โลโก้
ยูเนี่ยนพีเดีย
การสื่อสาร
ดาวน์โหลดได้จาก Google Play
ใหม่! ดาวน์โหลด ยูเนี่ยนพีเดีย บน Android ™ของคุณ!
ฟรี
เร็วกว่าเบราว์เซอร์!
 

พรินซ์และรางวัลแกรมมี สาขาอัลบั้มแห่งปี

ทางลัด: ความแตกต่างความคล้ายคลึงกันค่าสัมประสิทธิ์การเปรียบเทียบ Jaccardการอ้างอิง

ความแตกต่างระหว่าง พรินซ์และรางวัลแกรมมี สาขาอัลบั้มแห่งปี

พรินซ์ vs. รางวัลแกรมมี สาขาอัลบั้มแห่งปี

รินซ์ โรเจอร์ส เนลสัน (Prince Rogers Nelson) (7 มิถุนายน ค.ศ. 1958 - 21 เมษายน ค.ศ. 2016) เป็นนักร้องชาวอเมริกัน นักแต่งเพลง โปรดิวเซอร์เพลงและนักแสดง พรินซ์เป็นที่รู้จักอย่างแพร่หลายสำหรับผสมผสานผลงาน การแสดงบนเวทีที่มีสีสันและช่วงเสียงร้องที่สูง เขาได้รับการยกย่องว่าเป็นผู้บุกเบิกเสียงร้องแบบ “Minneapolis sound” ผลงานของเขามีความหลากหลายทั้ง ฟังก์ ร็อค อาร์แอนบี โซล ไซคีเดลิค และป็อป ผลงานในช่วงแรกของเขาจะเป็นเพลง อาร์แอนด์บี ดนตรีโซลและฟังก์ ต่อมาเขาผสมผสานแนวเพลงอื่นเข้ามาด้วยไม่ว่าจะเป็น ป็อป, ร็อก, แจ๊ส, นิวเวฟ, ไซเคเดเลีย และฮิปฮอป เขาได้รับอิทธิพลด้านดนตรีจาก สลาย สโตน, ไมล์ส เดวิส, จิมมี เฮนดริกซ์, โจนี มิตเชลล์, เจมส์ บราวน์, พาร์ไลเมนต์-ฟังก์คาเดลิก และคาร์ลอส ซานตานา เอกลักษณ์อันเด่นชัดของผลงานเขาในช่วงต้นถึงกลางทศวรรษ 1980 เช่น การใช้ดรัมแมชชีนเรียบเรียงเพลงแบบเสียงเครื่องจักรโปร่ง ๆ และการใช้ท่อนริฟฟ์เครื่องสังเคราะห์เสียง ในลักษณะดนตรีอาร์แอนด์บี, ฟังก์ และดนตรีโซล ที่เรียกว่า "ดนตรีมินนิเอโพลิส" พรินซ์มียอดขายมากกว่า 100 ล้านชุด ทำให้เขาถือเป็นหนึ่งในศิลปินที่มียอดขายสูงสุดตลอดกาล ด้วยผลงานมากมาย มีเพลงกว่า 100 เพลง ทั้งที่เขาร้องเองและของศิลปินอื่น เขาได้รับรางวัลแกรมมี่มาแล้ว 7 ครั้ง, 1 รางวัลลูกโลกทองคำและ 1 รางวัลออสการ์ เขายังมีชื่ออยู่ในร็อกแอนด์โรลฮอลออฟเฟม ในปี 2004 นิตยสารโรลลิงสโตน จัดอันดับพรินซ์อยู่ที่อันดับ 28 ใน 100 อันดับของศิลปินที่ยอดเยี่ยมที่สุดตลอดกาล พริ้นเสียชีวิตวันที่ 21 เมษายน.ศ 2016 ที่บ้าน/สตูดิโอ Paisley Park ในรัฐมินนีโซต สหรัฐอเมริกา หลังจากเกิดโรคคล้ายไข้หวัดใหญ่ อายุ 57 ปี. รางวัลแกรมมี สาขาอัลบั้มแห่งปี เป็นหนึ่งในสาขารางวัลที่สำคัญที่สุดของรางวัลแกรมมี มีการมอบครั้งแรกในปี ค.ศ. 1959 สำหรับอัลบั้มที่ออกในปีก่อนหน้าที่จะมีการประกาศรางวัล แต่เดิมนั้นมอบไห้กับศิลปินเจ้าของอัลบั้มเท่านั้น แต่ในปัจจุบันได้มอบไห้กับทีมโปรดิวเซอร์ อันได้แก่โปรดิวเซอร์ วิศวกรบันทึกเสียง/มิกเซอร์ และมาสเตอริงเอ็นจิเนีย (Mastering Engineer) ด้วย รางวัลอัลบั้มแห่งปียังเป็นหนึ่งในสี่รางวัลใหญ่ของงาน หรือที่เรียกกันว่า บิ๊กโฟร์ (Big Four) อันประกอบไปด้วยอีก 3 สาขาคือ รางวัลบันทึกเสียงแห่งปี, รางวัลเพลงแห่งปี และรางวัลศิลปินหน้าใหม่ยอดเยี่ยม.

