18 ความสัมพันธ์: ช่องคลอดกระหม่อมหลังกระหม่อมหน้ากระดูกกระดูกหุ้มสมองกระดูกหน้าผากกระดูกท้ายทอยกระดูกข้างขม่อมกะโหลกศีรษะกายวิภาคศาสตร์การบันทึกด้วยคลื่นเสียงความถี่สูงทางการแพทย์การกลายเป็นกระดูกภาวะขาดน้ำรอยประสาน (กายวิภาคศาสตร์)ทัดดอกไม้ข้อต่อแลมดาแอสเทอเรียน
ช่องคลอด
องคลอด (Vagina) รากศัพท์มาจากภาษาละติน หมายถึง สิ่งหุ้ม หรือ ฝัก โดยทั่วไปในภาษาปาก คำว่า "ช่องคลอด" มักใช้เรียกแทน "ช่องสังวาส" หรือ "อวัยวะเพศหญิง" หรือ "แคม" ในภาษาทางการ "ช่องคลอด" หมายถึง โครงสร้างภายใน ส่วน "ช่องสังวาส" และคำอื่น ๆ หมายถึง "อวัยวะเพศหญิงภายนอก" เท่านั้น ในภาษาสแลง มีคำหยาบและคำต้องห้ามหลายคำใช้เรียกแทน ช่องคลอด หรือ ช่องสังวาส ในภาษาไทย เช่น หี, หอย ฯลฯ หรือในภาษาอังกฤษ เช่น cunt, pussy ฯลฯ.
ใหม่!!: กระหม่อมและช่องคลอด · ดูเพิ่มเติม »
กระหม่อมหลัง
กระหม่อมหลัง หรือ ขม่อมหลัง (posterior fontanelle หรือ occipital fontanelle) เป็นกระหม่อมบนกะโหลกศีรษะ มีรูปร่างเป็นสามเหลี่ยมและอยู่ที่จุดบรรจบของรอยประสานหว่างขม่อม (sagittal suture) และรอยประสาทแลมบ์ดอยด์ (lambdoidal suture) กระหม่อมนี้จะปิดภายใน 6-8 สัปดาห์หลังคลอดและเมื่อปิดแล้วจะเป็นรอยประสานที่เรียกว่า แลมบ์ดา (lambda).
ใหม่!!: กระหม่อมและกระหม่อมหลัง · ดูเพิ่มเติม »
กระหม่อมหน้า
กระหม่อมหน้า (anterior fontanelle, bregmatic fontanelle หรือ frontal fontanelle) เป็นกระหม่อมที่มีขนาดใหญ่ที่สุด อยู่ที่จุดร่วมของรอยประสานหว่างขม่อม (sagittal suture), รอยประสานคร่อมขม่อมหน้า (coronal suture), และรอยประสานหน้าผาก (frontal suture) มีรูปร่างเหมือนเพชรหรือสี่เหลี่ยมขนมเปียกปูน ในแนวหน้าหลังยาวประมาณ 4 เซนติเมตร และในแนวขวางประมาณ 2.5 เซนติเมตร กระหม่อมช่วยทำให้กะโหลกศีรษะเปลี่ยนแปลงรูปร่างได้เล็กน้อยขณะคลอดเพื่อช่วยในการผ่านช่องคลอดและช่วยให้กะโหลกขยายได้เมื่อมีการขยายขนาดของสมองหลังคลอด ในขณะที่กระหม่อมหลังและกระหม่อมด้านข้างจะปิดประมาณ 6 เดือนหลังคลอด กระหม่อมหน้าจะยังไม่ปิดจนกระทั่งถึงประมาณกลางขวบปีที่ 2 การกลายเป็นกระดูก (ossification) จะเริ่มเต็มที่เมื่อปลายอายุ 20 และสิ้นสุดก่อนอายุ 50 ปี.
