียงพอเข้ามาตรฐานก็อายุ 25 – 30 ปี ได้เปรียบคู่ครั้งแรกที่บริเวณสนามเสือป่า สวนดุสิต และได้คู่กับนายดำ นักมวยจากลพบุรี ซึ่งดูเหมือนจะมีความมั่นใจในชัยชนะมากไปสักหน่อย เพราะลักษณะท่าทางของนักมวยไชยาดูออกจะหงอยๆไม่น่ากลัว เหมือนนักมวยจากที่ราบสูง ในการพันตูในครั้งนั้น นายดำรำวนเวียน เตรียมปล่อยหมัดตรงตามแบบฉบับมวยลพบุรี เขยิบเข้าหานายสอน ซึ่งยกตีนซ้ายทำทีให้คู่ชกเข้าใจว่าจะถีบ แต่กลับเหวี่ยงหมัดถูกแก้มนายดำอย่างถนัดถนี่ถึงกับเซแซดๆ แต่นายดำมิได้แสดงอาการว่าเจ็บแสบแต่ประการใด พอตั้งตัวได้ก็ขยิกเข้าหาอีกเพื่อแก้ลำ ทำความแปลกใจให้นายสอนไม่น้อย เพราะหมัดขวาที่เหวี่ยงออกไปของนายสอนเคยศักดิ์สิทธิ์ จึงนับได้ว่านายดำทรหดอดทนเอาการ ในขณะเดียวกันนายสอนก็ไม่ประมาท และไม่ละนาทีทอง กัดฟันเตรียมจดจ้อง คอยเก็งหมัดซ้ายขวาและตีนหน้าหลังตามอุปเท่ห์ “จะฉะสับพัง” ซึ่งครูบาอาจารย์ได้อบรมสั่งสอนมา หมายมั่นที่สำคัญตรงเบ้าตาใต้โหนกแก้ม ซ้าย “ฉะ”ฉาดเข้าตรงเป้าหมายพอดิบพอดี เป็นเหตุให้นายดำเซถลาอีกครั้งหนึ่ง ฉับพลันทันใดนายสอนก็ขยับเท้าก้าวหน้าป่ายแข้งซ้ายเข้าก้านคอ ยังผลให้นายดำซึ่งอาการงอก้อลงกับพื้นในครึ่งยกแรกนั่นเอง สร้างความตื่นตลึงพรึงเพริดให้แก่ผู้ดูในสมัยนั้น ขนาดกล่าวขวัญอยู่หลายวัน เมื่อนายสอน ศักดิ์เพชร ได้รับเหรียญตราหัวเสือและสายสร้อยเงินคล้องคอเป็นที่ระลึกแล้วก็ชักมันเขี้ยว เพราะการต่อสู้ได้ยุติในเวลาอันรวดเร็วเกินไปยังไม่ทันเหงื่อซึม กรรมการเปรียบคู่มวยก็ตื่นเต้นที่ไม่คาดคิดว่ามวยไชยาท่าทางหงอยๆ หัวสั่นๆซึมเซื่อง จะมีฝีมือร้ายกาจถึงปานนั้น และด้วยเจตนารมณ์ที่จะเรียกคนดูจึงกำหนดให้นายสอนได้คู่มวยดีจากที่ราบสูง คือนายตู้ ไทยประเสริฐ ซึ่งเคยห้ำหั่นคู่ต่อสู้เป็นที่ประจักษ์มาแล้วเช่นกัน การพันตูระหว่างนายสอน ศักดิ์เพชรกับนายตู้ ไทยประเสริฐ ในครั้งนั้นยังมีผู้จดจำติดหูติดตาอยู่หลายคน นายสอนค่อนข้างเสียเปรียบนายตู้อยู่เล็กน้อย แต่นายสอนก็ไม่ได้แยแสคอยใช้ศอกโต้ตีนนายตู้จนกระทั่งตัวเองศอกแตกเป็นแผลทั้งสองข้าง (มีแผลเป็นจนกระทั่งตาย) ส่วนนายตู้ก็มิได้เสียเลือดเนื้อให้นายสอนแม้แต่ยกเดียว เมื่อได้ห้ำหั่น (ดูเหมือน 9 ยก)จนต่างคนต่างอ่อนลงแล้ว กรรมการตัดสินให้เสมอกัน นายตู้รีบมากอดคอนายสอน พร้อมกับอุทานว่า “เต็มกิ่น” ฝ่ายนายสอนก็มองสำรวจตัวนายตู้อย่างแปลกใจที่ไม่มีรอยแตกเลย ครั้งนั้นเสด็จในกรมหลวงชุมพรเขตรอุดมศักดิ์ ซึ่งได้ประทับทอดพระเนตรการต่อสู้ระหว่างมวยดีเมืองเหนือเมืองใต้ด้วยความพอพระทัยอย่างยิ่ง ได้ทรงพระเมตตาประทานผ้าห่มเพลาะ นอกจากผ้าเพลาะแล้วนายสอนยังได้รับหนังสือคุ้มครองที่ได้ประทานแก่นายนิล ปักษี และนายสอนได้เก็บของประทานทั้งสองสิ่งไว้จนกระทั่งผุเปื่อยเพราะกินตัว นายสอน ศักดิ์เพชร ได้แต่งงานอยู่กินกับนางปราง ศักดิ์เพชร ซึ่งเป็นลูกสาวคนที่ 3 ของ หมื่นมวยมีชื่อ (ปลอง จำนงทอง) และมีทายาทสืบทอดกีฬามวยมาหลายคน โดยเฉพาะนายนาค นายปรีดา และ นายอารมณ์ หมวดหมู่:นักมวยไทยชาวไทยยุคคาดเชือก หมวดหมู่:บุคคลจากจังหวัดสุราษฎร์ธานี‎‎.