ความคล้ายคลึงกันระหว่าง พรินซ์และรางวัลแกรมมี สาขาอัลบั้มแห่งปี

พรินซ์และรางวัลแกรมมี สาขาอัลบั้มแห่งปี มี 4 สิ่งที่เหมือนกัน (ใน ยูเนี่ยนพีเดีย): บียอนเซ่ โนวส์รางวัลแกรมมีโจนี มิตเชลล์เพอร์เพิลเรน (อัลบั้ม)

บียอนเซ่ โนวส์

ียอนเซ่ จิเซลล์ โนวส์ เกิดเมื่อวันที่ 4 กันยายน ค.ศ. 1981 เป็นนักร้องสไตล์อาร์แอนด์บี, นักแต่งเพลง, โปรดิวเซอร์, นักแสดง และ นางแบบ ชาวอเมริกัน โนวส์เกิดและเติบโตที่ฮิวส์ตัน รัฐเท็กซัส ในวัยเด็กบียอนเซ่ได้เข้าร่วมในการแสดงหลากหลายเรียนอนุบาลถึงประถม ซึ่งรวมไปถึงการร้องเพลง อันเป็นการปูทางสำหรับอาชีพการเป็นนักร้อง บียอนเซ่เริ่มมีชื่อเสียงเป็นที่รู้จักในช่วงปี 1990 ในฐานะสมาชิกคนสำคัญของเดสทินีส์ไชลด์ วงดนตรีหญิงล้วนแนวอาร์แอนด์บีชื่อดังในยุคนั้น ตลอดชีวิตการทำงานของเธอ มียอดขายเกินกว่า 100 ล้านชุดในฐานะศิลปินเดียว ในเดือนมิถุนายน ค.ศ. 2003 ระหว่างการพักงานของเดสทินีส์ไชลด์ โนวส์ได้ออกอัลบั้มในฐานะศิลปินเดี่ยวเป็นครั้งแรกกับอัลบั้มเดนเจอรัสลีอินเลิฟ ซึ่งนับเป็นอัลบั้มที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดอัลบั้มหนึ่งในปีนั้น อัลบั้มนี้ประสบความสำเร็จทั้งในด้านยอดขายและด้านคำวิจารณ์ต่างๆ ทำให้มีเพลงฮิตเช่นเพลง "เครซีอินเลิฟ", "เบบี้บอย" และสร้างรางวัลแกรมมีถึง 5 สาขาให้แก่โนวส์ ต่อมาเดสทินีส์ไชลด์ก็ได้ตัดสินใจแยกวงจากเป็นทางการ หลังจากนั้นโนวส์ได้มีอัลบั้มชุดที่สอง นั่นก็คืออัลบั้มบี'เดย์ วางขายในปี ค.ศ. 2006 ซึ่งเปิดตัวอันดับ 1 บนชาร์ตบิลบอร์ด มีซิงเกิลฮิตอย่าง "เดจาวู", "อีเรเพลสอเบิล", และ "บิวติฟูล์ไลอาร์" อัลบั้มเดี่ยวชุดที่ 3 ของเธอไอแอม... ซาชาเฟียร์ส ได้วางจำหน่ายในเดือนพฤศจิกายน ค.ศ. 2008 มีซิงเกิลฮิต เช่น "อิฟไอเวอร์อะบอย", "ซิงเกิลเลดีส์ (พุตอะริงออนอิต)", "เฮโล", และ "สวีตดรีมส์" โนวส์มีซิงเกิลที่ติดอันดับ 1 อยู่ทั้งหมด 5 เพลงด้วยกัน ทำให้เธอเป็นหนึ่งในสองศิลปินหญิงที่มีเพลงติดอันดับหนึ่งมากที่สุดในช่วงคริสต์ศตวรรษที่ 2000 จากความสำเร็จอย่างสูงของการเป็นศิลปินเดี่ยวของโนวส์ ทำให้เธอได้รับการยกย่องให้เป็นศิลปินคนสำคัญคนหนึ่งของอุตสาหกรรมดนตรีในยุคปัจจุบัน และเธอก็ยังขยายงานอาชีพของเธอไปสู่งานทางการแสดงและเซ็นสัญญากับบริษัทสินค้าต่างๆ เธอได้เริ่มอาชีพทางการแสดงของเธอเมื่อปี ค.ศ. 2001 ใน ภาพยนตร์เพลงเรื่อง Carmen: A Hip Hopera ในปี ค.ศ. 2006 เธอได้รับบทนำในภาพยนตร์ทำใหม่ของละครบรอดเวย์ปี 1981 เรื่องดรีมเกิร์ลส และทำให้เธอได้เข้าชิงรางวัลลูกโลกทองคำถึง 2 รางวัล โนวส์ได้มีธุรกิจสายงานแฟชั่นที่เธอได้ร่วมกับครอบครัว โดยใช้ชื่อว่า "เฮาส์ออฟเดเรออน" และได้เซ็นสัญญาเป็นพรีเซ็นเตอร์ให้กับบริษัทต่างๆ เช่น เป๊ปซี่, ทอมมี ฮิลฟิกเจอร์, อาร์มานิ และลอเรอัล และในปี ค.ศ. 2009 นี้ นิตยสารฟอร์บยังได้จัดอันดับให้เธออยู่ในอันดับ 4 ของคนดังที่มีอิทธิพลมากที่สุด, อันดับ 3 ของนักดนตรีที่มีรายได้มากที่สุด, และอันดับหนึ่งของคนดังอายุต่ำกว่า 30 ที่มีรายได้มากที่สุด ด้วยรายได้กว่า 87 ล้านดอลลาร์สหรัฐระหว่างปี ค.ศ. 2008 - ค.ศ. 2009.

