โลโก้
ยูเนี่ยนพีเดีย
การสื่อสาร
ดาวน์โหลดได้จาก Google Play
ใหม่! ดาวน์โหลด ยูเนี่ยนพีเดีย บน Android ™ของคุณ!
ติดตั้ง
เร็วกว่าเบราว์เซอร์!
 

มีร์ จาฟาร์

ดัชนี มีร์ จาฟาร์

มีร์ จาฟาร์ อาลี คาน บาฮาดูร์ (Mir Jafar Ali Khan Bahadur) เป็นเจ้าประเทศราชแห่งเบงกอลคนแรกภายใต้การสนับสนุนของบริษัทอินเดียตะวันออกของบริเตน เดิมทีเขาเป็นผู้บัญชาการทหารของแคว้นเบงกอล เขาได้แสร้งทำเป็นจงรักภักดีต่อ นาวับชีราช อุดดอลา ว่าจะนำทัพ 50,000 นายออกรบกับอังกฤษ แต่ลับหลังเขากลับแอบติดต่อกับพันเอกรอเบิร์ต ไคลฟ์ แห่งบริษัทอินเดียตะวันออก โดยพันเอกไคลฟ์รับปากว่า ถ้าเขานำทัพเข้าร่วมกับฝ่ายอังกฤษในยุทธการที่ปลาศีแล้ว อังกฤษจะตั้งเขาเป็นนาวับแห่งเบงกอลคนใหม่ ท้ายที่สุด อังกฤษก็ได้รับชัยชนะในยุทธการที่ปลาศี และแต่งตั้งมีร์ จาฟาร์ เป็นนาวับคนใหม่ เมื่อจาฟาร์ได้ขึ้นเป็นนาวับคนใหม่ เขาก็เอื้อประโยชน์ให้แก่อังกฤษมากมาย ทั้งยอมจ่ายเงินจำนวน 17.7 ล้านรูปีแก่อังกฤษเป็นค่าปฏิกรรมการโจมตีป้อมกัลกัตตา และยังให้สินบนตอบแทนแก่เจ้าหน้าที่ของบริษัทที่ช่วยให้เขาได้เป็นนาวับ โดยพันเอกไคลฟ์ได้รับเงินกว่าสองล้านรูปี, วิลเลียม วัตต์ หัวหน้าโรงงานบริษัทฯ ได้รับกว่าหนึ่งล้าน การกระทำของจาฟาร์นี้สร้างความขุ่นเคืองให้แก่จักรพรรดิแห่งโมกุลอย่างมาก โดยมองว่าจาฟาร์เป็นคนขายชาติ เมื่อเวลาผ่านไปซักระยะหนึ่ง จาฟาร์ก็ตระหนักว่าบริษัทฯไม่มีวัดเลิกตอดเล็กตอดน้อยเอาผลประโยชน์จากเขาแน่ และเขาก็ไม่อยากเป็นเบี้ยล่างของอังกฤษอีกต่อไป จาฟาร์พยายามดึงพวกบริษัทอินเดียตะวันออกของเนเธอร์แลนด์เข้ามาในเกมการเมืองนี้ อย่างไรก็ตาม แผนของจาฟาร์เป็นอันล่มไปเมื่ออังกฤษมีชัยเหนือเนเธอร์แลนด์ในยุทธการที่จินสุราเมื่อพฤศจิกายน..

9 ความสัมพันธ์: บริษัทอินเดียตะวันออกบริษัทอินเดียตะวันออกของเนเธอร์แลนด์ชีราช อุดดอลายุทธการที่ปลาศีรอเบิร์ต ไคลฟ์ศาสนาอิสลามอวัธปัฏนาโกลกาตา