ใหม่!!: กระหม่อมและกระหม่อมหน้า · ดูเพิ่มเติม »
กระดูก
กระดูกต้นขาของมนุษย์ กระดูก เป็นอวัยวะที่ประกอบขึ้นเป็นโครงร่างแข็งภายใน (endoskeleton) ของสัตว์มีกระดูกสันหลัง หน้าที่หลักของกระดูกคือการค้ำจุนโครงสร้างของร่างกาย การเคลื่อนไหว การสะสมแร่ธาตุและการสร้างเซลล์เม็ดเลือด กระดูกเป็นอวัยวะที่ประกอบด้วยเนื้อเยื่อกระดูก (osseous tissue) ที่มีความแข็งแรงแต่มีน้ำหนักเบา การเจริญพัฒนาของเนื้อเยื่อกระดูกในรูปแบบที่แตกต่างกัน ทำให้กระดูกเป็นอวัยวะที่มีหลายรูปร่างลักษณะ เพื่อให้สอดคล้องกันกับการทำงานของกระดูกในแต่ละส่วน เช่นกะโหลกศีรษะ (skull) ที่มีลักษณะแบนแต่แข็งแรงมาก เพื่อป้องกันการกระทบกระเทือนของสมอง หรือกระดูกต้นขา (femur) ที่มีลักษณะยาวเพื่อเป็นจุดเกาะของกล้ามเนื้อต่างๆที่เกี่ยวข้องกับการเคลื่อนไหวของรยางค์ล่าง เป็นต้น.
ใหม่!!: กระหม่อมและกระดูก · ดูเพิ่มเติม »
กระดูกหุ้มสมอง
กระดูกหุ้มสมอง เป็นกระดูกส่วนบนของกะโหลกศีรษะ แหล่งข้อมูลส่วนใหญ่จัดให้กระดูกเหล่านี้เป็นกระดูกหุ้มสมอง.
ใหม่!!: กระหม่อมและกระดูกหุ้มสมอง · ดูเพิ่มเติม »
กระดูกหน้าผาก
กระดูกหน้าผาก (frontal bone) เป็นกระดูกที่อยู่ในกะโหลกศีรษะของมนุษย์ มีรูปร่างเหมือนเปลือกหอยแครง ประกอบด้วย 2 ส่วน ได้แก.
ใหม่!!: กระหม่อมและกระดูกหน้าผาก · ดูเพิ่มเติม »
กระดูกท้ายทอย
กระดูกท้ายทอย (Occipital bone) เป็นกระดูกรูปจานรองแก้วที่อยู่ด้านหลังและด้านล่างของกะโหลกศีรษะ มีรูปร่างเป็นรูปสี่เหลี่ยมคางหมูและโค้ง มีช่องขนาดใหญ่รูปวงรีเรียกว่า ฟอราเมน แมกนัม (foramen magnum) ซึ่งเป็นทางเชื่อมระหว่างโพรงกะโหลก (cranial cavity) และคลองกระดูกสันหลัง (vertebral canal) แบ่งออกเป็นส่วนต่างๆ ดังนี้.
ใหม่!!: กระหม่อมและกระดูกท้ายทอย · ดูเพิ่มเติม »
กระดูกข้างขม่อม
กระดูกข้างขม่อม (parietal bone) เป็นกระดูกที่อยู่ในกะโหลกศีรษะของมนุษย์ ซึ่งประกอบกันอยู่ด้านข้างและเป็นหลังคาด้านบนของกะโหลกศีรษะ กระดูกข้างขม่อมมีลักษณะเป็นรูปสี่เหลี่ยมไม่สม่ำเสมอ มีพื้นผิว 2 ด้าน ขอบกระดูก 4 ขอบ และมุมกระดูก 4 มุม.
ใหม่!!: กระหม่อมและกระดูกข้างขม่อม · ดูเพิ่มเติม »
กะโหลกศีรษะ
วาดแสดงมุมมองจากทางด้านหน้าของกะโหลกศีรษะของมนุษย์ กะโหลกศีรษะ เป็นโครงสร้างของกระดูกที่ประกอบขึ้นเป็นโครงร่างที่สำคัญของส่วนศีรษะในสัตว์ในกลุ่มเครนิเอต (Craniate) หรือสัตว์ที่มีกะโหลกศีรษะ ซึ่งรวมทั้งสัตว์มีกระดูกสันหลังทุกชนิด กะโหลกศีรษะทำหน้าที่ปกป้องสมองซึ่งเป็นศูนย์กลางของระบบประสาท รวมทั้งเป็นโครงร่างที่ค้ำจุนอวัยวะรับสัมผัสต่างๆ ทั้งตา หู จมูก และลิ้น และยังทำหน้าที่เป็นทางเข้าของทางเดินอาหารและทางเดินหายใจ การศึกษาเกี่ยวกับกะโหลกศีรษะมีประโยชน์อย่างมากหลายประการ โดยเฉพาะการศึกษาในเชิงกายวิภาคศาสตร์เปรียบเทียบระหว่างสัตว์ชนิดต่างๆ ซึ่งเป็นประโยชน์ด้านบรรพชีวินวิทยาและความเข้าใจถึงลำดับทางวิวัฒนาการ นอกจากนี้การศึกษาลงไปเฉพาะกะโหลกศีรษะมนุษย์ก็มีประโยชน์อย่างมากในการศึกษาด้านนิติเวชศาสตร์ ทันตแพทยศาสตร์ รวมทั้งมานุษยวิทยาและโบราณคดี.
