โลโก้
ยูเนี่ยนพีเดีย
การสื่อสาร
ดาวน์โหลดได้จาก Google Play
ใหม่! ดาวน์โหลด ยูเนี่ยนพีเดีย บน Android ™ของคุณ!
ฟรี
เร็วกว่าเบราว์เซอร์!
 

พักระหว่างหนีไปอียิปต์ (คาราวัจโจ)

ดัชนี พักระหว่างหนีไปอียิปต์ (คาราวัจโจ)

การวางท่าของไวซ์ “การตัดสินของเฮอร์คิวลีส” โดยอันนิบาเล คารัคชี ในปี ค.ศ. 1596 ดูเหมือนจะมีอิทธิพลโดยตรงแก่ท่าของเทวดาของคาราวัจโจ พักระหว่างหนีไปอียิปต์ (Rest on the Flight into Egypt) เป็นภาพเขียนสีน้ำมันที่เขียนโดยคาราวัจโจจิตรกรสมัยบาโรกคนสำคัญชาวอิตาลีที่ปัจจุบันตั้งแสดงอยู่ที่หอศิลป์แปมฟิลจ์ในกรุงโรมในประเทศอิตาลี เนื้อหาของภาพมิได้มีรากฐานมาจากพระคัมภีร์ไบเบิลโดยตรงแต่เป็นเรื่องที่มาขยายความและเพิ่มเติมรายละเอียดกันขึ้นจากพระคัมภีร์ไบเบิลในสมัยต้นยุคกลางที่มีรากฐานมาจากเรื่องการเดินทางของครอบครัวพระเยซูขณะที่เสด็จหนีไปอียิปต์เพื่อลี้ภัยเมื่อได้ข่าวว่าพระเจ้าแฮรอด อันทิพาส์ทรงสั่งให้ฆ่าเด็กเกิดใหม่ในกรุงเยรุซาเล็ม ตามตำนานเมื่อแล้วโจเซฟและพระแม่มารีหยุดพักที่หมู่ไม้ระหว่างการเดินทาง พระทารกก็ทรงสั่งให้กิ่งไม้โน้มลงมาเพื่อให้โจเซฟเก็บผลได้ จากนั้นก็ทรงสั่งให้น้ำพุไหลเป็นสายออกมาเพื่อให้พระบิดา/มารดาได้ดื่มแก้กระหาย รายละเอียดของตำนานก็เพิ่มเติมกันไปต่างๆ ในชั่วเวลาหลายร้อยปีที่แพร่หลาย คาราวัจโจแสดงภาพของพระแม่มารีบรรทมหลับพระศอพับกับพระทารกในพระกร ขณะที่โจเซฟถือโน้ตเพลงให้เทวดาเล่นไวโอลิน ส่วนลาที่เป็นการบอกล่วงหน้าถึงการที่พระเยซูจจะทรงขี่เข้ากรุงเยรุซาเล็มยืนมองอยู่ข้างหลังโจเซฟ ปีที่วาดยังไม่สามารถตกลงกันได้ ถ้าว่ากันตามจุยเลียโน มันชินิ (Giulio Mancini) ผู้ร่วมสมัยแล้วภาพเขียนนี้และภาพ “แมรี แม็กดาเลนเศร้า” กับภาพนักบุญจอห์นแบ็พทิสต์ก็เขียนเมื่อคาราวัจโจพักอยู่กับฟันติโน เปตริยานิไม่นานหลังจากออกจากห้องเขียนภาพของจุยเซปเป เซซาริ ราวเดือนมกราคม..

21 ความสัมพันธ์: บารอกชีวิตของพระเยซูฟรันเชสโก มารีอา เดล มอนเตพ.ศ. 2140พระนางมารีย์พรหมจารีการหนีไปอียิปต์การาวัจโจการดลใจนักบุญมัทธิว (การาวัจโจ)มารีย์ชาวมักดาลาสำนึกผิด (การาวัจโจ)สมัยกลางอันนีบาเล การ์รัชชีจิตรกรรมสีน้ำมันจูเซปเป เซซารีคัมภีร์ไบเบิลคนโกงไพ่ (คาราวัจโจ)ประเทศอิตาลีนักบุญโยเซฟนักบุญเยโรมรำพึงธรรม (การาวัจโจ)นักดนตรี (คาราวัจโจ)โมเท็ตโรม

บารอก

“การแต่งงานของนักบุญแคทเธอรินแห่งอเล็กซานเดรีย” (The Mystic Marriage of St. Catherine) โดย อันโตนิโอ ดา คอร์เรจจิโอ บารอก (Baroque) หรือบาโรก เป็นสมัยหนึ่งของศิลปะตะวันตกซึ่งเริ่มประมาณต้นคริสต์ศตวรรษที่ 17 ที่กรุงโรม ประเทศอิตาลี บาโรกจะเน้นความเป็นนาฏกรรม ศิลปะจะแสดงความขัดแย้ง (tension) และความหรูหรา โอ่อ่า บาโรกเป็นลักษณะของ ประติมากรรม จิตรกรรม วรรณกรรม นาฏศิลป์ และดนตรี ถ้ากล่าวถึงดนตรีแบบบารอกก็จะหมายถึงสมัยสุดท้ายของเคาน์เตอร์พ็อยต์ (Counterpoint) ที่กล่างวถึงความสัมพันธ์ของการเล่นระหว่างเสียงหรือเครื่องดนตรีมากกว่าสองชนิดที่อาจจะสะท้อนกันและกัน แต่คนละระดับเสียง หรือบางครั้งก็อาจจะสลับเสียงสะท้อน หรือไม่อีกทีก็อาจจะย้อนแก่นสาร (reversing theme) ของดนตรีชิ้นนั้นไปเลย ยุคบารอกรุ่งเรืองขึ้นมาด้วยการสนับสนุนจากคริสตจักรโรมันคาทอลิก ระหว่างการประชุมสภาสังคายนาแห่งเทรนต์ เมื่อปี..

