โลโก้
ยูเนี่ยนพีเดีย
การสื่อสาร
ดาวน์โหลดได้จาก Google Play
ใหม่! ดาวน์โหลด ยูเนี่ยนพีเดีย บน Android ™ของคุณ!
ฟรี
เร็วกว่าเบราว์เซอร์!
 

ปืนใหญ่

ดัชนี ปืนใหญ่

ปืนใหญ่ หมายถึง อาวุธปืนที่มีความกว้างปากลำกล้องตั้งแต่ 20 มิลลิเมตรขึ้นไป โดยมีระยะยิงกลางถึงไกล มีอำนาจทำลายล้างสูง ใช้การยิงหัวกระสุนด้วยแรงดันจากการเผาไหม้ดินส่งกระสุนให้เกิดก๊าซจนเคลื่อนที่ออกไป โดยสามารถทำการยิงได้ทั้งแนววิถีราบหรือวิถีโค้ง โดยภายในหัวกระสุนจะบรรจุวัตถุระเบิดและตัวจุดชนวน เมื่อหัวกระสุนตกกระทบเป้าหมายจะเกิดการระเบิดสร้างความเสียหายอย่างรุนแรง.

100 ความสัมพันธ์: ชอกเวฟ (ทรานส์ฟอร์มเมอร์ส)ชุมนุมเจ้าพระฝางบีทีอาร์-3พระยาฤทธิอัคเนย์ (สละ เอมะศิริ)พระราชพิธีบรมราชาภิเษกในพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชพระราชพิธีอาพาธพินาศพระเจ้าอลองพญาพฤหัสเจ้าศาสตราพัลลภ ปิ่นมณีพิธีถวายสัตย์ปฏิญาณตนและสวนสนามของทหารรักษาพระองค์กรณีพิพาทพรมแดนไทย–กัมพูชากรณีมุกเดนกร็อง-ปลัสกองทัพบกกองทัพบกไทยกองทัพสมาพันธรัฐเยอรมนีกองทัพสิงคโปร์กองทัพอาณาจักรพม่ากองทัพคองเกรสโปแลนด์กองทัพประชาชนมองโกเลียการบุกครองเกาหลีของญี่ปุ่น (ค.ศ. 1592–98)การสงครามสมัยใหม่ตอนต้นมหาสงครามเหนือมุมทิศมุขป้อมมีเกเล ซานมีเกลีมนตรี สังขทรัพย์ยศทหารกองทัพจักรวรรดิรัสเซียยาโรสลาฟล์ยุทธการที่แอตแลนตาระเบิดราชวงศ์ชิงรายชื่อลักษณนามในภาษาจีนรายชื่อสถานที่ท่องเที่ยวในจังหวัดลพบุรีรายชื่อสถานที่ท่องเที่ยวในประเทศไทยรายชื่อธงประจำจังหวัดของไทยรายชื่อตอนในทีน ไททันส์รายชื่อตัวละครในเพชรพระอุมารายชื่อตัวละครในเทพมรณะรายชื่อตัวละครในเดกะเรนเจอร์รถถังศูนย์การทหารปืนใหญ่สมรภูมิบ้านร่มเกล้าสีเหลืองสงครามกลางเมืองจีนสงครามอังกฤษ–แซนซิบาร์สงครามอิตาลี-อะบิสซิเนียครั้งที่สองสงครามเวียดนามสเปซ มารีนส์อาวุธปืน...อาสนวิหารเลอปุย-อ็อง-เวอแลอานัมสยามยุทธอุณหพลศาสตร์อุซปอี ซุน-ชินอนันตพร กาญจนรัตน์อนุสาวรีย์ประชาธิปไตยฮูโก้ กัทมันนท์ผ่ากฎอลเวงจรวดจิรเดช คชรัตน์ทหารทหารรักษาพระองค์ทำเนียบกำลังรบในยุทธการที่เดียนเบียนฟูที-54/55คาบูลคิโดะ ทะกะโยะชิตราประจำจังหวัดของไทยซามูไรซีเอช-53 ซีสตัลเลียนปืนปืนคาบศิลาปืนต่อสู้รถถังปืนใหญ่อัตตาจรปืนใหญ่อัตตาจรอาร์เชอร์ปืนใหญ่อัตตาจรซีซาร์ปืนใหญ่จอมสลัดปืนเล็กยาวจู่โจมป้อมชยครห์ป้อมดาวนิกโกเลาะ ปากานีนีแอนน์แห่งเดนมาร์ก สมเด็จพระราชินีแห่งอังกฤษแคนนอน (แก้ความกำกวม)แปลก พิบูลสงครามแนวรบด้านตะวันออก (สงครามโลกครั้งที่สอง)โรงเรียนนายสิบทหารบกโทกูงาวะ โยชิโนบุไซโง ทะกะโมะริเมืองยองเรือรบเรือรบอวกาศยามาโตะเรือประจัญบานเรือประจัญบานยะมะโตะเหตุการณ์สะพานมาร์โค โปโลเออแฌน วียอแล-เลอ-ดุกเจมส์ วัตต์เจ้าฟ้าเสือห่มเมืองเจ้าพระยาสุรวงษ์วัฒนศักดิ์ (โต บุนนาค)1812 โอเวอร์เชอร์7 เมษายน ขยายดัชนี (50 มากกว่า) »

ชอกเวฟ (ทรานส์ฟอร์มเมอร์ส)

อกเวฟ (Shockwave) เป็นชื่อตัวละครหุ่นยนต์ฝ่ายเดสทรอน หรือ ดีเซปติคอนส์ จากการ์ตูนชุดเรื่อง ทรานส์ฟอร์มเมอร์ส (Transformers).

ใหม่!!: ปืนใหญ่และชอกเวฟ (ทรานส์ฟอร์มเมอร์ส) · ดูเพิ่มเติม »

ชุมนุมเจ้าพระฝาง

รูปหล่อบุคคลในพิพิธภัณฑ์วัดพระฝาง ซึ่งชาวบ้านเชื่อว่าเป็นรูปหล่อของเจ้าพระฝาง (เรือน) อดีตผู้นำชุมนุมอิสระหลังเสียกรุงศรีอยุธยาครั้งที่สองธีระวัฒน์ แสนคำ. (2559). "'''ศึกเจ้าพระฝาง พ.ศ. 2313: สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช กับการปราบ "พวกสงฆ์อลัชชี" ที่เมืองสวางคบุรี'''," ใน ''ศิลปวัฒนธรรม''. ปีที่ 37 ฉบับที่ 5 มีนาคม ชุมนุมเจ้าพระฝาง เป็นชุมนุมอิสระภายหลังการเสียกรุงศรีอยุธยาครั้งที่สอง ในปี พ.ศ. 2310 โดยมีผู้นำชุมนุมเป็นพระสงฆ์ คือ พระพากุลเถระ (มหาเรือน) พระสังฆราชาแห่งเมืองสวางคบุรี (ฝาง) ชุมนุมดังกล่าวสิ้นสุดลงเมื่อสมเด็จพระเจ้ากรุงธนบุรีทรงยกทัพมาปราบปราม เมื่อ พ.ศ. 2313 โดยชุมนุมเจ้าพระฝาง เป็นชุมนุมอิสระสุดท้ายหลังเสียกรุงศรีอยุธยาครั้งที่ 2 โดยเฉพาะอย่างยิ่งการศึกปราบชุมนุมก๊กเจ้าพระฝางได้นั้น นับเป็นการพระราชสงครามสุดท้ายที่ ทำให้สมเด็จพระเจ้ากรุงธนบุรีทรงบรรลุพระราชภารกิจสำคัญ ในการรวบรวมพระราชอาณาเขตให้เป็นปึกแผ่นหนึ่งเดียวดังเดิมหลังภาวะจลาจลเสียกรุงศรีอยุธยาแก่พม่า ในปี พ.ศ. 2310 และนับเป็นการสถาปนากรุงธนบุรีได้อย่างเบ็ดเสร็จสมบูรณ์ เมื่อสำเร็จศึกปราบชุมนุมก๊กเจ้าพระฝาง ในปี พ.ศ. 2313.

ใหม่!!: ปืนใหญ่และชุมนุมเจ้าพระฝาง · ดูเพิ่มเติม »

บีทีอาร์-3

BTR-3U พ่นสีพรางสำหรับการรบในทะเลทราย บีทีอาร์-3 (BTR-3) เป็นรถลำเลียงพลหุ้มเกราะแบบล้อยาง ขนาด 8×8 ล้อ ผลิตโดยบริษัท Kharkiv Morozov Machine Building Design Bureau (KMDB) จากประเทศยูเครน ได้รับการออกแบบโดยบริษัท ADCOM Manufacturing จากสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ปัจจุบันมีประจำการอยู่ใน อาเซอร์ไบจาน ชาด คาซัคสถาน กองทัพพม่า สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ กองทัพบกไทย และไนจีเรีย ตัวรถมีน้ำหนัก 16.4 ตัน บรรทุกพลขับ 3 นาย และลำเลียงพลอีก 6 นาย ใช้เครื่องยนต์ดีเซล Deutz AG ขนาด 326 แรงม้าของเยอรมนี สามารถวิ่งด้วยความเร็วสูงสุด 85 กิโลเมตรต่อชั่วโมง อาวุธหลักประกอบด้วยปืนใหญ่ขนาด 30 มม.

ใหม่!!: ปืนใหญ่และบีทีอาร์-3 · ดูเพิ่มเติม »

พระยาฤทธิอัคเนย์ (สละ เอมะศิริ)

ันเอก พระยาฤทธิอัคเนย์ สมาชิกคณะราษฎรผู้ทำการเปลี่ยนแปลงการปกครอง เมื่อ พ.ศ. 2475 จัดเป็น 1 ใน "4 ทหารเสือ" คือ ทหารบกชั้นผู้ใหญ่ เป็นระดับผู้บังคับบัญชาและคุมกำลังพล ซึ่งประกอบด้วย พระยาพหลพลพยุหเสนา, พระยาทรงสุรเดช, พระยาฤทธิอัคเนย์ และพระประศาสน์พิทยายุทธ พระยาฤทธิอัคเนย์ มีชื่อเดิมว่า สละ เอมะศิริ เกิดเมื่อวันที่ 14 มกราคม พ.ศ. 2432 เป็นบุตรชายของพระยามนูสารศาสตรบัญชา (ศิริ เอมะศิริ) และคุณหญิง เหลือบ เอมะศิริ พระยาฤทธิอัคเนย์เป็นนายทหารปืนใหญ่ ในช่วงการเปลี่ยนแปลงการปกครอง มีตำแหน่งเป็น ผู้บังคับการกรมทหารปืนใหญ่ที่ 1 รักษาพระองค์ (ป. 1 รอ.) และถือเป็นผู้เดียวที่มีกองกำลังพลในบังคับบัญชา ในเช้าตรู่ของวันที่ 24 มิถุนายน..

ใหม่!!: ปืนใหญ่และพระยาฤทธิอัคเนย์ (สละ เอมะศิริ) · ดูเพิ่มเติม »

พระราชพิธีบรมราชาภิเษกในพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช

ระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ทรงเครื่องบรมราชาภิเษก พระราชพิธีบรมราชาภิเษกในพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช เป็นพระราชพิธีบรมราชาภิเษก สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช เป็น พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช มหิตลาธิเบศรรามาธิบดี จักรีนฤบดินทร สยามินทราธิราช บรมนาถบพิตร ระหว่างวันที่ 4 - 8 พฤษภาคม พุทธศักราช 2493 ปรากฏบันทึกรายละเอียดไว้ ดังนี้.

ใหม่!!: ปืนใหญ่และพระราชพิธีบรมราชาภิเษกในพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช · ดูเพิ่มเติม »

พระราชพิธีอาพาธพินาศ

ระราชพิธีอาพาธพินาศ เป็นพระราชพิธีที่เกิดขึ้นในต้นกรุงรัตนโกสินทร์ ในพุทธศักราช ๒๓๖๓ ในรัชสมัยรัชกาลที่ ๒ เมื่อเกิดอหิวาตกโรคระบาดทั่วพระนคร มีผู้คนล้มตายเป็นจำนวนมากจนเผาศพแทบไม่ทัน ศพกองสุมกันอยู่ที่วัดสระเกศ และมีอีแร้งลงมาจิกกินเป็นที่น่าสังเวชใจเป็นอย่างมาก จนมีคำกล่าวว่า "แร้งวัดสระเกศ" มีจดหมายเหตุเล่าถึงการะบาดของอหิวาตกโรคในครั้งนั้นว่า พระราชพิธีนี้จึงเกิดขึ้นเพื่อปลุกปลอบใจราษฎร และเป็นการปัดรังควานแก่พระนคร โดยประกอบพิธีที่พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาทคล้ายพระพิธีตรุษ มีการยิงปืนใหญ่รอบพระนครตลอดคืน มีการอัญเชิญพระพุทธมหามณีรัตนปฏิมากร (พระแก้วมรกต) และพระบรมสารีริกธาตุออกจากที่ประดิษฐานภายในพระอุโบสถพระบรมมหาราชวังแห่รอบพระนคร นับเป็นครั้งแรกที่มีการอัญเชิญพระพุทธมหามณีรัตนปฏิมากรออกจากที่ประดิษฐานเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์นับตั้งแต่อัญเชิญมาประดิษฐานไว้ในกรุงรัตนโกสินทร์นี้ มีการนิมนต์สมเด็จพระสังฆราช (สมเด็จพระอริยวงษญาณ สมเด็จพระสังฆราช (มี)) และพระสงฆ์รูปอื่น ๆ จำนวน ๕๐๐ รูป สวดพระปริตรประพรมน้ำพระปริตรไปในขบวนแห่นั้นด้วย องค์พระเจ้าอยู่หัวก็ทรงรักษาศีล สละพระราชทรัพย์ ซื้อชีวิตสัตว์สี่เท้าสองเท้า ปล่อยนักโทษ และห้ามราษฎรทำปาณาติบาต หลังพระราชพิธีนี้เสร็จ ฝนก็ตกลงมาห่าใหญ่ อหิวาตกโรคระบาดหนักอยู่ ๑๕ วัน ก็ค่อยหายไป หลังจากเกิดอหิวาตกโรคในครานั้น พระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัยทรงสังเวชสลดพระราชหฤทัยที่กรรมบันดาลให้เกิดภัยพิบัติแก่ไพร่ฟ้าข้าแผ่นดินเป็นอันมาก จึงทรงบำเพ็ญพระราชกุศลหลายอย่างหลายประการ.

ใหม่!!: ปืนใหญ่และพระราชพิธีอาพาธพินาศ · ดูเพิ่มเติม »

พระเจ้าอลองพญา

ระบรมราชานุสาวรีย์ของพระเจ้าอลองพญาที่หน้าพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติใน นครย่างกุ้ง พระบรมราชานุสาวรีย์พระเจ้าอลองพญา พระเจ้าอลองพญา หรือ พระเจ้าอลองพญารี (Alaungpaya, အလောင်းမင်းတရား พระนามของพระองค์ออกสำเนียงเป็นภาษาพม่าว่า "อลองเมงตะยาจี" หรือ "อลองพะ" มีความหมายว่า "พระโพธิสัตว์"; สิงหาคม ค.ศ. 1714 — 11 พฤษภาคม ค.ศ. 1760) เป็นพระมหากษัตริย์พม่าระหว่างวันที่ 21 มีนาคม..

ใหม่!!: ปืนใหญ่และพระเจ้าอลองพญา · ดูเพิ่มเติม »

พฤหัสเจ้าศาสตรา

หัสเจ้าศาสตรา เป็นหนังสือเล่มที่ 4 ในหนังสือชุด "อาณาจักรแห่งกาลเวลา" เป็นหนังสือประเภท วรรณกรรมนวนิยายแฟนตาซี ของการ์ธ นิกซ์ นักเขียนชาวออสเตรเลีย ปัจจุบันได้รับการแปลเป็นภาษาไทยแล้ว โดยสำนักพิมพ์แจ่มใส ปัจจุบันออกจำหน่ายแล้ว 6 เล่ม อีก 5 เล่มคือ จันทร์มหันตภัย อังคารอหังการ พุธเพชฌฆาต ศุกร์รัตติกาล และเสาร์มนตร.

ใหม่!!: ปืนใหญ่และพฤหัสเจ้าศาสตรา · ดูเพิ่มเติม »

พัลลภ ปิ่นมณี

ล.อ.พัลลภ ปิ่นมณี พลเอก พัลลภ ปิ่นมณี ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี (นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร) อดีตรองผู้อำนวยการกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายใน ฝ่ายการเมือง (กอ.รมน.) และที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เกิดเมื่อวันที่ 25 พฤษภาคม พ.ศ. 2479 ที่อำเภอสามพราน จังหวัดนครปฐม มีชื่อเดิมว่า อำนาจ ปิ่นมณี สำเร็จการศึกษาชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 (ม.6) จากโรงเรียนอำนวยศิลป์ พระนคร แล้วเข้าศึกษาต่อโรงเรียนเตรียมนายร้อยทหารบก รุ่นที่ 14 และจบการศึกษาจากโรงเรียนนายร้อยพระจุลจอมเกล้า (จปร.7 รุ่นเดียวกับ พลตรีจำลอง ศรีเมือง, พล.ต.มนูญกฤต รูปขจร, พันเอก (พิเศษ) ประจักษ์ สว่างจิตร) และโรงเรียนเสนาธิการทหารบก ชุดที่ 49.