ใหม่!!: กระหม่อมและกะโหลกศีรษะ · ดูเพิ่มเติม »
กายวิภาคศาสตร์
หัวใจและปอดของมนุษย์ ภาพจากหนังสือ ''Gray's Anatomy'' กายวิภาคศาสตร์ (anatomia, มาจาก ἀνατέμνειν ana: การแยก และ temnein: การตัดเปิด) เป็นแขนงหนึ่งของวิชาชีววิทยา ซึ่งศึกษาเกี่ยวกับโครงสร้างของสิ่งมีชีวิต คำนี้หมายรวมถึงกายวิภาคศาสตร์มนุษย์ (human anatomy), กายวิภาคศาสตร์สัตว์ (animal anatomy หรือ zootomy) และกายวิภาคศาสตร์พืช (plant anatomy หรือ phytotomy) ในบางแง่มุมกายวิภาคศาสตร์ก็มีความเกี่ยวข้องอย่างลึกซึ้งกับวิชาคัพภวิทยา (embryology), กายวิภาคศาสตร์เปรียบเทียบ (comparative anatomy) และคัพภวิทยาเปรียบเทียบ (phylogenetics หรือ comparative embryology) โดยมีรากฐานเดียวกันคือวิวัฒนาการ (evolution) กายวิภาคศาสตร์สามารถแบ่งออกได้เป็นมหกายวิภาคศาสตร์ (gross anatomy หรือ macroscopic anatomy) และจุลกายวิภาคศาสตร์ (microscopic anatomy) มหกายวิภาคศาสตร์ เป็นการศึกษาโครงสร้างทางกายวิภาคที่สามารถมองเห็นได้ด้วยตาเปล่า จุลกายวิภาคศาสตร์เป็นการศึกษาโครงสร้างทางกายวิภาคขนาดเล็กซึ่งต้องอาศัยกล้องจุลทรรศน์ ได้แก่ มิญชวิทยา (histology) ซึ่งเป็นการศึกษาโครงสร้างของเนื้อเยื่อ และวิทยาเซลล์ (cytology) ซึ่งเป็นการศึกษาเซลล์ กายวิภาคศาสตร์มีประวัติศาสตร์เป็นเวลายาวนาน มีการพัฒนาความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับหน้าที่ของอวัยวะและโครงสร้างต่างๆ ของร่างกายอย่างต่อเนื่อง เช่นเดียวกันกับวิธีการศึกษาที่พัฒนาอย่างรวดเร็วตั้งแต่การศึกษาจากสัตว์ไปจนถึงการชำแหละ (dissect) ศพมนุษย์ จนกระทั่งพัฒนาเทคนิคที่อาศัยเทคโนโลยีที่ซับซ้อนในศตวรรษที่ 20 วิชากายวิภาคศาสตร์นั้นต่างจากพยาธิกายวิภาค (anatomical pathology หรือ morbid anatomy) หรือจุลพยาธิวิทยา (histopathology) ซึ่งเป็นการศึกษาลักษณะทางมหภาคและจุลภาคของอวัยวะที่เป็นโร.