ใหม่!!: พักระหว่างหนีไปอียิปต์ (คาราวัจโจ)และบารอก · ดูเพิ่มเติม »

ชีวิตของพระเยซู

ีวิตของพระคริสต์ (Life of Christ) เป็นฉากชุดจากชีวิตบนโลกของพระเยซูที่เป็นหัวเรื่องที่ใช้ในการเขียนภาพชุดในศิลปะศาสนาคริสต์ มักจะเป็นชุดเอกลักษณ์หรือเป็นส่วนหนึ่งของภาพชุดชีวิตของพระนางพรหมจารี จำนวนฉากก็ต่างกันไปตามแต่เนื้อที่ใช้วาดภาพ ลักษณะการสร้างงานก็อาจจะเป็นจิตรกรรมฝาผนัง จิตรกรรมแผง หน้าต่างประดับกระจกสี เอกสารตัวเขียนสีวิจิตร พรมทอแขวนผนัง งานสลักหิน งานแกะงาช้างและอื่นๆ บางฉากก็เป็นภาพเขียนเดี่ยว ๆ เช่น “การตรึงพระเยซูที่กางเขน” ที่นิยมเขียนกันมาก ชุดที่นิยมเขียนกันก็ได้แก่ชุดที่เกี่ยวกับการประสูติและพระทรมานของพระเยซู ที่นำไปสู่การตรึงพระเยซูที่กางเขนและการคืนพระชนม์ แต่ภาพเขียนที่เกี่ยวกับการเทศนาก่อนที่จะถึงเหตุการณ์ในวาระสุดท้ายของพระองค์แทบจะไม่เขียนกันในยุคกลางด้วยเหตุผลหลายอย่าง.

ใหม่!!: พักระหว่างหนีไปอียิปต์ (คาราวัจโจ)และชีวิตของพระเยซู · ดูเพิ่มเติม »

ฟรันเชสโก มารีอา เดล มอนเต

ฟรันเชสโก มารีอา บอร์โบเน เดล มอนเต (Francesco Maria Borbone Del Monte; 5 กรกฎาคม ค.ศ. 1549, เวนิส - 27 สิงหาคม ค.ศ. 1627, โรม) เป็นนักบวชชาวอิตาลีที่มีตำแหน่งเป็นคาร์ดินัล เดล มอนเตเป็นนักการทูตและนักสะสมศิลปะคนสำคัญ ความสำคัญของเดล มอนเตอยู่ที่เป็นหนึ่งในผู้อุปถัมภ์การาวัจโจผู้เป็นจิตรกรยุคบาโรกคนสำคัญของอิตาลี และเป็นผู้สะสมศิลปะที่เป็นงานชิ้นสำคัญ ๆ ในยุคนั้น.

ใหม่!!: พักระหว่างหนีไปอียิปต์ (คาราวัจโจ)และฟรันเชสโก มารีอา เดล มอนเต · ดูเพิ่มเติม »

พ.ศ. 2140

ทธศักราช 2140 ใกล้เคียงกั.

ใหม่!!: พักระหว่างหนีไปอียิปต์ (คาราวัจโจ)และพ.ศ. 2140 · ดูเพิ่มเติม »

พระนางมารีย์พรหมจารี

ริสต์ศาสนิกชนโรมันคาทอลิกเรียกนางมารีย์ (มารดาพระเยซู) ว่า พระนางมารีย์พรหมจารี (the Blessed Virgin Mary) เพราะเชื่อว่าพระแม่มารีย์เป็นพรหมจารีเสมอ และพระเยซูซึ่งเชื่อว่าเป็นพระบุตรพระเป็นเจ้าก็มารับสภาพมนุษย์ผ่านทางครรภ์ของพระแม่มารีย์ จึงทำให้พระแม่มารีย์มีสถานะเป็น "พระมารดาพระเจ้า" ด้วย คริสตจักรโรมันคาทอลิกได้รับรองความเชื่อนี้มาตั้งแต่สังคายนาเอเฟซัสครั้งที่หนึ่ง ในปี..

ใหม่!!: พักระหว่างหนีไปอียิปต์ (คาราวัจโจ)และพระนางมารีย์พรหมจารี · ดูเพิ่มเติม »

การหนีไปอียิปต์

ระเยซูหนีไปอียิปต์ (Flight into Egypt) เป็นเหตุการณ์ในพระคัมภีร์ไบเบิลที่บรรยายในพระวรสารนักบุญแม็ทธิว (แม็ทธิว) เมื่อนักบุญโจเซฟหนีไปอียิปต์พร้อมกับพระแม่มารีและพระบุตรหลังจากการมาถวายของขวัญของแมไจ เมื่อได้ข่าวว่าพระเจ้าแฮรอด (Herod Antipas) มีคำสั่งให้สังหารเด็กทารกในอาณาจักร เหตุการณ์นี้เป็นหัวเรื่องที่จิตรกรนิยมวาดกันมากฉากหนึ่งและเป็นฉากสุดท้ายในภาพชุด “การประสูติของพระเยซู” และในชุด “ชีวิตของพระแม่มารี” และ “ชีวิตของพระเยซู”.

ใหม่!!: พักระหว่างหนีไปอียิปต์ (คาราวัจโจ)และการหนีไปอียิปต์ · ดูเพิ่มเติม »

การาวัจโจ

ูรายชื่องานที่ รายชื่อภาพเขียนโดยการาวัจโจ; มีเกลันเจโล เมรีซี ดา การาวัจโจ (Michelangelo Merisi da Caravaggio ค.ศ. 1571 - 18 กรกฎาคม ค.ศ. 1610) เป็นจิตรกรสมัยบาโรกคนสำค้ญของประเทศอิตาลีในคริสต์ศตวรรษที่ 17 มีความสำคัญในการเขียนภาพสีน้ำมัน ผู้มีผลงานส่วนใหญ่ที่ โรม เนเปิลส์ ซิซิลี และประเทศมอลตา ระหว่างปี..

ใหม่!!: พักระหว่างหนีไปอียิปต์ (คาราวัจโจ)และการาวัจโจ · ดูเพิ่มเติม »

การดลใจนักบุญมัทธิว (การาวัจโจ)

การดลใจนักบุญมัทธิว (The Inspiration of Saint Matthew) เป็นภาพเขียนสีน้ำมันที่เขียนโดยการาวัจโจจิตรกรสมัยบาโรกคนสำคัญชาวอิตาลีที่ตั้งอยู่ภายในชาเปลคอนทราเรลลิในโบสถ์ซันลุยจีเดย์ฟรันเชซีในกรุงโรมในประเทศอิตาลี หลังจากเสียชีวิตไปแล้วคาร์ดินัลชาวฝรั่งเศสขื่อแม็ทธิว ควงแทรล (Matthieu Cointrel) หรือ “มัตเตโอ คอนทราเรลลิ” ในภาษาอิตาลีก็ทิ้งมรดกไว้โดยระบุว่าให้ใช้ในการตกแต่งชาเปลในหัวเรื่องของชื่อของท่าน (มัตเตโอ.