ใหม่!!: ปืนใหญ่และพัลลภ ปิ่นมณี · ดูเพิ่มเติม »

พิธีถวายสัตย์ปฏิญาณตนและสวนสนามของทหารรักษาพระองค์

ีถวายสัตย์ปฏิญาณตนและสวนสนาม ของทหารรักษาพระองค์ พิธีถวายสัตย์ปฏิญาณตนและสวนสนามของทหารรักษาพระองค์ จัดขึ้นครั้งแรกในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช เมื่อปี พ.ศ. 2496 และเริ่มจัดพิธีนี้อย่างต่อเนื่องนับตั้งแต่ พ.ศ. 2504 เนื่องในวโรกาส วันเฉลิมพระชนพรรษาพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช จนถึงปี 2558.

ใหม่!!: ปืนใหญ่และพิธีถวายสัตย์ปฏิญาณตนและสวนสนามของทหารรักษาพระองค์ · ดูเพิ่มเติม »

กรณีพิพาทพรมแดนไทย–กัมพูชา

วามขัดแย้งไทย-กัมพูชา เป็นเหตุการณ์ที่เริ่มต้นในเดือนมิถุนายน..

ใหม่!!: ปืนใหญ่และกรณีพิพาทพรมแดนไทย–กัมพูชา · ดูเพิ่มเติม »

กรณีมุกเดน

ในวันที่ 18 กันยายน ค.ศ. 1931 ใกล้กับเมืองมุกเดน (หรือ เสิ่นหยางในปัจจุบัน) ทางแมนจูเรียตอนใต้ ส่วนหนึ่งของรางรถไฟซึ่งกองทัพญี่ปุ่นยังคงยึดครองอยู่ในขณะนั้นเกิดการระเบิดขึ้น กองทัพญี่ปุ่นจึงได้ใช้ข้ออ้างดังกล่าวในการรุกรานแมนจูเรีย และนำไปสู่การก่อตั้งแมนจูกัวในปีต่อมา ซึ่งเหตุการณ์ครั้งนี้เป็นส่วนหนึ่งของการรบในสงครามจีน-ญี่ปุ่นครั้งที่สอง ถึงแม้ว่าสงครามครั้งนี้จะปะทุขึ้นมาในปี ค.ศ. 1937 ก็ตาม เหตุการณ์ดังกล่าวมีชื่อเรียกกันหลายแบบ เช่น กรณีมุกเดน (Mukden Incident) ในญี่ปุ่นเรียก กรณีแมนจูเรีย (Manchurian Incident, 滿洲事變 หรือ 満州事変) ส่วนในจีนเรียก เหตุการณ์ 18 กันยายน (九•一八事变/九•一八事變 → Jiǔyībā Shìbiàn) หรือ เหตุการณ์หลิ่วเถียวโกว (柳条沟事变/柳條溝事變 → Liǔtiáogōu Shìbiàn).

ใหม่!!: ปืนใหญ่และกรณีมุกเดน · ดูเพิ่มเติม »

กร็อง-ปลัส

ัตุรัสหลักแห่งบรัสเซลส์ หรือ กร็อง-ปลัสเดอบรูว์แซล (Grand-Place de Bruxelles) และ โกรเทอมาคท์ (Grote Markt) คือจัตุรัสกลางบรัสเซลส์ซึ่งรายล้อมด้วยเหล่าอาคารเก่าอันสวยงามและกลมกลืนกันทางสถาปัตยกรรม และถือว่าเป็นจัตุรัสที่สวยที่สุดในโลก โดยเฉพาะออแตลเดอวีล (Hôtel de Ville de Bruxelles) และแมซงดูว์รัว (Maison du Roi) จัตุรัสแห่งนี้ถือเป็นบริเวณที่สำคัญที่สุดในการท่องเที่ยวและยังถือเป็นจุดหมายตาที่สำคัญแห่งหนึ่งของเบลเยียมอีกด้วย กร็อง-ปลัสแห่งนี้มีขนาดความกว้าง 68 เมตร ยาว 110 เมตร ในปัจจุบัน จัตุรัสแห่งนี้ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกทางวัฒนธรรมโดยองค์การยูเนสโก.

ใหม่!!: ปืนใหญ่และกร็อง-ปลัส · ดูเพิ่มเติม »

กองทัพบก

กองทัพบก คือกองกำลังทหารที่ปฏิบัติการในภาคพื้นดินเป็นหลัก มีหน้าที่ป้องกันและปฏิบัติการรบในภาคพื้นดิน กองทัพบกนับเป็นกองกำลังทหารที่กำเนิดขึ้นเป็นประเภทแรก หน่วยรบหลักในกองทัพบกแบ่งออกเป็น 3 เหล่าคือ.

ใหม่!!: ปืนใหญ่และกองทัพบก · ดูเพิ่มเติม »

กองทัพบกไทย

กองทัพบกไทย (คำย่อ: ทบ.; Royal Thai Army) เป็นเหล่าทัพที่มีประวัติความเป็นมายาวนานที่สุดและมีขนาดใหญ่ที่สุดของกองทัพไทย ก่อตั้งเป็นกองทัพสมัยใหม่ขี้นในปี พ.ศ. 2417.

ใหม่!!: ปืนใหญ่และกองทัพบกไทย · ดูเพิ่มเติม »

กองทัพสมาพันธรัฐเยอรมนี

กองทัพสมาพันธรัฐเยอรมนี (Deutsches Bundesheer) เป็นกองทัพของสมาพันธรัฐเยอรมนี สถาปนาขึ้นเมื่อ ค.ศ. 1815 - ค.ศ. 1866 โดยมีรากฐานจากการรวมกันของกองทหารรัฐต่างๆในสมาพันธรัฐเยอรมัน - มีหน้าที่ปกป้องดินแดน พิทักษ์อธิปไตยของสมาพันธรัฐจากศัตรูผู้รุกราน ในช่วงก่อตั้งฝรั่งเศสได้ส่งกองทัพเข้าร่วมทำสงครามต่อต้านจักรพรรดิโรมันอันศักดิ์สิทธิ์, ทั้งนี้รัสเซีย เข้ามามีบทบาทในระหว่างการผนวกดินแดนของชาวสลาฟ.

ใหม่!!: ปืนใหญ่และกองทัพสมาพันธรัฐเยอรมนี · ดูเพิ่มเติม »

กองทัพสิงคโปร์

กองทัพสิงคโปร์ (Angkatan Tentera Malaysia-SAF,Angkatan Bersenjata Singapura-ABS, จีน: 新加坡武装部队) เป็นกองทัพในสังกัดกระทรวงกลาโหม โดยกองทัพสิงคโปร์นั้น ประกอบไปด้วยสามเหล่าทัพ คือ กองทัพบก กองทัพเรือ และกองทัพอากาศ ซึ่งมีหน้าที่ปกป้องผลประโยชน์ของอำนาจอธิปไตย และบูรณภาพดินแดนของสิงคโปร์จากภัยคุกคามภายนอก.

ใหม่!!: ปืนใหญ่และกองทัพสิงคโปร์ · ดูเพิ่มเติม »

กองทัพอาณาจักรพม่า

กองทัพอาณาจักรพม่า (တပ်မတော်) เป็นกองกำลังทหารพม่าราชาธิปไตย ตั้งแต่ศตวรรษที่ 9 ถึง ศตวรรษที่ 19.

ใหม่!!: ปืนใหญ่และกองทัพอาณาจักรพม่า · ดูเพิ่มเติม »

กองทัพคองเกรสโปแลนด์

กองทัพคองเกรสโปแลนด์ เป็นกองกำลังทหารของคองเกรสโปแลน.

ใหม่!!: ปืนใหญ่และกองทัพคองเกรสโปแลนด์ · ดูเพิ่มเติม »

กองทัพประชาชนมองโกเลีย

กองทัพประชาชนมองโกเลีย (Монголын Ардын Арми หรือ Монгол Ардын Хувьсгалт Цэрэг) มีชื่อเรียกอย่างเป็นทางการว่า กองทัพปฎิวัติประชาชนมองโกเลีย ก่อตั้งขึ้นเมื่อวันที่ 18 มีนาคม ค.ศ. 1921 ภายใต้การบังคับบัญชาของกองทัพแดง ในช่วงทศวรรษที่ 1920.

ใหม่!!: ปืนใหญ่และกองทัพประชาชนมองโกเลีย · ดูเพิ่มเติม »

การบุกครองเกาหลีของญี่ปุ่น (ค.ศ. 1592–98)

การรุกรานเกาหลีของญี่ปุ่น คือ เหตุการณ์สู้รบบนคาบสมุทรเกาหลีและยุทธการที่เกิดขึ้นตามมา ในช่วงระหว่าง..

ใหม่!!: ปืนใหญ่และการบุกครองเกาหลีของญี่ปุ่น (ค.ศ. 1592–98) · ดูเพิ่มเติม »

การสงครามสมัยใหม่ตอนต้น

การสงครามสมัยใหม่ตอนต้น (Early modern warfare) สัมพันธ์กับการที่เริ่มมีการใช้ดินปืนอย่างแพร่หลายและการพัฒนาอาวุธที่เหมาะจะใช้ระเบิด ซึ่งรวมถึงปืนใหญ่และปืนที่ใช้มือถือ (handgun) เช่น ปืนไฟ และต่อมา คือ ปืนคาบศิลา ด้วยเหตุนี้ ยุคนี้จึงสรุปได้ว่าเป็นยุคแห่งการสงครามดินปืน ก่อนหน้าคริสต์ศตวรรษที่ 15 มีการใช้ดินปืนน้อยมาก แต่เปลี่ยนมาใช้ทั่วไปในสมัยใหม่ตอนต้น โดยพบใช้มากที่สุดระหว่างสงครามนโปเลียน ตั้งแต..

ใหม่!!: ปืนใหญ่และการสงครามสมัยใหม่ตอนต้น · ดูเพิ่มเติม »

มหาสงครามเหนือ

มหาสงครามเหนือ (Great Northern War; Северная война; Stora nordiska kriget) เป็นสงครามครั้งใหญ่ที่เกิดขึ้นในเดือนกุมภาพันธ์ ปีคริสต์ศักราชที่ 1700 ต่อเนื่องไปจนถึงวันที่ 10 กันยายน ปีคริสต์ศักราช 1721 รวมระยะเวลาทั้งหมดเป็น 21 ปี นำโดยจักรวรรดิรัสเซียแห่งฝ่ายพันธมิตรเข้าปะทะกับจักรวรรดิสวีเดนในภูมิภาคยุโรปกลางและยุโรปเหนือ ก่อนจะนำมาด้วยชัยชนะของฝ่ายพันธมิตรและการก้าวขึ้นมามีอำนาจสูงสุดของรัสเซียเหนือคาบสมุทรบอลติก รวมถึงการเข้ามามีอิทธิพลในยุโรปของรัสเซียจวบจนปัจจุบัน ส่วนสวีเดนต้องตกอยู่ใต้ "ยุคแห่งเสรีภาพ" อันมีระบบรัฐสภาปกครองประเทศอันเนื่องมาจากเหตุสวรรคตของพระเจ้าชาลส์ที่ 12นำไปสู่ยุคไร้พระมหากษัตริย์ของสวีเดนถึง 54 ปี สงครามนี้นำด้วยกองทหารสองเหล่าทัพ โดยมีฝ่ายสัมพันธมิตรเป็นผู้เปิดฉากต่อสู้ก่อน นำโดยพระเจ้าปีเตอร์มหาราชแห่งรัสเซีย พระเจ้าเฟรเดอริคที่ 4 แห่งเดนมาร์ก-นอร์เวย์ และพระเจ้าออกัสตัสที่ 2 แห่งแซกซ์-โปแลนด์-ลิทัวเนีย ซึ่งต่อมาได้ถอนกำลังออกในปี ค.ศ. 1700 และปี ค.ศ. 1706 ตามลำดับ แต่ในปี ค.ศ. 1709ก็ได้นำกองทัพเข้ามาสมทบต่อจนสิ้นสงคราม นอกจากนี้ยังมี พระเจ้าจอร์จที่ 1นำทัพจากฮาโนเวอร์เข้ามาร่วมสงครามในปี ค.ศ. 1714 และได้นำทัพจากบริเตนใหญ่เข้ามาสมทบภายหลังในปี ค.ศ. 1717 รวมทั้งพระเจ้าฟรีดริช วิลเฮล์มที่ 1 แห่งบรานเดนบูร์ก-ปรัสเซียที่นำกองทัพเข้ามาสมทบในปี ค.ศ. 1715 อีกด้วย ส่วนทางด้านฝ่ายสวีเดนนั้นนำด้วยพระเจ้าชาลส์ที่ 12 โดยมีกองทัพแห่งโฮลชไตน์-ก็อธธอร์ป รวมทั้งทัพโปแลนด์-ลิทัวเนียที่นำโดยกษัตริย์สตานิสลอว เลซซิงสกีในปี ค.ศ. 1704 ถึงปี ค.ศ. 1710 และกองทัพคอสแซคภายใต้การนำทัพของอีวาน มาเซปปา รองผู้บัญชาการทัพสูงสุดแห่งชนชาติยูเครน รวมถึงสุลต่านอาห์เมดที่นำทัพออตโตมันร่วมสงครามกับฝ่ายสวีเดนแล้วมุ่งหน้าปะทะกับกองทัพรัสเซียเป็นหลักอีกด้วย สงครามเปิดฉากด้วยการที่กองทัพพันธมิตรแห่งเดนมาร์ก-นอร์เวย์ แซกโซนี โปแลนด์-ลิทัวเนีย และรัสเซียกรีฑาทัพเข้าโจมตีโฮลชไตน์-ก็อธธอร์ป ลิโวเนีย และอินเกรียอันเป็นดินแดนของจักรวรรดิสวีเดนซึ่งอยู่ภายใต้การปกครองของพระเจ้าชาลส์ที่ 12ที่ในสมัยนั้นยังทรงพระเยาว์ จึงขาดความรู้และประสบการณ์เป็นอย่างมาก ฝ่ายสวีเดนจึงได้แต่ตั้งหน้ารับการโจมตีของฝ่ายพันธมิตรอยู่ท่าเดียว จนกระทั่งยุทธการนั้นจบลงด้วยสนธิสัญญาสงบศึกแห่งทราเวนดอล นับตั้งแต่นั้นมหาสงครามเหนือก็ได้เริ่มขึ้น และกลายเป็นสงครามที่ยิ่งใหญ่ครั้งหนึ่งๆ ในประวัติศาสตร์ยุโรปเลยทีเดียว หลังจากระยะสงครามที่ยืดเยื้อมาถึง 21 ปีแล้ว จักรวรรดิสวีเดนได้เริ่มทำสนธิสัญญาสตอกโฮล์มเพื่อสงบศึกกับฮาโนเวอร์และปรัสเซียในปี ค.ศ. 1719 ต่อมาในปี ค.ศ. 1720 ได้ทำสนธิสัญญาสงบศึกเฟรเดริกส์เบิร์กกับฝั่งเดนมาร์ก-นอร์เวย์ แต่ก็ยังยืนกรานที่จะเปิดสงครามกับรัสเซียต่อไป จนกระทั่งปี ค.ศ. 1721 สวีเดนแพ้สงครามในที่สุด จนสวีเดนต้องทำสนธิสัญญาสงบศึกนีสตาดกับรัสเซีย โดยสนธิสัญญาทั้งสามฉบับสวีเดนต้องเสียสินทรัพย์และดินแดนเป็นจำนวนไม่น้อยเป็นค่าปฏิกรรมสงครามเลยทีเดียว ท้ายที่สุดแล้วสวีเดนจึงต้องสูญเสียอำนาจในการปกครองดินแดนหลายๆ ส่วน นอกจากนั้นยังโดนลดอำนาจในคาบสมุทรบอลติกลงและยังต้องเปลี่ยนระบอบการปกครองเพราะสิ้นราชวงศ์ในสงครามอีกด้วย ส่วนรัสเซียนั้นหลังจบสงครามก็ได้เริ่มต้นยุคแห่งการแผ่ขยายอำนาจออกไปอย่างกว้างใหญ่ไพศาล ก่อนที่จะหยุดลงในสองศตวรรษหลังจากนั้นเอง แต่อิทธิพลของรัสเซียที่มีต่อยุโรปและต่อประชาคมโลกยังคงมีอยู่ แม้จะน้อยลงบ้างก็ตาม.

