โลโก้
ยูเนี่ยนพีเดีย
การสื่อสาร
ดาวน์โหลดได้จาก Google Play
ใหม่! ดาวน์โหลด ยูเนี่ยนพีเดีย บน Android ™ของคุณ!
ฟรี
เร็วกว่าเบราว์เซอร์!
 

กอนดอร์

ดัชนี กอนดอร์

กษาขาว ดาวเจ็ดดวง และมงกุฎปีก กอนดอร์ (Gondor) คือชื่ออาณาจักรมนุษย์แห่งหนึ่งบนทวีปมิดเดิลเอิร์ธ ในจินตนิยายของ เจ. อาร์. อาร์. โทลคีน ปรากฏในนวนิยายแฟนตาซีเรื่อง เดอะลอร์ดออฟเดอะริงส์ ก่อตั้งโดย อิซิลดูร์ และ อนาริออน โอรสของ เอเลนดิล เมื่อปีที่ 3320 ของยุคที่สองเจ. อาร์. อาร์. โทลคีน.

30 ความสัมพันธ์: ภาษาซินดารินภาษาเควนยาภูเขาในมิดเดิลเอิร์ธมอร์ดอร์มิดเดิลเอิร์ธมินัสมอร์กูลมินัสทิริธมนุษย์ (มิดเดิลเอิร์ธ)ยุคที่สองแห่งอาร์ดายุคที่สามแห่งอาร์ดารูห์นลอร์ดออฟเดอะริงส์ ตอน กษัตริย์คืนบัลลังก์ออสกิเลียธอาร์นอร์อิซิลดูร์อนาริออนดูเนไดน์คิริธอุงโกลซารูมานประวัติศาสตร์มิดเดิลเอิร์ธนวนิยายแฟนตาซีนูเมนอร์แม่น้ำในมิดเดิลเอิร์ธโรฮันไอเซนการ์ดเมิร์ควู้ดเอเรียดอร์เอเลนดิลเจ. อาร์. อาร์. โทลคีนเดอะลอร์ดออฟเดอะริงส์

ภาษาซินดาริน

ษาซินดาริน (Sindarin) เป็นภาษาที่ เจ. อาร์. อาร์. โทลคีน ประดิษฐ์ขึ้นใช้ในนวนิยายของเขาในชุดมิดเดิลเอิร์ธ แรงบันดาลใจของการสร้างภาษานี้มาจากพื้นฐานของภาษาเวลช์ (Welsh) ซึ่งโทลคีนพบในการศึกษาโคลงโบราณ เขาได้ใช้เวลาประดิษฐ์ภาษานี้จนสมบูรณ์ใช้งานได้จริง เทียบเคียงกับภาษาเควนยา เดิมทีโทลคีนตั้งใจประดิษฐ์ภาษานี้ขึ้นเป็นภาษาของชาวโนลดอร์ แต่เปลี่ยนใจภายหลัง ภาษาซินดาริน ตามฉบับนิยาย เป็นภาษาของพวกเอลฟ์ ชาวเทเลริ ที่มิได้เข้าร่วมการเดินทางครั้งใหญ่ไปได้ตลอดรอดฝั่ง แต่ยังคงตกค้างอยู่บนมิดเดิลเอิร์ธ และตั้งถิ่นฐานขึ้นในแผ่นดินเบเลริอันด์ ภายใต้การปกครองของกษัตริย์ธิงโกล และ เมลิอัน ไมอาเทวี ในอาณาจักรโดริอัธ เอลฟ์กลุ่มนี้เรียกตัวเองว่า ชาวซินดาร์ หรือเอลฟ์แห่งสนธยา ภาษาของพวกเขาจึงเรียกว่า ภาษาซินดาริน ภาษาซินดารินมีกำเนิดมาจากคอมมอนเอลดาริน หรือภาษาดั้งเดิมของพวกเควนดิ จึงมีรากเดียวกันกับภาษาเควนยา ในยุคที่สาม ของโลกอาร์ดา คือเหตุการณ์ในเรื่องเดอะลอร์ดออฟเดอะริงส์นั้น ภาษาซินดารินเป็นภาษาที่พวกเอลฟ์ใช้กันแพร่หลายทั่วไป ดังนั้นภาษาเอลฟ์ที่ปรากฏในเนื้อเรื่อง ไม่ว่าจะเป็นชื่อคน ชื่อสถานที่ต่างๆ รวมทั้งอักขระที่จารึกบนประตูทางเข้าเหมืองมอเรีย ก็ล้วนเป็นภาษาซินดารินทั้งสิ้น.

ใหม่!!: กอนดอร์และภาษาซินดาริน · ดูเพิ่มเติม »

ภาษาเควนยา

ษาเควนยา (Quenya) เป็นภาษาหนึ่งซึ่ง เจ. อาร์. อาร์. โทลคีน ประดิษฐ์ขึ้น และใช้ในนวนิยายของเขา คือในโลกมิดเดิลเอิร์ธ โดยเป็นภาษาของเอลฟ์ หรือชาวเควนดิ ซึ่งเป็นบุตรของมหาเทพอิลูวาทาร์ ภาษาเควนยานับได้ว่าเป็นภาษาแรกๆ ที่โทลคีนประดิษฐ์ขึ้นตั้งแต่ยังเป็นนักศึกษา โดยได้รับแรงบันดาลใจมาจากภาษาฟินแลนด์ ซึ่งเป็นภาษาที่โทลคีนชอบมาก เขาศึกษาภาษาฟินนิชด้วยตัวเองเพราะต้องการจะอ่านมหากาพย์ คาเลวาลา ในต้นฉบับฟินนิช อันเป็นแรงบันดาลใจในการสร้าง "โลกอาร์ดา" ของเขาในเวลาต่อมา โทลคีนสร้างตัวอักษรสำหรับภาษาเควนยา สร้างไวยากรณ์สำหรับภาษาเควนยา หลังจากสิ้นสุดสงครามโลกครั้งที่หนึ่ง และโทลคีนได้กลับมาทำงานที่อ๊อกซฟอร์ดอีกครั้ง เขาได้ปรับปรุงแก้ไขภาษาเควนยาอย่างจริงจัง โดยใช้ภาษานี้ในการเขียนบันทึกประจำวัน แต่เนื่องจากโครงสร้างภาษายังไม่แน่นอน มีการเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา ภายหลังโทลคีนเองก็สับสนและเลิกเขียนบันทึกด้วยวิธีนี้ เพราะลืมไปแล้วว่าขณะที่เขียนบันทึก เขาใช้โครงสร้างไวยากรณ์แบบไหน ช่วงแรกโทลคีนเรียกภาษานี้ว่า Qenya การสร้างภาษาเควนยา เป็นจุดเริ่มต้นที่สำคัญจุดหนึ่ง (แม้จะมีปัจจัยอื่นๆ ประกอบอีก) ที่ทำให้โทลคีนบังเกิดความคิดให้มีผู้คนที่ใช้ภาษานี้ขึ้นมาจริงๆ อันเป็นที่มาของเหล่าเอลฟ์ ในเรื่อง ซิลมาริลลิออน ตลอดช่วงชีวิตของโทลคีน เขาได้แก้ไขปรับปรุงโครงสร้างภาษานี้ จนกระทั่งมันสามารถใช้งานได้จริง สมบูรณ์ยิ่งกว่าภาษาประดิษฐ์อื่นๆ ของโทลคีน.

ใหม่!!: กอนดอร์และภาษาเควนยา · ดูเพิ่มเติม »

ภูเขาในมิดเดิลเอิร์ธ

ในปกรณัมชุด เดอะลอร์ดออฟเดอะริงส์ ของ เจ. อาร์. อาร์. โทลคีน ทั้งทวีปมิดเดิลเอิร์ธ และทวีปอามัน ตลอดจนถึงดินแดนอื่นๆ ทั่วพิภพอาร์ดา มีเทือกเขาใหญ่น้อยมากมาย ต่อไปนี้เป็นรายชื่อภูเขาหรือเทือกเขาที่สำคัญ.

ใหม่!!: กอนดอร์และภูเขาในมิดเดิลเอิร์ธ · ดูเพิ่มเติม »