บียอนเซ่ โนวส์และพรินซ์ · บียอนเซ่ โนวส์และรางวัลแกรมมี สาขาอัลบั้มแห่งปี · ดูเพิ่มเติม »

รางวัลแกรมมี

รางวัลแกรมมี รางวัลแกรมมี (Grammy Award) มีชื่อเต็มว่า Gramophone Awards เป็นรางวัลทางดนตรี และศิลปิน ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของโลก จัดขึ้นโดยสถาบันศิลปะวิทยาการการบันทึกเสียงแห่งสหรัฐอเมริกา (National Academy of Recording Arts and Sciences:NARAS) เป็นรายการแจกรางวัลให้ผู้มีผลงานโดดเด่นในอุตสาหกรรมการดนตรี จัดขึ้นเป็นประจำปีในสหรัฐอเมริกา โดยมากจะจัดในเดือนกุมภาพันธ์ มีสาขารางวัลถึง 108 สาขา ใน 30 แนวเพลง เป็นการโหวดโดยคณะกรรมการใน NARAS(คณะกรรมการที่เคยโหวดเช่น จอน บอน โจวี, ปริ้นซ์, Anand Bhatt, พอล ไซม่อน, เป็นต้น) รางวัลแกรมมีเริ่มมีการมอบรางวัลตั้งแต่ปี ค.ศ. 1959 โดยเริ่มถ่ายทอดสดในปี 1971.

พรินซ์และรางวัลแกรมมี · รางวัลแกรมมีและรางวัลแกรมมี สาขาอัลบั้มแห่งปี · ดูเพิ่มเติม »