ใหม่!!: พักระหว่างหนีไปอียิปต์ (คาราวัจโจ)และการดลใจนักบุญมัทธิว (การาวัจโจ) · ดูเพิ่มเติม »

มารีย์ชาวมักดาลาสำนึกผิด (การาวัจโจ)

มารีย์มักดาลาละอายใจ (Penitent Magdalene) เป็นภาพเขียนสีน้ำมันที่เขียนโดยคาราวัจโจจิตรกรสมัยบาโรกคนสำคัญชาวอิตาลีที่ปัจจุบันตั้งแสดงอยู่ที่หอศิลป์ Doria Pamphilj ในกรุงโรมในประเทศอิตาลี ภาพ “มารีย์มักดาลาละอายใจ” เขียนราวปี ค.ศ. 1597 ภาพนี้และภาพ “พักระหว่างหนีไปอียิปต์” น่าจะเขียนในช่วงเวลาเดียวกันเพราะสตรีที่เป็นแบบสำหรับมารีย์มักดาลาและพระแม่มารีเป็นคนคนเดียวกัน นางแบบกล่าวกันว่าคือสตรีในราชสำนักชื่ออันนา บิอันชินิ ในภาพนี้ไม่มีสัญลักษณ์ใดๆ ที่เป็นเครื่องแสดงว่าเป็นภาพเกี่ยวกับคริสต์ศาสนาเช่นรัศมี เป็นภาพที่เขียนจากมุมเหนือแม่แบบผู้นั่งอยู่บนม้านั่งเตี้ยๆ ในบริเวณคล้ายถ้ำที่คาราวัจโจชอบโดยมีแสงสามเหลี่ยมสูงขึ้นไปบนผนังข้างหลังแมรี แม็กดาเลน บนพื้นมีเครื่องประดับกระจัดกระจายอยู่รอบๆ ที่มีสร้อยไข่มุก กำไล และผอบ (ที่อาจจะเป็นผอบน้ำมันหอมซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของนักบุญมารีย์มักดาลา) ผมสยายราวกับเพิ่งสระ เครื่องแต่งตัวเป็นเสื้อแขนยาวสีขาว ทูนิคสีเหลืองและกระโปรงลายดอกไม้ จิโอวานนิ เปียโตร เบลโลริบรรยายภาพนี้อย่างละเอียดที่เบลโลริพบในงานสะสมของหอศิลป์ Doria Pamphilj จิโอวานนิ เปียโตร เบลโลริผู้พบภาพนี้ในงานสะสมของเจ้าชาย Pamphilj บรรยายภาพนี้อย่างละเอียดและให้ความเห็นว่าชื่อของภาพเป็นเพียงข้ออ้างว่าเป็นภาพทางศาสนา ซึ่งตามความเป็นจริงแล้วก็เป็นเพียงภาพเหมือนของสตรีสาวเท่านั้น ความครุ่นคำนึงของนักบุญมารีย์มักดาลาก็เช่นเดียวกับภาพความครุ่นคำนึงของนักบุญปีเตอร์ที่เป็นหัวข้อที่นิยมกันในสมัยการปฏิรูปศาสนาของนิกายโรมันคาทอลิกเป็นหัวเรื่องที่นิยมสร้างกันในงานศิลปะและการประพันธ์โคลงกลอนที่เห็นคุณค่าของหัวเรื่องที่เป็นหัวเรื่องที่เต็มไปด้วยการแสดงออกทางอารมณ์ที่เรียกน้ำตา มารีย์มักดาลาของคาราวัจโจสะอื้นเงียบ ๆ กับตนเองและมีหยาดน้ำตาหยดเดียวที่ไหลลงมาบนแก้ม คาราวัจโจแสดงให้เราเห็นถึงมารีย์มักดาลาที่อยู่ระหว่างชีวิตเดิมที่เต็มไปด้วยความหรูหราฟุ่มเฟือยกับชีวิตใหม่ที่เลือกในฐานะผู้ติดตามพระเยซูอย่างใกล้ชิดที่เป็นชีวิตอันสมถะ การที่สามารถสื่อความรู้สึกสะเทือนอารมณ์เช่นที่เห็นในภาพเป็นความสามารถของคาราวัจโจ แม้ว่าจะไม่มีภาพของมารีย์มักดาลาภาพใดที่สร้างในคริสต์ศตวรรษที่ 16 ที่กระตุ้นความสะเทือนอารมณ์เท่ากับงานแกะไม้ที่รุ่งริ่งของมารีย์มักดาลาของโดนาเทลโล (ราว ค.ศ. 1456-1460) จนกระทั่งภาพกึ่งเปลือย “มารีย์มักดาลา” ที่เขียนโดยทิเชียน ในคริสต์ทศวรรษ 1530 ที่สามสิบปีต่อมาในคริสต์ทศวรรษ 1560 กลายมาเป็นมารีย์มักดาลาที่สมถะลงในสมัยของคาราวั.

ใหม่!!: พักระหว่างหนีไปอียิปต์ (คาราวัจโจ)และมารีย์ชาวมักดาลาสำนึกผิด (การาวัจโจ) · ดูเพิ่มเติม »