ใหม่!!: มวยไชยาและสอน ศักดิ์เพชร · ดูเพิ่มเติม »

หมื่นมวยมีชื่อ (ปล่อง จำนงทอง)

นายปล่อง จำนงค์ทอง เป็นลูกศิษย์ (มวย) เจ้าเมืองไชยา (เมื่อครั้งหัวเมืองขึ้นกับกระทรวงกลาโหม) คือพระยาวัยวุฒิวิเศษฤทธิ์ (ขำ ศรียาภัย) ซึ่งต่อมาได้เลื่อนบรรดาศักดิ์เป็น พระยาวจีสัตยารักษ์ เป็นนักมวยที่มีชื่อเสียงในสมัยรัชกาลที่ 5 จนได้รับพระราชทานบรรดาศัก.

ใหม่!!: มวยไชยาและหมื่นมวยมีชื่อ (ปล่อง จำนงทอง) · ดูเพิ่มเติม »

อำเภอบางสะพาน

งสะพาน เป็นอำเภอหนึ่งของจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เป็นที่มาของทองบางสะพาน ที่เลื่องชื่อ มีการร่อนที่ตำบลร่อนทอง บางสะพานเป็นอำเภอที่มีเศรษฐกิจที่ดีในระดับหนึ่งของประจวบคีรีขันธ์ เนื่องจากมีประชากรมาก และมีแหล่งท่องเที่ยวที่สวยงาม ไม่ว่าจะเป็นชายทะเลบ้านกรูดหรือเกาะทะลุ ทำให้อำเภอบางสะพานเป็นที่รู้จักมากขึ้น.

ใหม่!!: มวยไชยาและอำเภอบางสะพาน · ดูเพิ่มเติม »

อำเภอไชยา

อำเภอไชยา เป็นอำเภอหนึ่งในจังหวัดสุราษฎร์ธานี เคยเป็นเมืองเก่าแก่มากแห่งหนึ่งในทางใต้ของภูมิภาคนี้ เชื่อกันว่าเคยเป็นที่ตั้งของอาณาจักรศรีวิชัยในสมัยโบราณ โดยมีหลักฐานทั้งโบราณวัตถุและโบราณสถานจำนวนมาก.