โจนี มิตเชลล์

นี มิตเชลล์ (Joni Mitchell), CC เกิดเมื่อวันที่ 7 พฤศจิกายน ค.ศ. 1943 เป็นนักดนตรี นักร้อง นักแต่งเพลง และจิตรกรชาวแคนาดา มิตเชลล์เริ่มร้องเพลงในไนต์คลับเล็ก ๆ ในแถบตะวันตกของแคนาดาจากนั้นแสดงดนตรีในที่สาธารณะตามท้องถนนในโตรอนโต กลางทศวรรษ 1960 เธอออกจากเมืองไปนิวยอร์กซิตีที่เต็มไปด้วยเพลงโฟล์ก บันทึกเสียงอัลบั้มแรกในปี 1968 และประสบความสำเร็จครั้งแรกในฐานะนักแต่งเพลง ("Urge for Going", "Chelsea Morning", "Both Sides Now", "Woodstock") และเธอก็ก้าวมาเป็นนักร้อง จากนั้นมาตั้งรกรากทางใต้ของแคลิฟอร์เนีย มิตเชลล์ถือเป็นบุคคลสำคัญของดนตรีแนวโฟล์กร็อก อัลบั้ม Blue ในปี 1971 ถือเป็นผลงานที่แข็งแรงและมีอิทธิพลที่สุดอัลบั้มหนึ่ง มิตเชลล์มีผลงานเพลงป็อปเช่นกัน อย่างเช่นเพลงดัง "Big Yellow Taxi", "Free Man in Paris" และ "Help Me" สองเพลงหลังจากอัลบั้มขายดีที่สุดในปี 1974 ชุด Court and Spark มิตเชลล์มีเสียงแบบโซปราโน กับสไตล์กีตาร์ที่กลมกลืนเด่นชัด และการเรียบเรียงเปียโน ที่ประสานกันอย่างซับซ้อน ผ่านแนวเพลงสไตล์ยุค 70 ที่เธอได้รับอิทธิพลจากเพลงแจ๊สอย่างมาก ผสมผสานกับเพลงป็อป โฟล์กและร็อก อย่างเช่นในผลงานชุดทดลองอย่าง Hejira ในปี 1976 เธอยังร่วมทำงานกับศิลปินแจ๊สอย่าง เวย์น ชอร์เตอร์, เจโค พาสโทเรียส, เฮอร์บีย์ แฮนค็อก และชาร์ลส มินกัส จากทศวรรษ 1980 เป็นต้นมา มิตเชลล์เริ่มมีผลานบันทึกเสียงและออกทัวร์น้อยลง เนื่องจากเธอหันหลังให้กับเพลงป็อป โดยจะทำผลงานที่ดียิ่งขึ้นโดยใช้เครื่องสังเคราะห์เสียงและมีเนื้อหาทักท้วงการเมืองในเนื้อเพลง ที่มักเอ่ยอ้างถึงสังคมผู้ชายและประเด็นสิ่งแวดล้อม ร่วมกับเนื้อหาความรักและอารมณ์ งานของมิตเชลล์เป็นที่ยอมรับทั้งกับนักวิจารณ์และนักดนตรี นิตยสารโรลลิงสโตน เรียกเธอว่า "หนึ่งในนักเขียนเพลงที่ดีที่สุด" ขณะที่ออลมิวสิก พูดว่า "เมื่อธุลีเกิดขึ้น โจนี มิตเชลล์จะยืนเป็นสิ่งสำคัญและมีอิทธิพลให้กับศิลปินหญิงในปลายศตวรรษที่ 20" ในช่วงสิ้นสุดศตวรรษ มิตเชลล์มีอิทธิพลให้กับศิลปินหลากหลายแนวเพลงตั้งแต่อาร์แอนด์บีไปถึงอัลเทอร์เนทีฟร็อกจนถึงแจ๊ส มิตเชลล์ ยังเป็นจิตรกร เธอสร้างสรรค์ผลงานศิลปินบนปกอัลบั้มของเธอเอง และในปี 2000 เธออธิบายตัวเองไว้ว่า "จิตรกรบังเอิญโดยสภาวะแวดล้อม" เธอหยุดการทำงานเพลงหลายปี โดยมุ่งเน้นไปที่งานจิตรกรรม แต่ปี 2007 เธอออกผลงานอัลบั้มชุด Shine ถือเป็นผลงานอัลบั้มแรกในรอบ 9 ปี.

พรินซ์และโจนี มิตเชลล์ · รางวัลแกรมมี สาขาอัลบั้มแห่งปีและโจนี มิตเชลล์ · ดูเพิ่มเติม »

เพอร์เพิลเรน (อัลบั้ม)