สมัยกลาง

แบบจำลองของหมวกหุ้มเกราะซึ่งถูกพบที่ซัททันฮู ในหลุมศพของผู้นำชาวแองโกล-แซกซัน สันนิษฐานว่าเป็นกษัตริย์ราวปี ค.ศ. 620 ในช่วงต้นสมัยกลางNees ''Early Medieval Art'' pp. 109–112 สมัยกลาง หรือ ยุคกลาง (Middle Ages) คือช่วงเวลาในประวัติศาสตร์ยุโรป ตั้งแต่คริสต์ศตวรรษที่ 5 ถึงคริสต์ศตวรรษที่ 15 โดยปกติแล้วเริ่มนับตั้งแต่การล่มสลายลงของจักรวรรดิโรมันตะวันตก (การสิ้นสุดของสมัยคลาสสิก) จนถึงจุดเริ่มตั้นของสมัยฟื้นฟูศิลปวิทยา และยุคแห่งการสำรวจ ซึ่งเป็นยุคที่นำไปสู่สมัยใหม่ในเวลาต่อมา สมัยกลางคือช่วงเวลาตรงกลางของกระบวนการเปลี่ยนผ่านในประวัติศาสตร์ตะวันตกคือ สมัยคลาสสิก สมัยกลาง และสมัยใหม่ นอกจากนี้สมัยกลางยังถูกแบ่งออกเป็นสามช่วงเวลาคือ ต้นสมัยกลาง (Early Middle Ages), สมัยกลางยุครุ่งโรจน์ (High Middle Ages) และปลายสมัยกลาง (Late Middle Ages) ในยุคกลางตอนต้น การลดลงของประชากร, การหดตัวของเมือง และการรุกรานจากอนารยชน เริ่มต้นขึ้นในยุคโบราณตอนปลายและดำเนินไปอย่างรวดเร็ว เหล่าอนารยชนผู้บุกรุกเข้าตั้งอาณาจักรของตนในส่วนที่เหลืออยู่ของจักรวรรดิโรมันตะวันตก ในคริสต์ศตวรรษที่ 7 แอฟริกาเหนือและตะวันออกกลาง ซึ่งเคยเป็นส่วนหนึ่งของจักรวรรดิโรมันตะวันออก ได้กลายไปเป็นจักรวรรดิอิสลามหลังจากถูกยึดครองโดยผู้สืบทอดของนบีมุฮัมมัด แม้ว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงทางสังคมและโครงสร้างทางการเมืองมากมาย แต่ก็ไม่ได้เปลี่ยนไปจากยุคโบราณคลาสสิคอย่างสิ้นเชิง จักรวรรดิโรมันตะวันออกหรือจักรวรรดิไบแซนไทน์ยังคงอยู่รอดและรักษาอำนาจของตนเอาไว้ได้ นอกจากนี้แล้วอาณาจักรเกิดใหม่ส่วนใหญ่ยังคงเกี่ยวพันอยู่กับสถาบันที่หลงเหลืออยู่ของชาวโรมัน ในขณะที่วัดวาอารามของคริสต์ศาสนาได้แผ่ขยายไปทั่วยุโรปตะวันตก ในคริสต์ศตวรรษที่ 7 และ 8 ชาวแฟรงก์ภายใต้การปกครองของราชวงศ์การอแล็งเฌียงได้สถาปนาจักรวรรดิขึ้นซึ่งครอบคลุมพื้นที่ส่วนใหญ่ของยุโรปตะวันตกมีนามว่า จักรวรรดิการอแล็งเฌียง ซึ่งยืนยงไปจนถึงคริสต์ศตวรรษที่ 9 เมื่อจักรวรรดิล่มสลายลงจากแรงงกดดันของการรุกรานจากภายนอก เช่น ชาวไวกิงจากทางเหนือ ชาวแมกยาร์จากทางตะวันออก และชาวซาราเซนจากทางใต้ ช่วงต้นสมัยกลางซึ่งเริ่มขึ้นหลังคริสต์ศตวรรษที่ 10 ประชากรของยุโรปขยายตัวอย่างมากจากการที่นวัตกรรมทางเทคโนโลยีและทางการเกษตรทำให้การค้าขายเจริญรุ่งเรืองและการทำเรือกสวนไร่นาขยายตัว ระบบมาเนอร์ - องค์กรของชาวนาตามหมู่บ้านที่ติดค้างค่าเช่าที่ดินและหน้าที่ด้านแรงงานแก่ขุนนาง และระบบเจ้าขุนมูลนาย - โครงสร้างทางการเมืองที่ซึ่งอัศวินและขุนนางศักดิ์ต่ำกว่าติดค้างหน้าที่ด้านการทหารแก่เจ้านายผู้มีศักดิ์สูงกว่าของพวกเขาแลกกับสิทธิ์ในการเก็บค่าเช่าที่ดินและชาวนาใต้ปกครอง สองระบบนี้คือระเบียบของสังคมที่ใช้กันในยุคกลางตอนกลาง ต่อมาอาณาจักรเริ่มรวมศูนย์อำนาจมากขึ้นภายหลังการล่มสลายลงของจักรวรรดิคาโรแล็งเชียง สงครามครูเสดซึ่งเริ่มขึ้นครั้งแรกในปี..

ใหม่!!: พักระหว่างหนีไปอียิปต์ (คาราวัจโจ)และสมัยกลาง · ดูเพิ่มเติม »

อันนีบาเล การ์รัชชี

อันนิบาเล คารัคชี (ภาษาอังกฤษ: Annibale Carracci) (3 พฤศจิกายน ค.ศ. 1560 - ค.ศ. 15 กรกฎาคม ค.ศ. 1609) เป็นจิตรกรสมัยบาโรกชาวอิตาลีในคริสต์ศตวรรษที่ 16 ผู้มีความเชี่ยวชาญทางการเขียนจิตรกรรมฝาผนัง.

ใหม่!!: พักระหว่างหนีไปอียิปต์ (คาราวัจโจ)และอันนีบาเล การ์รัชชี · ดูเพิ่มเติม »

จิตรกรรมสีน้ำมัน

"โมนาลิซา" โดยเลโอนาร์โด ดา วินชี ราว ค.ศ. 1503-1506 จิตรกรรมสีน้ำมัน หรือ ภาพเขียนสีน้ำมัน (oil painting) คือการเขียนภาพโดยใช้สีฝุ่นที่ผสมกับน้ำมันแห้ง (drying oil) — โดยเฉพาะในตอนต้นของยุโรปสมัยใหม่, น้ำมันลินสีด (linseed oil) ตามปกติแล้วก็จะต้มน้ำมันเช่นลินสีดกับยางสนหรือยางสนหอม (frankincense) ส่วนผสมนี้เรียกว่า "น้ำมันเคลือบ" (varnish) ซึ่งเป็นสิ่งที่ทำให้ภาพเขียนมีความหนาและเป็นเงา น้ำมันอื่นที่ใช้ก็มีน้ำมันเม็ดฝิ่น, น้ำมันวอลนัต, และน้ำมันดอกคำฝอย น้ำมันแต่ละอย่างก็มีคุณภาพต่าง ๆ กัน เช่นอาจจะทำให้สืเหลืองน้อยลง หรือใช้เวลาแห้งไม่เท่ากัน บางครั้งก็จะเห็นความแตกต่างจากเงาของภาพเขียนแล้วแต่ชนิดของน้ำมัน จิตรกรจะใช้น้ำมันหลายชนิดในภาพเขียนเดียวกันเพื่อให้ได้ลักษณะของภาพเขียนออกมาตามที่ต้องการ การแสดงออกของสีก็จะต่างกันตามแต่วัสดุที่ใช้เขียน.