ใหม่!!: มวยไชยาและอำเภอไชยา · ดูเพิ่มเติม »

จังหวัดสุราษฎร์ธานี

ังหวัดสุราษฎร์ธานี มักจะเรียกกันด้วยชื่อสั้น ๆ ว่า สุราษฎร์ฯ ใช้อักษรย่อ สฎ เป็นจังหวัดในภาคใต้ตอนบน มีพื้นที่ขนาดใหญ่เป็นอันดับ 6 ของประเทศไทย และมีประชากรหนาแน่นอันดับ 59 ของประเทศ นับเป็นจังหวัดหนึ่งที่มีประวัติศาสตร์ยาวนาน มีหลักฐานทั้งประวัติศาสตร์และโบราณคดีเก่าแก่ และยังมีแหล่งท่องเที่ยวและอุทยานแห่งชาติหลายแห่ง จังหวัดสุราษฎร์ธานีตั้งอยู่ในฝั่งตะวันออกของภาคใต้ โดยมีสภาพภูมิประเทศที่หลากหลายทั้งที่ราบสูง ภูมิประเทศแบบภูเขา รวมทั้งที่ราบชายฝั่ง มีพื้นที่ครอบคลุมถึงในบริเวณอ่าวไทย ทั้งบริเวณที่เป็นทะเลและเป็นเกาะ เกาะในพื้นที่จังหวัดสุราษฎร์ธานีมีทั้งขนาดใหญ่และขนาดเล็กมากถึง 108 เกาะ นับว่ามากที่สุดเป็นอันดับ 3 ของประเทศ รองมาจากจังหวัดพังงาที่มี 155 เกาะ และจังหวัดภูเก็ตที่มี 154 เกาะ เกาะขนาดใหญ่เป็นที่รู้จักเช่น เกาะสมุย เกาะพะงัน เกาะเต่า และหมู่เกาะอ่างทอง เนื่องจากทำเลที่ตั้งจึงได้รับอิทธิพลจากมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ ซึ่งเกิดบริเวณทะเลอันดามันบ้างเป็นครั้งคราวเนื่องจากจะมีแนวเทือกเขาตะนาวศรี เทือกเขาภูเก็ต และเทือกเขานครศรีธรรมราช แถบบริเวณจังหวัดระนอง จังหวัดชุมพร จังหวัดพังงา จังหวัดภูเก็ต และจังหวัดนครศรีธรรมราช เป็นแนวช่วยลดอิทธิพลของลมมรสุมดังกล่าว ในทางกลับกันพื้นที่จังหวัดสุราษฎร์ธานีจะได้รับอิทธิพลจากมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือเป็นส่วนใหญ่ มรสุมตะวันออกเฉียงเหนือปกติจะมีแหล่งกำเนิดบริเวณทะเลจีนใต้และอ่าวไทย ทำให้จังหวัดสุราษฎร์ธานีมีช่วงฤดูฝนกินระยะเวลาตั้งแต่เดือนตุลาคมจนถึงเดือนมกราคม ประชากรส่วนใหญ่นับถือศาสนาพุทธ โดยประกอบอาชีพทางด้านการเกษตรเป็นหลัก โดยใช้พิ้นที่ในการทำการเกษตรประมาณร้อยละ 45 ของพื้นที่ทั้งหมด นอกจากนี้ ยังประกอบอาชีพทางด้านปศุสัตว์ ประมง อุตสาหกรรม รวมทั้งมีการทำเหมืองแร่ด้วย ส่วนการเดินทางมายังจังหวัดสุราษฎร์ธานีสามารถใช้ได้หลายเส้นทาง ทั้งทางรถไฟ เครื่องบิน รถโดยสารประจำทาง เรือ และรถยนต์ส่วนบุคคล สถานที่สำคัญภายในจังหวัดนั้น มีทั้งแหล่งโบราณสถาน เช่น พระบรมธาตุไชยา พระธาตุศรีสุราษฎร์ พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ ไชยา ซากเมืองโบราณสมัยอาณาจักรศรีวิชัย แหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติ ได้แก่ อุทยานแห่งชาติทั้งอุทยานแห่งชาติทางบก และอุทยานแห่งชาติทางทะเล น้ำตก เกาะ แม่น้ำ เขื่อน วัด และพระอารามหลวง เป็นต้นและยังเป็นแหล่งสืบสานประเพณีที่สำคัญของชาวใต้ คือประเพณีชักพระ ทอดผ้าป่าและแข่งขันเรือยาวชิงถ้วยพระราชทานอีกด้วย นอกจากนี้ ยังมีผลิตผลและผลิตภัณฑ์ทางการเกษตรที่เป็นที่รู้จัก เช่น ไข่เค็มไชยา หอยนางรม และเงาะโรงเรียน ดังที่ปรากฏในคำขวัญของจังหวั.