มอร์ดอร์

มอร์ดอร์ จากภาพยนตร์ไตรภาค ลอร์ดออฟเดอะริงส์ มอร์ดอร์ (Mordor) เป็นชื่อดินแดนแห่งหนึ่งในจินตนิยายชุด เดอะลอร์ดออฟเดอะริงส์ ของ เจ. อาร์. อาร์. โทลคีน ซึ่งเป็นที่ตั้งอาณาจักรอันชั่วร้ายของ เซารอน คำว่า มอร์ดอร์ เป็นภาษาซินดาริน มีความหมายว่า 'แผ่นดินแห่งความมืด' มอร์ดอร์ตั้งอยู่ทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ของมิดเดิลเอิร์ธ ในกำบังของเทือกเขาเอเฟลดูอัธ และเอเร็ดลิธุย ข้างตะวันออกของแม่น้ำอันดูอิน จึงตั้งประชิดอยู่ทางตะวันออกของอาณาจักรกอนดอร์ ภายในมอร์ดอร์เป็นที่ตั้งของ บารัดดูร์ หอคอยทมิฬ ซึ่งเป็นที่อยู่ของเซารอน นอกจากนี้ยังมีเมาท์ดูม หรือ โอโรดรูอิน หรือภูมรณะ ซึ่งเป็นภูเขาไฟที่เปิดสู่แหล่งลาวาใต้พิภพ เป็นที่ที่มีอัคคีความร้อนสูงที่สุดบนมิดเดิลเอิร์ธ เป็นสถานที่เพียงแห่งเดียวที่สามารถหลอมสร้างแหวนเอกธำมรงค์ และเป็นที่เดียวที่ทำลายมันลงได้ เมาท์ดูมคือจุดหมายในการเดินทางของโฟรโด แบ๊กกิ้นส์ และ แซมไวส์ แกมจี ในภารกิจทำลายแหวนเอกในเรื่อง เดอะลอร์ดออฟเดอะริงส์ การเข้าสู่มอร์ดอร์ สามารถเข้าได้จากทางทิศเหนือ ผ่านประตูดำแห่งมอร์ดอร์ ชื่อว่า 'โมรันนอน' ซึ่งตั้งอยู่ที่ช่องแคบเชิงเขาระหว่างเอเฟลดูอัธกับเอเร็ดลิธุย อีกทางหนึ่งคือผ่านช่องเขาบนเอเร็ดลิธุย ซึ่งมีเมืองปราการแห่งหนึ่งตั้งอยู่ ชื่อ มินัสมอร์กูล เมืองนี้แต่เดิมเป็นเมืองของชาวกอนดอร์ ซึ่งสร้างขึ้นสำหรับคอยเฝ้าระวังการเคลื่อนไหวของเซารอน ต่อภายหลังถูกพวกภูตแหวนยึดไปได้ และกลายเป็นที่อยู่ของวิชคิง หรือราชันขมังเวท ด้านหน้าประตูดำเป็นทุ่งราบกว้างใหญ่ ชื่อทุ่งดาร์กอลัด หรือ ทุ่งสมรภูมิ เป็นสถานที่ซึ่งเกิดสงครามครั้งยิ่งใหญ่ในช่วงปลายยุคที่สอง คือ สงครามแห่งพันธมิตรครั้งสุดท้าย เป็นที่สิ้นพระชนม์ของกิล-กาลัด และ เอเลนดิล ในยุคที่สามทุ่งกว้างใหญ่แห่งนี้กลายเป็นบึงน้ำเฉอะแฉะ เรียกกันว่า 'บึงมรณะ' ข้างใต้บึงเป็นหลุมศพของเอลฟ์และมนุษย์ที่เสียชีวิตในสงครามแห่งพันธมิตรครั้งสุดท้.

ใหม่!!: กอนดอร์และมอร์ดอร์ · ดูเพิ่มเติม »

มิดเดิลเอิร์ธ

แผนที่มิดเดิลเอิร์ธในช่วงยุคที่หนึ่ง แสดงแผ่นดินเบเลริอันด์ ซึ่งเป็นสถานที่เกิดเหตุการณ์ต่างๆ ที่บันทึกในซิลมาริลลิออน ทางด้านขวามือสุดของแผนที่เป็นที่ตั้งของ 'เทือกเขาสีน้ำเงิน' แผนที่มิดเดิลเอิร์ธในช่วงปลายของยุคที่สาม ซึ่งปรากฏอยู่ในหนังสือ ลอร์ดออฟเดอะริงส์ สังเกตจะเห็น 'เทือกเขาสีน้ำเงิน' อยู่ทางด้านซ้ายมือสุดของแผนที่ มิดเดิ้ลเอิร์ธ (Middle-earth) หรือ มัชฌิมโลก หมายถึงสถานที่ในนิยายของ เจ. อาร์. อาร์. โทลคีน อันเป็นฉากหลังของเรื่องราวตำนานทั้งหลายในงานเขียนของโทลคีน ปกรณัมของโทลคีนมีเนื้อหาเกี่ยวกับการเข้าควบคุมและครอบครองโลก (ในตำนานเรียกว่า "อาร์ดา") ซึ่งมีทวีปหลักชื่อว่า "มิดเดิลเอิร์ธ" เป็นที่อยู่อาศัยของพวก 'มรรตัยชน' (คือมนุษย์ที่รู้ตาย) เป็นสถานที่ตรงข้ามกับ "อามัน" หรือ 'แดนอมตะ' อันเป็นถิ่นที่อยู่ของพวกวาลาร์ กับพวกเอลฟ์ คำนี้มีรากมาจากคำภาษาอังกฤษกลางว่า middel-erde ซึ่งพัฒนามาจากคำในภาษาอังกฤษเก่าว่า middangeard แก่นสำคัญของงานเขียนของโทลคีนคือเรื่องของการช่วงชิง ควบคุม และครอบครองอำนาจหรือของวิเศษ ทำให้เกิดสงครามขึ้นบนมิดเดิลเอิร์ธหลายครั้งหลายหน คือสงครามระหว่างเหล่าเทพวาลาร์ เอลฟ์ และพันธมิตรชาวมนุษย์ฝ่ายหนึ่ง กับเทพอสูรเมลคอร์กับบริวาร ได้แก่พวกออร์ค มังกร และมนุษย์ที่เป็นทาสอีกฝ่ายหนึ่ง ในตำนานยุคหลัง เมื่อเมลคอร์สิ้นอำนาจและถูกขับไล่ออกไปจากอาร์ดาแล้ว บทบาทการช่วงชิงนี้ก็ตกไปอยู่กับเซารอน สมุนเอกของเขา เหล่าเทพวาลาร์ได้ยุติบทบาทของตนลงหลังจากที่เมลคอร์สิ้นอำนาจ เพราะการสงครามระหว่างพวกพระองค์ครั้งนั้นได้ทำให้โลกพินาศเสียหายไปมาก อย่างไรก็ดีพวกพระองค์ก็ยังส่ง อิสตาริ หรือเหล่าพ่อมด เข้ามาให้ความช่วยเหลือในการต่อต้านอำนาจของเซารอน อิสตาริที่มีบทบาทมากคือ แกนดัล์ฟพ่อมดเทา และซารูมานพ่อมดขาว แกนดัล์ฟได้ทำงานบรรลุวัตถุประสงค์เป็นอย่างดี โดยได้ช่วยเหลือชาวมิดเดิลเอิร์ธอย่างถึงที่สุดเพื่อโค่นอำนาจเซารอนลงให้ได้ แต่ซารูมานกลับพ่ายแพ้ต่อความคิดฉ้อฉลแล้วตั้งตนขึ้นเป็นใหญ่ ช่วงชิงอำนาจบนมิดเดิลเอิร์ธแข่งกับเซารอนเสียเอง สำหรับพลเมืองชาวมิดเดิลเอิร์ธพวกอื่นๆ ได้แก่ คนแคระ เอนท์ และฮอบบิท อันเป็นเผ่าพันธุ์ที่มีชื่อเสียงมากที่สุด ในการสร้างสรรค์งานของโทลคีน เขาได้จัดทำแผนที่ของมิดเดิลเอิร์ธขึ้นเป็นจำนวนมาก แสดงถึงดินแดนและสถานที่ต่างๆ ที่ตำนานของเขาเอ่ยถึง แผนที่บางส่วนได้รับการตีพิมพ์ในช่วงชีวิตของเขา แต่ก็ยังมีแผนที่อีกจำนวนมากที่ไม่ได้ตีพิมพ์เลยจนกระทั่งเขาเสียชีวิตไปแล้ว แผนที่ส่วนใหญ่จะปรากฏอยู่ในเรื่อง เดอะฮอบบิท เดอะลอร์ดออฟเดอะริงส์ และ ซิลมาริลลิออน เหตุการณ์ส่วนใหญ่ในยุคที่หนึ่งเกิดขึ้นบนดินแดนที่เรียกชื่อว่า เบเลริอันด์ ดินแดนนี้ต่อมาได้จมลงสู่ทะเลหลังสงครามครั้งใหญ่ระหว่างเทพวาลาร์กับเมลคอร์ คงเหลือแต่เทือกเขาสีน้ำเงินที่ปรากฏอยู่ทางขวาสุดของแผนที่ เป็นจุดเชื่อมต่อเดียวกันกับเทือกเขาสีน้ำเงินที่อยู่ทางด้านซ้ายสุดของแผนที่ในเรื่องเดอะลอร์ดออฟเดอะริงส์ ดินแดนทางด้านตะวันออกของเทือกเขาสีน้ำเงินเป็นที่เกิดเหตุการณ์ต่างๆ ในยุคที่สองและสาม โทลคีนบอกว่ามิดเดิ้ลเอิร์ธนั้นคือโลกของเรา เพียงแต่เป็นช่วงเวลาในอดีต โดยประมาณว่าปลายยุคที่สามคือช่วงระยะประมาณ 6,000 ปีก่อนยุคของโทลคีน เขายังบรรยายเขตแดนที่ฮอบบิทอาศัยว่าอยู่ที่ "ตะวันตกเฉียงเหนือของโลกเก่า ทางตะวันออกของทะเลใหญ่",เดอะลอร์ดออฟเดอะริงส์, บทนำ, หน้า 2 ซึ่งอ้างอิงถึงอังกฤษและเขตตะวันตกเฉียงเหนือของยุโรปอย่างชัดเจน ประวัติศาสตร์มิดเดิลเอิร์ธของโทลคีน ถูกแบ่งออกเป็นหลายยุค เรื่องราวที่ปรากฏใน เดอะฮอบบิท และเรื่องราวใน ลอร์ดออฟเดอะริงส์ เกิดขึ้นในราวปลายยุคที่สาม และนำไปสู่ช่วงเริ่มต้นของยุคที่สี่ ในขณะที่เรื่องราวใน ซิลมาริลลิออน ซึ่งเป็นงานเขียนของโทลคีนเกี่ยวกับมิดเดิลเอิร์ธที่เก่าแก่ที่สุด เป็นเรื่องที่เกิดตั้งแต่ยุคสร้างโลกและยุคที่หนึ่งเป็นส่วนใหญ.