บริษัทอินเดียตะวันออก

ริษัทอินเดียตะวันออกอันทรงเกียรติ (Honourable East India Company) หรือในเวลาต่อมาคือ บริษัทอินเดียตะวันออกของบริเตน เป็นบริษัทร่วมทุนสัญชาติอังกฤษในช่วงแรก ซึ่งเดิมถูกก่อตั้งขึ้นเพื่อแสวงหาการค้ากับภูมิภาคอินเดียตะวันออก แต่ในภายหลังได้ดำเนินการค้าส่วนใหญ่กับอนุทวีปอินเดียและจีน และยังมีหน้าที่ปกครองอาณานิคมในอนุทวีปอินเดีย บริษัทอินเดียตะวันออกถือได้ว่ามีความเก่าแก่ที่สุดเมื่อเทียบกับบริษัทอินเดียตะวันออกของชาติทวีปยุโรปอื่น ๆ เมื่อแรกก่อตั้ง บริษัทได้รับพระราชทานตราตั้งโดยสมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 1ให้เป็น "ข้าหลวงแลบริษัทพาณิชย์แห่งลอนดอนซึ่งจักทำการค้าไปยังอินเดียตะวันออก" เมื่อวันที่ 31 ธันวาคม..

ใหม่!!: มีร์ จาฟาร์และบริษัทอินเดียตะวันออก · ดูเพิ่มเติม »

บริษัทอินเดียตะวันออกของเนเธอร์แลนด์

อู่ต่อเรือบริษัทอินเดียตะวันออกของเนเธอร์แลนด์ในกรุงอัมสเตอร์ดัม ค.ศ. 1726 วาดโดยโจเซฟ มัลเดอร์ ฟลอริน อาณานิคมของเนเธอร์แลนด์ บริเวณสีเขียวอ่อนคือดินแดนในปกครองของบริษัทอินเดียตะวันออกของเนเธอร์แลนด์ สหบริษัทอินเดียตะวันออก (Vereenigde Oostindische Compagnie) หรือที่ชาวอังกฤษเรียกว่า บริษัทอินเดียตะวันออกของเนเธอร์แลนด์ (Dutch East India Company) มีชื่อย่อว่า เฟโอเซ (VOC) ได้รับก่อตั้งขึ้นในปี ค.ศ. 1602 โดยในช่วงแรกรัฐสภาเนเธอร์แลนด์มอบสิทธิ์ขาดในการค้าเครื่องเทศแก่บริษัทเป็นเวลา 21 ปี บ่อยครั้งบริษัทนี้ได้รับการพิจารณาว่าเป็นบริษัทข้ามชาติบริษัทแรกในโลก และเป็นบริษัทแรกที่ออกหุ้น สหบริษัทอินเดียตะวันออกเป็นบริษัทที่มีอำนาจสูงเกือบเทียบเท่ารัฐบาล โดยมีความสามารถที่จะเข้าร่วมสงคราม สั่งจำคุกและประหารชีวิตนักโทษ เจรจาสนธิสัญญา ผลิตเหรียญกระษาปณ์เป็นของตนเอง และจัดตั้งอาณานิคม.

ใหม่!!: มีร์ จาฟาร์และบริษัทอินเดียตะวันออกของเนเธอร์แลนด์ · ดูเพิ่มเติม »