ใหม่!!: มวยไชยาและจังหวัดสุราษฎร์ธานี · ดูเพิ่มเติม »

จังหวัดตรัง

ตรัง เป็นจังหวัดในภาคใต้ของประเทศไทย ตรังหรือเมืองทับเที่ยงเป็นจังหวัดท่องเที่ยวอีกแห่งหนึ่งของภาคใต้.

ใหม่!!: มวยไชยาและจังหวัดตรัง · ดูเพิ่มเติม »

จังหวัดประจวบคีรีขันธ์

ังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เป็นจังหวัดในภาคตะวันตกของประเทศไทย เป็นจังหวัดที่มีรูปร่างยาวในแนวเหนือ-ใต้ และแคบในแนวตะวันออก-ตะวันตก โดยมีส่วนที่แคบที่สุดของประเทศไทย ระยะทางประมาณ 12 กิโลเมตร มีองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นที่เป็นที่ตั้งศาลากลางจังหวัดอยู่ที่เทศบาลเมืองประจวบคีรีขันธ์ ในขณะที่เมืองที่มีประชากรมากที่สุดในจังหวัด คือ เทศบาลเมืองหัวหิน.

ใหม่!!: มวยไชยาและจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ · ดูเพิ่มเติม »

จำเริญ ทรงกิตรัตน์

ำเริญ ทรงกิตรัตน์ (ซ้าย) ชกชิงแชมป์ท่ามกลางสายฝนกับจิมมี่ คาร์รัทเธอร์ จำเริญ ทรงกิตรัตน์ มีชื่อจริงว่า ร้อยตำรวจเอก สำเริง ศรีมาดี เป็นชาวจังหวัดนครพนม เป็นนักมวยสากลชาวไทยคนแรกที่ได้ชิงแชมป์โลก และเป็นแชมป์สหพันธ์มวยภาคตะวันออกไกลและแปซิฟิก (OPBF) คนแรกของประเทศไทย มีฉายาว่า "จิ้งเหลนไฟ".

ใหม่!!: มวยไชยาและจำเริญ ทรงกิตรัตน์ · ดูเพิ่มเติม »

จ้อย เหล็กแท้

นายจ้อย เหล็กแท้ เป็นผู้ตั้งค่ายมวยวง.

ใหม่!!: มวยไชยาและจ้อย เหล็กแท้ · ดูเพิ่มเติม »

ณปภพ ประมวญ

ณปภพ ประมวญ หรือที่รู้จักในชื่อ ครูแปรง (1 กันยายน พ.ศ. 2501 —) เป็นผู้ฝึกสอนมวยไชยาและกระบี่กระบอง เขาเป็นศิษย์ของครูทองหล่อ ยาและ และเป็นผู้ผลักดันมวยไชยาตลอดช่วงระยะเวลา 30 ปี จนเป็นที่รู้จักทั้งในระดับประเทศและระดับโลก ณปภพ ได้รับการจัดให้เป็นปรมาจารย์ (มงคล ๖ - มงคลทอง) แห่งสมาคมครูมวยไทย ปัจจุบันเขาเป็นผู้ดำรงตำแหน่งประธานมูลนิธิมวยไทยไชยา และประธานสมาคมมวยไท.

ใหม่!!: มวยไชยาและณปภพ ประมวญ · ดูเพิ่มเติม »