ใหม่!!: กอนดอร์และมิดเดิลเอิร์ธ · ดูเพิ่มเติม »

มินัสมอร์กูล

มินัสมอร์กูล (Minas Morgul) เป็นชื่อหอคอยในปกรณัมชุด มิดเดิลเอิร์ธ ของ เจ. อาร์. อาร์. โทลคีน ชื่อเป็นคำในภาษาซินดาริน แปลว่า "หอคอยแห่งมนต์ดำ" เดิมชื่อว่า มินัสอิธิล หรือ หอคอยจันทร์รุ่ง ตั้งชื่อตามชื่อผู้สร้างและเจ้าของคนแรก คืออิซิลดูร์ ซึ่งสร้างหอคอยแห่งนี้ขึ้นในระหว่างการก่อตั้งอาณาจักรกอนดอร์ พร้อมกับเมืองออสกิเลียธ และหอคอยมินัสอะนอร์ ในช่วงปลายของยุคที่สองเพื่อป้องกันฝั่งตะวันตกของเมืองออสกิเลียส มินัสอิธิลตั้งอยู่ในหุบเขามอร์กูล บนเทือกเขาเอเฟลดูอัธ ซึ่งอยู่ติดชายอาณาเขตมอร์ดอร์ เมื่อแรกสร้างเป็นนครที่งดงามดั่งแสงจันทร์ กำแพงและถนนถูกสร้างด้วยหินอ่อนและประดับประดาอย่างสวยงามปลูกประดับด้วยพฤกษาต่างๆ มีหอคอยที่งดงามอยู่กลางเมือง และอิซิลดูร์ได้นำหน่ออ่อนของพฤกษาขาว ที่เขาลอบนำออกมาจากเกาะนูเมนอร์ได้ทันก่อนเกาะจะจมสมุทร มาปลูกไว้ที่นี่ด้วย มินัสอิธิลถูกเซารอนตีแตกครั้งแรกเมื่อปีที่ 3429 ของยุคที่สอง อิซิลดูร์หนีออกจากนครเพื่อไปขอความช่วยเหลือจากเอเลนดิล นำทัพกลับมาร่วมกับทัพของอนาริออน สามารถขับไล่เซารอนกลับไปอยู่หลังแนวเทือกเขาได้ ในระหว่างสงครามแห่งพันธมิตรครั้งสุดท้าย โอรสองค์ที่ 2 และ 3 ของอิซิลดูร์ คือเคียร์ยอนและอาราทัน รับหน้าที่เฝ้าพิทักษ์หอคอยแห่งนี้ หลังสิ้นสุดสงคราม เคียร์ยอนและอาราทันเดินทางขึ้นเหนือพร้อมอิซิลดูร์ผู้บิดา มินัสอิธิลก็กลับมาอยู่ในความดูแลของกอนดอร์ ปีที่ 1636 ของยุคที่สาม เกิดโรคระบาดครั้งใหญ่แพร่มาพร้อมกับสายลมดำมืดจากแดนมอร์ดอร์ มินัสอิธิลได้รับความเสียหายมากที่สุด ทหารและพลเมืองล้มตายไปเป็นจำนวนมากจนเกือบเป็นเมืองร้าง ปีที่ 1980 เหล่านาซกูลพ่ายแพ้ที่อังก์มาร์ ถูกกองทัพพันธมิตรของเอลฟ์ ทัพดูเนไดน์ และทัพกอนดอร์ของเจ้าชายเออาร์นัวร์ตีแตกจนต้องหนีกลับมายังมอร์ดอร์ แต่พวกมันหันมายึดมินัสอิธิลไปเป็นที่มั่นใหม่ และยึดไปได้สำเร็จในปีที่ 2002 พาลันเทียร์ประจำเมืองนี้จึงตกไปอยู่ในมือของเซารอน และถูกย้ายไปยังหอคอยบารัดดูร์ นับแต่นั้นมินัสอิธิลจึงถูกเรียกว่า 'มินัสมอร์กูล' ซึ่งหมายถึง 'หอคอยแห่งเวทมนตร์อันมืดดำ' ส่วนมินัสอะนอร์ก็เปลี่ยนชื่อใหม่เป็น 'มินัสทิริธ' หมายถึง 'หอคอยระวังภัย' ทว่าหลังจากสงครามแห่งแหวนจบ แหวนเอกได้ถูกทำลาย เซารอนสิ้นอำนาจ รวมทั้งอาณาจักรมอรดอร์ล่มสลายลง หอคอยนี้ถูกทิ้งร้างไว้เป็นเวลานานหลายปีด้วยความหวาดกลัวจากเรื่องราวในอดีต จนกษัตริย์แห่งกอนดอร์มีพระบัญชาให้บูรณะหอคอยนี้เป็นนครมินัสอิธิลอันงดงามอีกครั้ง.

ใหม่!!: กอนดอร์และมินัสมอร์กูล · ดูเพิ่มเติม »

มินัสทิริธ

มินัสทิริธ (Minas Tirith) เป็นชื่อหอคอยในตำนานชุด มิดเดิลเอิร์ธ ของ เจ. อาร์. อาร์. โทลคีน ชื่อเป็นคำในภาษาซินดาริน แปลว่า "หอคอยระวังภัย" ในปกรณัมปรากฏชื่อหอคอย มินัสทิริธ ทั้งในยุคที่หนึ่ง และยุคที่สาม ของอาร์ดา มินัสทิริธ จากภาพยนตร์ไตรภาค เดอะลอร์ดออฟเดอะริงส์ ในปี 3320 ของยุคที่สอง ในขณะนั้นเมืองหลวงของอาณาจักร กอนดอร์ยังคงเป็น ออสกิเลียธ (Osgiliath) อิซิลดูร์ และ อนาริออน บุตรแห่งเอเลนดิล ทั้งสองได้ร่วมกันปกครอง ออสกิเลียธ แต่พวกเขาก็ยังสร้างปราการที่เป็นของตนเองด้วย โดยปราการทั้งสองนั้นตั้งอยู่คนละฟากของแม่น้ำอันดูอิน อิซิลดูร์ สร้างหอคอยจันทร์รุ่งเรียกว่า มินัสอิธิล ทางฝั่งตะวันออกของแม่น้ำ ส่วนอนาริออน สร้างหอคอยตะวันรอนเรียกว่า มินัสอะนอร์ ทางตะวันตกของแม่น้ำ มินัสอะนอร์ถูกสร้างขึ้นเป็นป้อมปราการอย่างแข็งแกร่งและงดงาม แบ่งเป็น 7 ชั้น โดยมีประตูใหญ่ด้านหน้าและประตูชั้นต่อๆไปอยู่ด้านข้างสลับไปมาส่วนประตูชั้นบนสุดจะหันไปด้านหน้า กำแพงชั้นแรกสร้างด้วยวัสดุสีดำแบบเดียวกับที่ใช้ในออร์ธังค์ และชั้นอื่นๆทำด้วยหินอ่อน ในชั้นที่หกจะมีทางออกไปยังสุสานกษัตริย์และผู้พิทักษ์ส่วนชั้นที่เจ็ดเป็นที่ตั้งของท้องพระโรงและที่ปลูกพฤกษาขาว และด้านบนคือหอคอยที่เก็บรักษาดวงพาลันเทียร์ประจำมินัสอะนอร์หรือมินัสทิริธต่อมา ต่อมาในปี 3429 ของยุคที่สอง เซารอนโจมตีกอนดอร์ มินัสอิธิลถูกยึดไปได้ แต่กอนดอร์ยังสามารถรักษา ออสกิเลียธ และมินัสอะนอร์ไว้ได้ หลังจากนั้นก็สามารถขับไล่กองทัพเซารอนกลับไปยังมอร์ดอร์ได้ก่อนที่คณะพันธมิตรของมนุษย์และเอลฟ์กลุ่มสุดท้ายมาถึง อนาริออนเสียชีวิตในระหว่างสงครามแห่งพันธมิตรครั้งสุดท้าย ในปี 3440 และสงครามจบลงด้วยการพ่ายแพ้ของเซารอนในอีกปีต่อมา ในปีที่ 2 ของยุคที่สาม อิซิลดูร์ นำหน่ออ่อนของพฤกษาขาวที่นำออกมาจากมินัสอิธิลได้ทัน และนำมาปลูกไว้ที่ มินัสอะนอร์ เพื่อเป็นการรำลึกถึง อนาริออน ต่อมา ออสโตเฮอร์ (Ostoher) กษัตริย์ลำดับที่เจ็ดแห่งกอนดอร์ ได้ปรับปรุงและขยายมินัสอะนอร์ให้กว้างขึ้น หลังจากนั้นก็เกิดธรรมเนียมที่กษัตริย์แห่งกอนดอร์ จะเสด็จมาประทับที่มินัสอะนอร์ ในช่วงฤดูร้อน แต่อย่างไรก็ตาม ออสกิเลียธก็ยังคงเป็นเมืองหลวงอยู่ ในปี 1437 ของยุคที่สาม เกิดสงครามกบฏที่เรียกว่า กบฏราชวงศ์ ทำให้ออสกิเลียธได้รับความเสียหาย และเกิดโรคระบาดอย่างรุนแรง ทำให้เมืองถูกทิ้งร้าง จากนั้นมินัสอะนอร์จึงได้กลายมาเป็นเมืองหลวงของกอนดอร์แทนที่ และได้มีการสร้างหอคอยสีขาวขึ้นในส่วนยอดของมินัสอะนอร์ เพื่อเป็นที่เก็บ พาลันเทียร์ ในปี 2002 มินัสอิธิล ถูกยึดอีกครั้งโดยพวกนาซกูล และถูกเปลี่ยนชื่อเป็น มินัสมอร์กูล หลังจากนั้นมินัสอะนอร์ก็ถูกเปลี่ยนชื่อใหม่เช่นกันว่า มินัสทิริธ ซึ่งหมายถึง 'หอคอยระวังภัย' เมื่อเซารอนกลับมาปรากฏตัวอีกครั้ง ในช่วงปลายยุคที่สาม กองทัพมอร์ดอร์ยกข้ามแม่น้ำอันดูอิน เช้าโจมตีมินัสทิริธ ซึ่งมี วิชคิง เป็นแม่ทัพ โดยทหารกอนดอร์ป้องกันกำแพงอยู่ภายในเมือง เกิดการรบกันอยู่เป็นเวลานาน จนกระทั่งกองทัพมอร์ดอร์ใช้ กรอนด์ ทำลายประตูเมืองลงได้ ทหารมอร์ดอร์เคลื่อนพลหลั่งไหลเข้าเมือง (แต่ในฉบับนิยาย กรอนด์ไม่สามารถทำลายประตูเมืองได้ จนกระทั่งวิชคิงต้องมาร่ายเวทย์ทำลายประตูเมืองด้วยตัวเอง ประตูเมืองจึงถูกทำลาย แต่ทว่าทหารมอร์ดอร์ก็ยังไม่สามารถยกพลเข้าประตูเมืองได้เนื่องจากกองทัพโรฮันนำกองทัพกำลังเสริมมาช่วยเหลือกอนดอร์) ไม่นานนักทหารจากโรฮันก็เคลื่อนทัพมาถึงและเข้ามาช่วยไว้ได้ทัน เกิดการพุ่งรบกันบนสมรภูมิแห่งทุ่งพาเลนเนอร์ และในที่สุดอารากอร์นนำพลจากทางแม่น้ำอันดูอินขึ้นมาช่วยรบ จนได้รับชัยชนะ หลังจากสงครามมินัสทิริธได้รับการบูรณะใหม่โดยคนแคระจากเอเรบอร์ได้สร้างประตูเมืองขึ้นใหม่ด้วยมิธริลและมอบให้เป็นของขวัญแก่นคร ทั้งยังบูรณะถนนอาคารต่างๆด้วยหินอ่อนสีขาว และชาวเอลฟ์ได้นำต้นไม้มาประดับท้องถนนต่างๆและสร้างน้ำพุขึ้นจนเมืองถือได้ว่างดงามยิ่งกว่าที่เคยเป็นม.