ใหม่!!: กระหม่อมและกายวิภาคศาสตร์ · ดูเพิ่มเติม »
การบันทึกด้วยคลื่นเสียงความถี่สูงทางการแพทย์
การบันทึกด้วยคลื่นเสียงความถี่สูง หรือ อัลตราซาวด์ (ultrasonography) หมายถึง คลื่นเสียงความถี่สูงที่มากกว่า 20,000 Hz ในทางการแพทย์หลักการตรวจด้วยคลื่นเสียงความถี่สูงหรือ Ultrasounographyคือ การส่งคลื่นเสียงความถี่สูงออกไป จากหัวตรวจ (Transdneer) คลื่นเสียงจะกระทบกับเนื้อเยื่อต่างๆ ซึ่งมีความสามารถในการผ่านและสะท้อนกลับไม่เท่ากัน หัวตรวจจะทำหน้าที่รับสัญญาณคลื่นเสียงที่สะท้อนกลับระดับต่างๆ ซึ่งบ่งถึงความหนาแน่น และระดับความลึกของเนื้อเยื่อนั้นนำสัญญาณที่ได้รับมาประมวลผลและสร้างเป็นภาพขึ้นม.
ใหม่!!: กระหม่อมและการบันทึกด้วยคลื่นเสียงความถี่สูงทางการแพทย์ · ดูเพิ่มเติม »
การกลายเป็นกระดูก
การกลายเป็นกระดูก หรือ การสร้างกระดูก เป็นกระบวนการสร้างเนื้อกระดูก โดยที่เนื้อเยื่อเกี่ยวพัน เช่นกระดูกอ่อนเปลี่ยนแปลงไปเป็นกระดูกหรือเนื้อเยื่อที่คล้ายกระดูก เนื้อเยื่อที่เกิดกระบวนการกลายเป็นกระดูกจะมีหลอดเลือดยื่นเข้าไปข้างใน หลอดเลือดเหล่านี้จะนำแร่ธาตุ เช่นแคลเซียม และเข้ามาในเนื้อเยื่อเพื่อให้เกิดการสร้างเนื้อกระดูกแข็ง การสร้างกระดูกเป็นกระบวนการที่เป็นพลวัต คือมีกระบวนการสร้างและสลายทดแทนกันอยู่ตลอด โดยมีเซลล์ออสติโอบลาสต์ (osteoblast) ทำหน้าที่พาเอาแร่ธาตุเข้ามา และมีออสติโอคลาสต์ (osteoclast) ทำหน้าที่สลายเนื้อกระดูก กระบวนการดังกล่าวนี้เรียกว่า กระบวนการก่อรูปกระดูก (bone remodeling) ซึ่งจะเกิดขึ้นตลอดช่วงชีวิต.
ใหม่!!: กระหม่อมและการกลายเป็นกระดูก · ดูเพิ่มเติม »
ภาวะขาดน้ำ
วะขาดน้ำ (dehydration) คือการที่ร่างกายมีปริมาตรน้ำในร่างกายทั้งหมดน้อยกว่าปกติ ทำให้เกิดความผิดปกติของกระบวนการเมตาบอลิซึมต่างๆ ของร่างกาย เกิดขึ้นเมื่ออัตราการสูญเสียน้ำออกจากร่างกายมากกว่าอัตราการได้รับน้ำเข้าสู่ร่างกาย อาจเกิดจากการออกกำลังกาย ความเจ็บป่วย หรืออุณหภูมิสิ่งแวดล้อมที่สูง ร่างกายของคนปกติสามารถทนรับการขาดน้ำในร่างกายได้จนถึง 3-4% โดยไม่เกิดผลเสียร้ายแรงใดๆ ต่อร่างกาย หากขาดน้ำ 5-8% อาจทำให้เกิดอาการอ่อนเพลียหรือมึนงง หากมากกว่า 10% อาจทำให้เกิดผลต่อร่างกายและจิตใจอย่างมาก รวมไปถึงความกระหายน้ำอย่างรุนแรงได้.