ชีราช อุดดอลา

มีร์จา มุฮัมหมัด ชีราช อุดดอลา (মির্জা মুহম্মদ সিরাজউদ্দৌলা) เป็นเจ้าประเทศราชแห่งเบงกอลองค์สุดท้ายภายใต้จักรวรรดิโมกุล ก่อนที่เบงกอลจะถูกบริษัทอินเดียตะวันออกของบริเตนเข้าปกครองและแผ่ขยายดินแดนไปทั่งอนุทวีปอินเดีย เขาขึ้นครองบัลลังก์แห่งเบงกอลต่อจาก อาลีวาร์ดี คาน ผู้เป็นตาในปี 1756 ขณะมีอายุได้ 23 ปี เขาใช้นโยบายแข็งกร้าวต่ออังกฤษและส่งทหารเข้ายึดเมืองกัลกัตตาซึ่งอยู่ในบังคับของอังกฤษ อย่างไรก็ตาม ในศึกกับอังกฤษนั้น เขาถูกทรยศโดยมีร์ จาฟาร์ แม่ทัพในยุทธการที่ปลาศี ส่งผลให้กองทหารอังกฤษของพันเอกรอเบิร์ต ไคลฟ์ เข้ายึดและปกครองแคว้นเบงกอลทั้งหมด ในขณะที่ยุทธการที่ปลาศีกำลังดำเนินอยู่ ฝ่ายเบงกอลก็สูญเสียมีร์ มาดาม แม่ทัพคนสำคัญและคนสนิทของชีราช ชีราชเสียใจกับความสูญเสียนี้ และขอคำปรึกษาจากมีร์ จาฟาร์ ซึ่งก็ได้รับคำแนะนำว่าควรถอนทัพในวันนั้น แล้วชีราชได้ทำสิ่งผิดพลาดที่สุดโดยการสั่งให้ยุติการรบ ซึ่งโดยคำสั่งนั้น ทหารแต่ละกรมกองต้องกลับค่ายของตน เป็นการเปิดโอกาสให้พันเอกไคลฟ์ นำกำลังอังกฤษเข้าโจมตีทหารเบงกอลที่กำลังกลับเข้าค่าย การโจมตีโดยไม่ทันตั้งตัวทำให้กองทหารเบงกอลสูญเสียระบบ เมื่อคิดได้ว่าไม่มีทางสู้แล้ว ชีราชก็รีบหนีลงเรือเล็ก แต่เมื่อไปถึงปัฏนาเขาก็ถูกจับกุมโดยทหารของมีร์ จาฟาร์ เขาถูกนำตัวไปประหารชีวิตในวันที่ 2 กรกฎาคม 1757 โดยคำสั่งของมีร์ มีรุน บุตรชายของมีร์ จาฟาร์ ซึ่งเป็นหนึ่งในข้อตกลงระหว่างมีร์ จาฟาร์ กับบริษัทฯ.

ใหม่!!: มีร์ จาฟาร์และชีราช อุดดอลา · ดูเพิ่มเติม »

ยุทธการที่ปลาศี

ทธการที่ปลาศี (Battle of Plassey) เป็นการต่อสู้ระหว่างบริษัทอินเดียตะวันออกของอังกฤษกับแคว้นเบงกอลของจักรวรรดิโมกุลที่มีฝรั่งเศสหนุนหลัง การต่อสู้เกิดขึ้นในภาคเบงกอลซึ่งอยู่ทางตะวันออกของอินเดียในวันที่ 23 มิถุนายน..

ใหม่!!: มีร์ จาฟาร์และยุทธการที่ปลาศี · ดูเพิ่มเติม »

รอเบิร์ต ไคลฟ์

ลตรี รอเบิร์ต ไคลฟ์ บารอนไคลฟ์ที่ 1 (Robert Clive, 1st Baron Clive) หรือเป็นที่รู้จักในนาม ไคลฟ์แห่งอินเดีย (Clive of India) เป็นหนึ่งในนักการทหารที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของอังกฤษ เขาเป็นผู้บัญชาการสูงสุดของบริติชอินเดีย เขาสามารถมีชัยในยุทธการที่ปลาศีในปี..

ใหม่!!: มีร์ จาฟาร์และรอเบิร์ต ไคลฟ์ · ดูเพิ่มเติม »

ศาสนาอิสลาม

นาอิสลาม (Islam) เป็นศาสนาเอกเทวนิยมและศาสนาอับราฮัม บัญญัติไว้ในคัมภีร์อัลกุรอาน คัมภีร์ศักดิ์สิทธิ์ของอิสลามซึ่งสาวกถือว่าเป็นพระวจนะคำต่อคำของพระเป็นเจ้า (อัลลอฮฺ) และสำหรับสาวกส่วนใหญ่ เป็นคำสอนและตัวอย่างเชิงบรรทัดฐาน (เรียกว่า สุนัต และประกอบด้วยหะดีษ) ของมุฮัมมัด (ประมาณ 570–8 มิถุนายน 632)เป็นศาสดา (นบี) องค์สุดท้ายของพระเป็นเจ้า สาวกของศาสนาอิสลาม เรียกว่า มุสลิม มุสลิมเชื่อว่า พระเจ้าเป็นหนึ่งและหาที่เปรียบไม่ได้ และจุดประสงค์ของการดำรงอยู่ คือ เพื่อรักและรับใช้พระเป็นเจ้า มุสลิมยังเชื่อว่า ศาสนาอิสลามเป็นบรรพศรัทธาฉบับสมบูรณ์และเป็นสากลที่สุดซึ่งได้ประจักษ์มาหลายครั้งก่อนหน้านั้น ผ่านศาสดาซึ่งรวมอาดัม โนอาห์ อับราฮัม โมเสส และพระเยซู พวกเขายึดมั่นว่า สารและวิวรณ์ถูกแปลผิดหรือเปลี่ยนแปลงบางส่วนตามกาลดู.