ใหม่!!: กอนดอร์และมินัสทิริธ · ดูเพิ่มเติม »

มนุษย์ (มิดเดิลเอิร์ธ)

มนุษย์ ตามความหมายในจินตนิยายของ เจ. อาร์. อาร์. โทลคีน เป็นสิ่งมีชีวิตที่ถูกสร้างขึ้นโดยมหาเทพอิลูวาทาร์ โดยสร้างขึ้นภายหลังเผ่าพันธุ์เอลฟ์ จึงได้ชื่อว่าเป็น บุตรคนเล็กแห่งอิลูวาทาร์ เหตุการณ์ในเรื่องเดอะลอร์ดออฟเดอะริงส์ เป็นเหตุการณ์ในตอนท้ายของยุคสมัยอันรุ่งเรืองของพวกเอลฟ์ เมื่อพ้นจากยุคของเอลฟ์แล้ว เผ่าพันธุ์มนุษย์จึงรุ่งเรืองขึ้นและได้ครอบครองโลกทั้งหมดดังเช่นปัจจุบัน.

ใหม่!!: กอนดอร์และมนุษย์ (มิดเดิลเอิร์ธ) · ดูเพิ่มเติม »

ยุคที่สองแห่งอาร์ดา

ที่สอง แห่งอาร์ดา เป็นช่วงเวลาหนึ่งในจักรวาลของเจ. อาร์. อาร์. โทลคีน เริ่มนับตั้งแต่การจับกุมคุมขังเทพอสูรมอร์กอธไว้ในสุญญภูมิ หลังจากการล่มจมสมุทรของแผ่นดินเบเลริอันด์ ซึ่งเป็นผลจากสงครามแห่งความโกรธา อันเป็นสงครามระหว่างปวงเทพแห่งแดนประจิมกับมอร์กอธ การรุ่งเรืองและล่มสลายของอาณาจักรนูเมนอร์ ไปจนถึงการปราบปรามเซารอนลงสำเร็จในสงครามแห่งพันธมิตรครั้งสุดท้าย กินเวลายาวนานถึง 3,441 ปี เหตุการณ์ในยุคที่สองของอาร์ดา มิได้มีการบรรยายไว้โดยละเอียดเหมือนยุคที่หนึ่ง ซึ่งปรากฏเนื้อหาอยู่ในตำนานเรื่อง ซิลมาริลลิออน แต่ได้มีการบรรยายสรุปโดยย่ออยู่ในภาคผนวกของหนังสือเดอะลอร์ดออฟเดอะริงส์ และในตำนานอคัลลาเบธ อันเป็นตำนานว่าด้วยการรุ่งเรืองและล่มสลายของอาณาจักรนูเมนอร์ นอกจากนี้ยังมีเนื้อหาจำนวนมากที่โทลคีนประพันธ์ค้างไว้ และคริสโตเฟอร์ โทลคีน ได้รวบรวมไว้ในหนังสือ Unfinished Tales.

ใหม่!!: กอนดอร์และยุคที่สองแห่งอาร์ดา · ดูเพิ่มเติม »

ยุคที่สามแห่งอาร์ดา

ที่สามแห่งอาร์ดา เป็นช่วงเวลาหนึ่งในจักรวาลของเจ. อาร์. อาร์. โทลคีน เริ่มนับตั้งแต่การพ่ายแพ้ของเซารอนต่อกองทัพพันธมิตรครั้งสุดท้ายของมนุษย์และพราย (สงครามตอนต้นเรื่องในภาพยนตร์) เอกลักษณ์ของยุคนี้คือความเสื่อมถอยของพวกพราย หรือ เอลฟ์ การเจริญรุ่งเรืองและเสื่อมถอยของอาณาจักรกอนดอร์และอาร์นอร์ และการฟื้นอำนาจของเซารอน ยุคที่สามกินเวลา 3,021 ปี จนถึงความพ่ายแพ้อีกครั้งของเซารอน เมื่อแหวนถูกทำลาย เมื่อโฟรโด แบ๊กกิ้นส์, บิลโบ แบ๊กกิ้นส์ และแกนดัล์ฟ เดินทางออกจากมิดเดิลเอิร์ธ จึงเริ่มนับเป็นยุคที่สี.

ใหม่!!: กอนดอร์และยุคที่สามแห่งอาร์ดา · ดูเพิ่มเติม »

รูห์น

อิสเตอร์ลิงจาก ภาพยนตร์เดอะลอร์ดออฟเดอะริงส์ กองทัพอิสเตอร์ลิงจาก ภาพยนตร์เดอะลอร์ดออฟเดอะริงส์ รูห์น (Rhûn) คือชื่อดินแดนมนุษย์แห่งหนึ่งบนทวีปมิดเดิลเอิร์ธ ในจินตนิยายของ เจ. อาร์. อาร์. โทลคีน คำว่า Rhûn ในภาษาซินดารินแปลว่า ตะวันออก รูห์น (Rhûn) เป็นดินแดนที่ห่างไกลออกไป ทางตะวันออกของมิดเดิลเอิร์ธ มีเพียงทางตะวันตกของดินแดนรูห์นเท่านั้น ที่ปรากฏในแผนที่ เป็นดินแดนของมนุษย์ที่เรียกตนเองว่า อีสเตอร์ลิง (Easterlings) ชาวอิสเตอร์ลิงอยู่ภายใต้อาณัติของมอร์กอธจนกระทั่งถึงเซารอนมาโดยตลอด และพวกเขาก็เป็นศัตรูของมนุษย์ทางตะวันตกมาทุกยุคทุกสมัย สภาพและความเป็นไปในดินแดนรูห์นมีข้อมูลน้อยมาก ทางตะวันตกติดกับมอร์ดอร์ และดินแดนตะวันตก (Wilderland) ซึ่งหมายถึงดินแดนทางตะวันออกของเทือกเขามิสตี้นั่นเอง และมี ทะเลสาบรูห์น (Sea of Rhun) เป็นพรมแดนกั้นอยู่ ทิศใต้ติดกับดินแดนคานด์ (Khand) และไกลออกไปคือ ดินแดนฮารัด (Harad) ในยุคที่สอง เมื่อครั้งเซารอนมอบแหวนทั้งเก้าให้แด่พวกมนุษย์นั้น เขาได้มอบให้กับกษัตริย์แห่งอีสเตอร์ลิง ซึ่งรู้จักกันในนาม คามูล (Khamul the Easterling) และคามูลผู้นี้ ในภายหลังได้กลายเป็นภูติแหวนหนึ่งในเก้า เป็นคนที่สองต่อจาก วิชคิง แห่งอังก์มาร์ และในช่วงที่เซารอนพ่ายแพ้ใน สงครามแห่งพันธมิตรครั้งสุดท้าย วิญญาณของเขาก็มุ่งสู่ดินแดนรูห์น เพื่อฟื้นอำนาจก่อนจะย้ายไป โดลกุลดัวร์ พวกอิสเตอร์ลิงนั้นเข้าร่วมสงครามกับฝ่ายเซารอนมาโดยตลอด ถึงแม้ว่าจะเข้าสู่ยุคที่สี่ก็ตาม ชาวอิสเตอร์ลิงบางส่วน ก็ยังคงเป็นปรปักษ์กับมนุษย์ตะวันตกอยู.