ใหม่!!: พักระหว่างหนีไปอียิปต์ (คาราวัจโจ)และจิตรกรรมสีน้ำมัน · ดูเพิ่มเติม »

จูเซปเป เซซารี

ูเซปเป เซซารี (Giuseppe Cesari) (ราว ค.ศ. 1568 - 3 กรกฎาคม ค.ศ. 1640) เป็นจิตรกรรมสมัยแมนเนอริสม์ชาวอิตาลีในคริสต์ศตวรรษที่ 16 และ 17 ผู้มีความเชี่ยวชาญทางการเขียนภาพเขียนสีน้ำมัน เซซาริเกิดเมื่อวันที่ ราว ค.ศ. 1568 ที่เมืองอาร์พิโนใน ประเทศอิตาลี และเสียชีวิตเมื่อวันที่ 3 กรกฎาคม ค.ศ. 1640 ที่กรุงโรม ชื่ออื่นที่เซซาริเป็นที่รู้จักคือ “อิล จุยเซ็ปปิโน” และ “คาวาเลียร์ดาร์ปิโน” เพราะได้รับแต่งตั้งให้เป็น “Cavaliere di Cristo” โดยสมเด็จพระสันตะปาปาคลีเมนต์ที่ 8 ผู้อุปถัม.

ใหม่!!: พักระหว่างหนีไปอียิปต์ (คาราวัจโจ)และจูเซปเป เซซารี · ดูเพิ่มเติม »

คัมภีร์ไบเบิล

ัมภีร์ไบเบิลกูเทนแบร์ก คัมภีร์ไบเบิลฉบับพิมพ์ครั้งแรก คัมภีร์ไบเบิลราชบัณฑิตยสถาน, พจนานุกรมศัพท์ศาสนาสากล อังกฤษ-ไทย ฉบับราชบัณฑิตยสถาน, พิมพ์ครั้งที่ 3, กรุงเทพฯ: ราชบัณฑิตยสถาน, 2552, หน้า 99 (Bible; ביבליה; ܟܬܒܐ ܩܕܝܫܐ; Αγία Γραφή) (มาจากภาษากรีกโบราณว่า Βίβλος บิบลิออน แปลว่า หนังสือ) ชาวโปรเตสแตนต์เรียกว่า พระคริสตธรรมคัมภีร์ (Holy Bible) เรียกโดยย่อว่า พระคัมภีร์ เป็นหนังสือที่บันทึกเรื่องราวเกี่ยวกับพระยาห์เวห์ มนุษย์ ความบาป และแผนการของพระเจ้าในการช่วยมนุษย์ให้รอดพ้นจากความพินาศอันเนื่องจากความบาปสู่ชีวิตนิรันดร์ เป็นหนังสือที่บันทึกหลักธรรมคำสอนของศาสนาคริสต์ ซึ่งในบางเล่มมีพื้นฐานมาจากหลักคำสอนของศาสนายูดาห์ของชาวยิว ชาวคริสต์เรียกคัมภีร์ไบเบิลในชื่ออื่น ๆ อีกหลายชื่อเช่น พระวจนะของพระเจ้า (Word of God) หนังสือดี (Good Book) และคัมภีร์ศักดิ์สิทธิ์ (Holy Scripture) คริสตชนทุกคนเชื่อว่าพระคัมภีร์ทุกบททุกข้อนั้นมนุษย์เขียนขึ้นโดยการดลใจจากพระเจ้า ประกอบด้วยหนังสือจำนวน 66 หรือ 73 หรือ 78 เล่ม (แล้วแต่นิกาย) ประกอบด้วยภาคพันธสัญญาเดิมและพันธสัญญาใหม่ พันธสัญญาเดิมถูกเขียนขึ้นก่อนที่พระเยซูคริสต์ประสูติ ทั้งหมดเขียนเป็นภาษาฮีบรู ยกเว้นส่วนที่เป็นคัมภีร์อธิกธรรม (ยอมรับเฉพาะชาวคาทอลิก) ถูกเขียนด้วยภาษากรีกและภาษาอียิปต์ ส่วนพันธสัญญาใหม่ถูกเขียนขึ้นหลังจากพระเยซูเสด็จขึ้นสู่สวรรค์แล้ว โดยบันทึกถึงเรื่องราวของพระเยซูตลอดพระชนม์ชีพ รวมทั้งคำสอน และการประกาศข่าวดีแห่งความรอด การยอมรับการทรมาน และการไถ่บาปของมนุษย์โดยพระเยซู การกลับคืนชีพอย่างรุ่งโรจน์ การส่งพระวิญญาณบริสุทธิ์มายังอัครทูต ประวัติศาสตร์ของคริสตจักรในยุคแรกเริ่ม ภายหลังการกลับคืนพระชนม์ชีพของพระเยซูแล้ว การเบียดเบียนคริสตจักรในรูปแบบต่าง ๆ พระคัมภีร์เป็นที่ยอมรับอย่างกว้างขวางว่าเป็นหนังสือที่ขายดีที่สุดของเวลาทั้งหมดที่มียอดขายต่อปีประมาณ 100 ล้านเล่มและได้รับอิทธิพลสำคัญในวรรณคดีและประวัติศาสตร.