ใหม่!!: กระหม่อมและภาวะขาดน้ำ · ดูเพิ่มเติม »
รอยประสาน (กายวิภาคศาสตร์)
รอยประสาน (suture ซูเจอร์) เป็นข้อต่อชนิดหนึ่ง จัดเป็นชนิดย่อยของข้อต่อชนิดเนื้อเส้นใยคั่น (fibrous joint หรือ synarthrosis) ซึ่งพบอยู่ในกะโหลกศีรษะ (หรือกระดูกหุ้มสมอง) โดยที่กระดูกทั้งสองชิ้นจะยึดกันด้วยเส้นใยที่เรียกว่า Sharpey's fibres ข้อต่อชนิดนี้สามารถเคลื่อนไหวได้เล็กน้อย ทำให้กะโหลกศีรษะมีความยืดหยุ่นเล็กน้อย เมื่อแรกเกิด กระดูกกะโหลกศีรษะหลายชิ้นอาจยังไม่เชื่อมเป็นแผ่นกระดูกที่ชิดติดกัน บริเวณที่อยู่ระหว่างชิ้นกระดูกนั้นจะเป็นแผ่นเนื้อเยื่อคลุมที่เรียกว่า กระหม่อม (fontanelle) บริเวณบนกะโหลกศีรษะสามารถมีการเปลี่ยนแปลงได้ตลอดช่วงวัยผู้ใหญ่ (แม้จะไม่รวดเร็วนัก) ซึ่งมีประโยชน์ในการให้ข้อมูลทางนิติวิทยาศาสตร์และโบราณคดี.
ใหม่!!: กระหม่อมและรอยประสาน (กายวิภาคศาสตร์) · ดูเพิ่มเติม »
ทัดดอกไม้
ทัดดอกไม้ (Pterion) เป็นบริเวณของกะโหลกศีรษะที่บอบบางที่สุด อยู่ขอบหลังของข้อต่อสฟีโนพาไรทัลซูเจอร์ (sphenoparietal suture) ในระยะทารกบริเวณนี้จะเป็นแผ่นเนื้อเยื่อที่กระดูกยังไม่เจริญมาประสานกันเรียกว่า กระหม่อมสฟีนอยด์ หรือ กระหม่อมข้าง (sphenoidal fontanelle) และจะเกิดการสร้างกระดูกจนเป็นข้อต่อเมื่ออายุได้ 6-8 เดือนหลังคลอ.
ใหม่!!: กระหม่อมและทัดดอกไม้ · ดูเพิ่มเติม »
ข้อต่อ
้อ หรือ ข้อต่อ (Joints) ในทางกายวิภาคศาสตร์ หมายถึงบริเวณที่กระดูกตั้งแต่สองชิ้นขึ้นไปมีการติดต่อกัน ทำให้กระดูกมีการทำงานร่วมกันเป็นระบบเพื่อการค้ำจุนปกป้องร่างกายและการเคลื่อนไหวในรูปแบบต่างๆที่เหมาะสม ข้อต่อในร่างกายมนุษย์มีหลายแบบ และสามารถจัดจำแนกได้ตามลักษณะโครงสร้าง และคุณสมบัติในการเคลื่อนไหว.
ใหม่!!: กระหม่อมและข้อต่อ · ดูเพิ่มเติม »
แลมดา
แลมบ์ดา (lambda) หรือ ลัมดา (λάμδα, ตัวใหญ่ Λ, ตัวเล็ก λ) เป็นอักษรกรีกตัวที่ 11 และมีค่าของเลขกรีกเท่ากับ 30 λ ในสมการต่างๆ -ฟิสิกส์ แทนความยาวคลื่น.
ใหม่!!: กระหม่อมและแลมดา · ดูเพิ่มเติม »
แอสเทอเรียน
แอสเทอเรียน (asterion) ในทางกายวิภาคศาสตร์มนุษย์ หมายถึงจุดบนกะโหลกศีรษะมนุษย์ที่อยู่ด้านหลังหู เป็นจุดบรรจบกันของซูเจอร์หรือรอยประสานบนกะโหลกศีรษะ อัน ได้แก่ รอยประสานท้ายทอย (lambdoid suture), รอยประสานสความัส (squamosal suture), ออกซิปิโตมาสตอยด์ ซูเจอร์ (occipitomastoid suture) ในผู้ใหญ่ แอสเทอเรียนจะอยู่ด้านหลัง 4 เซนติเมตร และด้านบน 12 เซนติเมตรต่อรูหู ในการผ่าตัด ในระยะทารกบริเวณนี้จะเป็นแผ่นเนื้อเยื่อที่กระดูกยังไม่เจริญมาประสานกันเรียกว่า กระหม่อมกกหู หรือ กระหม่อมมาสตอยด์ (mastoid fontanelle) และจะเกิดการสร้างกระดูกจนเป็นข้อต่อเมื่ออายุได้ 6-8 เดือนหลังคลอ.
ใหม่!!: กระหม่อมและแอสเทอเรียน · ดูเพิ่มเติม »