ใหม่!!: ปืนใหญ่และมหาสงครามเหนือ · ดูเพิ่มเติม »

มุมทิศ

มุมทิศ (สีน้ำเงิน) ที่ได้จากผู้สังเกต และดาวเหนือศีรษะ มุมทิศ ภาคทิศ หรือ แอซิมัท (azimuth) เป็นการวัดมุมในพิกัดทรงกลม เวกเตอร์จากผู้สังเกต (จุดกำเนิด) ไปยังจุดที่สนใจจะถูกฉายโดยตรง (ตั้งฉาก) ลงบนระนาบอ้างอิง มุมระหว่างเวกเตอร์จากการฉายและเวกเตอร์อ้างอิงบนระนาบอ้างอิงเรียกว่ามุมทิศ ตัวอย่างของมุมทิศคือการวัดตำแหน่งของดวงดาวบนท้องฟ้า ดาวเป็นจุดที่สนใจ ระนาบอ้างอิงคือขอบฟ้าหรือผิวน้ำ และอ้างอิงเวกเตอร์จากจุดทางทิศเหนือ มุมทิศคือมุมระหว่างจุดทิศเหนือและการฉายตั้งตรงของดาวลงสู่ขอบฟ้า โดยทั่วไปมุมทิศมีหน่วยเป็นองศา (°) แนวคิดของมุมทิศนำไปประยุกต์ใช้ได้หลากหลาย ทั้งในการเดินเรือ, การวัดตำแหน่งดาว, การทำแผนที่, การทำเหมือง และ การใช้ปืนใหญ่ คำว่า azimuth กลายมาจาก คำในภาษาอาหรับ: السمت as-simt แปลว่า ทิศทาง ซึ่งหมายถึงเส้นทางหรือทิศทางของบุคคลที่หันหน้าออกไป.

ใหม่!!: ปืนใหญ่และมุมทิศ · ดูเพิ่มเติม »

มุขป้อม

วาดแสดงส่วนที่ยื่นออกมาจากกำแพงที่เรียกว่า “มุขป้อม” บูร์แตงจ์ (Bourtange), โกรนนิงเก็น, เนเธอร์แลนด์ ซึ่งเป็นประเภทป้อมที่ใช้ระบบ “มุขป้อม” อย่างเต็มที่ มุขป้อม (Bastion) คือโครงสร้างที่ยื่นออกมาจากกำแพงเมืองหรือกำแพงปราสาทที่แบนราบของป้อมปราการ ที่ช่วยในการป้องกันการโจมตีจากข้าศึก และเป็นเครื่องมือสำหรับผู้ป้องกันปราสาทหรือเมืองในการโจมตีข้าศึกตรงที่เป็นกำแพงม่าน (Curtain wall) ระหว่างมุขป้อมสองมุข มุขป้อมสร้างขึ้นเพื่อทำให้การป้องกันเมืองหรือปราสาทจากผู้รุกรานเป็นไปได้ง่ายขึ้น ป้อมปราการก่อนหน้าที่จะมีมุขป้อมจำกัดการป้องกันการโจมตีได้เพียงช่วงสั้นๆ ที่ผู้ป้องกันไม่อาจะมองเห็นจากกำแพงที่แบนราบได้ไกลเท่าใดนัก มุขป้อมแก้ปัญหาดังกล่าวโดยใช้ปืนใหญ่ที่ตั้งอยู่บนป้อมในการยิงโจมตีในรัศมีของกำแพงม่าน.

ใหม่!!: ปืนใหญ่และมุขป้อม · ดูเพิ่มเติม »

มีเกเล ซานมีเกลี

มีเกเล ซานมีเกลี (อังกฤษ: Michele Sanmicheli, ค.ศ. 1484 – ค.ศ. 1559) เป็นสถาปนิกแห่งสาธารณรัฐเวนิสหรือประเทศอิตาลีในปัจจุบัน เกิดที่เมืองซานมีเกเล (San Michele) ใกล้เมืองเวโรนา (Verona) ซึ่งในขณะนั้นเป็นส่วนหนึ่งของสาธารณรัฐเวนิส เขาได้เรียนรู้ฝึกฝนการออกแบบและก่อสร้างจากพ่อของเขาที่ชื่อ โจวันนี และอา (หรือลุง) ของเขาชื่อ บาร์โตโลเมโอ ผู้ซึ่งเป็นสถาปนิกที่ประสบความสำเร็จในเมืองเวโรนา มีเกเลเองก็มีแนวทางการดำเนินวิชาชีพคล้ายกับจาโกโป ซานโซวีโน (Jacopo Sansovino) คือเป็นสถาปนิกที่รับเงินตอบแทนทำงานให้กับสาธารณรัฐเวนิสโดยตรง แต่สิ่งที่ต่างจากซานโซวีโนคือ งานของมีเกเลจะเป็นงานที่อยู่ในเขตชายแดนนอกเมืองหลวงของสาธารณรัฐ ผู้คนมักจะจดจำมีเกเลในฐานะสถาปนิกผู้ทำการออกแบบเพื่อกิจการการทางทหาร และถูกจ้างมาเพื่อทำการออกแบบเพื่อสร้างความแข็งแกร่งของระบบป้อมปราการให้กับสาธารณรัฐในเมืองต่าง ๆ เช่น ครีต (Crete) กันดีอา (Candia) ดัลเมเชีย (Dalmatia) และคอร์ฟู (Corfù) เช่นเดียวกับปราการหลักที่ลีโด (Lido) ซึ่งเป็นแนวป้องกันเรือที่จะเข้ามาในทะเลสาบเวนิส (Venetian lagoon) จากการที่เขาได้ท่องเที่ยวไปในหลาย ๆ แห่งตามบันทึกแล้ว มีเกเล ซานมีเกลีอาจจะเป็นสถาปนิกชาวอิตาลีเพียงคนเดียวที่ได้เห็นสถาปัคยกรรมกรีกของแท้ ซึ่งอาจจะเป็นแรงบันดาลใจให้เขานำเสาดอริกของโรมัน มาไว้ในงานออกแบบของเขา เขาได้เดินทางไปโรมตั้งแต่เล็ก และคาดว่าน่าจะมีโอกาสได้ฝึกฝนวิชากับอันโตนีโอ ดา ซานกัลโล (Antonio da Sangallo (Murray)) ซึ่งเป็นหนึ่งในสมาชิกของสถาปนิกตระกูลซานกัลโลที่มีชื่อเสียง ณ ที่นี้เขาได้มีโอกาสเรียนรู้เกี่ยวกับสถาปัตยกรรมและงานประติมากรรมแบบคลาสสิก ในปี..

ใหม่!!: ปืนใหญ่และมีเกเล ซานมีเกลี · ดูเพิ่มเติม »

มนตรี สังขทรัพย์

ลเอกมนตรี สังขทรัพย์ อดีตรองผู้บัญชาการทหารสูงสุด เกิดเมื่อวันที่ 15 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2492 จบการศึกษาจากโรงเรียนเตรียมทหารรุ่นที่ 9 โรงเรียนนายร้อยพระจุลจอมเกล้ารุ่นที่ 20 (ร่วมรุ่นเดียวกับ พล.อ.จิรเดช คชรัตน์) วิทยาลัยป้องกันราชอาณาจักร รุ่นที่ 44 (วปร.44) และวิทยาลัยป้องกันราชอาณาจักรจากประเทศอังกฤษ.

ใหม่!!: ปืนใหญ่และมนตรี สังขทรัพย์ · ดูเพิ่มเติม »

ยศทหารกองทัพจักรวรรดิรัสเซีย

ตารางข้างล่างต่อไปนี้คือข้อมูลเกี่ยวกับยศทหารของกองทัพจักรวรรดิรัสเซี.

ใหม่!!: ปืนใหญ่และยศทหารกองทัพจักรวรรดิรัสเซีย · ดูเพิ่มเติม »

ยาโรสลาฟล์

รสลาฟล์ (Yaroslavl Ярославль) เป็นเมืองเอกศูนย์กลางการปกครองของเขตปกครองย่อย ยาโรสลาฟโอบลาสต์ (Yaroslavl Oblast Яросла́вская о́бласть) ในประเทศรัสเซีย ตั้งอยู่ทางตะวันออกเฉียงเหนือห่างจากกรุงมอสโกไปราว 258 กิโลเมตร โดยมีแม่น้ำวอลกาไหลผ่านกลางเมือง มีประชากรราวๆเกือบหกแสนคนและนับเป็นเมืองใหญ่ที่มีประชากรเยอะที่สุดในกลุ่มเมืองที่ตั้งอยู่ริมแม่น้ำวอลกาตอนบนก่อนจะถึงเมืองนิซนีนอฟโกรอด มีชื่อเสียงในด้านการเป็นเมืองวัฒนธรรม เมืองท่องเที่ยว และเคยเป็นเมืองท่าค้าขายทางน้ำรวมถึงเป็นฐานอุตสาหกรรมที่สำคัญของประเทศรัสเซียในอดีต ยาโรสลาฟล์นั้นถือเป็นหนึ่งในเมืองที่เก่าแก่ที่สุดของรัสเซีย ได้รับการบันทึกการก่อตั้งตั้งแต่ในสมัยของเคียฟรุส ในปี..

ใหม่!!: ปืนใหญ่และยาโรสลาฟล์ · ดูเพิ่มเติม »

ยุทธการที่แอตแลนตา

ทธการแอตแลนตา คือหนึ่งในการรบในยุทธนาการแอตแลนตา ซึ่งรบกันในระหว่างสงครามกลางเมืองของชาวอเมริกัน ในวันที่ 22 กรกฎาคม..

ใหม่!!: ปืนใหญ่และยุทธการที่แอตแลนตา · ดูเพิ่มเติม »

ระเบิด

ระเบิด ระเบิด คือวัตถุที่ทำให้เกิดการระเบิด จะบรรจุวัตถุระเบิดไว้ภายใน.

ใหม่!!: ปืนใหญ่และระเบิด · ดูเพิ่มเติม »

ราชวงศ์ชิง

ราชวงศ์ชิง (พ.ศ. 2187 - 2455)(ภาษาแมนจู: 16px daicing gurun; ภาษาจีน:清朝; พินอิน: qīng cháo ชิงเฉา) หรือบางครั้งเรียกว่า ราชวงศ์แมนจู ปกครองแผ่นดินจีนต่อจากราชวงศ์หมิง และถือเป็นราชวงศ์สุดท้ายของประเทศจีน ตั้งแต..

ใหม่!!: ปืนใหญ่และราชวงศ์ชิง · ดูเพิ่มเติม »

รายชื่อลักษณนามในภาษาจีน

ตารางต่อไปนี้เป็นรายชื่อลักษณนามในภาษาจีน ซึ่งเป็นลักษณนาม (อังกฤษ: classifiers; จีนตัวย่อ: 量词; พินอิน: liàngcí) และหน่วยวัด (measure words) ที่มักพบบ่อย สามารถศึกษาคำอธิบายอย่างละเอียดเพิ่มเติมได้จากบทความ "ลักษณนามในภาษาจีน" ในตาราง สองช่องแรกแสดงลักษณะนามเป็นอักษรจีน ในกรณีที่การเขียนแตกต่างกันจะแสดงทั้งอักษรจีนตัวเต็ม (traditional) และอักษรจีนตัวย่อ (simplified) ช่องที่สามแสดงการออกเสียงในระบบมาตรฐานภาษาจีนกลาง (Standard (Mandarin) Chinese) โดยใช้พินอิน (pinyin) และช่องที่สี่แสดงการออกเสียงในภาษาจีนกวางตุ้ง (Cantonese) โดยใช้ระบบการถอดเสียงเป็นภาษาโรมันแบบเยล (Yale romanization) สำหรับช่องสุดท้ายเป็นคำอธิบายความหมายและหลักการใช้ของลักษณะนามและหน่วยวัดนั้น รวมถึงการให้ตัวอย่างคำนามที่ใช้กับลักษณะนามนั้นด้วย โดยคำที่อยู่ภายในเครื่องหมายคำพูดคือความหมายตามตัวอักษร (literal meaning) ของลักษณะนามและหน่วยวัดนั้น.

ใหม่!!: ปืนใหญ่และรายชื่อลักษณนามในภาษาจีน · ดูเพิ่มเติม »

รายชื่อสถานที่ท่องเที่ยวในจังหวัดลพบุรี

รายชื่อสถานที่ท่องเที่ยวในจังหวัดลพบุรี ทั้ง 11 อำเภอ แหล่งท่องเที่ยวในจังหวัดลพบุรีจำแนกเป็นรายประเภท ดังนี้.

ใหม่!!: ปืนใหญ่และรายชื่อสถานที่ท่องเที่ยวในจังหวัดลพบุรี · ดูเพิ่มเติม »

รายชื่อสถานที่ท่องเที่ยวในประเทศไทย

ต่อไปนี้ เป็นรายชื่อสถานที่ท่องเที่ยวที่ตั้งอยู่ในประเทศไทย เรียงตามรายชื่อ 76 จังหวัด พร้อมกรุงเทพมหานคร.

ใหม่!!: ปืนใหญ่และรายชื่อสถานที่ท่องเที่ยวในประเทศไทย · ดูเพิ่มเติม »

รายชื่อธงประจำจังหวัดของไทย

งในหน้านี้ เป็นภาพธงประจำจังหวัดของประเทศไทย ปัจจุบันเท่าที่มีการรวบรวมไว้ในเว็บไซต์ต่าง ๆ พบว่ามีธงอยู่เพียง 76 จังหวัด (รวมถึงกรุงเทพมหานคร).

ใหม่!!: ปืนใหญ่และรายชื่อธงประจำจังหวัดของไทย · ดูเพิ่มเติม »

รายชื่อตอนในทีน ไททันส์

รายชื่อตอนของการ์ตูนทีวีแอนิเมชันของประเทศสหรัฐอเมริกาเรื่อง ทีนไททัน.

ใหม่!!: ปืนใหญ่และรายชื่อตอนในทีน ไททันส์ · ดูเพิ่มเติม »

รายชื่อตัวละครในเพชรพระอุมา

ตัวละครในเพชรพระอุมา เป็นรายละเอียดของตัวละครจากเพชรพระอุมา แยกตามตัวละครหลักและตัวละครรอง ตามแต่ปรากฏในแต่ละภาค ได้แก่ภาคแรกไพรมหากาฬ - แงซายจอมจักรา ในการออกติดตามค้นหาผู้สูญหายและภาคสมบูรณ์จอมพราน - มงกุฎไพร ในการออกติดตามหาเครื่องบิน บี 52 และระเบิดนิวเคลียร.

ใหม่!!: ปืนใหญ่และรายชื่อตัวละครในเพชรพระอุมา · ดูเพิ่มเติม »

รายชื่อตัวละครในเทพมรณะ

ต่อไปนี้คือ รายชื่อตัวละครใเทพมรณะ ผลงานการ์ตูนของ คุโบะ ไทเท.

ใหม่!!: ปืนใหญ่และรายชื่อตัวละครในเทพมรณะ · ดูเพิ่มเติม »

รายชื่อตัวละครในเดกะเรนเจอร์

ูบทความหลักที่ ขบวนการมือปราบผู้พิทักษ์ เดกะเรนเจอร.