ใหม่!!: มีร์ จาฟาร์และศาสนาอิสลาม · ดูเพิ่มเติม »

อวัธ

อวัธ (Awadh; अवध, اودھ) หรืออูธเป็นแคว้นที่มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์ทางตอนเหนือของอินเดียตั้งอยู่บริเวณที่ราบลุ่มแม่น้ำระหว่างแม่น้ำยมุนาทางตะวันตกเฉียงใต้และแม่น้ำคันทักทางตะวันออก คำว่าอวัธมาจากอโยธยางเป็นชื่อเมืองของพระราม อังกฤษเข้ามายึดแคว้นนี้ไปทีละส่วนใน..

ใหม่!!: มีร์ จาฟาร์และอวัธ · ดูเพิ่มเติม »

ปัฏนา

ปัฏนา (อังกฤษ: Paṭnā ฮินดี: पटना) (ชื่ออื่น: ปาตลีบุตร, ปาฏลีบุตร, ปัตนะ, มคธ) เป็นเมืองหลวงของรัฐพิหาร รัฐหนึ่งในประเทศอินเดีย ปัฏนาเป็นเมืองเก่าแก่ที่ยังมีผู้อาศัยอยู่ต่อเนื่องยาวนานที่สุดแห่งหนึ่งของโลก โดยเมื่อ 2,500 ปีก่อน ในสมัยพุทธกาล เมืองแห่งนี้เป็นเพียงหมู่บ้านเล็กๆ ในแคว้นมคธ ที่ตั้งโดยพระเจ้าอชาตศัตรู เพื่อเป็นเมืองหน้าด่านสำหรับการเตรียมทำสงครามกับแคว้นวัชชี หลังจากพุทธกาล เมืองนี้มีความสำคัญ เพราะได้กลายเป็นเมืองหลวงของแคว้นมคธและมีพระมหากษัตริย์ดำรงตำแหน่งพระจักรพรรดิผู้ยิ่งใหญ่ที่สุดของอินเดีย คือพระเจ้าอโศกมหาราช แห่งราชวงศ์เมารยะ ผู้อุปถัมภ์พระพุทธศาสนาให้รุ่งเรือง ทรงอุปถัมภ์การทำตติยสังคายนา ณ อโศการาม โดยให้เมืองปัฏนา (หรือปาตลีบุตร ตามที่เรียกกันในสมัยนั้น) เป็นศูนย์กลางในการส่งสมณทูตออกเผยแพร่พระพุทธศาสนาไปยังดินแดนอื่นๆ ทั่วโลก ซึ่งรวมถึงสุวรรณภูมิ ปัจจุบัน เมืองแห่งนี้ยังคงเป็นเมืองหลวงและเมืองใหญ่ที่สุดของรัฐพิหาร (แคว้นมคธในสมัยโบราณ) มีพื้นที่เมืองประมาณ 25 ตารางกิโลเมตร และมีประชากรมากกว่า 1 ล้าน 8 แสนคน โดยประมาณ.