ตาล

ตาล หรือ ตาลโตนด หรือ โหนด ในภาษาใต้ เป็นพันธุ์ไม้พวกปาล์มขนาดใหญ่ สกุล Borassus ในวงศ์ปาล์ม (Arecaceae) เป็นปาล์มที่แข็งแรงมากชนิดหนึ่ง และเป็นปาล์มที่แยกเพศกันอยู่คนละต้น ต้นสูงถึง 40 เมตร และโตวัดผ่ากลางประมาณ 60 เซนติเมตร ลำต้นเป็นเสี้ยนสีดำแข็งมาก แต่ไส้กลางลำต้นอ่อน บริเวณโคนต้นจะมีรากเป็นกลุ่มใหญ่ ใบเหมือนพัดขนาดใหญ่ กว้าง 1 – 1.5 เมตร มีก้านเป็นทางยาว 1 – 2 เมตร ขอบของทางของก้านทั้งสองข้าง มีหนามเหมือนฟันเลื่อยสีดำแข็ง ๆ และคมมาก โคนก้านแยกออกจากกันคล้ายคีมเหล็กโอบหุ้มลำต้นไว้ ช่อดอกเพศผู้ใหญ่ รวมกันเป็นกลุ่มคล้ายนิ้วมือ เรียกว่านิ้วตาลแต่ละนิ้วยาวประมาณ 40 เซนติเมตร และโตวัดผ่า กลางประมาณ 1.5 – 2 เซนติเมตร โคนกลุ่มช่อจะมีก้าน ช่อรวมและมีกาบแข็ง ๆ หลายกาบหุ้มโคนก้านช่ออีกทีหนึ่ง ช่อดอกเพศเมียก็คล้าย ๆ กัน แต่นิ้วจะเป็นปุ่มปม ปุ่มปมคือดอกที่ติดนิ้วตาล ดอกหนึ่ง ๆ โตวัดผ่ากลางประมาณ 2 เซนติเมตร และมีกาบแข็ง ๆ หุ้ม แต่ละดอก กาบนี้จะเติบโตไปเป็นหัวจุกลูกตาลอีกทีหนึ่ง ผลกลมหรือรูปทรงกระบอกสั้น ๆ โตวัดผ่ากลางประมาณ 15 เซนติเมตร ผลเป็นเส้นใยแข็งเป็นมัน มักมีสีเหลืองแกมดำคล้ำเป็นมันหุ้มห่อเนื้อเยื่อสีเหลืองไว้ภายใน ผลหนึ่ง ๆ จะมีเมล็ดใหญ่แข็ง 1 – 3 เมล็.

ใหม่!!: มวยไชยาและตาล · ดูเพิ่มเติม »

ปี่

ปี่ เป็นเครื่องดนตรีไทย ทำด้วยไม้จริงเช่นไม้ชิงชันหรือไม้พยุง กลึงให้เป็นรูปบานหัวบานท้าย ตรงกลางป่อง เจาะภายในให้กลวงตลอดเลา ทางหัวของปี่เป็นช่องรูเล็กส่วนทาง ปลายของปี่ ปากรูใหญ่ใช้ชันหรือวัสดุอย่างอื่นมาหล่อเสริมขึ้นอีกราวข้างละ ครึ่งซม ส่วนหัวเรียก ทวนบน ส่วนท้ายเรียก ทวนล่าง ตอนกลางของปี่ เจาะรูนิ้วสำหรับเปลี่ยนเสียงลงมาจำนวน 6 รู แต่สามารถเป่าได้เสียงตรง 24 เสียง กับเสียงควงหรือเสียงแทนอีก 8 เสียง รวมเป็น 32 เสียง รูตอนบนเจาะเรียงลงมา 4 รู เว้นระยะห่างเล็กน้อย เจาะรูล่างอีก 2 รู ตรงกลางของเลาปี่ กลึงขวั้นเป็นเกลียวคู่ไว้เป็นจำนวน 14 คู่ เพื่อความสวยงามและกันลื่นอีกด้วย ตรงทวนบนนั้นใส่ลิ้นปี่ที่ทำด้วยใบตาลซ้อนกัน 4 ชั้น ตัดให้กลมแล้วนำไปผูกติดกับท่อลมเล็กๆที่ เรียกว่า กำพวด เรียวยาวประมาณ 5 ซม.

ใหม่!!: มวยไชยาและปี่ · ดูเพิ่มเติม »

นิล ปักษี

นิล ปักษี เป็นนักมวยเก่าซึ่งได้ต่อสู้อย่างโชกโชนมาแล้วในปักษ์ใต้ เป็นนักมวยฝีมือดีหาตัวจับยาก ตระกูลปักษี นับได้ว่าเป็นตระกูลมวยในบ้านพุมเรียง พ่อของนายนิลชื่อนายเพชรก็เป็นนักมวยไชยาชื่อดัง ได้เคยชกมวยกับนักมวยแขกตรังกานู และแขกปัตตานี ฯลฯ ครั้งฉลองตราเจ้าเมือง.