ใหม่!!: ปืนใหญ่และรายชื่อตัวละครในเดกะเรนเจอร์ · ดูเพิ่มเติม »

รถถัง

รถถัง Mark IV รถถัง เป็นยานพาหนะต่อสู้หุ้มเกราะติดตีนตะขาบที่ถูกออกแบบมาเพื่อใช้ในการรบที่แนวหน้าซึ่งเป็นการผสมผสานระหว่างความคล่องตัว การรุก และการป้องกัน อำนาจการยิงของมันมาจากปืนหลักขนาดใหญ่ของมันที่ติดตั้งอยู่บนป้อมส่วนบนที่หมุนได้พรัอมกับมีปืนกลติดตั้งอยู่เพื่อเป็นอาวุธรอง ในขณะที่เกราะขนาดหนักและความสามารถในการเคลื่อนที่ของมันเป็นสิ่งที่คอยปกป้องชีวิตของพลประจำรถ นั่นทำให้มันสามารถทำงานหลักของทหารราบยานเกราะได้ทั้งหมดในสมรภูมิ รถถังเริ่มนำมาใช้ในสงครามโลกครั้งที่ 1 ครั้งแรกโดยอังกฤษ ได้แก่ Mark IV tank เพื่อใช้มันสนับสนุนทหารราบในการฝ่าทะลุแนวสนามเพลาะ พวกมันถูกใช้ในยุทธการซอมม์ในจำนวนน้อยมาก ในช่วงที่มันถูกสร้างขึ้นมันถูกเรียกว่ายานลำเลียงน้ำเพื่อปกปิดวัตถุประสงค์การใช้งานจริงของมัน คำว่า"แท็งค์" (tank) นั้นมาจากคำว่า "Water tank" ที่แปลว่าถังน้ำ ด้วยวัตถุประสงค์หลักเพื่อสนับสนุนทหารราบมันจึงทำความเร็วสูงสุดได้เพียง 5-6 กิโลเมตรต่อชั่วโมง การมาของ Mark IV tank ทำให้ฝ่ายเยอรมันพัฒนารถถังของตนเอง ได้แก่ A7V เพื่อตอบโต้ฝ่ายอังกฤษ รถถัง A7V ฝรั่งเศสเป็นชาติแรกในโลกที่พัฒนารถถังที่ติดตั้งปืนบนป้อมซึ่งหมุนได้ 360 องศาได้แก่ Renault FT และใช้พลรถถังเพียง 2 คน ในการควบคุมรถถัง ต่างจาก Mark IV tank ของอังกฤษที่ต้องใช้พลรถถังถึง 8 คนในการควบคุม และ A7V ของเยอรมนีที่ใช้พลรถถัง 18 คน การพัฒนาในสงครามของมันเกิดขึ้นในสงครามโลกครั้งที่สองทำให้มันเป็นแนวคิดหลักของสงครามยานเกราะซึ่งอยู่มาจนถึงทุกวันนี้ และเป็นบทบาทหลักในสงครามโลกครั้งที่ 2 สหภาพโซเวียตได้นำรถถังที-34 มาใช้ มันเป็นหนึ่งในรถถังที่ดีที่สุดในสงครามและเป็นต้นตำรับของรถถังหลัก เยอรมนีใช้การโจมตีสายฟ้าแลบ ซึ่งเป็นยุทธวิธีในการใช้กองกำลังรถถังเป็นหลักโดยมีปืนใหญ่และการยิงทางอากาศเข้าสนับสนุนเพื่อเจาะทะลุแนวป้องกันของศัตรู ปัจจุบันรถถังนั้นไม่ปฏิบัติการเพียงลำพังนัก พวกมันจะรวมกันเป็นหน่วยซึ่งจะมีทหารราบให้การสนับสนุน ทหารเหล่านั้นจะทำงานร่วมกับรถสายพานลำเลียงพลหรือยานพาหนะต่อสู้ทหารราบ รถถังยังถูกใช้ร่วมกับการสอดแนมหรือการโจมตีภาคพื้นดินทางอากาศอีกด้วย เนื่องมาจากความสามารถและความหลากประโยชน์ของรถถังประจัญบานที่ถูกมองว่าเป็นกุญแจสำคัญของกองทัพยุคใหม่ อย่างไรก็ตามในสงครามนอกกรอบได้นำข้อสงสัยมาสู่กองพลยานเกราะ ไจโรสโคปถูกนำมาใช้เพื่อสร้างความเสถียรให้กับปืนใหญ่ ทำให้มันเล็งได้อย่างแม่นยำและยิงได้ในขณะเคลื่อนที่ ปืนรถถังยุคใหม่ยังมีตัวลดความร้อนเพื่อลดการกระจายความร้อนที่เกิดจากการยิง มันจะช่วยลดควันที่เข้าไปในรถถังและบางครั้งก็ลดแรงถีบซึ่งจะเพิ่มความแม่นยำและอัตราการยิงให้มากขึ้น โดยทั่วไปแล้วการตรวจจับเป้าหมายจะใช้สายตามองเอาผ่านทางกล้องโทรทรรศน์ อย่างไรก็ตามมีบางครั้งที่ผู้บัญชาการรถถังจะเปิดฝาครอบด้านบนออกเพื่อมองไปรอบๆ ตัว ซึ่งจะเป็นการเพิ่มความระมัดระวังต่อสถานการณ์แต่ก็ทำให้เขาตกเป็นเป้าของพลซุ่มยิงได้ โดยเฉพาะเมื่อยู่ในป่าหรือเมือง แม้ว่าการพัฒนามากมายในการตรวจหาเป้าหมายจะเกิดขึ้นเมื่อเร็วๆ นี้ แต่ข้อปฏิบัติดังกล่าวก็ยังถูกใช้กันอยู่ ในบางกรณีปืนกลเคียงที่อยู่ข้างปืนใหญ่ก็ถูกใช้เพื่อหาวิถีโค้งและระยะของเป้าหมาย ปืนกลนี้จะถูกติดตั้งบนแกนเดียวกับปืนใหญ่รถถัง และยิงกระสุนไปที่เป้าหมายเดียวกัน พลปืนจะติดตามการเคลื่อนไหวของกระสุนติดตามเมื่อมันพุ่งชนเป้าหมาย และเมื่อมันชนเป้าหมาย มันก็จะปล่อยแสงออกมาพร้อมกับควันหลังจากที่ปืนใหญ่ยิงออกไปแล้ว อย่างไรก็ตามมันก็มักถูกแทนที่ด้วยเลเซอร์หาระยะแทน รถถังยุคใหม่ยังมีกล้องมองกลางคืนและกล้องจับถวามร้อนเพื่อเพิ่มความสามารถในการทำงานในตอนกลางคืน ในสภาพอากาศที่เลวร้าย และในกลุ่มควัน ความแม่นยำของรถถังยุคใหม่ได้ก้าวไปสู่จุดสูงสุดโดยระบบควบคุมการยิง ระบบนี้ใช้เลเซอร์หาระยะเพื่อระบุความห่างจากเป้าหมาย มันยังมีตัววัดแรงลมและตัวควบคุมความร้อนที่ปากกระบอก การที่เลเซอร์หาระยะสามารถมองหาเป้าหมายสองเป้าได้พร้อมกับทำให้มันสามารถคำนวณการเคลื่อนไหวของเป้าหมายได้ ข้อมูลเหล่านี้จะถูกรวบรวมเข้ากับการเคลื่อนไหวของรถถังและการเคลื่อนที่ของวัตถุในอากาศเพื่อคำนวณการไต่ระดับและจุดเล็งที่มันจะเข้าชนเป้าหมาย โดยปกติแล้วรถถังจะมีปืนขนาดเล็กกว่าเพื่อป้องกันตัวในระยะใกล้ซึ่งการยิงด้วยปืนใหญ่นั้นจะไร้ประสิทธิภาพ อย่างการจัดการกับทหารราบ ยานพาหนะขนาดเบา หรือเครื่องบิน อาวุธรองมักจะเป็นปืนกลเอนกประสงค์ที่อยู่ข้างปืนใหญ่และปืนกลต่อต้านอากาศยานที่อยู่ด้านบนสุดของป้อมปืน อาวุธเหล่านี้มักถูกดัดแปลงเพื่อใช้โดยทหารราบ และใช้กระสุนที่เหมือนๆ กัน.

ใหม่!!: ปืนใหญ่และรถถัง · ดูเพิ่มเติม »

ศูนย์การทหารปืนใหญ่

ูนย์การทหารปืนใหญ่ โดยมีศูนย์บัญชาการอยู่ ณ ค่ายพหลโยธิน สังกัดกองทัพบกไทยตั้งอยู่ที่ ตำบลเขาพระงาม อำเภอเมืองลพบุรี จังหวัดลพบุรี.

ใหม่!!: ปืนใหญ่และศูนย์การทหารปืนใหญ่ · ดูเพิ่มเติม »

สมรภูมิบ้านร่มเกล้า

มรภูมิบ้านร่มเกล้า หรือ ยุทธการบ้านร่มเกล้า เป็นการรบระหว่างประเทศไทยและประเทศลาว ณ บริเวณบ้านร่มเกล้า ในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ พ.ศ. 2531 จากการสู้รบอย่างหนักต่อเนื่องกันเป็นเวลานาน ทำให้เกิดการสูญเสียอย่างมากทั้งฝ่ายไทยและลาว และนับเป็นการสูญเสียชีวิตทหารมากที่สุดในการรบของไทยเท่าที่เคยมีมา การรบสิ้นสุดลงเมื่อวันที่ 19 กุมภาพัน..

ใหม่!!: ปืนใหญ่และสมรภูมิบ้านร่มเกล้า · ดูเพิ่มเติม »

สีเหลือง

ีเหลือง เป็น 1 ใน 3 แม่สี ร่วมกับสีแดง และสีน้ำเงิน โดยปกติสีจะมีอยู่สองโทน คือ สีโทนร้อน และ สีโทนเย็น แต่สีเหลืองเป็นสีที่อยู่ตรงกลางระหว่าง สีโทนร้อน และ สีโทนเย็น จึงสามารถเลือกใช้สีเหลืองเข้าไปผสมผสานได้กับสีทั้งสองโทน ซึ่งนอกจากสีเหลืองแล้วยังมีสีม่วงอีกสีหนึ่งที่มีลักษณะดังกล่าว.

ใหม่!!: ปืนใหญ่และสีเหลือง · ดูเพิ่มเติม »

สงครามกลางเมืองจีน

งครามกลางเมืองจีน (ค.ศ. 1927-1950) เป็นสงครามกลางเมือง สู้รบกันระหว่างพรรคก๊กมินตั๋ง พรรคปกครองสาธารณรัฐจีน ฝ่ายหนึ่ง กับพรรคคอมมิวนิสต์จีนอีกฝ่ายหนึ่งGay, Kathlyn.

ใหม่!!: ปืนใหญ่และสงครามกลางเมืองจีน · ดูเพิ่มเติม »

สงครามอังกฤษ–แซนซิบาร์

งครามอังกฤษ-แซนซิบาร์ (Anglo-Zanzibar War) เป็นการสู้รบระหว่างสหราชอาณาจักรและรัฐสุลต่านแซนซิบาร์ในวันที่ 27 สิงหาคม..

ใหม่!!: ปืนใหญ่และสงครามอังกฤษ–แซนซิบาร์ · ดูเพิ่มเติม »

สงครามอิตาลี-อะบิสซิเนียครั้งที่สอง

งครามอิตาลี-อะบิสซิเนียครั้งที่สอง หรืออีกชื่อหนึ่งคือ สงครามอิตาลี-เอธิโอเปียครั้งที่สอง เป็นสงครามอาณานิคมซึ่งเกิดขึ้นระหว่างกองทัพราชอาณาจักรอิตาลีกับจักรวรรดิเอธิโอเปีย (หรือในอีกชื่อหนึ่งคือ "อะบิสซิเนีย") โดยเริ่มต้นในเดือนตุลาคม ค.ศ. 1935 และสิ้นสุดลงในเดือนพฤษภาคม ค.ศ. 1936 ผลของสงครามจบลงด้วยความพ่ายแพ้ของเอธิโอเปียและถูกอิตาลีผนวกเข้าเป็นดินแดนอาณานิคมแห่งใหม่ภายใต้ชื่อ "แอฟริกาตะวันออกของอิตาลี" (Italian East Africa, Africa Orientale Italiana) ในทางการเมือง สงครามครั้งนี้เป็นเครื่องหมายจดจำที่โดดเด่นที่สุดถึงความอ่อนแออันเป็นปกติวิสัยขององค์การสันนิบาตชาติ วิกฤตการณ์อะบิสซิเนียในปี ค.ศ. 1934 มักถูกมองว่าเป็นตัวอย่างที่ชัดเจนถึงความไร้ประสิทธิภาพของสันนิบาตชาติ เช่นเดียวการที่จักรวรรดิญี่ปุ่นยึดครอง 3 มณฑลของจีนในกรณีมุกเดนเมื่อปี ค.ศ. 1931 ทั้งอิตาลีและเอธิโอเปียล้วนเป็นชาติสมาชิกของสันนิบาต แต่สันนิบาตชาติก็ไม่สามารถปกป้องเอธิโอเปียให้พ้นจากการคุกคามของอิตาลีได้เมื่อการณ์ปรากฏชัดเจนว่าอิตาลีได้ละเมิดต่อบทบัญญัติของสันนิบาตชาติมาตรา 10 อนึ่ง สงครามครั้งนี้ยังถูกจดจำด้วยการใช้ก๊าซพิษทำสงครามอย่างผิดกฎหมายอย่างก๊าซมัสตาร์ด (mustard gas) และสารฟอสจีน (Phosgene) โดยฝ่ายกองทัพอิตาลี ผลลัพธ์ในเชิงบวกของสงครามต่อฝ่ายอิตาลีได้เกิดขึ้นในช่วงเวลาใกล้เคียงกับความนิยมระดับสูงสุดต่อลัทธิฟาสซิสต์ของมุสโสลินีในเวทีนานาชาติ ผู้นำในหลายประเทศได้ยกย่องความสำเร้จที่เกิดขึ้นในครั้งนี้.

ใหม่!!: ปืนใหญ่และสงครามอิตาลี-อะบิสซิเนียครั้งที่สอง · ดูเพิ่มเติม »

สงครามเวียดนาม

งครามเวียดนาม หรือ สงครามอินโดจีนครั้งที่สอง หรือที่ชาวเวียดนามรู้จักกันในชื่อ สงครามอเมริกา เป็นสงครามตัวแทนสมัยสงครามเย็นที่เกิดขึ้นในประเทศเวียดนาม ลาวและกัมพูชาตั้งแต่เดือนธันวาคม 2498 กระทั่งกรุงไซ่ง่อนแตกเมื่อวันที่ 30 เมษายน 2518 สงครามเวียดนามนี้เกิดขึ้นหลังสงครามอินโดจีนครั้งที่หนึ่ง และมีเวียดนามเหนือซึ่งได้รับการสนับสนุนจากจีน สหภาพโซเวียตและพันธมิตรคอมมิวนิสต์อื่นเป็นคู่สงครามฝ่ายหนึ่ง กับรัฐบาลเวียดนามใต้ซึ่งได้รับการสนับสนุนจากสหรัฐและประเทศที่ต่อต้านคอมมิวนิสต์อื่นเป็นคู่สงครามอีกฝ่ายหนึ่ง เวียดกง (หรือ แนวร่วมปลดปล่อยแห่งชาติ) เป็นแนวร่วมประชาชนคอมมิวนิสต์เวียดนามใต้ที่ติดอาวุธเบาซึ่งมีเวียดนามเหนือสั่งการ สู้รบในสงครามกองโจรต่อกำลังต่อต้านคอมมิวนิสต์ในภูมิภาค กองทัพประชาชนเวียดนาม (กองทัพเวียดนามเหนือ) ต่อสู้ในสงครามตามแบบมากกว่า และบางครั้งส่งหน่วยขนาดใหญ่เข้าสู่ยุทธการ เมื่อสงครามดำเนินไป ส่วนการต่อสู้ของเวียดกงลดลงขณะที่บทบาทของกองทัพประชาชนเวียดนามเพิ่มขึ้น กำลังสหรัฐและเวียดนามใต้อาศัยความเป็นเจ้าเวหาและอำนาจการยิงที่เหนือกว่าเพื่อดำเนินปฏิบัติการค้นหาและทำลาย ซึ่งรวมถึงกำลังภาคพื้นดิน ปืนใหญ่และการโจมตีทางอากาศ ตลอดห้วงสงคราม สหรัฐดำเนินการทัพทิ้งระเบิดทางยุทธศาสตร์ขนานใหญ่ต่อเวียดนามเหนือ และต่อมาน่านฟ้าเวียดนามเหนือกลายเป็นน่านฟ้าที่มีการป้องกันหนาแน่นที่สุดในโลก รัฐบาลสหรัฐมองว่าการเข้ามามีส่วนในสงครามของตนเป็นหนทางป้องกันการยึดเวียดนามใต้ของคอมมิวนิสต์อันเป็นส่วนหนึ่งของยุทธศาสตร์การจำกัดการขยายตัวของลัทธิที่ไม่พึงปรารถนาที่ใหญ่กว่า โดยมีเป้าหมายที่แถลงไว้เพื่อหยุดการแพร่ของคอมมิวนิสต์ ตามทฤษฎีโดมิโนของสหรัฐ หากรัฐหนึ่งกลายเป็นคอมมิวนิสต์ รัฐอื่นในภูมิภาคก็จะเป็นไปด้วย ฉะนั้น นโยบายของสหรัฐจึงถือว่าการผ่อนปรนการแพร่ของคอมมิวนิสต์ทั่วประเทศเวียดนามนั้นยอมรับไม่ได้ รัฐบาลเวียดนามเหนือและเวียดกงต่อสู้เพื่อรวมเวียดนามอยู่ในการปกครองคอมมิวนิสต์ ทั้งสองมองข้อพิพาทนี้เป็นสงครามอาณานิคม ซึ่งเริ่มแรกสู้กับฝรั่งเศส โดยได้รับการสนับสนุนจากสหรัฐ แล้วต่อมาสู้กับเวียดนามใต้ ซึ่งถูกมองว่าเป็นรัฐหุ่นเชิดของสหรัฐ ที่ปรึกษาทางทหารชาวอเมริกันมาถึงอินโดจีนขณะนั้นเริ่มตั้งแต่ปี 2493 การเข้ามามีส่วนของสหรัฐเพิ่มขึ้นในช่วงต้นคริสต์ทศวรรษ 1960 โดยมีระดับทหารเพิ่มเป็นสามเท่าในปี 2494 และเพิ่มอีกสามเท่าในปีต่อมา การเข้ามามีส่วนของสหรัฐทวีขึ้นอีกหลังเหตุการณ์อ่าวตังเกี๋ย ปี 2507 ซึ่งเรือพิฆาตของสหรัฐปะทะกับเรือโจมตีเร็วของเวียดนามเหนือ ซึ่งตามติดด้วยข้อมติอ่าวตังเกี๋ยซึ่งอนุญาตให้ประธานาธิบดีสหรัฐเพิ่มทหารในพื้นที่ หน่วยรบปกติของสหรัฐถูกจัดวางเริ่มตั้งแต่ปี 2498 ปฏิบัติการข้ามพรมแดนระหว่างประเทศ โดยพื้นที่ติดต่อกับประเทศลาวและกัมพูชาถูกกองทัพสหรัฐทิ้งระเบิดอย่างหนักขณะที่การเข้ามามีส่วนในสงครามของสหรัฐเพิ่มขึ้นสูงสุดในปี 2511 ปีเดียวกัน ฝ่ายคอมมิวนิสต์เปิดฉากการรุกตรุษญวน การรุกตรุษญวนไม่สัมฤทธิ์ผลในการโค่นรัฐบาลเวียดนามใต้ แต่ได้กลายเป็นจุดพลิกผันของสงคราม เพราะได้แสดงว่าเวียดนามใต้ไม่อาจป้องกันตัวเองจากเวียดนามเหนือได้ แม้สหรัฐจะทุ่มความช่วยเหลือทางทหารอย่างมหาศาลหลายปี ด้วยจุดชัยชนะของสหรัฐนั้นไม่ชัดเจน จึงค่อย ๆ มีการถอนกำลังภาคพื้นดินของสหรัฐโดยเป็นส่วนหนึ่งของนโยบายเรียก การแผลงเป็นเวียดนาม (Vietnamization) ซึ่งมุ่งยุติการเข้ามามีส่วนในสงครามของสหรัฐขณะที่โอนภารกิจต่อสู้กับคอมมิวนิสต์ให้เวียดนามใต้เอง แม้ภาคีทุกฝ่ายลงนามข้อตกลงสันติภาพปารีสในเดือนมกราคม 2516 แล้วก็ตาม แต่การสู้รบยังดำเนินต่อไป ในสหรัฐและโลกตะวันตก มีการพัฒนาขบวนการต่อต้านสงครามเวียดนามขนาดใหญ่ขึ้น ขบวนการนี้ทั้งเป็นส่วนหนึ่งของวัฒนธรรมต่อต้าน (Counterculture) แห่งคริสต์ทศวรรษ 1960 และเป็นปัจจัยหนึ่งของมัน การมีส่วนร่วมทางทหารของสหรัฐยุติลงเมื่อวันที่ 15 สิงหาคม 2516 อันเป็นผลมาจากคำแปรญัตติเคส–เชิร์ช (Case–Church Amendment) ที่รัฐสภาสหรัฐผ่าน การยึดกรุงไซ่ง่อนโดยกองทัพประชาชนเวียดนามในเดือนเมษายน 2518 เป็นจุดสิ้นสุดของสงคราม และมีการรวมชาติเวียดนามเหนือกับเวียดนามใต้ในปีต่อมา สงครามนี้คร่าชีวิตมนุษย์ไปมหาศาล ประเมินตัวเลขทหารและพลเรือนชาวเวียดนามที่ถูกสังหารมีตั้งแต่น้อยกว่า 1 ล้านคนเล็กน้อย ไปถึงกว่า 3 ล้านคน ชาวกัมพูชาเสียชีวิตราว 2-3 แสนคนHeuveline, Patrick (2001).