ใหม่!!: พักระหว่างหนีไปอียิปต์ (คาราวัจโจ)และคัมภีร์ไบเบิล · ดูเพิ่มเติม »

คนโกงไพ่ (คาราวัจโจ)

นโกงไพ่ (ภาษาอังกฤษ: Cardsharps) เป็นภาพเขียนสีน้ำมันที่เขียนโดยคาราวัจโจจิตรกรสมัยบาโรกคนสำคัญชาวอิตาลีที่ปัจจุบันตั้งแสดงอยู่ที่พิพิธภัณฑ์ศิลปะคิมเบลล์, ฟอร์ทเวิร์ธในสหรัฐอเมริกา ภาพ “คนโกงไพ่” เขียนราวปี ค.ศ. 1594 เป็นภาพที่เป็นก้าวสำคัญของคาราวัจโจที่เขียนเมื่อพยายามตั้งตัวไปเป็นช่างเขียนอิสระหลังจากที่ทำงานอยู่กับจุยเซ็ปปิ เซซาริที่ได้เขียนแต่ “ผักกับผลไม้” อยู่ระยะหนึ่ง คาราวัจโจออกจากห้องเขียนภาพของจุยเซ็ปปิ เซซาริในเดือนมกราคม ค.ศ. 1594 และเริ่มขายงานเขียนผ่านนักค้าศิลปะคอนแสตนติโนโดยมีโพรสเปโร ออร์ซิจิตรกรแมนเนอริสม์เป็นผู้ช่วย ออร์ซิแนะนำคาราวัจโจในแวดวงคนที่รู้จักทั้งผู้สะสมศิลปะและผู้อุปถัมภ์ ภาพเขียนแสดงเด็กหนุ่มที่แต่งตัวอย่างหรูหราแต่เป็นเพียงเด็กหนุ่มที่ยังไม่ประสีประสากับโลกที่กำลังเล่นไพ่กับเด็กชายอีกคนหนึ่ง เด็กคนที่สองคนที่โกงไพ่มีไพ่อีกใบหนึ่งเหน็บไว้ที่เข็มขัดข้างหลังเอว ซ่อนจากเด็กชายอีกคนหนึ่งแต่ไม่ได้ซ่อนจากผู้ชมภาพ และชายหนุ่มใหญ่ที่แอบมองจากหลังผู้ที่โดนโกงและส่งสัญญาณให้คู่ร่วมมือ นอกจากนั้นเด็กคนที่สองก็ยังมีมีดเหน็บอยู่ที่เอวสำหรับใช้ในโอกาสที่สถานะการณ์อาจจะเปลี่ยนแปลง ภาพนี้เป็นภาพที่สองในหัวข้อที่คล้ายคลึงกันที่คาราวัจโจเขียน ภาพแรก “หมอดู” เป็นภาพที่ทำให้เริ่มมีผู้สนใจและเริ่มเป็นที่รู้จัก ทั้ง “หมอดู” และ “การโกงไพ่” เป็นหัวข้อการเขียนภาพที่ใหม่ในขณะนั้น ที่ใช้ฉากความเป็นจริงของชีวิตตามถนนในการเขียนภาพ โดยเฉพาะการเขียนรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ เช่นปลายนิ้วถุงมือที่เป็นรูของชายที่มีอายุมากกว่า หรือสายตาของเด็กคนที่สองที่มองไปยังหนุ่มใหญ่อย่างพะวักพะวน รายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ เช่นนี้ที่เป็นการแสดงความเข้าใจอย่างลึกซึ้งทางจิตวิทยา - บุคคลสามคนที่อยู่ในเหตุการณ์เดียวกันแต่แต่ละคนต่างก็มีบทบาทของตนเองภาพในเหตุการณ์ที่ร่วมกัน - เด็กหนุ่มที่ยังไม่มีประสบการณ์ที่ถูกหลอก, เด็กอีกคนหนึ่งที่อายุไล่ๆ กันที่เป็นเด็กที่ถูกทำให้เสียคนโดยหนุ่มใหญ่ “คนโกงไพ่กับเอโพดำ” โดยชอร์ช เดอ ลา ตูร์ ราว ค.ศ. 1620-ค.ศ. 1640 “คนโกงไพ่” เป็นภาพที่วาดแบบที่แสดงความเป็นจริงของความทารุณของชีวิตคนชั้นต่ำ แต่ขณะเดียวกันก็ใช้สีเรืองอย่างการวาดภาพของเวนิส “คนโกงไพ่” กลายมาเป็นภาพที่เป็นที่นิยมกันมาก ออร์ซิถึงกับ “ไปเที่ยวเป่าประกาศถึงการวาดแบบใหม่ของคาราวัจโจและทำให้เพิ่มชื่อเสียงในการเป็นจิตรกรมากขึ้น” ภาพนี้มีด้วยกันถึง 50 ก็อปปีและจากจิตรกรคนอื่นๆ เช่นภาพ “คนโกงไพ่กับเอโพดำ” โดยชอร์ช เดอ ลา ตูร์ที่ใช้หัวข้อเดียวกัน ไม่ว่าจะโดยคอนแสตนติโนหรือออร์ซิ คาราวัจโจก็ได้รับความสนใจจากคาร์ดินัลฟรานเชสโค มาเรีย เดล มอนเตผู้ซื้อภาพและกลายมาเป็นผู้อุปถัมภ์คนสำคัญคนแรก โดยให้ที่พำนักในวังมาดามาหลังจตุรัสนาวาร์โร จากนั้นภาพก็ตกไปเป็นของคาร์ดินัลอันโตนิโอ บาร์แบรินิผู้เป็นหลานของสมเด็จพระสันตะปาปาเออร์บันที่ 8 ที่ต่อมาคาราวัจโจเขียนภาพเหมือนให้(“ภาพเหมือนของมาฟเฟโอ บาร์เบอรินิ”) ในปี..

ใหม่!!: พักระหว่างหนีไปอียิปต์ (คาราวัจโจ)และคนโกงไพ่ (คาราวัจโจ) · ดูเพิ่มเติม »

ประเทศอิตาลี

อิตาลี (Italy; Italia อิตาเลีย) มีชื่ออย่างเป็นทางการคือ สาธารณรัฐอิตาลี (Italian Republic; Repubblica italiana) เป็นประเทศในทวีปยุโรป บริเวณยุโรปใต้ ตั้งอยู่ในคาบสมุทรอิตาลีที่มีรูปทรงคล้ายรองเท้าบูต และมีเกาะ 2 เกาะใหญ่ในทะเลเมดิเตอร์เรเนียน คือ เกาะซิซิลีและเกาะซาร์ดิเนีย และพรมแดนตอนเหนือแบ่งประเทศโดยเทือกเขาแอลป์ กับประเทศฝรั่งเศส สวิตเซอร์แลนด์ ออสเตรีย และสโลวีเนีย ประเทศอิตาลีเป็นประเทศสมาชิกก่อตั้งของสหภาพยุโรป เป็นสมาชิกองค์การสหประชาชาติ นาโต และกลุ่มจี 8 มีประเทศอิสระ 2 ประเทศ คือ ซานมารีโนและนครรัฐวาติกัน เป็นดินแดนที่ล้อมรอบไปด้วยพื้นที่ของอิตาลี ในขณะที่เมืองกัมปีโอเนดีตาเลีย เป็นดินแดนส่วนแยกของอิตาลีที่ถูกล้อมรอบด้วยพื้นที่ประเทศสวิตเซอร์แลน.