ใหม่!!: มวยไชยาและนิล ปักษี · ดูเพิ่มเติม »

นุ้ย อักษรชื่น

นุ้ย ชัยภิรมย์ หรือ นายนุ้ย อักษรชื่น เป็นศิษย์ของหมื่นมวยมีชื่อ เป็นนักชกชั้นดี ขั้นครูบาอาจารย์ที่สามารถถ่ายทอดความรู้วิชามวยไทยได้เป็นเยี่ยม ศิษย์ฝีมือเยี่ยมของนายนุ้ย จึงมีอย่างมากมาย เพราะตนเองมีประสบการณ์การต่อสู้มามาก และส่วนใหญ่ผลการต่อสู้ก็มีเสมอกับชนะ เมื่อมาตั้งคณะมวย “ชัยภิรมย์” ที่ได้กล่าวมาแล้วนอกจากนั้นแล้วศิษย์ชั้นยอดเยี่ยมอีกผู้หนึ่งของนายนุ้ย คือ นายสม เวชวิสุทธิ์ อดีตนายกเทศมนตรีเทศบาลเมืองสุราษฎร์ธานี หมวดหมู่:นักมวยไทยชาวไทยยุคคาดเชือก หมวดหมู่:บุคคลจากจังหวัดสุราษฎร์ธานี‎‎.

ใหม่!!: มวยไชยาและนุ้ย อักษรชื่น · ดูเพิ่มเติม »

แม่ไม้มวยไทย

รูปปั้นแสดงท่าแม่ไม้มวยไทย ที่วัดบางกุ้ง จังหวัดสมุทรสงคราม (ขวาสุด: ''จระเข้ฟาดหาง'') แม่ไม้มวยไทย เป็นท่าต่อสู้ของวิชามวยไทยที่สำคัญที่สุด ซึ่งรวมถึงมีการใช้ในศาสตร์แห่งกระบี่กระบอง.

ใหม่!!: มวยไชยาและแม่ไม้มวยไทย · ดูเพิ่มเติม »

โทรโข่ง

โทรโข่งอิเล็กทรอนิกส์ โทรโข่งธรรมดา โทรโข่ง คือเครื่องมือสำหรับส่งเสียงพูดของบุคคลให้ไปยังทิศทางของเป้าหมาย ซึ่งมีรูปร่างคล้ายกรวยและสามารถถือติดตัวได้สะดวก ด้วยเหตุที่ว่าเสียงพูดของมนุษย์กระจายไปในทุกทิศทางในอากาศ จึงต้องส่งเสียงด้วยโทรโข่งเพื่อบังคับให้เสียงถูกส่งไปยังเป้าหมายให้ผู้ฟังได้ยินชัดเจนขึ้น โดยคลื่นเสียงในอากาศจะแทรกสอดกันภายในกรวยทำให้เสียงก้องขึ้น โทรโข่งบางชนิดเป็นอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ที่ประกอบด้วยไมโครโฟน เครื่องขยายเสียง และลำโพง สามารถขยายเสียงพูดให้ดังขึ้นได้ หรือใช้ติดตั้งบนที่สูงสำหรับการกระจายเสียงในที่ชุมชน หมวดหมู่:เทคโนโลยีระบบเสียง.

ใหม่!!: มวยไชยาและโทรโข่ง · ดูเพิ่มเติม »