ใหม่!!: ปืนใหญ่และสงครามเวียดนาม · ดูเพิ่มเติม »

สเปซ มารีนส์

http://warhammer40k.wikia.com/wiki/Space_Marines fi:Warhammer-universumi#Space Marines.

ใหม่!!: ปืนใหญ่และสเปซ มารีนส์ · ดูเพิ่มเติม »

อาวุธปืน

ปืนลูกโม่สมิธแอนด์เวสสันที่ถูกออกแบบมาให้กับกองทัพและตำรวจ อาวุธปืน เป็นอาวุธซึ่งยิงกระสุนหนึ่งหรือมากกว่าด้วยความเร็วสูงผ่านทางการควบคุมการระเบิดของดินปืน การยิงเกิดขึ้นได้โดยแก๊สที่เกิดอย่างรวดเร็ว กระบวนการการเผาไหม้ที่รวดเร็วนี้เรียกว่าดีแฟล็กเกรชั่น (deflagration) ในอาวุธปืนแบบเก่าการเคลื่อนที่นี้เกิดจากดินปืน แต่ในยุคปัจจุบันอาวุธปืนนั้นจะใช้ดินปืนที่มีควันน้อยกว่า คอร์ไดท์ หรืออื่นๆ อาวุธปืนในปัจจุบัน (ยกเว้นปืนลูกซอง) จะมีลำกล้องที่ข้างในทำร่องเป็นเกลียวเพื่อเพิ่มการหมุนให้กับกระสุนซึ่งจะสร้างความมีเสถียร.

ใหม่!!: ปืนใหญ่และอาวุธปืน · ดูเพิ่มเติม »

อาสนวิหารเลอปุย-อ็อง-เวอแล

อาสนวิหารเลอปุย-อ็อง-เวอแล (Cathédrale du Puy-en-Velay) เรียกชื่อเต็มว่า อาสนวิหารแม่พระรับสารแห่งเลอปุย-อ็อง-เวอแล (Cathédrale Notre-Dame-de-l'Annonciation du Puy-en-Velay) เป็นอาสนวิหารในนิกายโรมันคาทอลิก เป็นที่ตั้งของมุขนายกประจำมุขมณฑลเลอปุย-อ็อง-เวอแล ตั้งอยู่ที่เมืองเลอปุย-อ็อง-เวอแล จังหวัดโอต-ลัวร์ แคว้นโอแวร์ญ-โรนาลป์ ประเทศฝรั่งเศส สร้างขึ้นเพื่ออุทิศแด่แม่พระรับสาร และยังได้รับการยกฐานะขึ้นเป็นบาซิลิกาเมื่อปีค.ศ. 1856 โดยสมเด็จพระสันตะปาปาปิอุสที่ 9 อาสนวิหารเป็นอาคารแบบสถาปัตยกรรมโรมาเนสก์และศิลปะโรมาเนสก์ที่สำคัญที่สุดแห่งหนึ่งในฝั่งตะวันตกของคริสตจักร และยังเป็นหนึ่งในสถานที่แสวงบุญของชาวคริสต์มาตั้งแต่สมัยก่อนจักรพรรดิชาร์เลอมาญ อาสนวิหารเลอปุย-อ็อง-เวอแลได้ขึ้นทะเบียนเป็นอนุสรณ์สถานทางประวัติศาสตร์เมื่อปี ค.ศ. 1862 รวมทั้งยังอยู่ในมรดกโลก โดยองค์การยูเนสโก โดยถือเป็นส่วนหนึ่งของเส้นทางซานเตียโกเดกอมโปสเตลาในประเทศฝรั่งเศสตั้งแต่ปี ค.ศ. 1998.

ใหม่!!: ปืนใหญ่และอาสนวิหารเลอปุย-อ็อง-เวอแล · ดูเพิ่มเติม »

อานัมสยามยุทธ

อานัมสยามยุทธ คือสงครามที่เกิดขึ้นระหว่างไทยกับเวียดนามเพื่อแย่งชิงกัมพูชาในสมัยรัตนโกสินทร์ตอนต้น.

ใหม่!!: ปืนใหญ่และอานัมสยามยุทธ · ดูเพิ่มเติม »

อุณหพลศาสตร์

แผนภาพระบบอุณหพลศาสตร์ทั่วไป แสดงพลังงานขาเข้าจากแหล่งความร้อน (หม้อน้ำ) ทางด้านซ้าย และพลังงานขาออกไปยังฮีทซิงค์ (คอนเดนเซอร์) ทางด้านขวา ในกรณีนี้มีงานเกิดขึ้นจากการทำงานของกระบอกสูบ อุณหพลศาสตร์ (/อุน-หะ-พะ-ละ-สาด/ หรือ /อุน-หะ-พน-ละ-สาด/) หรือ เทอร์โมไดนามิกส์ (Thermodynamics; มาจากภาษากรีก thermos.

ใหม่!!: ปืนใหญ่และอุณหพลศาสตร์ · ดูเพิ่มเติม »

อุซป

อุซป ตัวละครการ์ตูนจากเรื่อง วันพีซ อุซปเป็นนักโกหกประจำหมู่บ้านไซรัป โดยชื่อของอุซปอาจจะดัดแปลงมาจาก อีสป โดยในภาษาญี่ปุ่นคำว่า "โกหก" ออกเสียงว่า "อุโซะ" โดยเล่นคำรวมกับคำว่า อีสป เป็น อุซป ซึ่งหมายถึงผู้เล่าเรื่อง และนักโกหก อุซปยังมีลักษณะจมูกที่ยาวเหมือนกับพิน็อคคิโอ (ตุ๊กตาไม้ที่จมูกยาวเวลาโกหก).

ใหม่!!: ปืนใหญ่และอุซป · ดูเพิ่มเติม »

อี ซุน-ชิน

อี ซุน-ชิน (28 เมษายน พ.ศ. 2087 – 16 ธันวาคม พ.ศ. 2141) คือแม่ทัพเรือของเกาหลีในยุคราชวงศ์โชซ็อน ที่มีชื่อเสียงจากการนำกองทัพเรือเกาหลีเข้าต่อสู้กับกองทัพเรือญี่ปุ่น ในการรุกรานเกาหลีของญี่ปุ่น (พ.ศ. 2135-2141) ในยุคราชวงศ์โชซ็อน เขาเข้าร่วมรบในฐานะผู้บัญชาการที่ 1 แห่งจังหวัดทหารเรือคย็องซัง, ช็อลลา และชุงช็อง ราชทินนามของเขาคือ "Samdo Sugun Tongjesa" (ฮันกึล: 삼도수군통제사, ฮันจา: 三道水軍統制使) ซึ่งแปลว่า ผู้บัญชาการ 3 จังหวัดทหารเรือ ซึ่งเป็นราชทินนามสำหรับผู้ที่ครองตำแหน่ง ผู้บัญชาการหน่วยรบทางทะเลของราชวงศ์โซซอน มาจนถึง พ.ศ. 2439 อี ซุน-ชินมีชื่อเสียงด้วยการเอาชนะกองทัพญี่ปุ่นในขณะที่ฝ่ายตนมีจำนวนน้อยกว่ามากได้ และการประดิษฐ์เรือรบเต่า (คอบุกซ็อน, 거북선) ซึ่งเป็นเรือรบหุ้มเกราะโลหะลำแรกของโลกอีกด้วย เขาได้รับการยกย่องในฐานะแม่ทัพเรือไร้พ่าย และอาจหาญด้วยวีรกรรมการที่ตนนั้นถูกกระสุนปืนไฟยิงแต่มีคำสั่งให้ลูกน้องมัดตนไว้กับเสากระโดงเรือจนกว่าจะตายและให้แม่ทัพรองสวมเกราะของตนเพื่อขวัญกำลังใจของทหารเรือเกาหลีซึ่งมีเพียงไม่กี่คนในโลกนี้ที่ได้รับการยกย่องเช่นนี้ เขาเสียชีวิตในยุทธนาวีที่โนรยัง (อ่านว่า โน-รยัง) จากการถูกยิงด้วยกระสุนปืนไฟหนึ่งนัด ในวันที่16 ธันวาคม พ.ศ. 2141 ราชสำนักโชซ็อนยกย่อง เขาด้วยการพระราชทานราชทินนาม และยศให้หลายตำแหน่ง รวมทั้งชื่อที่ตั้งให้เป็นเกียรติอย่าง "ชุงมูกง" (Chungmugong,충무공, 忠武公, ขุนศึกผู้จงรัก), "ซ็อนมูอิลดึงกงชิน" (Seonmu Ildeung Gongsin, 선무일등공신, 宣武一等功臣, นายทหารผู้ควรได้รับการยกย่องชั้น1แห่งราชวงศ์โซซอน) และตำแหน่งอีก 2 คือ "ย็องอึยจ็อง" (Yeongijeong, 영의정, 領議政, Prime Minister), และ "ท็อกพุงบูว็อนกุน" (Deokpung Buwongun, 덕풍부원군, 德豊府院君, เจ้าชายแห่งราชสำนักจากท็อกพุง) และได้รับพระราชทานราชทินนามจากจักรพรรดิว่านลี่แห่งราชวงศ์หมิงว่า "จอมพลเรือแห่งจักรวรรดิหมิง".

ใหม่!!: ปืนใหญ่และอี ซุน-ชิน · ดูเพิ่มเติม »

อนันตพร กาญจนรัตน์

ลเอก อนันตพร กาญจนรัตน์ ราชองครักษ์พิเศษ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ และอดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ในรัฐบาลพลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอ.

ใหม่!!: ปืนใหญ่และอนันตพร กาญจนรัตน์ · ดูเพิ่มเติม »

อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย

อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย เป็นอนุสาวรีย์ที่ตั้งอยู่กึ่งกลางวงเวียนระหว่างถนนราชดำเนินกลางกับถนนดินสอ แขวงบวรนิเวศ เขตพระนคร กรุงเทพมหานคร สร้างขึ้นเป็นที่ระลึกถึงเหตุการณ์เปลี่ยนแปลงการปกครองจากระบอบสมบูรณาญาสิทธิราชย์เป็นระบอบประชาธิปไตย การก่อสร้างอนุสาวรีย์ประชาธิปไตยเริ่มขึ้นในวันที่ 24 มิถุนายน พ.ศ. 2482 และทำพิธีเปิดเมื่อวันที่ 24 มิถุนายน พ.ศ. 2483 ในสมัยจอมพล แปลก พิบูลสงคราม ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี อนุสาวรีย์ประชาธิปไตยเป็นผลงานการออกแบบของหม่อมหลวงปุ่ม มาลากุล อันเป็นแบบที่ชนะการประกวดการออกแบบอนุสาวรีย์แห่งนี้ การออกแบบได้นำสถาปัตยกรรมแบบไทยมาผสมผสาน ตรงกลางเป็นสมุดไทยที่สื่อถึงรัฐธรรมนูญประดิษฐานบนพานแว่นฟ้า นอกจากการเป็นสัญลักษณ์เพื่อระลึกถึงประชาธิปไตยนั้น อนุสาวรีย์แห่งนี้ ยังเป็นหลักกิโลเมตรที่ศูนย์ของกรุงเทพมหานครและประเทศไทยอีกด้วย อนุสาวรีย์ประชาธิปไตยได้ใช้เป็นพื้นที่สำคัญของการชุมนุมทางการเมืองหลายครั้ง อาทิ การชุมนุมของประชาชนและนักศึกษาใน เหตุการณ์ 14 ตุลา, การชุมนุมของประชาชนในเหตุการณ์พฤษภาทมิฬ การชุมนุมของแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ พ.ศ. 2553, การชุมนุมคัดค้านร่างพระราชบัญญัตินิรโทษกรรมฯ พ.ศ. 2556 เป็นต้น.

ใหม่!!: ปืนใหญ่และอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย · ดูเพิ่มเติม »

ฮูโก้ กัทมันนท์

ูโก้ กัทมันนท์ (Hugo Gutmann) หรือชื่อหลังย้ายไปอยู่ในสหรัฐคือ เฮนรี่ จี.

ใหม่!!: ปืนใหญ่และฮูโก้ กัทมันนท์ · ดูเพิ่มเติม »

ผ่ากฎอลเวง

ผ่ากฎอลเวง หรือ The Law of Ueki เป็นการ์ตูนญี่ปุ่น ผลงานของ สึบาสะ ฟุคุจิ ลงตีพิมพ์ในนิตยสารโชเน็นซันเดย์ ของสำนักพิมพ์โชงะกุกัง ในประเทศญี่ปุ่น มีความยาวทั้งหมดจำนวน 16 เล่มจบ และเรื่องนี้ ยังมีภาคใหม่ลงต่อในชื่อว่า ผ่ากฎอลเวง Plus ในนิตยสารเล่มเดียวกัน เมื่อ กันยายน พ.ศ. 2548 โดย สำนักพิมพ์วิบูลย์กิจ เป็นผู้ได้ลิขสิทธิ์แปลและตีพิมพ์เป็นภาคภาษาไทย ปัจจุบันออกมาครบทั้ง 16 เล่มแล้ว ผ่ากฎอลเวง สตูดิโอดีนสร้างเป็นอะนิเมะออกอากาศทางสถานีทีวีโตเกียว ตอนแรกในวันที่ 4 เมษายน พ.ศ. 2548 และอวสานลงในวันที่ 27 มีนาคม พ.ศ. 2549 มีจำนวนตอนทั้งหมด 51 ตอน สำหรับในประเทศไทยบริษัทโรสวิดีโอได้รับลิขสิทธิ์ผลิตเป็นวีซีดีและดีวีดี โดยใช้ชื่อภาษาไทยว่า "แสบซ่าส์ ผ่ากฎเทพ" และออกฉายในรายการโมเดิร์นไนน์การ์ตูน ทางโมเดิร์นไนน์ทีวี ตั้งแต่วันเสาร์ที่ 6 ตุลาคม พ.ศ. 2550 และอวสานลงในวันเสาร์ที่ 5 เมษายน พ.ศ. 2551 โดยใช้ชื่อภาษาไทยว่า "อุเอคิ ผ่ามิติอลเวง".