ใหม่!!: กอนดอร์และรูห์น · ดูเพิ่มเติม »

ลอร์ดออฟเดอะริงส์ ตอน กษัตริย์คืนบัลลังก์

ลอร์ด ออฟ เดอะ ริงส์ ตอนกษัตริย์คืนบัลลังก์ หรือ มหาสงครามชิงพิภพ (The Lord of the Rings: The Return of the King) เป็นภาคที่สามของนิยายชุด เดอะลอร์ดออฟเดอะริงส์ ซึ่งประพันธ์โดย เจ. อาร์. อาร์. โทลคีน โดยภาคที่หนึ่งคือตอน มหันตภัยแห่งแหวน ส่วนภาคที่สองคือ หอคอยคู่พิฆาต.

ใหม่!!: กอนดอร์และลอร์ดออฟเดอะริงส์ ตอน กษัตริย์คืนบัลลังก์ · ดูเพิ่มเติม »

ออสกิเลียธ

ออสกิเลียธ จากภาพยนตร์ไตรภาค เดอะลอร์ดออฟเดอะริงส์ ออสกิเลียธ (Osgiliath) เป็นชื่อเมืองในตำนานชุด มิดเดิลเอิร์ธ ของ เจ. อาร์. อาร์. โทลคีน ชื่อเป็นคำในภาษาซินดาริน แปลว่า "ปราการแห่งดวงดาว" ตั้งอยู่ในอาณาจักรกอนดอร์ ซึ่งเป็นอาณาจักรของมนุษ.

ใหม่!!: กอนดอร์และออสกิเลียธ · ดูเพิ่มเติม »

อาร์นอร์

ในปกรณัมชุด มิดเดิลเอิร์ธ ของ เจ. อาร์. อาร์. โทลคีน อาร์นอร์ (Arnor) หรือ อาณาจักรเหนือ เป็นอาณาจักรของมนุษย์ชาวดูเนไดน์ ในดินแดนแห่ง เอเรียดอร์ ในมิดเดิลเอิร์ธ ชื่อดังกล่าวน่าจะแปลว่า "ดินแดนแห่งกษัตริย์" มาจากภาษาซินดารินว่า อารา (Ara-) (แปลว่า สูงส่ง, เกี่ยวกับกษัตริย์) + (น)ดอร์ ((n) dor) (แปลว่า ดินแดน) ปรากฏอยู่ในนิยายทั้ง ซิลมาริลลิออน และ เดอะลอร์ดออฟเดอะริงส์ ในช่วงที่ยิ่งใหญ่ที่สุดนั้น อาณาจักรอาร์นอร์แผ่กว้างไกลครอบคลุมดินแดนเกือบทั้งหมดของเอเรียดอร์ ตั้งแต่แม่น้ำบรุยเนน กวาโธล ไปจนถึงแม่น้ำลูห์น รวมทั้งดินแดนซึ่งต่อมารู้จักในนามว่า ไชร์ ด้วย ประชากรของอาร์นอร์ประกอบด้วยชาวดูเนไดน์ในดินแดนตะวันตกตอนกลางของอาณาจักร และชาวพื้นเมืองหรือลูกครึ่ง (รวมทั้งพวกต่อต้าน).

ใหม่!!: กอนดอร์และอาร์นอร์ · ดูเพิ่มเติม »

อิซิลดูร์

อิซิลดูร์ (Isildur) เป็นตัวละครตัวหนึ่งในปกรณัมชุด มิดเดิลเอิร์ธ ของ เจ. อาร์. อาร์. โทลคีน ปรากฏในหนังสือเรื่อง เดอะลอร์ดออฟเดอะริงส์ ซิลมาริลลิออน และ Unfinished Tales ชื่อ 'อิซิลดูร์' หมายถึง 'ผู้รักใคร่ในดวงจันทร์' ใน เดอะลอร์ดออฟเดอะริงส์ อิซิลดูร์ถูกเอ่ยถึงในฐานะชาวดูเนไดน์แห่งนูเมนอร์ โอรสของกษัตริย์เอเลนดิล ทรงเป็นกษัตริย์แห่งอาณาจักรอาร์นอร์และกอนดอร์ในช่วงเวลาสั้นๆ และทรงเป็นบรรพชนของอารากอร์น เอเลสซาร์ เรื่องราวโดยละเอียดของเขาจะปรากฏอยู่ใน ซิลมาริลลิออน และ Unfinished Tales มากกว.

ใหม่!!: กอนดอร์และอิซิลดูร์ · ดูเพิ่มเติม »

อนาริออน

อนาริออน (Anárion) เป็นตัวละครตัวหนึ่งในปกรณัมชุด มิดเดิลเอิร์ธ ของ เจ. อาร์. อาร์. โทลคีน ปรากฏในหนังสือเรื่อง เดอะลอร์ดออฟเดอะริงส์ ซิลมาริลลิออน และ Unfinished Tales ชื่อของเขามีรากศัพท์มาจากคำภาษาเควนยา อนาร์ (Anar) ซึ่งหมายถึง 'ดวงอาทิตย์' อนาริออนเป็นโอรสองค์ที่สองของเอเลนดิล และเป็นน้องชายของอิซิลดูร์ พวกเขาทั้งสามคนพ่อลูกเป็นผู้นำกลุ่ม ผู้ศรัทธา หรือ Elendili ซึ่งเป็นชื่อที่ชาวนูเมนอร์ผู้ภักดีต่อปวงวาลาร์ใช้เรียกขานตัวเอง ในยุคสมัยที่ อาร์-ฟาราโซน กษัตริย์นูเมนอร์ คิดเหิมเกริมท้าอำนาจของปวงเทพ เนื่องจากความยโสอวดดีและหลงเชื่อในคำยุยงของเซารอน อนาริออนได้หนีออกจากเกาะนูเมนอร์พร้อมกับพ่อและพี่ชายได้ทันในคราวล่มเกาะ เขาขึ้นฝั่งมิดเดิลเอิร์ธในทางตอนใต้พร้อมกับพี่ชาย และได้ร่วมกันก่อตั้งอาณาจักรกอนดอร์ขึ้น ขณะที่เอเลนดิล บิดาของพวกเขาขึ้นฝั่งทางเหนือ และก่อตั้งอาณาจักรอาร์นอร์ ใกล้กับอาณาจักรลินดอนของกิลกาลัดสหายเก่า อนาริออนและอิซิลดูร์ได้ร่วมกันพัฒนาอาณาจักรกอนดอร์ให้ยิ่งใหญ่ ทั้งสองสร้างหอคอยมินัสอะนอร์ และ มินัสอิธิล รวมถึงสะพานใหญ่ข้ามอันดูอินและนครออสกิเลียธ โดยที่ออสกิเลียธมีความหมายถึงดวงดาว ซึ่งเป็นความหมายของชื่อ 'เอเลนดิล' มินัสอะนอร์กับแคว้นอนอริเอนตั้งชื่อตาม 'อนาริออน' ขณะที่ มินัสอิธิลกับแคว้นอิธิลิเอนตั้งชื่อตาม 'อิซิลดูร์' เมื่อเซารอนหวนคืนมามิดเดิลเอิร์ธ ก็ยกทัพมาโจมตีกอนดอร์และยึดมินัสอิธิลไปได้ อิซิลดูร์หนีขึ้นเหนือไปขอความช่วยเหลือจากเอเลนดิล ขณะที่อนาริออนเป็นผู้สำเร็จราชการรักษาเมืองออสกิเลียธและอาณาจักรกอนดอร์ไว้ ทำให้เซารอนต้องถอยไปตั้งหลักอยู่หลังแนวขุนเขา จนกระทั่งทัพใหญ่ของเอเลนดิลยกมาถึง พวกเขาทั้งสามได้เข้าร่วมในกองทัพพันธมิตรครั้งสุดท้ายของเอลฟ์และมนุษย์ อนาริออนได้เข้ารบในสมรภูมิทุ่งดาร์กอลัด และสงครามการปิดล้อมบารัด-ดูร์ แต่แล้วก็เสียชีวิตในระหว่างการปิดล้อมครั้งนั้นในปีที่ 3340 ของยุคที่สอง อนาริออนมีบุตรสี่คน บุตรคนที่สี่คือ เมเนลดิล ได้เป็นกษัตริย์องค์ที่สามแห่งกอนดอร์ ไม่มีข้อมูลอื่นกล่าวถึงบุตรสามคนก่อนหน้านั้น เมื่อสิ้นสุดยุคที่สอง อิซิลดูร์แต่งตั้งให้เมเนลดิลเป็นเจ้าผู้ครองกอนดอร์ ส่วนตัวพระองค์กับโอรสทั้งสามเดินทางขึ้นเหนือเพื่อไปครองอาณาจักรอาร์นอร์ต่อจากบิดา ซึ่งอิซิลดูร์เสียชีวิตในระหว่างการเดินทางคราวนั้นที่ทุ่งแกลดเดน สายวงศ์ของอนาริออนกับอิซิลดูร์ได้ร่วมเป็นสายเดียวกัน เมื่อทายาทคนหนึ่งในวงศ์อนาริออน คือเจ้าหญิงฟีริเอลแห่งกอนดอร์ ได้วิวาห์กับทายาทวงศ์อิซิลดูร์ คือเจ้าชายอาร์เวดุย แห่งอาร์เธไดน์ ซึ่งสืบสายโลหิตต่อมาจนถึงอารากอร์นที่ 2 ทำให้อารากอร์นมีศักดิ์และสิทธิ์ในการปกครองอาณาจักรทั้งสองรวมเป็นอาณาจักรเดียวกัน.