เต็ม กัณหา

นายเต็ม กัณหา เป็นน้องชายของนายคล่อง กัณหาซึ่งเคยติดตามผู้พี่ครั้งมาชกมวยที่สนามมวยสวนกุหลาบเต็ม กัณหา ชกต่อยดุเดือดยิ่งกว่าผู้พี่มาก ครั้งแรกที่นายเต็ม กัณหา ขึ้นชกมวยที่สนามมวยสวนกุหลาบและเป็นที่ติดหูติดตาต้องใจคนทั่วไป ก็เพราะเหตุว่า วันที่นายคล่อง กัณหาได้ชกกับนักมวยฝีมือดี ชาวเพชรบุรี ชื่อ ฮิม เป็นไทยอิสลาม นายเต็ม กัณหา เพิ่งสึกออกมาจากเพศบรรพชิต และเดินทางตามพี่ชายเข้ามาพักที่บ้านไชยา ถนนสีลม ขณะที่นายเต็ม ดูพี่ชายชก ปรากฏว่าคนดูรอบตัวเขา เป็นแฟนของนายฮิม ทั้งนั้น เสียงหนุนฝ่ายนายฮิม ค่อนข้างจะหยาบคายและบางทีก็เกินเลยด่าพ่อล่อแม่เป็นเหตุให้นายเต็ม กัณหา เกิดโทสะ ด่าตอบโดยไม่หวั่นเกรง มีคนหนึ่งฝ่ายสนับสนุนนายฮิม แหวกเพื่อนเข้ามาหานายเต็ม พูดจาท้าทายชวนตี ฝ่ายนายเต็ม กัณหา เข้าใจว่าจะต้องชกกันเดี๋ยวนั้นแบบมีงานในชนบท จึงเตรียมตัวและร้องบอกกล่าว ว่าอย่ารุมกัน บังเอิญมีบุคคลภายนอกประสบเหตุและชี้แจงว่า หากเกิดการชกต่อยแบบไม่มีกรรมการจะต้องตกเป็นผู้ต้องหา ก่อการวิวาท อาจถูกตำรวจจับเสียค่าปรับหรือติดคุกติดตะราง หากตกลงปลงใจที่จะชกต่อยกันจริง ก็ควรอดใจรอไว้ไปพบกันที่สนามเสือป่า ในวันเปรียบมวย นายเต็ม กับคู่อริ ซึ่งปรากฏว่าเป็นชาวมีนบุรี ได้ถูกจัดให้เข้ารายการ ในนัดต่อมา นายเต็ม กัณหา นั้นมีความเคียดแค้นคู่ชกอยู่เป็นอย่างมาก จึงหมายมั่นปั้นมือที่จะล้างแค้นให้สมใจที่ถูกด่าพ่อล่อแม่ อีกประการหนึ่ง นายเต็ม กัณหา รู้ตัวว่าแม้จะมีฝีมือในเชิงมวยก็มิได้ฝึกซ้อมถึงขนาด เพราะไปบวชเป็นพระภิกษุเสีย ฉะนั้นทางที่ดีจำเป็นที่จะต้องเผด็จศึกภายในเวลาอันรวดเร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้ เมื่อกลองสัญญาณดังขึ้น คู่ต่อสู้ของนายเต็ม กัณหา มิได้แสดงท่าทางว่าถนัดหมัดมวยเลย ขณะเหยาะย่างปรากฏว่าขาสั่นไม่มั่นคง นายเต็ม กัณหา ไหว้ครูเสร็จแล้วยืนกัดกรามจ้องไปยังคู่ต่อสู้เพื่อเก็งฝีมือ ต่อจากนั้นนายเต็มก็มิได้รอช้า มุ่งมั่นหมายล้างแค้นที่คู่ปฏิปักษ์ด่าท้าทาย นายเต็ม กัณหา ย่างสามขุมเอียงตัวไปมา หลอกล่อทำทีให้หลงกล พอเข้าใกล้ได้จังหวะเหมาะก็เหวี่ยงด้วยตีนซ้ายให้คู่ต่อสู้งอแขนรับ พอตีนตกถึงพื้นหมัดขวาของเต็ม กัณหา ก็เหวี่ยงเข้าที่กกหู และตามด้วยหมัดซ้ายเข้าที่ใบหน้า คู่ต่อสู้ก้นกระแทกพื้น พอลุกขึ้นทั้งๆที่ยังมึนงง นายเต็ม กัณหาก็ไม่ปล่อยนาทีทองให้ผ่านไป เพราะเห็นได้ชัดว่า คู่ต่อสู้ไม่มีพิษชกต่อยโต้ตอบสะเปะสะปะ หลับหูหลับตา นายเต็ม กัณหา