ใหม่!!: ปืนใหญ่และผ่ากฎอลเวง · ดูเพิ่มเติม »

จรวด

รวดโซยุซ-ยู (Soyuz-U) ณ ฐานปล่อยที่ 1/5 ไบโคนูร์ ไซต์1/5 (Baikonur's Site 1/5) ในคาซัคสถาน (Kazakhstan) การปล่อยจรวดแซทเทิร์น 5 อะพอลโล 15: เวลาเริ่มปล่อย T - 30 วินาที เวลาเสร็จสิ้น T + 40 วินาที จรวด หมายถึงขีปนาวุธ, ยานอวกาศ, เครื่องบิน หรือพาหนะอื่นใดที่อาศัยแรงผลักดันของไอเสียที่มีต่อตัวจรวดในการพุ่งไปข้างหน้า โดยใช้การเผาผลาญเชื้อเพลิงในเครื่องยนต์จรวด ในจรวดทุกชนิดไอเสียจะเกิดขึ้นทั้งหมดจากเชื้อเพลิงขับดันที่บรรทุกไปด้วยภายในจรวดก่อนที่จะถูกใช้งาน chapter 1 จรวดเคมีสร้างพลังงานจากการเผาผลาญเชื้อเพลิงจรวด ผลจากการเผาผลาญเชื้อเพลิงและตัวอ๊อกซิไดซ์ภายในห้องเผาไหม้จะทำให้เกิดก๊าซร้อนที่มีอุณหภูมิสูงมากและขยายตัวออกไปทางหัวฉีดทำให้ก๊าซเคลื่อนที่ด้วยความเร่งในระดับไฮเปอร์โซนิก ซึ่งทำให้เกิดแรงผลักมหาศาลต่อตัวจรวดตามกฎข้อที่สามของนิวตัน (แรงกิริยาเท่ากับแรงปฏิกิริยา)โดยในทางทหารและสันทนาการมีประวัติของการใช้จรวดเป็นอาวุธและเครื่องมือในช่วงเวลานั้น จรวดได้ถูกใช้สำหรับงานทางทหารและสันทนาการ ย้อนกลับไปอย่างน้อยศตวรรษที่ 13 ในประเทศจีน (China) "Rockets in Ancient Times (100 B.C. to 17th Century)" ในทางทหาร, วิทยาศาสตร์และอุตสาหกรรมได้ใช้จรวดเป็นอาวุธและเครื่องมือแต่ก็ยังไม่เป็นที่แพร่หลายจนกระทั่งถึงศตวรรษที่ 20, เมื่อวิทยาการที่เกี่ยวกับจรวดได้ถือกำเนิดขึ้น เป็นการเปิดประตูสู่ยุคอวกาศ,กับการที่มนุษย์กำลังจะไปเหยียบดวงจันทร์ จรวดได้ถูกใช้สำหรับทำดอกไม้ไฟและอาวุธ, เก้าอี้ดีดตัวสำหรับนักบินและพาหนะสำหรับนำส่งดาวเทียม, นักบินอวกาศ และการสำรวจดาวเคราะห์ต่าง ๆ ในขณะที่จรวดที่ไม่ค่อยมีประสิทธิภาพนั้นจะใช้สำหรับการขับเคลื่อนด้วยอัตราเร็วที่ต่ำ ๆ, นักวิทยาศาสตร์จะเปรียบเทียบหาจรวดที่มีแรงขับเคลื่อนในระบบอื่น ๆ, ที่มีน้ำหนักเบากว่าและมีประสิทธิภาพสูงกว่า, ทำให้สามารถสร้างความเร่งในการเคลื่อนที่ของจรวดได้มากขึ้น และสามารถทำให้เคลื่อนที่ด้วยอัตราเร็วที่สูงอย่างยิ่งด้วยประสิทธิภาพที่เหมาะสม จรวดเคมีเป็นชนิดของจรวดที่พบมากที่สุดและพวกมันมักจะสร้างไอเสียโดยการเผาไหม้ของเชื้อเพลิงจรวด จรวดเคมีต้องการที่เก็บพลังงานเชื้อเพลิงที่มีขนาดใหญ่โตมากในรูปแบบที่พร้อมจะปลดปล่อยตัวเองออกมาได้อย่างง่ายดาย และมีอันตรายมาก อย่างไรก็ตาม, จะต้องทำด้วยการออกแบบอย่างรอบคอบ, การทดสอบ, การก่อสร้าง, และใช้ความเสี่ยงอันตรายให้น้อยที่สุดเท่าที่จะทำได้.

ใหม่!!: ปืนใหญ่และจรวด · ดูเพิ่มเติม »

จิรเดช คชรัตน์

ลเอก จิรเดช คชรัตน์ อดีตรองผู้บัญชาการทหารบกและอดีตแม่ทัพภาคที่ 3 เกิดเมื่อวันที่ 21 มีนาคม พ.ศ. 2492 จบการศึกษาระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 จากโรงเรียนพิษณุโลกพิทยาคม, โรงเรียนเตรียมทหารรุ่นที่ 9 (ตท.9), โรงเรียนนายร้อยพระจุลจอมเกล้ารุ่นที่ 20 (จปร.20), โรงเรียนเสนาธิการทหารบก ชุดที่ 61, วิทยาลัยป้องกันราชอาณาจักร (วปรอ.4515) พล.อ.จิรเดช เป็นนายทหารปืนใหญ่ รับราชการในตำแหน่งสำคัญ ๆ ดังนี้ ได้แก่ เสนาธิการกองทัพน้อยที่ 3, เสนาธิการกองทัพน้อยที่ 3, ราชองครักษ์, รองแม่ทัพภาคที่ 3, แม่ทัพน้อยที่ 3, แม่ทัพภาคที่ 3, ผู้ช่วยผู้บัญชาการทหารบก, รองผู้บัญชาการทหารบก ในยุคที่มี พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน เป็นผู้บัญชาการทหารบก หลังการรัฐประหารเมื่อวันที่ 19 กันยายน พ.ศ. 2549 พล.อ.จิรเดช ในยศ พลโท (พล.ท.) ได้รับแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งสมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ด้วย หลังเกษียณราชการ พล.อ.จิรเดช ได้เปิดตัวเข้าเป็นสมาชิกพรรคเพื่อไทยในเดือนตุลาคม พ.ศ. 2552 พร้อมกับอดีตนายทหารในกองทัพหลายคน อาทิ พล.อ.อ.สุเมธ โพธิ์มณี เป็นต้น แต่ในวันที่ 20 เมษายน พ.ศ. 2554 พล.อ.จิรเดชก็ได้ลาออกจากสมาชิกพรรคเพื่อไทยอย่างเป็นทางการ ซึ่งเป็นการลาออกหลังจากที่ พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ ลาออกได้ไม่นาน หลังจากมีการแสดงบทบาทของกองทัพเรื่องการปกป้องสถาบันพระมหากษัตริย์ ซึ่งมีสาเหตุมาจากการที่มีสมาชิกพรรคเพื่อไทยบางคนที่เป็นแกนนำของแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) หรือกลุ่มคนเสื้อแดง ที่มีพฤติกรรมการปราศรัยพาดพิงไปถึงก่อนหน้านั้นไม่นาน ชีวิตส่วนตัว พล.อ.จิรเดช มีชื่อเล่นว่า "จ๊อก" ทำให้สื่อมวลชนตั้งชื่ออย่างไม่เป็นทางการว่า "บิ๊กจ๊อก" ชีวิตครอบครัวสมรสกับ นางสุรภา คชรัตน์ มีบุตร 3 คน เป็นชาย 2 คน หญิง 1 คน ประกอบด้วย นายอัมเรศ คชรัตน์, นายดิษพงษ์ คชรัตน์ และ นางสาววิสสุตา คชรัตน.

ใหม่!!: ปืนใหญ่และจิรเดช คชรัตน์ · ดูเพิ่มเติม »

ทหาร

ทหารในประเทศเคนยา ทหาร หมายถึง ผู้มีหน้าที่ในเรื่องรบ นักรบ ผู้เป็นกำลังรักษาความมั่นคงและบำรุงประเทศและผู้เป็นกำลังรบและทำหน้าที่อื่นๆ ในยามสงคราม.

ใหม่!!: ปืนใหญ่และทหาร · ดูเพิ่มเติม »

ทหารรักษาพระองค์

ร.1 รอ. ทหารรักษาพระองค์ คือ หน่วยทหารที่มีหน้าที่ถวายความปลอดภัยและถวายพระเกียรติแด่พระมหากษัตริย์ สมเด็จพระราชินี พระรัชทายาท ผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ และพระบรมวงศานุวงศ์ทุกพระองค์อย่างใกล้ชิด เฉพาะกรมทหารราบที่ 1 มหาดเล็กรักษาพระองค์ จะมีชื่อเรียกเฉพาะว่า ทหารมหาดเล็กราชวัลลภรักษาพระองค์ เนื่องด้วยเป็นหน่วยที่ถวายการรับใช้ต่อองค์พระมหากษัตริย์อย่างใกล้ชิดที่สุด (คำว่า "ราชวัลลภ" นี้ แปลได้ว่า ผู้เป็นที่รัก สนิท คุ้นเคยของพระราชา).

ใหม่!!: ปืนใหญ่และทหารรักษาพระองค์ · ดูเพิ่มเติม »

ทำเนียบกำลังรบในยุทธการที่เดียนเบียนฟู

นี่คือรายชื่อกองกำลังที่ร่วมรบในยุทธการที่เดียนเบียนฟู ระหว่างสงครามอินโดจีนครั้งที่หนึ่ง ซึ่งกองกำลังหลัก ๆ ได้แก่รายชื่อด้านล่างนี้.

ใหม่!!: ปืนใหญ่และทำเนียบกำลังรบในยุทธการที่เดียนเบียนฟู · ดูเพิ่มเติม »

ที-54/55

ที-55เอ ในประเทศโปแลนด์ ที-54/55 เป็นรถถังขนาดกลางต้นแบบตัวแรกได้ผลิตถูกในช่วงสิ้นปี 1944 หลังจากการทดสอบในช่วง 1945-1947 T-54/55 mod 1946 ก็เข้าประจำการ โดยมีการสร้างจำนวน 713 คัน และหยุดผลิตในปี 1949 เนื่องจากมีรุ่นใหม่มาแทนที่ นั่นก็คือ ที-54/55 mod 1949 โดยรุ่น ที-54/55 mod 1949 ได้รับความนิยมมากกว่าเนื่องจากการออกแบบที่ทันสมัยและป้อมที่มีความหนาของเกราะ มากกว่า 200 มิลลิเมตร กว่าโดย ที-54/55 เป็นรถถังขนาดกลางและรถถังหลักคันแรกของสหภาพโซเวียต เข้าประจำการในสหภาพโซเวียตในปี 1948 และเป็นรถถังที่มีการผลิตมากที่สุดในโลกเป็นรองเพียงรถถัง ที-34 ในสงครามโลกครั้งที่ 2 มันได้ติดปืนใหญ่ขนาด 100 มิลลิเมตร มี 2 รุ่นคือ รุ่น 100 มิลลิเมตร ดี-10ที2ซี และ 100 มิลลิเมตร ดี-54 ซึ่งมีอำนาจการทำลายล้างสูงกว่าปืน 85 มิลลิเมตร แบบเก่าที่ใช้ในรถถัง ที-34-85 โดย ที-54/55 เป็นรถถังต้นแบบหลายๆคัน ในรุ่นถัดมา ได้แก่ ที-62 ที-64 ที-72 และอื่นๆอีกมากมาย และที-54/55 ยังมีรุ่นที่ถูกผลิตในจีนโดยใช้ชื่อว่า ไทป์ 59.

ใหม่!!: ปืนใหญ่และที-54/55 · ดูเพิ่มเติม »

คาบูล

ูล (Kabul): Kâb'l, ภาษาเปอร์เซีย: کابل) เป็นเมืองหลวงและเมืองที่ใหญ่ที่สุดของอัฟกานิสถาน มีประชากรที่มีการประมาณการณ์ระหว่าง 2 - 4 ล้านคน เป็นศูนย์กลางทางเศรษฐกิจและวัฒนธรรม มีตั้งทางยุทธศาสตร์ในหุบเขาแคบ ๆ บนแม่น้ำคาบูล, ในภูเขาสูง ๆ ก่อนถึงช่องเขาไคเบอร์ คาบูลติดต่อกับพรมแดนทาจิกิสถานผ่านทางอุโมงค์ใต้เทือกเขาฮินดู คูช อยู่เหนือระดับน้ำทะเลประมาณ 1,800 เมตร (5,900 ฟุต) ผลิตภัณฑ์หลัก ๆ ของคาบูล คือ ปืนใหญ่ ผ้า เฟอร์นิเจอร์ และน้ำตาลบีท อย่างไรก็ดี สงครามที่มีมาต่อเนื่องตั้งแต่พ.ศ. 2522 ได้จำกัดผลผลิตทางเศรษฐกิจของเมือง คาบูลเป็นหนึ่งในเมืองที่มีการวางระเบิดไว้มากที่สุดในโลก ประชากรของคาบูลมีหลากหลายวัฒนธรรม และหลากหลายชนชาติ สะท้อนถึงความหลากหลายของอัฟกานิสถาน โดยที่ชนชาติพาชตุน ทาจิก และฮาซารา ประกอบเป็นประชากรของคาบูลส่วนใหญ่ คาบูลยังคงกำลังก่อสร้างใหม่ หลังจากที่เกิดสงครามมาหลายทศวรรษ ทำให้การสำรวจประชากรที่แม่นยำยาก จึงมีเฉพาะค่าประมาณ.

ใหม่!!: ปืนใหญ่และคาบูล · ดูเพิ่มเติม »

คิโดะ ทะกะโยะชิ

ทะกะโยะชิ (11 สิงหาคม ค.ศ. 1833 – 26 พฤษภาคม ค.ศ. 1877) เป็นรัฐบุรุษของญี่ปุ่นในช่วงยุคบะคุมัตซึและยุคเมจิ ในช่วงที่เขาทำงานต่อต้านรัฐบาลโชกุนโทะกุงะวะ เขาใช้ชื่อปลอมว่า "นิอิโบะริ มัตซึสุเกะ".

ใหม่!!: ปืนใหญ่และคิโดะ ทะกะโยะชิ · ดูเพิ่มเติม »

ตราประจำจังหวัดของไทย

ตราประจำจังหวัดของไทย มีพัฒนาการมาจากตราประจำตำแหน่งของเจ้าเมืองในสมัยสมบูรณาญาสิทธิราชย์ และตราประจำธงประจำกองลูกเสือ 14 มณฑล ในสมัยรัชกาลที่ 6 - 7 ในสมัยที่จอมพลแปลก พิบูลสงครามเป็นนายกรัฐมนตรีนั้น รัฐบาลได้กำหนดให้แต่ละจังหวัดมีตราประจำจังหวัดของตนเองใช้เมื่อ พ.ศ. 2483 โดยกรมศิลปากรเป็นผู้ออกแบบตราตามแนวคิดที่แต่ละจังหวัดกำหนดไว้ ปัจจุบัน เมื่อมีการตั้งจังหวัดขึ้นใหม่ ก็จะมีการออกแบบตราประจำจังหวัดด้วยเสมอ แต่ตราของบางจังหวัดที่ใช้อยู่นั้นบางตราก็ไม่ใช่ตราที่กรมศิลปากรเป็นผู้ออกแบบ บางจังหวัดก็เปลี่ยนไปใช้ตราประจำจังหวัดเป็นแบบอื่นเสียก็มี บางที่ลักษณะของตราก็เพี้ยนไปจากลักษณะที่กรมศิลปากรออกแบบไว้ แต่ยังคงลักษณะหลัก ๆ ของตราเดิมไว้อยู่บ้างก็มี.

ใหม่!!: ปืนใหญ่และตราประจำจังหวัดของไทย · ดูเพิ่มเติม »

ซามูไร

ซามูไรในชุดเกราะ ถ่ายในช่วงทศวรรษที่ 1860 โดย เฟรีเช บีอาโต ซามูไร แปลเป็นภาษาไทยว่าทหาร คำว่า ซามูไร มีต้นกำเนิดจากคำว่า ซะบุระอุ ซึ่งเป็นคำกริยาในภาษาญี่ปุ่นโบราณ ที่มีความหมายว่า รับใช้ ฉะนั้น ซามูไรก็คือคนรับใช้นั่นเอง.