ใหม่!!: กอนดอร์และอนาริออน · ดูเพิ่มเติม »

ดูเนไดน์

ในปกรณัมของ เจ. อาร์. อาร์. โทลคีน ดูเนไดน์ (Dúnedain; เอกพจน์ คือ ดูนาดาน (Dúnadan)) คือ เผ่าพันธุ์ของมนุษย์ ผู้สืบสายเลือดจาก ชาวนูเมนอร์ ที่รอดจากการล่มสลายของอาณาจักรเกาะของพวกเขาและมายัง เอเรียดอร์ ในมิดเดิลเอิร์ธ นำโดย เอเลนดิล และบุตรชายของเขา คือ อิซิลดูร์ และ อนาริออน พวกเขายังถูกเรียกว่ามนุษย์แห่งตะวันตก (Men of the West) และ Men of Westernesse (แปลโดยตรงจากคำ ซินดาริน) พวกเขาตั้งรกรากส่วนใหญ่ใน อาร์นอร์ และ กอนดอร์ ชื่อภาษาเวสทรอน ของคำว่า ดูนาดาน เรียกง่าย ๆ ว่า อะดูน (Adûn) ซึ่งแปลว่า "ชาวตะวันตก" แต่ชื่อนี้มันถูกใช้น้อยมาก ชื่อนี้จะถูกรักษาไว้กับชาวนูเมนอร์ที่เป็นสหายกับพราย ส่วนพวกอื่นซึ่งเป็นศัตรูเหลือรอดจากการล่มสลายรู้จักกันในนาม ชาวนูเมนอร์ดำ.

ใหม่!!: กอนดอร์และดูเนไดน์ · ดูเพิ่มเติม »

คิริธอุงโกล

คิริธอุงโกล (Cirith Ungol) เป็นสถานที่แห่งหนึ่งในมิดเดิลเอิร์ธ ในนิยายเรื่อง เดอะลอร์ดออฟเดอะริงส์ ของ เจ.อาร์.อาร์. โทลคีน ชื่อนี้เป็นภาษาซินดาริน หมายถึง รอยแยกของแมงมุม หรือ ทางผ่านของแมงมุม นั่นคือมันเป็นทางผ่านทะลุเทือกเขาทางตะวันตกของ มอร์ดอร์ และเป็นทางเดียวที่จะเข้าไปในดินแดนจากทิศตะวันตก พื้นที่ดังกล่าวอยู่ภายใต้การดูแลของ หอคอยแห่งคิริธอุงโกล สร้างโดยมนุษย์แห่งอาณาจักรกอนดอร์ หลังจากสงครามของ พันธมิตรครั้งสุดท้ายของเอลฟ์และมนุษย์ จุดประสงค์หลักของหอคอยคือเพื่อปกป้อง อิธิลิเอน และ มินัสอิธิล (ต่อมารู้จักในนาม มินัสมอร์กูล) จากการโจมตีของลูกน้องที่เหลือของ เซารอน ด้วยเหตุผลเหล่านั้น ปราการทั้งสองของมันจึงตรงไปทางเหนือและตะวันออกเฉียงใต้ นอกจากนั้นมันยังช่วยยับยั้งสมุนของเซารอนจากการกลับมายังมอร์ดอร์ กอนดอร์ยังคงครอบครองป้อมปราการจนกระทั่งประมาณปี 1636 ยุคที่สาม เมื่อ โรคระบาดครั้งใหญ่ ลดประชากรส่วนใหญ่ของกอนดอร์ลง หลังจากการระบาดนั้น กอนดอร์ไม่เคยครอบครองคิริธอุงโกลอีกและปีศาจสามารถกลับมามอร์ดอร์อีกครั้ง ป้อมปราการยังถูกเชื่อมโยงกับป้อมปราการภูเขาแห่งดัวร์ธัง ในมอร์ดอร์ตะวันตกเฉียงเหนือ และ หอคอยเขี้ยว ที่ โมรันนอน ระหว่างภารกิจแห่งแหวน โฟรโด แบ๊กกิ้นส์ และ แซมไวส์ แกมจี ถูกนำไปสู่ทางผ่านนี้โดย กอลลัม ไปยังถ้ำของสัตว์คล้ายแมงมุมยักษ์ชื่อว่า ชีล็อบ ผู้อาศัยอยู่ที่นั่น หมวดหมู่:ดินแดนในตำนานของโทลคีน en:Cirith Ungol fr:Cirith Ungol.

ใหม่!!: กอนดอร์และคิริธอุงโกล · ดูเพิ่มเติม »

ซารูมาน

ซารูมาน (Saruman) เป็นตัวละครในนิยายเรื่อง เดอะลอร์ดออฟเดอะริงส์ ซึ่งประพันธ์โดย เจ. อาร์. อาร์. โทลคีน ชื่อ ซารูมาน เป็นคำในภาษาเวสทรอนที่มนุษย์แห่งมิดเดิลเอิร์ธใช้เรียกเทพไมอาองค์นี้ พวกเอลฟ์เรียกเขาว่า คูรูเนียร์ ชื่อเดิมของเขาคือ คูรูโม เป็นหนึ่งในห้าไมอาร์ที่ปวงเทพส่งมาช่วยเหลือมิดเดิ้ลเอิร์ธในช่วงยุคที่สาม โดยเทพไมอาร์ทั้งห้าใช้ร่างจำแลงมาในรูปชายชรา และเรียกตัวเองว่า อิสทาริ หรือ พ่อมด ซารูมานได้รับฉายาว่า พ่อมดขาว เป็นผู้มีพลังอำนาจสูงสุดในหมู่พ่อมดทั้งห้.

ใหม่!!: กอนดอร์และซารูมาน · ดูเพิ่มเติม »

ประวัติศาสตร์มิดเดิลเอิร์ธ

ประวัติศาสตร์มิดเดิลเอิร์ธ (The History of Middle-earth) เป็นชื่อชุดหนังสือจำนวน 12 เล่ม ที่รวบรวมงานเขียนต้นฉบับต่างๆ ของ เจ. อาร์. อาร์. โทลคีน ที่เกี่ยวข้องกับปกรณัมชุดมิดเดิลเอิร์ธ นำมาเรียบเรียงใหม่โดยคริสโตเฟอร์ โทลคีน ตีพิมพ์จำหน่ายในช่วงระหว่างปี..

ใหม่!!: กอนดอร์และประวัติศาสตร์มิดเดิลเอิร์ธ · ดูเพิ่มเติม »

นวนิยายแฟนตาซี

นวนิยายแฟนตาซี (Fantasy Fiction) เป็นจินตนิยายประเภทหนึ่งที่มีเนื้อหาเกี่ยวกับแฟนตาซี รูปแบบเนื้อเรื่อง (ที่กลายมาเป็นรูปแบบพื้นฐานของนิยายแฟนตาซีกลุ่มหลักในปัจจุบันไปแล้ว – โดยมีงานของ เจ. อาร์. อาร์. โทลคีน เป็นรากฐาน) มักจะเป็นในเชิงของดาบและเวทมนตร์ ความเจริญต่าง ๆ อยู่ในขั้นของยุคกลางหรือยุคโบราณ มีเรื่องอำนาจเหนือธรรมชาติ และ/หรือ เทพเจ้า เข้ามาเกี่ยวข้อง มีผู้วิเศษ (Sorcerror) ที่มีอำนาจด้วยตัวของตัวเอง และบันดาลเวทย์ หรือสิ่งเหนือธรรมชาติได้ด้วยพลังที่มีอยู่แล้วในตัว หรือโดยการตั้งสมาธิจิต (will), พ่อมด (Wizard) ซึ่งอำนาจเวทย์เกิดจากคาถา ที่จะต้องท่องคำวิเศษหรือใช้อักขระศักดิ์สิทธิ์ (runes), มีปีศาจและสัตว์ประหลาดต่าง ๆ, มีฝ่ายธรรมะ ฝ่ายอธรรม, มีมังกร เขาวงกต และส่วนประกอบอื่น ๆ รวมถึงตอนนี้ มักจะต้องมีแผนที่ประกอบ (เป็นธรรมเนียมไปแล้ว) อีกด้วย แฟนตาซีหลาย ๆ เรื่อง อย่างในชุดของ "Forgotten Realm" แม้จะมีเครื่องจักรกล หรือวิทยาศาสตร์เข้ามาประกอบอยู่ด้วย แต่ด้วยโครงสร้างของฉาก และเนื้อเรื่อง ย่อมดูออกทันทีว่าเป็นแฟนตาซี.