เข้าตะลุยชกทั้งหมัดซ้ายขวาจนคู่ต่อสู้เลือดกระฉูดเปรอะไปทั้งหน้า ต้องถอยร่นไปยืนเกาะเชือกไม่ยอมออกมากลางเวที ผู้ตัดสินจึงยุติการชกโดยให้นายเต็ม กัณหาเป็นฝ่ายชนะในการชกในครั้งนั้น ต่อมานายเต็มได้ชกกับครูพลศึกษาศิษย์เอกของปรมาจารย์หลวงพิพัฒน์พลกาย(กระจ่าง วิโรจน์เพชร) และเป็นฝ่ายชนะคะแนนเหนือศิษย์เอกหลวงพิพัฒน์พลกาย ครั้งนั้นเป็นเหตุให้มีการล้างแค้นกันอีกในหลายปีต่อมา เมื่อพวกนักมวยพุมเรียง ไชยา เดินทางกลับบ้านเดิมแล้ว นายเต็ม กัณหา ยังอยู่กรุงเทพฯต่อไปอีก ได้มีโอกาสชกมวยตามสนามต่างๆ เช่น สนามท่าช้างวังหน้า และสนามสวนสนุก มีชื่อเสียงและมีเงินติดกระเป๋าใช้สอย แต่เงินทองกับการใช้สอยไม่ยั้งคิด ทำให้นายเต็ม กัณหาเปลี่ยนจากชาวพุมเรียงธรรมดา มาเป็นนักมวยเร่ร่อนที่มีความสุขจอมปลอมในพระนคร และยังคงกรีดกรายอยู่ในกรุงเทพฯปล่อยตัวและหลงเพลิดเพลินกับสิ่งแวดล้อมเย้ายวนจนร่างกายและสุขภาพทรุดโทรม นัยน์ตาข้างหนึ่งได้รับเชื้อจากโรคร้ายจนเกือบจะบอด นึกขยาดหวาดเกรงไม่กล้าโผล่หน้าไปที่บ้านไชยา ถนนสีลม ซึ่งเป็นที่พึ่งพำนักของชาวปักษ์ใต้โดยมาก นายเต็ม กัณหา ต้องทรมานจนเหลือทนจึงจำต้องหันหน้าเข้าพึ่งพาอาศัย นายเติม มีบุญ ผู้เป็นภูมิชาวใต้ด้วยกันด้วยความจำเป็นบังคับจนไม่มีทางหลีกเลี่ยง นายเต็ม กัณหา จึงถูกพาตัวที่เหี่ยวย่น ร่วงโรยซีดเซียวจนเห็นได้ ขึ้นพบกับทองอยู่ นิลสุวรรณ ฉายา “ซ้ายฟ้าผ่า”อีกครั้งหนึ่งที่สนามมวยสวนสนุก ทองอยู่ นิลสุวรรณ ขณะนั้นโด่งดังเหมือนพลุมองดูเต็ม กัณหาเหมือนฟ้ามองดิน ที่ร่วงโรยจนไม่เหลือแม้แต่เงาเต็มคนเดิม พอระฆังเริ่มการต่อสู้เริ่มขึ้น และต่างฝ่ายต่างไหว้ครูตามระเบียบแล้ว ทองอยู่ นิลสุวรรณ ก็เริ่มบุกเข้าใช้ซ้ายฟ้าผ่าอย่างไม่ปราณี ประชาชนที่มองดูเต็ม กัณหา นักมวยมีชื่อแห่งเมืองไชยา เหมือนกระสอบขี้เลื่อยให้ทองอยู่ ต่อยด้วยหมัดซ้ายมหาประลัย ต่อย ต่อย ต่อยจนเต็ม กัณหา เซ เซ เซ งงอย่างที่เรียกว่าล้มไม่ลง เพราะมีหัวใจอย่างเดียวที่ครองความเป็นเสือ การชกที่ดุเดือดและลวดลายที่น่าตื่นเต้นชื่นชมไม่เหลือแม้แต่นิดเดียว แม้ความทรหดจะมีอยู่บ้างแต่จะทนไปได้สักกี่น้ำ เต็ม กัณหา ต้องหมุนคว้างเป็นลูกข่างใหญ่ บรรดาประชาชนที่เคยดูเคยนิยมชมชอบ ต่างพากันสมเพชเวทนา หมวดหมู่:นักมวยไทยชาวไทยยุคคาดเชือก หมวดหมู่:บุคคลจากจังหวัดสุราษฎร์ธานี‎‎.

ใหม่!!: มวยไชยาและเต็ม กัณหา · ดูเพิ่มเติม »

เปลี่ยนเส้นทางที่นี่:

มวยไทยไชยานักมวยไชยาที่มีชื่อเสียง

ขาออกขาเข้า
Hey! เราอยู่ใน Facebook ตอนนี้! »