ใหม่!!: ปืนใหญ่และซามูไร · ดูเพิ่มเติม »

ซีเอช-53 ซีสตัลเลียน

ซีเอช-53 ซีสตัลเลียน (CH-53 Sea Stallion) เป็นชื่อทั่วไปที่มักใช้เรียกเอส-65 ซึ่งตระกูลหนึ่งในเฮลิคอปเตอร์บรรทุกขนาดหนักของซิคอร์สกี้ แอร์คราฟท์ เดิมที่มันถูกพัฒนาขึ้นให้กับนาวิกโยธินสหรัฐ มันยังเข้าประการในเยอรมนี อิหร่าน อิสราเอล และเม็กซิโกอีกด้วย กองทัพอากาศสหรัฐใช้เอชเอช-53 ซูเปอร์จอลลี่กรีนไจแอนท์ในช่วงปลายและหลังสงครามเวียดนาม โดยได้ทำการพัฒนาพวกมันส่วนใหญ่ให้กลายเป็นเอ็มเอช-53 เพฟโลว์ มันมีความคล้ายคลึงกับซีเอช-53อี ซูเปอร์สตัลเลียนที่มีขนาดใหญ่กว่าและเป็นรุ่นที่ได้รับการพัฒนาเป็นเอส-80อีโดยซิคอร์สกี้ เครื่องยนต์ที่สามของมันทำให้มันทรงพลังยิ่งกว่าซีสตัลเลียน ซึ่งได้เข้ามาทำหน้าที่แทนในการบรรทุกขนาดหนัก.

ใหม่!!: ปืนใหญ่และซีเอช-53 ซีสตัลเลียน · ดูเพิ่มเติม »

ปืน

ูเอสเอส ไอโอว่า ยิงปืนขณะทำการฝึกยิงใกล้เกาะวีคูส์ เปอร์โต ริโค เมื่อวันที่ 1 กรกฎาคม 1984 ปืน คืออาวุธสำหรับยิงลูกกระสุนปืน เพื่อให้เข้าสู่เป้าหมาย โดยอาศัยหลักการเผาไหม้ของดินปืนให้เกิดแก๊สผลักดันลูกกระสุนให้ออกจากปากลำกล้องด้วยความเร็วสูง ลูกกระสุนที่ออกจากปากลำกล้องจะการเคลื่อนที่ในแนววิถีราบ ส่วนปืนที่มีขนาดใหญ่ เช่น ปืนใหญ่นิยมใช้การเคลื่อนที่วิถีโค้ง ปืนมีทั้งที่เป็นอาวุธประจำกายเช่น ปืนสั้น ปืนลูกซอง ปืนไรเฟิล ปืนกล หรือ เป็นอาวุธติดตั้งกับพาหนะเช่น ปืนใหญ่รถถัง ปืนกลอากาศในเครื่องบิน ปืนประจำเรือ หรือเป็นอาวุธหนักในสนามรบเช่น ปืนใหญ.

ใหม่!!: ปืนใหญ่และปืน · ดูเพิ่มเติม »

ปืนคาบศิลา

ปืนคาบศิลาและดาบปลายปืน ปืนคาบศิลา (musket) เป็นปืนที่ใช้ดินปืน(ดิน"แรงดันต่ำ")ตำกรอกทางปากกระบอกปืน จากนั้นรอง"หมอน"นุ่น หรือผ้า แล้วใส่หัวกระสุนทรงกลม ปิดด้วยหมอนอีกชั้น ปืนชนิดนี้เมื่อบรรจุกระสุนไว้ต้องถือตั้งตรงตลอด ไม่งั้นกระสุนอาจไหลออกจากปากลำกล้อง เวลาจะยิงต้องใช้ หิน"คาบศิลา"(หินไฟ-Flint) ตอกกระทบโลหะ หรือกระทบกันเอง (มักทำเป็น คอนกติดหินไฟ ผงกด้วยสปริง) เพื่อจุดดินขับในถ้วยที่โคนปืน ให้ไฟแล่บติดดินขับ วิ่งเข้าไปทางรูที่ท้ายลำกล้อง แล้วจึงเกิดการลุกไหม้ในดินปืน ระเบิดกระสุนออกไป ปืนชนิดนี้เป็นต้นแบบของปืนไรเฟิลในปัจจุบันด้วย ไม่มีผู้ทราบว่าใครประดิษฐ์ขึ้น แต่ว่าในเอกสารทางการทหารของจีนได้มีการกล่าวถึงอาวุธชนิดหนึ่งเรียกว่า "หั่วหลงจิง (火龙经)" ในช่วงปลายคริสต์ศตวรรษที่ 14 ในแรกเริ่มปืนคาบศิลาไค้มีการออกแบบให้ใช้กับทหารราบเท่านั้น และได้มีการปรับปรุงขึ้นในคริสต์ศตวรรษที่ 19 ซึ่งเป็นช่วงการปฏิวัติอุตสาหกรรม เช่นมีเกลียวในลำกล้อง การมีกล้องเล็ง มีกระสุนปลายแหลมซี่งแต่เดิมนั้นเป็นลูกกลมๆ และในช่วงปลายศตวรรษที่ 19 ก็มีการประดิษฐ์ปืนชนิดที่บรรจุกระสุนทางท้ายรังเพลิงปืนซึ่งแต่เดิมนั้นบรรจุกระสุนทางปากลำกล้องเข้ามาแทนที.

ใหม่!!: ปืนใหญ่และปืนคาบศิลา · ดูเพิ่มเติม »

ปืนต่อสู้รถถัง

OQF 17 pdr. ขนาด 76.2 มม. (3 นิ้ว) ของประเทศอังกฤษ กองพลส่งทางอากาศที่ 82 ประเทศสหรัฐอเมริกา กำลังทำการยิงปืน OQF 17 pdr. ณ เมืองไนจ์เมเจน (Nijmegen) ประเทศเนเธอร์แลนด์ เพื่อสกัดการรุกคืบของกองกำลังฝ่ายเยอรมัน ในปฏิบัติการมาร์เก็ตการ์เดน ค.ศ. 1944 ปืนต่อสู้รถถัง (Anti-tank gun; AT-Gun) จัดเป็นปืนใหญ่ มีวิถีราบ อำนาจการยิงไกล มีความเร็วต้นของกระสุนและอำนาจทะลุทะลวงสูง พัฒนามาจากปืนใหญ่วิถีราบ (Cannon) หรือปืนใหญ่สนาม (Field Gun) ในสมัยแรก ปืนต่อสู้รถถังบางส่วนได้รับการพัฒนามาจากปืนต่อสู้อากาศยานที่มีขนาดลำกล้องใหญ่ โดยเปลี่ยนจากใช้กระสุนระเบิดแรงสูง (High-explosive; HE) มาเป็นกระสุนเจาะเกราะ (Armor-Piercing; AP) เช่น ปืน Flak 36 ขนาด 88 มม.ของนาซีเยอรมัน ปืน M1 gun ขนาด 90 มม.ของสหรัฐอเมริกา ฯลฯ เป็นต้น.

ใหม่!!: ปืนใหญ่และปืนต่อสู้รถถัง · ดูเพิ่มเติม »

ปืนใหญ่อัตตาจร

ปืนใหญ่อัตตาจร (Self-propelled artillery) เป็นศัพท์ทางการทหาร หมายถึงพาหนะที่สามารถขับเคลื่อนตัวเองได้ และติดตั้งปืนใหญ่ ปืนฮาวอิตเซอร์ หรือเครื่องยิงจรวด สามารถเคลื่อนย้ายไปตามภูมิประเทศทุรกันดาร โดยอาจเป็นพาหนะล้อสายพานหรือล้อยาง ทำการยิงแล้วเคลื่อนย้ายที่ตั้งอย่างรวดเร็ว เพื่อป้องกันการตรวจจับสถานที่ตั้งและถูกโจมตีกลับ ปืนใหญ่อัตตาจรจะประจำการอยู่ในกองพันทหารปืนใหญ่ มีหน้าที่ยิงสนับสนุนทหารราบในแนวหน้าจากระยะไกล ปืนอัตตาจรสมัยใหม่อาจมีลักษณะคล้ายรถถัง และหุ้มเกราะขนาดกลาง บางรุ่นอาจติดตั้งปืนกลเพื่อป้องกันตนเองจากทหารราบของฝ่ายตรงข้าม.

ใหม่!!: ปืนใหญ่และปืนใหญ่อัตตาจร · ดูเพิ่มเติม »

ปืนใหญ่อัตตาจรอาร์เชอร์

ระบบปืนใหญ่อาร์เชอร์ (Archer Artillery System) รหัส FH77BW L52 เป็นระบบปืนใหญ่อัตตาจรขนาด 155 ม.ม. ของสวีเดนและนอร์เวย์ พัฒนาขึ้นโดยบริษัท Bofors (ปัจจุบันเป็นบริษัทลูกของ บีเออี ซิสเต็มส์) โดยการควบคุมของ Försvarets Materielverk (FMV) ของสวีเดน ประกอบด้วยปืนใหญ่ฮาวอิตเซอร์ขนาด 155 ม.ม. ติดตั้งบนรถบรรทุก 6 ล้อวอลโว โดยมีรถควบคุมสั่งการทางไกล และรถบรรทุกกระสุนสนับสนุน สามารถปฏิบัติการได้ด้วยเจ้าหน้าที่ 4 นาย ปัจจุบัน ระบบอาร์เชอร์มีประจำการในกองทัพสวีเดนและนอร์เวย์ http://www.fmv.se/WmTemplates/page.aspx?id.

ใหม่!!: ปืนใหญ่และปืนใหญ่อัตตาจรอาร์เชอร์ · ดูเพิ่มเติม »

ปืนใหญ่อัตตาจรซีซาร์

ซีซาร์ (CAESAR; ย่อมาจากภาษาฝรั่งเศส CAmion Equipé d'un Système d'ARtillerie แปลว่า รถบรรทุกที่ติดตั้งปืนใหญ่); retrieved 13 February 2007 เป็นระบบปืนใหญ่ขนาด 155 ม.ม. ติดตั้งบนรถบรรทุกหุ้มเกราะขนาด 6 ล้อ ออกแบบและพัฒนาโดยบริษัท เกียท อินดัสทรีส์ รัฐวิสาหกิจของประเทศฝรั่งเศส เริ่มเข้าประจำการครั้งแรกในปี..

ใหม่!!: ปืนใหญ่และปืนใหญ่อัตตาจรซีซาร์ · ดูเพิ่มเติม »

ปืนใหญ่จอมสลัด

ปืนใหญ่จอมสลัด ภาพยนตร์แนวแฟนตาซีอิงประวัติศาสตร์ของ นนทรีย์ นิมิบุตร ทุนสร้าง 140 ล้านบาท เขียนบทภาพยนตร์โดย วินทร์ เลียววาริณ นักเขียนรางวัลซีไรต์ และคงเดช จาตุรันต์รัศมี.

ใหม่!!: ปืนใหญ่และปืนใหญ่จอมสลัด · ดูเพิ่มเติม »

ปืนเล็กยาวจู่โจม

ปืนเอ็ม16 ประจำการครั้งแรกในกองทัพอากาศสหรัฐ เมื่อปี ค.ศ. 1965 ใช้กระสุนขนาด 5.56x45 มม. นาโต เป็นอาวุธปืนที่ประจำการยาวนานที่สุดในกองทัพสหรัฐ ปืนเล็กยาวจู่โจม หรือ ปืนไรเฟิลจู่โจม (Assault rifle) เป็นปืนเล็กยาว ยิงด้วยระบบอัตโนมัติหรือกึ่งอัตโนมัติไปตามวงรอบจนกว่ากระสุนจะหมด ด้วยอัตราการยิงสูง ปืนเล็กยาวจู่โจมจัดเป็นอาวุธประจำกายของทหารในราชการกองทัพ ตามหลักนิยมในการจัดกำลัง 1 หมู่ (Squad) จะมีพลปืนเล็กจำนวน 5 นายและอีก 1 นายใช้ปืนเล็กกลหรือปืนกลเบา เพื่อเพิ่มศักยภาพในการรบ เช่น เอ็ม1 กาแรนด์และเอสวีที-40 ในสงครามโลกครั้งที่สอง ตัวอย่างปืนเล็กยาวจู่โจม เช่น เอเค 47 เอ็ม16 ฟามาส สไตเออร์ เอยูจี ปืนเล็กยาวกึ่งอัตโนมัติ ได้แก่ เออาร์-15.

ใหม่!!: ปืนใหญ่และปืนเล็กยาวจู่โจม · ดูเพิ่มเติม »

ป้อมชยครห์

ป้อมชยครห์ (ราชสถานและजयगढ़ क़िला; Jaigarh Fort) ตั้งอยู่บริเวณเชิงเขาชีลกาทีลา (เขาแห่งอินทรี) ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของเทือกเขาอะระวัลลี โดยตั้งอยู่สูงเหนือกว่าป้อมอาเมร์ ซึ่งเบื้องล่างนั้นเป็นทะเลสาบเมาตา ซึ่งใกล้กับเมืองอาเมร์ ชานเมืองชัยปุระ ในรัฐราชสถาน ประเทศอินเดีย สร้างโดยมหาราชาสะหวายจัย สิงห์ที่ 2 ในปีค.ศ. 1726 เพื่อใช้สำหรับอารักขาป้อมอาเมร์ และพระราชวังอาเมร์ซึ่งตั้งอยู่ภายในอันเป็นพระราชฐานของพระองค์ ป้อมแห่งนี้มีการออกแบบทางโครงสร้างสถาปัตยกรรมที่คล้ายคลึงกับป้อมอาเมร์ และยังนิยมเรียกกันว่า "ป้อมชัย" (ป้อมแห่งชัยชนะ) ซึ่งกินความยาวรวม ทางด้านทิศเหนือจรดใต้ และกว้างประมาณ ในป้อมแห่งนี้เป็นที่ตั้งของปืนใหญ่ "ชัยวนา" (Jaivana) ซึ่งมีน้ำหนักถึง 50 ตัน ซึ่งได้ทำการหลอมโลหะและผลิตภายในป้อมแห่งนี้ โดยในขณะที่สร้างนั้นถือเป็นปืนใหญ่ที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลกซึ่งมีล้อสามารถเคลื่อนย้ายได้ ภายในป้อม มีสวนที่ตกแต่งอย่างสวยงาม และหมู่พระตำหนักซึ่งประกอบด้วย "ลักษมีวิลาส" (Laxmi Vilas), "ลลิตมนเทียร" (Lalit Mandir), "วิลาสมนเทียร" (Vilas Mandir) และ "อารามมนเทียร" (Aram Mandir) ซึ่งใช้สำหรับสมาชิกพระราชวงศ์เวลาเสด็จมาประทับที่ป้อมแห่งนี้ นอกจากนี้ยังพบ "ศุภัตนิวาส" (Shubhat Niwas) ซึ่งเป็นโถงสำหรับรวมพล โรงงานผลิตอาวุธ และพิพิธภัณฑ์ ป้อมชยครห์ และป้อมอาเมร์นั้นเชื่อมต่อกันด้วยทางเดินลับใต้ดิน จึงมักถือว่าป้อมทั้งสองนี้เป็นสถานที่เดียวกัน.