ใหม่!!: กอนดอร์และนวนิยายแฟนตาซี · ดูเพิ่มเติม »

นูเมนอร์

นูเมนอร์ (Númenor) เป็นชื่อเกาะแห่งหนึ่งในโลกจินตนาการของ เจ. อาร์. อาร์. โทลคีน ชุด เดอะลอร์ดออฟเดอะริงส์ เป็นแผ่นดินที่แยกต่างหากออกมาจาก มิดเดิลเอิร์ธ มีแนวคิดในการประพันธ์มาจากแผ่นดินจมสมุทรแอตแลนติส ชื่อนูเมนอร์มาจากภาษาเควนยา ว่า Númenórë ซึ่งมีความหมายว่า แผ่นดินตะวันตก โทลคีนเขียนไว้ว่า เมื่อแปลงจากคำภาษาเควนยาเป็นภาษานูเมนอเรียน ชื่อนี้ออกเสียงเป็น อนาดูเน (Anadûnê).

ใหม่!!: กอนดอร์และนูเมนอร์ · ดูเพิ่มเติม »

แม่น้ำในมิดเดิลเอิร์ธ

มิดเดิลเอิร์ธ (Middle-Earth) คือดินแดนในจินตนิยายของ เจ. อาร์. อาร์. โทลคีน ในปกรณัมชุดมิดเดิลเอิร์ธ ดินแดนนี้มีแม่น้ำสายต่างๆ มากมาย ต่อไปนี้เป็นรายชื่อแม่น้ำที่สำคัญในมิดเดิลเอิร์ธ โดยนับจากเทือกเขาเอเร็ดลูอินออกมาทางตะวันออก สำหรับแม่น้ำที่อยู่ทางตะวันตกของเทือกเขาเอเร็ดลูอิน ดูเพิ่มเติมใน แม่น้ำในแผ่นดินเบเลริอัน.

ใหม่!!: กอนดอร์และแม่น้ำในมิดเดิลเอิร์ธ · ดูเพิ่มเติม »

โรฮัน

รฮัน (Rohan) คือชื่ออาณาจักรมนุษย์แห่งหนึ่งบนทวีปมิดเดิลเอิร์ธ ในจินตนิยายของ เจ. อาร์. อาร์. โทลคีน ชุด เดอะลอร์ดออฟเดอะริงส์ บางครั้งถูกกล่าวถึงด้วยชื่อว่า ริดเดอร์มาร์ค (RidderMark) หรือ มาร์ค (Mark) ชาวโรฮันมีชื่อเรียกว่า "ชาวโรเฮียร์ริม" ซึ่งหมายถึง "ผองชนแห่งอาชา" พวกเขามีภาษาพูดเป็นของตัวเอง เรียกว่า "ภาษาโรเฮียร์ริค" แต่ก็สามารถใช้ภาษาเวสทรอน ในการติดต่อสื่อสารทั่วไป อาณาจักรโรฮันตั้งอยู่ทางตอนเหนือของเทือกเขาเอเร็ดนิมไรส์ (เทือกเขาขาว) และทางใต้ของเทือกเขามิสตี้ พื้นที่ส่วนใหญ่เป็นทุ่งหญ้า เป็นแหล่งเพาะเลี้ยงม้าพันธุ์ดีที่สุดบนมิดเดิลเอิร์ธ และชาวโรฮันยังเป็นผู้ชำนาญการรบบนหลังม้าที่สุดในโลกด้วย ตราสัญลักษณ์ของอาณาจักรโรฮันคือ ภาพอาชาสีขาวกระโจนบนพื้นหลังสีเขียว.

ใหม่!!: กอนดอร์และโรฮัน · ดูเพิ่มเติม »

ไอเซนการ์ด

อเซนการ์ด (Isengard) เป็นชื่อของป้อมปราการแห่งหนึ่งในจินตนิยายเรื่อง เดอะลอร์ดออฟเดอะริงส์ ของ เจ. อาร์. อาร์. โทลคีน ตั้งอยู่ทางตอนใต้ของเทือกเขามิสตี้ ในดินแดนระหว่างเทือกเขามิสตี้กับเอเร็ดนิมไรส์ ซึ่งอยู่ในอาณาเขตของอาณาจักรโรฮัน แต่เดิมป้อมปราการนี้สร้างขึ้นโดยชาวกอนดอร์ จนเมื่อมีการยกแว่นแคว้นโรฮันให้แก่ชาวโรเฮียริมแล้ว ไอเซนการ์ดจึงอยู่ในอารักขาของโรฮันด้วย ในยุคที่สาม เมื่อเหล่าอิสตาริ เดินทางมาถึงมิดเดิลเอิร์ธ ซารูมานพ่อมดขาว ได้เดินทางมายังไอเซนการ์ด เพื่อศึกษาข้อมูลต่างๆ เกี่ยวกับแหวนเอก ชาวโรฮันจึงมอบไอเซนการ์ดให้ซารูมานใช้เป็นที่พำนัก ที่ไอเซนการ์ดมีหอคอยแห่งหนึ่งชื่อว่า ออร์ธังค์ หรือ หอคอยเขี้ยว ตั้งอยู่ใจกลางดินแดนวงแหวนแห่งนั้น หอคอยนี้เป็นที่เก็บรักษาเอกสารข้อมูลเก่าตั้งแต่ยุคสมัยเริ่มสร้างอาณาจักรกอนดอร์ ทำให้ซารูมานสืบทราบว่าแหวนเอกหายไปได้อย่างไร ช่วงปลายของยุคที่สาม เมื่อซารูมานแปรพักตร์ไปเข้ากับเซารอน เขาได้ผลาญทำลายออร์ธังค์และไอเซนการ์ด โดยตัดโค่นต้นไม้โดยรอบ และขุดพื้นดินลงไปเพื่อทำเหมืองและคลังสรรพาวุธ ในที่สุดไอเซนการ์ดถูกยึดกลับคืนมาได้ด้วยกองทัพเอนท์ นำโดยทรีเบียร.

ใหม่!!: กอนดอร์และไอเซนการ์ด · ดูเพิ่มเติม »

เมิร์ควู้ด

มิร์ควู้ด (Mirkwood) เป็นชื่อดินแดนแห่งหนึ่งของพวกเอลฟ์ ในจินตนิยายเรื่อง เดอะลอร์ดออฟเดอะริงส์ ของ เจ. อาร์. อาร์. โทลคีน เมิร์ควู้ดเป็นป่าขนาดใหญ่ ตั้งอยู่ทางตะวันออกของแม่น้ำอันดูอิน แต่เดิมมีชื่อเรียกว่า ป่าใหญ่กรีนวู้ด (Greenwood The Great) กินอาณาเขตกว้างไกลในดินแดนโรห์วานิออน ในยุคที่สาม เอลฟ์กลุ่มที่มาอาศัยอยู่ในเมิร์ควู้ดนี้ ส่วนใหญ่เป็นชาวซิลวัน และมีชาวซินดาร์เป็นบางส่วน ภายใต้การปกครองของกษัตริย์ธรันดูอิล สภาพทั่วไปของป่า มีต้นไม้โบราณเก่าแก่และสูงใหญ่เป็นจำนวนมาก กิ่งก้านสาขาของแต่ละต้นแผ่ปกคลุมไปทั่ว จนแสงอาทิตย์สามารถผ่านเข้ามาได้เพียงน้อยนิด ในช่วงยุคที่สาม เซารอนกลับมาอย่างลับๆ และหลบซ่อนอยู่ในป่าเมิร์ควู้ด ได้สร้างหอคอยที่เรียกว่า โดลกุลดัวร์ (Dol Guldur) นับจากนั้นความมืดก็เข้าปกคลุมเมิร์ควู้ดแม้แต่ในเวลากลางวัน เหล่าปีศาจร้ายได้ใช้สถานที่แห่งนี้เป็นที่อาศัยเพื่อซ่อนตัวซึ่งรวมไปถึง แมงมุมยักษ์ (Great Spiders) ซึ่งเป็นลูกหลานของ ชีล็อบ ในหนังสือเรื่อง เดอะฮอบบิท บิลโบ แบ๊กกิ้นส์ เคยเดินทางผ่านป่าแห่งนี้ และได้เข้าเฝ้า "กษัตริย์พราย" ซึ่งก็คือ ธรันดูอิลนั่นเอง จากเหตุการณ์ที่บิลโบได้เข้าเฝ้าคราวนี้ทำให้เราทราบว่า ธรันดูอิลมีผมสีทอง นอกจากนี้ในเมิร์ควู้ด เมื่อครั้งที่กอลลัมเดินทางผ่านป่าเพื่อตามหาแหวน กับบิลโบ แต่ถูก อารากอร์นพบเข้าและจับตัวได้ จึงนำเขามาขังเขาไว้ที่นี่ภายใต้การดูแลของพวกเอลฟ์แห่งเมิร์ควู้ด แต่เหล่าสมุนเซารอนสืบทราบและตามมาชิงตัว ระหว่างการต่อสู้ของพวกออร์คและพวกเอลฟ์ กอลลัมหนีไปได้ เลโกลัสจึงไปส่งข่าวการหนีไปของกอลลัม ในที่ประชุมของ เอลรอนด์ และเลโกลัสเจ้าชายแห่งป่าเมิร์ควู้ด ก็ได้เข้าร่วมเป็นสมาชิก คณะพันธมิตรแห่งแหวน ต่อมาภายหลัง เอลฟ์จากลอธลอริเอน ได้เข้ามาโจมตีและทำลาย ปราการแห่งโดลกุลดัวร์ จากนั้นเมิร์ควู้ดจึงได้กลับคืนสู่สภาพเดิม ปราศจากเงามืดและความชั่วร้.