อร์เพิลเรน เป็นสตูดิโออัลบั้มที่ 6 ของพรินซ์ และเป็นครั้งแรกที่มีวงดนตรีเดอะเดอะรีโวลูชั่น มาร้องร่วม และเป็นอัลบั้มซาวน์แทร็คในภาพยนตร์ชื่อเดียวกันในปี ค.ศ. 1984 วางจำหน่ายในวันที่ 25 มิถุนายน ค.ศ. 1984 สังกัดค่ายวอร์เนอร์บราเธอร์สเรเคิดส์ ยอดขายได้ 22 ล้านชุดทั่วโลก ทำให้กลายเป็นอัลบั้มซาวน์แทร็คที่ 6 ที่มียอดขายสูงสุดตลอดกาล "เพอร์เพิลเรน" ถูกจัดอันดับตามปกติในหมู่อัลบั้มที่ดีที่สุดในประวัติศาสตร์ดนตรี และได้รับการยกย่องอย่างกว้างขวางว่าเป็นผลงานชิ้นโบแดงของพรินซ์ นิตยสารไทม์ จัดอันดับที่ 15 เป็นอัลบั้มที่ยิ่งใหญ่ที่สุดตลอดกาลในปี ค.ศ. 1993 และถูกจัดอันดับที่ 18 อัลบั้มร็อคเอนโรลที่ยิ่งใหญ่ที่สุดตลอดกาลของ VH1 นิตยสารโรลลิงสโตนจัดอันดับที่ 2 ที่มียอดขายสูงสุดในยุค 1980 และอันดับที่ 76 ของ 500 อัลบั้มที่ยิ่งใหญ่ที่สุดตลอดกาล 2 ซิงเกิลแรกจากอัลบั้มเพอร์เพิลเรน "When Doves Cry" และ"Let's Go Crazy" ติดท็อปชาร์ตในสหรัฐอเมริกา และกลายเป็นเพลงฮิตไปทั่วโลก ในเพลงเพอร์เพิลเรน ได้ติดอันดับที่ 2 จากบิลบอร์ดฮอต 100 อัลบั้มนี้ได้รับบันทึกแผ่นเสียงทองคำขาวจาก สมาคมผู้ประกอบกิจการเพลงของสหรัฐอเมริกา (RIAA) กว่า 13 แผ่น ในปี ค.ศ. 2007 นักตัดต่อของนิตยสารVanity Fair ได้ติดป้ายกำกับว่าเป็นสุดยอดอัลบั้มซาวแทร็คตลอดกาล และนิตยสาร Tempo ไดยกย่องเป็นอัลบั้มที่ยิ่งใหญ่ที่สุดตลอดกาลในยุค 1980 อันดับที่ 1000 ในนิตยสารเอนเตอร์เทนเมนต์วีกลี ฉบับวันที่ 4 กรกฎาคม ค.ศ. 2008 ระบุไว้ เพอร์เพิลเรน เป็นอันดับ 1 ในท็อป 100 สุดยอดอัลบั้มตลอด 25 ปี ในปี ค.ศ. 2013 นิตยสารยังได้ระบุไว้ว่าเป็นอัลบั้มอันดับที่ 2 จาก 100 อัลบั้มที่ยิ่งใหญ่ที่สุดเท่าที่เคยมีมา ในปี ค.ศ. 2012 นิตยสาร Slant ได้ระบุอันดับที่ 2 ไว้ว่าเป็นสุดยอดอัลบั้มแห่งยุค 1980 รองจากอัลบั้มของไมเคิล แจ็กสัน ทริลเลอร์ ในปีเดียวกันอัลบั้มถูกเพิ่มลงในNational Recording Registry ของหอสมุดรัฐสภา ในรายชื่อของการบันทึกเสียงไว้เป็นประวัติศาสตร์วัฒนธรรม หรือมีความสำคัญทางความสุนทรี.

พรินซ์และเพอร์เพิลเรน (อัลบั้ม) · รางวัลแกรมมี สาขาอัลบั้มแห่งปีและเพอร์เพิลเรน (อัลบั้ม) · ดูเพิ่มเติม »

รายการด้านบนตอบคำถามต่อไปนี้

การเปรียบเทียบระหว่าง พรินซ์และรางวัลแกรมมี สาขาอัลบั้มแห่งปี

พรินซ์ มี 53 ความสัมพันธ์ขณะที่ รางวัลแกรมมี สาขาอัลบั้มแห่งปี มี 197 ขณะที่พวกเขามีเหมือนกัน 4, ดัชนี Jaccard คือ 1.60% = 4 / (53 + 197)

การอ้างอิง

บทความนี้แสดงความสัมพันธ์ระหว่าง พรินซ์และรางวัลแกรมมี สาขาอัลบั้มแห่งปี หากต้องการเข้าถึงบทความแต่ละบทความที่ได้รับการรวบรวมข้อมูลโปรดไปที่:

Hey! เราอยู่ใน Facebook ตอนนี้! »