ใหม่!!: พักระหว่างหนีไปอียิปต์ (คาราวัจโจ)และประเทศอิตาลี · ดูเพิ่มเติม »

นักบุญโยเซฟ

ซฟ (יוֹסֵף Yosef) ชาวคาทอลิกเรียกว่านักบุญยอแซฟ เป็นนักบุญในศาสนาคริสต์ เกิดเมื่อประมาณคริสต์ศตวรรษที่ 1 และเสียชีวิตในคริสต์ศตวรรษเดียวกัน ที่เมืองนาซาเร็ธในประเทศอิสราเอลปัจจุบัน นักบุญโยเซฟสืบสายมาจากตระกูลกษัตริย์ดาวิด คัมภีร์พันธสัญญาใหม่ระบุว่าเป็นสามีของนางมารีย์ (มารดาพระเยซู) นักบุญโยเซฟมิใช่บิดาตามเชึ้อสายของพระเยซูแต่ก็ถือกันว่าเป็นบิดาบุญธรรมและเป็นหัวหน้าของ “ครอบครัวศักดิ์สิทธิ์” หรือ “ครอบครัวพระเยซู” (Holy Family) เชี้อสายตามหลักฐานของพระวรสารนักบุญมัทธิว กล่าวว่าพ่อของนักบุญโยเซฟชื่อยาโคบ แต่ตามหลักฐานของพระวรสารนักบุญลูกา กล่าวว่าพ่อของนักบุญโยเซฟชื่อเฮลี พระวรสารในสารบบไม่ได้ระบุวันและสถานที่เกิดและตายของโยเซฟ เท่าที่ทราบโยเซฟอยู่ที่เมืองนาซาเรธ ใน กาลิลี อยู่ที่เบธเลเฮม ในแคว้นยูเดียเป็นเวลาอีกสองปี และถูกบังคับให้ไปลี้ภัยไปอยู่อียิปต์อีกระยะหนึ่ง แม้ว่า “พระวรสารสหทรรศน์” จะไม่ได้กล่าวถึงอายุของโยเซฟแต่จากเอกสารอื่น ๆ โยเซฟเป็นพ่อหม้ายลูกติดเมื่อแต่งงานกับมารีย์ และมารีย์เป็นหม้ายเมื่อพระเยซูออกเทศนาและเมื่อพระเยซูทรงรับพระทรมาน ฉะนั้นจึงสันนิษฐานว่าโยเซฟเสียชีวิตก่อนที่พระเยซูสิ้นพระชนม์ อาชีพของโยเซฟตามที่บรรยายในพระวรสารว่าเป็น τεκτων, ภาษากรีกหมายถึงช่างแต่ในศาสนาคริสต์ถือกันว่าโยเซฟเป็นผู้ทำงานกับไม้หรือช่างไม้ แต่ในภาษาอังกฤษปัจจุบันใช้คำว่า “joiner” หรือ “cabinet-maker” หรือช่างทำเฟอร์นิเจอร์ซึ่งเหมาะกับความหมายในภาษากรีกมากกว่า นอกจากนั้นแล้วพระวรสารก็มิได้กล่าวถึงโยเซฟ และไม่มีบทพูด มิได้บอกสถานที่เกิดและสถานที่เสียชีวิต และเวลาต่างที่เกี่ยวกับโยเซฟก็แตกต่างกัน บางครั้งก็จะกล่าวว่าอายุมากกว่ามารีมาก และบางครั้งก็เพียงไม่กี่ปี บางวรสารกล่าวว่าโยเซฟเป็นพ่อหม้ายลูกติดเมื่อแต่งงานกับมารีย์ ในพระวรสารกล่าวถึงโยเซฟเมื่อพระเยซูไปเยรูซาเลมเมื่ออายุสิบสองปี แต่ไม่มีอะไรที่กล่าวถึงโยเซฟหลังจากนั้น เอกสารเกี่ยวกับเวลาเสียชีวิตไม่ชัดเจนแต่เมื่อพระเยซูออกเทศนามารีย์ก็เป็นหม้ายแล้ว ในนิกายโรมันคาทอลิกถือว่านักบุญโยเซฟเป็นนักบุญองค์อุปถัมภ์กรรกรและมีวันสมโภชหลายวัน และในปี..

ใหม่!!: พักระหว่างหนีไปอียิปต์ (คาราวัจโจ)และนักบุญโยเซฟ · ดูเพิ่มเติม »

นักบุญเยโรมรำพึงธรรม (การาวัจโจ)