ใหม่!!: กอนดอร์และเมิร์ควู้ด · ดูเพิ่มเติม »

เอเรียดอร์

แผนที่เอเรียดอร์ เอเรียดอร์ (Eriador) เป็นชื่อดินแดนที่ปรากฏในนิยายของ เจ. อาร์. อาร์. โทลคีน หลายๆ เรื่อง เช่น เดอะลอร์ดออฟเดอะริงส์ เดอะฮอบบิท ซิลมาริลลิออน เป็นต้น คำว่า เอเรียดอร์ เป็นภาษาซินดาริน หมายถึง 'แผ่นดินร้าง' อาณาเขตของเอเรียดอร์สังเกตได้จากแนวเทือกเขาที่ขนาบอยู่ทางด้านตะวันตก คือเทือกเขาเอเร็ดลูอิน และด้านตะวันออก คือเทือกเขามิสตี้ หรือ ฮิธายเกลียร์ ดินแดนเอเรียดอร์ในยุคบรรพกาลหรือยุคที่หนึ่งของโลกอาร์ดา เป็นดินแดนที่เต็มไปด้วยป่ารกทึบ เหล่าเอลฟ์ที่เดินทางออกจากทะเลสาบคุยวิเอเนนมุ่งสู่แผ่นดินตะวันตก ต้องใช้เวลาเดินทางข้ามดินแดนนี้อยู่นานนับปีกว่าจะสามารถข้ามเอเร็ดลูอินไปได้ ไม่ค่อยมีเอลฟ์อาศัยอยู่ในดินแดนนี้มากนัก หากไม่ตั้งถิ่นฐานลงทางฟากตะวันออกของเทือกเขามิสตี้ ก็มักจะเดินทางข้ามไปถึงเบเลริอันด์ได้จนหมด ในยุคที่สอง หลังจากแผ่นดินเบเลริอันด์ล่มสลายไปแล้ว เอลฟ์ที่หนีรอดมาได้ ได้ตั้งถิ่นฐานลงทางด้านใต้ของเทือกเขาเอเร็ดลูอิน (คือฟากตะวันตกสุดของเอเรียดอร์) เป็นอาณาจักรลินดอน อีกพวกหนึ่งบุกเบิกไกลออกไปทางตะวันออก และตั้งอาณาจักรเอเรกิออนที่เชิงเขาฮิธายเกลียร์ (คือฟากตะวันออกสุดของเอเรียดอร์) ดินแดนช่วงกึ่งกลางยังคงถูกทิ้งเป็นป่ารกทึบ เมื่อถึงสมัยของ ทาร์-อัลดาริออน กษัตริย์นักเดินเรือแห่งนูเมนอร์ ชาวนูเมนอร์ได้เดินทางมาบุกเบิกดินแดนบนมิดเดิลเอิร์ธ โดยสร้างท่าเรือที่ปากแม่น้ำเกรย์ฟลัด แล้วแผ้วถางผืนป่าในเขตเอเน็ดไวธ์ (Enedwaith) เรื่อยขึ้นไปจนถึงปากแม่น้ำฮอร์เวล แล้วตั้งเมืองขึ้นชื่อว่า เมืองธาร์บัด (เมืองนี้เมื่อถึงยุคที่สามได้กลายเป็นเมืองร้าง) ทำให้ผืนป่าเอเน็ดไวธ์กลายเป็นที่ราบกว้างใหญ่ดังที่ปรากฏในยุคที่สาม คงเหลือเขตป่าเพียงเล็กน้อยอันเป็นที่อยู่อาศัยของชาวดันแลนด์ ตอนกลางของแผ่นดินเอเรียดอร์ ถูกบุกเบิกโดยชาวฮอบบิทนักผจญภัยสองคน และต่อมาได้กลายเป็นอาณาจักรไชร์ มีถนนสายสำคัญตัดผ่านกลางเอเรียดอร์สองสาย ได้แก.

ใหม่!!: กอนดอร์และเอเรียดอร์ · ดูเพิ่มเติม »

เอเลนดิล

อเลนดิล (Elendil) เป็นตัวละครตัวหนึ่งในปกรณัมของ เจ. อาร์. อาร์. โทลคีน ปรากฏในนิยายเรื่อง เดอะลอร์ดออฟเดอะริงส์ ซิลมาริลลิออน และ Unfinished Tales เขาเป็นบิดาของอิซิลดูร์ และ อนาริออน เป็นผู้ก่อตั้งอาณาจักรอาร์นอร์และกอนดอร์ อาณาจักรของชาวดูเนไดน์บนมิดเดิ้ลเอิร์ธ เอเลนดิลเกิดในปีที่ 3119 ของยุคที่สอง เขาเป็นบุตรของอามันดิล เจ้าผู้ครองนครอันดูนิเอ และผู้นำเหล่า'ผู้ศรัทธา' ที่ยังมีสัมพันธไมตรีอันดีกับพวกเอลฟ์ ในยุคที่นูเมนอร์ภายใต้การปกครองของอาร์-ฟาราโซน แข็งข้อกับปวงเทพและเป็นอริกับพวกเอลฟ์ ชื่อของเอเลนดิลในภาษาเควนยา แปลได้สองความหมาย คือ 'สหายเอลฟ์' หรือ 'ผู้รักดวงดาว' เอเลนดิลกับบุตรทั้งสอง คืออิซิลดูร์และอนาริออน หนีรอดจากการล่มสลายของเกาะนูเมนอร์ แล้วมาก่อตั้งอาณาจักรมนุษย์ขึ้นใหม่บนแผ่นดินมิดเดิลเอิร์ธ พวกเขานำสมบัติทรงคุณค่าหลายอย่างติดตัวมาด้วย เช่น พาลันเทียร์ หน่ออ่อนของนิมล็อธพฤกษาขาว และสมบัติประจำราชวงศ์อีกหลายอย่างเช่น แหวนของบาราเฮียร์ เป็นต้น เอเลนดิลปกครองอาณาจักรอาร์นอร์ ตั้งเมืองหลวงอยู่ที่นครอันนูมินัส ขณะที่บุตรทั้งสองคืออิซิลดูร์และอนาริออนปกครองกอนดอร์ โดยสร้างเมืองหลวงที่ออสกิเลียธ และสร้างราชวังของแต่ละคนไว้ที่มินัสอิธิล และมินัสอะนอร์ ตามลำดับ ในช่วงปลายยุคที่สอง เอเลนดิลร่วมมือกับกิล-กาลัด จอมกษัตริย์โนลดอร์องค์สุดท้าย จัดตั้งกองทัพผสมระหว่างเอลฟ์กับมนุษย์ ทำสงครามกับเซารอน เรียกชื่อว่า สงครามแห่งพันธมิตรครั้งสุดท้าย เซารอนได้ออกมารบด้วยตัวเอง และสังหารทั้งเอเลนดิลและกิล-กาลัดสิ้นพระชนม์ในที่รบ ดาบนาร์ซิล ของเอเลนดิล แตกออกเป็นเสี่ยงๆ อิซิลดูร์คว้าดาบหักนั้นขึ้นมา และสามารถตัดนิ้วของเซารอนที่สวมแหวนเอกธำมรงค์ ทำให้เซารอนสิ้นอำนาจและพ่ายแพ้ไปในการศึกครั้งนั้น ตราประจำพระองค์ของเอเลนดิล คือภาพนิมลอธพฤกษาขาว มีดวงดาราเจ็ดดวง อันเป็นสัญลักษณ์แทนเรือเจ็ดลำที่บรรทุกพาลันเทียร์ขณะหนีออกจากการล่มสลายของนูเมนอร์ และสามารถหนีรอดมาถึงชายฝั่งมิดเดิ้ลเอิร์ธ ด้านบนสุดมีรูปมงกุฏปีก ตราสัญลักษณ์นี้ ภายหลังได้กลายเป็นตราสัญลักษณ์ของอาณาจักรกอนดอร.

ใหม่!!: กอนดอร์และเอเลนดิล · ดูเพิ่มเติม »

เจ. อาร์. อาร์. โทลคีน

. อาร.

ใหม่!!: กอนดอร์และเจ. อาร์. อาร์. โทลคีน · ดูเพิ่มเติม »

เดอะลอร์ดออฟเดอะริงส์

อะลอร์ดออฟเดอะริงส์ (The Lord of the Rings) เป็นนิยายแฟนตาซีขนาดยาว ประพันธ์โดยศาสตราจารย์ชาวอังกฤษ เจ. อาร์. อาร์. โทลคีน เป็นนิยายที่ต่อเนื่องกับนิยายชุดก่อนหน้านี้ของโทลคีน คือ เรื่อง There and Back Again หรือที่รู้จักกันดีอีกชื่อหนึ่งว่า เดอะฮอบบิท แต่ได้ขยายโครงเรื่องซับซ้อนไปกว่า เดอะฮอบบิท มาก โทลคีนแต่งเรื่องนี้ขึ้นในช่วงปี..

ใหม่!!: กอนดอร์และเดอะลอร์ดออฟเดอะริงส์ · ดูเพิ่มเติม »

ขาออกขาเข้า
Hey! เราอยู่ใน Facebook ตอนนี้! »