ใหม่!!: มีร์ จาฟาร์และปัฏนา · ดูเพิ่มเติม »

โกลกาตา

นนสายหนึ่งในเมืองโกลกาตา หอสมุดแห่งชาติในเมืองโกลกาตา โกลกาตา (Kolkata; কলকাতা) หรือชื่อเดิม กัลกัตตา (Calcutta) เป็นเมืองหลวงของรัฐเบงกอลตะวันตก ประเทศอินเดีย ตั้งอยู่ริมฝั่งตะวันออกของแม่น้ำฮูคลี ทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศ เมืองนี้มีจำนวนประชากร 4,580,544 คน (พ.ศ. 2544) ซึ่งหากนับรวมในเขตเมืองรอบนอกด้วยก็จะมีจำนวนมากกว่า 14 ล้านคน ทำให้เมืองนี้เป็นกลุ่มเมืองที่ใหญ่ที่สุดเป็นอันดับที่ 3 และเป็นเมืองที่ใหญ่ที่สุดเป็นอันดับที่ 4 ของประเทศ โกลกาตาเคยเป็นเมืองหลวงของอินเดียในสมัยการปกครองของอังกฤษ จึงทำให้เมืองนี้เป็นศูนย์กลางการศึกษาสมัยใหม่ วิทยาศาสตร์ วัฒนธรรม และการเมือง (จนกระทั่งในปี พ.ศ. 2454 ได้มีการย้ายเมืองหลวงไปนิวเดลี) โดยถือเป็นเมืองหนึ่งที่มีระบบระบายน้ำเก่าแก่ที่สุดในโลก ด้วยมีอายุกว่า 150 ปี อย่างไรก็ตาม โกลกาตาประสบกับภาวะชะงักงันทางเศรษฐกิจเป็นเวลานานติดต่อกันหลายปีหลังจากอินเดียได้รับเอกราชในปี พ.ศ. 2490 ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2543 เป็นต้นมา การฟื้นฟูและการกระตุ้นเศรษฐกิจก็ได้นำไปสู่ความเจริญเติบโตของเมืองอย่างเต็มที่ แต่ก็เช่นเดียวกับเมืองใหญ่แห่งอื่น ๆ ในอินเดีย โกลกาตาต้องเผชิญกับปัญหาเมืองต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นปัญหาความยากจน ปัญหามลภาวะ ปัญหาการจราจรติดขัด เป็นต้น นอกจากนี้ โกลกาตายังมีชื่อเสียงด้านประวัติศาสตร์การปฏิวัติ ตั้งแต่การเรียกร้องเอกราชของอินเดีย ไปจนถึงขบวนการฝ่ายซ้ายและสหภาพการค้าต่าง ๆ อีกด้วย เป็นไปได้ว่าชื่อโกลกาตาและ "กัลกัตตา" นั้นอาจจะมาจาก กาลิกาตา ซึ่งเป็นหนึ่งในหมู่บ้านสามแห่ง (กาลิกาตา สุตนุติ และโคพินทปุระ) ในพื้นที่แถบนี้ก่อนการเข้ามาของอังกฤษ ซึ่งสันนิษฐานว่า "กาลิกาตา" นั้นเป็นรูปในภาษาอังกฤษของคำว่า กาลีเกษตร ("ดินแดนของพระแม่กาลี") หรือมาจากคำในภาษาเบงกาลีว่า กิกิลา ("ที่ราบ") หรืออาจมีต้นกำเนิดจากคำพื้นเมืองที่ใช้เรียกชื่อคลองธรรมชาติสายหนึ่ง คือ คาล ตามด้วย กัตตา แม้ว่าในภาษาเบงกาลีซึ่งเป็นภาษาของท้องถิ่นจะเรียกชื่อเมืองนี้ว่า "โกลกาตา" มาตลอด แต่ชื่อภาษาอังกฤษของเมืองก็เพิ่งถูกเปลี่ยนจาก "กัลกัตตา" เป็น "โกลกาตา" ตามการออกเสียงในภาษาดังกล่าวเมื่อปี พ.ศ. 2544 นี้เอง บางคนมองว่านี่เป็นหนึ่งในการเคลื่อนไหวเพื่อลบล้างสิ่งที่เป็นมรดกตกทอดจากการปกครองของอังกฤษ.

ใหม่!!: มีร์ จาฟาร์และโกลกาตา · ดูเพิ่มเติม »

ขาออกขาเข้า
Hey! เราอยู่ใน Facebook ตอนนี้! »