นักบุญเจอโรมภาวนา (Saint Jerome in Meditation) เป็นภาพเขียนสีน้ำมันที่เขียนโดยคาราวัจโจจิตรกรสมัยบาโรกคนสำคัญชาวอิตาลีที่ปัจจุบันตั้งแสดงอยู่ที่พิพิธภัณฑ์สำนักสงฆ์ซานตามาเรีย, มอนเซอร์รัตในประเทศอิตาลี ภาพ “นักบุญเจอโรมภาวนา” เขียนราว ค.ศ. 1605 นักบุญเจอโรมผู้ปฏิบัติตัวเป็นฤๅษีเป็นหนึ่งในคริสต์ศาสนปราชญ์และเป็นผู้รับผิดชอบในการแปลพระคัมภีร์ไบเบิลมาเป็นภาษาละติน (คัมภีร์ไบเบิลภาษาละติน (Vulgate)) และเป็นนักบุญที่นิยมกันในสมัยของคาราวัจโจ และคาราวัจโจเองก็เขียนภาพนักบุญเจอโรมถึงแปดภาพแต่เหลืออยู่เพียงสามภาพ แต่สาเหตุที่วาดไม่เป็นที่ทราบว่าเป็นการเลือกหัวข้อเองหรือผู้อุปถัมภ์เป็นผู้เลือก แต่เป็นหัวข้อการวาดที่ทำให้คาราวัจโจได้เรียนรู้ถึงการวาดภาพผู้มีอายุ - ของผิวหนังที่ผ่านจากวัยหนุ่มไปเป็นผิวหนังที่เหี่ยวย่น ในภาพนี้นักบุญเจอโรมพิเคราะห์หัวกะโหลกซึ่งเป็นสัญลักษณ์อย่างหนึ่งของท่าน ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของความตายที่จะมาถึงอย่างเลี่ยงไม่ได้ และความไร้สาระของวัตถุทางโลก ภาพเขียนอาจจะมาจากงานสะสมของวินเชนโซ จุสตินิอานินายธนาคารผู้อุปถัมภ์ของคาราวัจโจและพี่คาร์ดินัลเบเนเดตโต เบเนเดตโตสะสมงานหลายชิ้นของคาราวัจโจที่รวมทั้งภาพนักบุญเจอโรมที่มีขนาดเดียวกับภาพนี้ที่อยู่ในรายชื่องานสะสมของจุสตินิอานิในปี..

ใหม่!!: พักระหว่างหนีไปอียิปต์ (คาราวัจโจ)และนักบุญเยโรมรำพึงธรรม (การาวัจโจ) · ดูเพิ่มเติม »

นักดนตรี (คาราวัจโจ)

นักดนตรี (The Musicians) เป็นภาพเขียนสีน้ำมันที่เขียนโดยคาราวัจโจจิตรกรสมัยบาโรกคนสำคัญชาวอิตาลีที่ปัจจุบันตั้งแสดงอยู่ที่พิพิธภัณฑ์เมโทรโปลิตัน, นครนิวยอร์กในสหรัฐอเมริกา ภาพ “นักดนตรี” เขียนราวเสร็จในปี ค.ศ. 1595 ราว..

ใหม่!!: พักระหว่างหนีไปอียิปต์ (คาราวัจโจ)และนักดนตรี (คาราวัจโจ) · ดูเพิ่มเติม »

โมเท็ต

ในเพลงคลาสสิก โมเท็ต (motet) เป็นถ้อยคำที่ปรับเข้ากับท่วงทำนองสำหรับร้องประสานเสียง หมวดหมู่:อภิธานศัพท์ดนตรี.

ใหม่!!: พักระหว่างหนีไปอียิปต์ (คาราวัจโจ)และโมเท็ต · ดูเพิ่มเติม »

โรม

ลอสเซียม สัญลักษณ์ที่สำคัญของโรม โรม (Rome; Roma) เป็นเมืองหลวงและเมืองที่ใหญ่ที่สุดของแคว้นลัตซีโยและประเทศอิตาลี ตั้งอยู่ทางตอนกลางของประเทศ ในเขตตัวเมืองมีประชากรอาศัยอยู่ประมาณ 2.5 ล้านคน ถ้ารวมเมืองโดยรอบจะมีประมาณ 4.3 ล้านคน โดยมีจำนวนประชากรใกล้เคียงกับมิลานและเนเปิลส์ นอกจากนี้ โรมยังเป็นที่ตั้งของนครรัฐวาติกัน ซึ่งเป็นดินแดนที่ประทับของพระสันตะปาปาแห่งศาสนาคริสต์นิกายโรมันคาทอลิกอีกด้วย หลังสิ้นสุดยุคกลาง โรมได้อยู่ภายใต้การปกครองของพระสันตะปาปา เช่น สมเด็จพระสันตะปาปาอเล็กซานเดอร์ที่ 6 และสมเด็จพระสันตะปาปาลีโอที่ 10 ผู้ซึ่งสร้างสรรค์ให้โรมกลายเป็นหนึ่งในศูนย์กลางของสมัยฟื้นฟูศิลปวิทยาในอิตาลีเช่นเดียวกับฟลอเรนซ์ ซึ่งในยุคสมัยดังกล่าว ได้มีการก่อสร้างมหาวิหารเซนต์ปีเตอร์แบบที่เห็นในปัจจุบัน และมีเกลันเจโลได้วาดภาพปูนเปียกประดับภายในโบสถ์น้อยซิสทีน ศิลปินและสถาปนิกที่มีชื่อเสียงอย่างบรามันเต แบร์นินี และราฟาเอล ซึ่งพำนักอยู่ในโรมเป็นครั้งคราว ได้มีส่วนช่วยสรางสรรค์สถาปัตยกรรมแบบสมัยฟื้นฟูศิลปวิทยาและแบบบารอกในโรมด้วยเช่นกัน ใน พ.ศ. 2550 โรมเป็นเมืองที่มีผู้มาเยือนมากเป็นอันดับที่ 11 ของโลก มากเป็นอันดับสามในสหภาพยุโรป และเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่เป็นที่นิยมมากที่สุดในอิตาลี ศูนย์กลางทางประวัติศาสตร์ใจกลางเมืองได้รับการขึ้นทะเบียนจากองค์การยูเนสโกให้เป็นมรดกโลก นอกจากนี้ อนุสรณ์สถานและพิพิธภัณฑ์อย่างพิพิธภัณฑ์วาติกันและโคลอสเซียมยังจัดอยู่ในแหล่งท่องเที่ยวที่มีนักท่องเที่ยวเยี่ยมชมมากที่สุด 50 อันดับแรกของโลก (พิพิธภัณฑ์วาติกันมีนักท่องเที่ยว 4.2 ล้านคนต่อปี และโคลอสเซียมมี 4 ล้านคนต่อปี).

ใหม่!!: พักระหว่างหนีไปอียิปต์ (คาราวัจโจ)และโรม · ดูเพิ่มเติม »

เปลี่ยนเส้นทางที่นี่:

Rest on the Flight into Egyptพักระหว่างหนีไปอียิปต์ (การาวัจโจ)พักระหว่างหนีไปอียิปต์ (คาราวัจจิโอ)

ขาออกขาเข้า
Hey! เราอยู่ใน Facebook ตอนนี้! »