ใหม่!!: ปืนใหญ่และป้อมชยครห์ · ดูเพิ่มเติม »

ป้อมดาว

ป้อมบูร์แตงจ์ (Bourtange), โกรนนิงเก็น, เนเธอร์แลนด์ บูรณะให้เหมือนในปี ค.ศ. 1750 ป้อมดาว (Star fort หรือ trace italienne) คือระบบป้อมปราการที่วิวัฒนาการขึ้นระหว่างสมัยที่การใช้ดินปืนในการต่อสู้โดยการใช้ปืนใหญ่ที่เริ่มแพร่หลายมากขึ้น ที่เริ่มสร้างเป็นครั้งแรกราวกลางคริสต์ศตวรรษที่ 15 ในอิตาลี รูปทรงป้อมที่สร้างกันในยุคกลางไม่สามารถทนทานต่อการถูกโจมตีด้วยปืนใหญ่ได้ แรงระเบิดของปืนใหญ่สามารถทำลายกำแพงดิ่งได้อย่างง่ายดาย ขณะที่ป้อมดาวใช้กำแพงราบและเป็นโครงสร้างที่ใช้ระบบมุขป้อม (bastion) สามเหลี่ยม ที่ยื่นซ้อนกันออกมาซ้อนกันเป็นชั้นๆ ที่เป็นการช่วยป้องกันซึ่งกันและกัน และคูรอบป้อม ต่อมาป้อมดาวก็วิวัฒนาการมาใช้โครงสร้างเช่นระบบป้องกันแบบสามเหลี่ยม (ravelin), การสร้างเสริมส่วนบนของกำแพง (crownwork) และเพิ่มป้อมที่เป็นอิสระจากตัวป้อมหลัก เพื่อเพิ่มความซับซ้อนให้แก่โครงสร้างเพิ่มขึ้น ป้อมดาววิวัฒนาการต่อมาในปลายคริสต์ศตวรรษที่ 15 และต้นคริสต์ศตวรรษที่ 16 เพื่อเป็นการตอบโต้การรุกรานของฝรั่งเศสในคาบสมุทรอิตาลี ฝ่ายฝรั่งเศสมีอาวุธปืนใหญ่แบบใหม่ที่มีประสิทธิภาพพอที่จะทำลายป้อมปราการที่สร้างตามแบบโบราณในยุคกลางได้อย่างง่ายดาย เพื่อเป็นการโต้ตอบความรุนแรงของการทำลายของอาวุธใหม่กำแพงป้องกันก็ถูกสร้างให้เตี้ยลงแต่หนาขึ้น ตัวกำแพงสร้างด้วยวัสดุการก่อสร้างหลายอย่างแต่มักจะเป็นดินและอิฐ เพราะอิฐจะไม่แตกกระจายเมื่อถูกโจมตีโดยปืนใหญ่เช่นหิน องค์ประกอบที่สำคัญอีกอย่างหนึ่งที่ใช้ในการก่อสร้างป้อมดาวคือการใช้มุขป้อมที่กลายมาเป็นลักษณะที่เป็นเอกลักษณ์ของป้อมปราการแบบใหม่ การวิวัฒนาการมาเป็นรูปดาวที่บางครั้งก็จะซ้อนกันหลายชั้นทำให้สามารถต้านทานจากการถูกโจมตีโดยปืนใหญ่ได้ ไมเคิล แอนเจโลใช้ลักษณะป้อมดาวในการออกแบบแนวป้องกันที่ทำด้วยดิน (defensive earthworks) ของฟลอเรนซ์ ที่มาได้รับการปรับปรุงในคริสต์ศตวรรษที่ 16 โดยบัลดัสซาเร เปรูซซิ (Baldassare Peruzzi) และ วินเช็นโซ สคามอซซิ (Vincenzo Scamozzi) ป้อมดาวเผยแพร่จากอิตาลีในคริสต์ทศวรรษ 1530 และ 1540 และใช้กันมากในทวีปยุโรปเป็นเวลาราวสามร้อยปีหลังจากนั้น สถาปนิก/วิศวกรอิตาเลียนเป็นที่ต้องการตัวไปทั่วยุโรปในการสร้างป้อมแบบใหม่นี้ ในปลายคริสต์ศตวรรษที่ 17 เม็นโน ฟาน โคฮูร์น (Menno van Coehoorn) และเซบาสเตียง เลอ เพรส์เทรอ เดอ โวบองผู้เป็นสถาปนิกทางสถาปัตยกรรมทางทหารในพระเจ้าหลุยส์ที่ 14 แห่งฝรั่งเศส ยิ่งยกลักษณะการออกแบบป้อมดาวขึ้นไปอีกขั้นหนึ่ง ที่ประกอบด้วยองค์ประกอบของสถาปัตยกรรมการก่อสร้างป้อมปราการทุกสิ่งทุกอย่าง จนทำให้กลายเป็นระบบการป้องกันอันซับซ้อนเท่าที่สามารถทำกันได้ ระบบป้อมรูปดาววิวัฒนาการมาจากการวางผังเมืองของเมืองในอุดมคติของยุคฟื้นฟูศิลปวิทยา: “ยุคฟื้นฟูศิลปวิทยาถูกสะกดด้วยผังเมืองแบบหนึ่งเป็นเวลาร้อยห้าสิบปี—ตั้งแต่ฟิลาเรเตจนถึงสคามอซซิ—ที่ต่างก็มีความประทับใจในแผนอันเป็นอุดมคติ: รูปร่างของเมืองที่ว่านี้คือรูปดาว” ในคริสต์ศตวรรษที่ 10 การวิวัฒนาการลูกระเบิดแบบใหม่ที่มีพลังสูงขึ้นแบบที่เรียกว่าexplosive shell ทำให้สถาปัตยกรรมการก่อสร้างป้อมปราการต้องเปลี่ยนแปลงไปอีกครั้งหนึ่ง.

ใหม่!!: ปืนใหญ่และป้อมดาว · ดูเพิ่มเติม »

นิกโกเลาะ ปากานีนี

นิกโกเลาะ ปากานีนี (Niccolò Paganini; 27 สิงหาคม ค.ศ. 1782 - 27 พฤษภาคม ค.ศ. 1840) เป็นนักไวโอลิน วิโอลา กีตาร์ในยุคโรแมนติกชาวอิตาลีที่มีชื่อเสียง ได้รับการยอมรับถึงฝีมือการเล่นว่าเป็นที่หนึ่งในยุคนั้น ทั้งยังได้พัฒนาเทคนิคการสีไวโอลินแบบใหม่ เขายังมีผลงานประพันธ์โซนาตา คอนแชร์โต และคาปรีซสำหรับการเดี่ยวไวโอลินจำนวนหลายชิ้น ที่มีชื่อเสียงที่สุด คือ Caprice No. 24 นอกจากนี้ปากานินียังเป็นแรงบันดาลใจให้กับคีตกวีสำคัญในยุคต่อมา เช่น โยฮันเนส บราห์ม และ เซียร์เกย์ รัคมานีนอฟ ปากานีนีหัดเล่นดนตรีตั้งแต่อายุ 5 ปี โดยเล่นแมนโดลินของบิดา เริ่มเล่นไวโอลินเมื่ออายุ 7 ปี และเริ่มแสดงพรสวรรค์ออกมาจนได้รับทุนการศึกษาด้านดนตรี เมื่อโตขึ้นได้ย้ายไปเรียนไวโอลินที่ปาร์มา ก่อนจะย้ายไปฟลอเรนซ์ โดยมีชื่อเสียงในระดับท้องถิ่น ปากานีนีเริ่มมีชื่อเสียงในวงกว้างจากการเล่นคอนเสิร์ตที่โรงอุปรากรลา สกาลา เมืองมิลาน ในปี ค.ศ. 1813 ต่อมาได้เดินทางไปเล่นในต่างเมือง เช่นที่ เวียนนา ในปี..

ใหม่!!: ปืนใหญ่และนิกโกเลาะ ปากานีนี · ดูเพิ่มเติม »

แอนน์แห่งเดนมาร์ก สมเด็จพระราชินีแห่งอังกฤษ

แอนน์แห่งเดนมาร์ก (Anne of Denmark; 12 ธันวาคม ค.ศ. 1574 — 2 มีนาคม ค.ศ. 1619) เป็นพระธิดาองค์ที่สองของพระเจ้าเฟรเดอริกที่ 2 แห่งเดนมาร์กและโซฟีแห่งเมคเลนบูร์ก-กึสโทร สมเด็จพระราชินีแห่งเดนมาร์กและนอร์เวย์ เป็นพระมเหสีในพระเจ้าเจมส์ที่ 1 แห่งอังกฤษ และที่ 6 แห่งสกอตแลนด์ แอนน์แห่งเดนมาร์กเป็นพระราชินีแห่งสกอตแลนด์ระหว่างวันที่ 20 สิงหาคม ค.ศ. 1589 และเป็นพระราชินีแห่งอังกฤษตั้งแต่วันที่ 24 มีนาคม ค.ศ. 1589 กระทั่งเสด็จสวรรคตเมื่อวันที่ 2 มีนาคม ค.ศ. 1619 ที่พระราชวังแฮมป์ตันคอร์ตในอังกฤษ พระศพของพระองค์ตั้งอยู่ที่เวสต์มินสเตอร์แอบบีย์ แอนน์ทรงเสกสมรสกับพระเจ้าเจมส์ที่ 1 เมื่อปี ค.ศ. 1589 เมื่อพระชนมายุได้ 14 พรรษา มีพระโอรสธิดาสามพระองค์ที่รอดมาได้จนโตรวมทั้งพระเจ้าชาลส์ที่ 1 พระองค์ทรงเป็นผู้มีความเด็ดเดี่ยวพอที่จะทรงใช้ความแตกแยกของการเมืองในสกอตแลนด์เป็นเครื่องมือในการเรียกร้องสิทธิในตัวพระโอรส เฮนรี เฟรเดอริก เจ้าชายแห่งเวลส์ จากพระเจ้าเจมส์ ดูเหมือนว่าพระองค์จะทรงรักพระเจ้าเจมส์ในตอนแรก แต่ต่อมาทั้งสองพระองค์ก็ทรงห่างเหินจากกัน จนในที่สุดก็ทรงแยกกันอยู่ แต่ก็ยังคงทรงมีความนับถือซึ่งกันและกันอยู่บ้าง เมื่อประทับอยู่ในอังกฤษ พระองค์ทรงหันความสนใจจากทางด้านการเมืองที่เป็นฝักเป็นฝ่ายไปเป็นการอุปถัมภ์ศิลปะ และการสร้างราชสำนักที่หรูหราของพระองค์เอง ทรงจัดให้มีการพบปะในซาลอนที่ทำให้เป็นราชสำนักของพระองค์เป็นราชสำนักที่มีวัฒนธรรมสูงที่สุดสำนักหนึ่งในยุโรป หลังจากปี ค.ศ. 1612 พระสุขภาพพลานามัยของพระองค์ก็เริ่มเสื่อมลง จนในที่สุดก็ทรงถอนตัวจากราชสำนัก ตามทางการแล้วพระราชินีแอนน์สวรรคตในฐานะที่เป็นโปรเตสแตนต์ แต่หลักฐานบางอย่างบ่งชี้ให้เห็นว่าอาจจะทรงเปลี่ยนไปนับถือนิกายโรมันคาทอลิกขณะใดขณะหนึ่งระหว่างที่ยังมีพระชนม์อยู่ นักประวัติศาสตร์เดิมไม่ได้เห็นว่าแอนน์แห่งเดนมาร์กเป็นพระราชินีที่มีความสำคัญมากเท่าใดนัก และออกจะเป็นผู้มีความหลงพระองค์เอง แต่เมื่อไม่นานมานี้ ความเห็นเกี่ยวกับพระองค์ก็เริ่มจะเปลี่ยนไปโดยเริ่มมีความเห็นกันว่าพระองค์ทรงมีความเด็ดเดี่ยวเป็นตัวของตัวเองโดยเฉพาะทรงเป็นผู้มีความสำคัญในการเป็นผู้อุปถัมภ์ทางศิลปะระหว่างสมัยจาโคเบียน.

ใหม่!!: ปืนใหญ่และแอนน์แห่งเดนมาร์ก สมเด็จพระราชินีแห่งอังกฤษ · ดูเพิ่มเติม »

แคนนอน (แก้ความกำกวม)

แคนนอน สามารถหมายถึง.

ใหม่!!: ปืนใหญ่และแคนนอน (แก้ความกำกวม) · ดูเพิ่มเติม »

แปลก พิบูลสงคราม

งครามอินโดจีน พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เมื่อครั้งผนวชทรงรับบาตรจากจอมพล ป. นายกรัฐมนตรีในขณะนั้น จอมพล จอมพลเรือ จอมพลอากาศ แปลก พิบูลสงคราม (14 กรกฎาคม พ.ศ. 2440 – 11 มิถุนายน พ.ศ. 2507) หรือที่เรียกกันทั่วไปว่า "จอมพล ป.พิบูลสงคราม" เป็นนายกรัฐมนตรีไทยที่ดำรงตำแหน่งนานที่สุด คือ 14 ปี 11 เดือน 18 วัน รวม 8 สมัย และเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย มีนโยบายที่สำคัญคือ การมุ่งมั่นพัฒนาประเทศไทย ให้มีความเจริญรุ่งเรืองทัดเทียมนานาอารยประเทศ มีการปลุกระดมให้คนไทยรู้สึกรักชาติ โดยออกประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี ว่าด้วย "รัฐนิยม" หลายอย่าง ซึ่งบางอย่างได้ประกาศเป็นกฎหมายในภายหลัง หลายอย่างกลายเป็นวัฒนธรรมของชาติ เช่น การรำวง, ก๋วยเตี๋ยวผัดไทย เป็นผู้เปลี่ยนชื่อ "ประเทศสยาม" เป็น "ประเทศไทย" และเป็นผู้เปลี่ยน "เพลงชาติไทย" มาเป็นเพลงที่ใช้กันอยู่ในปัจจุบัน คำขวัญที่รู้จักกันดีของนายกรัฐมนตรีผู้นี้คือ "เชื่อผู้นำชาติพ้นภัย" หรือ "ท่านผู้นำไปไหนฉันไปด้วย" และ "ไทยอยู่คู่ฟ้า" ในสายตานักวิชาการประวัติศาสตร์การเมืองไทยส่วนหนึ่งเห็นว่า จอมพล ป. พิบูลสงคราม เป็นเผด็จการทางทหารที่มีบทบาททางการเมืองสูง และให้ความสนใจกับความคิดที่ส่อไปในทางเชื้อชาตินิยม จอมพล ป. พิบูลสงคราม ถึงแก่อสัญกรรม เมื่อวันที่ 11 มิถุนายน พ.ศ. 2507 ในเวลาประมาณ 20.30 น. ณ บ้านพักส่วนตัว ชานกรุงโตเกียว สิริอายุได้ 67 ปี.

ใหม่!!: ปืนใหญ่และแปลก พิบูลสงคราม · ดูเพิ่มเติม »

แนวรบด้านตะวันออก (สงครามโลกครั้งที่สอง)

แนวรบด้านตะวันออกเป็นเขตสงครามหนึ่งในสงครามโลกครั้งที่สอง มีอักษะประเทศในทวีปยุโรป และคู่สงครามร่วมฟินแลนด์ฝ่ายหนึ่ง กับสหภาพโซเวียต โปแลนด์และชาติสัมพันธมิตรจำนวนหนึ่งอีกฝ่ายหนึ่งเป็นคู่สงคราม เขตสงครามนี้กินอาณาบริเวณยุโรปตะวันออก บางส่วนของยุโรปเหนือและยุโรปใต้ สู้รบกันระหว่างวันที่ 22 มิถุนายน..

ใหม่!!: ปืนใหญ่และแนวรบด้านตะวันออก (สงครามโลกครั้งที่สอง) · ดูเพิ่มเติม »

โรงเรียนนายสิบทหารบก

รงเรียนนายสิบทหารบก (Army Non Commissioned Officer School.)(ค่ายโยธินศึกษามหามงกุฏ) เป็นโรงเรียนหลักที่ผลิตนายทหารชั้นประทวนให้กับ กองทัพบก โดยรับสมัครผู้ที่สำเร็จการศึกษาระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย โดยจะรับสมัครสอบคัดเลือกบุคคลพลเรือน ทหารกองประจำการ ทหารกองหนุน พลอาสาสมัคร (ประจำการ) และอาสาสมัครทหารพราน เข้าเป็นนักเรียนนายสิบทหารบก หลักสูตร 6 เดือน และศึกษาต่อ ณ โรงเรียนเหล่าสายวิทยาการอีกจำนวน 6 เดือน จึงได้รับการแต่งตั้งยศเป็นสิบตรี.

ใหม่!!: ปืนใหญ่และโรงเรียนนายสิบทหารบก · ดูเพิ่มเติม »

โทกูงาวะ โยชิโนบุ

ทกูงาวะ โยชิโนบุ (28 ตุลาคม ค.ศ. 1837 - 22 พฤศจิกายน ค.ศ. 1913) เป็นโชกุนลำดับที่ 15 และโชกุนคนสุดท้ายของรัฐบาลโชกุนโทกูงาวะแห่งประเทศญี่ปุ่น โยชิโนบุเป็นผู้มีบทบาทสำคัญในรัฐบาลโชกุนโทกูงาวะมาหลายสมัย และได้เคลื่อนไหวเพื่อปฏิรูปรัฐบาลโชกุนซึ่งกำลังอยู่ในภาวะเสื่อมถอย แต่จบลงด้วยความล้มเหลวอย่างรุนแรงยิ่ง ภายหลังเมื่อสละตำแหน่งและถวายอำนาจของโชกุนคืนแก่จักรพรรดิเมจิแล้ว โยชิโนบุได้เกษียณตนเองและใช้ชีวิตโดยหลบเลี่ยงจากสายตาของสาธารณชนตลอดช่วงชีวิตที่เหลืออยู่ จนกระทั่งเสียชีวิตด้วยวัย 76 ปี นับว่าเป็นโชกุนผู้มีอายุยืนที่สุดในประวัติศาสตร์ญี่ปุ่น.

ใหม่!!: ปืนใหญ่และโทกูงาวะ โยชิโนบุ · ดูเพิ่มเติม »

ไซโง ทะกะโมะริ

ซโง ทะกะโมะริ (23 มกราคม ค.ศ. 1828 - 24 กันยายน ค.ศ. 1877) เป็นหนึ่งในซามูไรผู้ทรงอิทธิพลที่สุดในประวัติศาสตร์ญี่ปุ่น มีชีวิตอยู่ระหว่างปลายยุคเอะโดะ (บะคุมะสึ) ถึงช่วงต้นยุคเมจิ ผู้ได้รับการขนานนามว่า "ซามูไรที่แท้จริงคนสุดท้าย" ("the last true samurai'") ไซโงมีชื่อในวัยเด็กว่า "ไซโง โคะคิชิ" และได้เปลี่ยนมาใช้ชื่อว่า "ไซโง ทะกะโมะริ" เมื่อเข้าสู่วัยผู้ใหญ่ นอกจากนี้เขายังใช้ชื่อในงานเขียนกวีนิพนธ์ว่า "ไซโง นันชู".

ใหม่!!: ปืนใหญ่และไซโง ทะกะโมะริ · ดูเพิ่มเติม »

เมืองยอง

มืองยอง เป็นเมืองหรืออำเภอหนึ่งใน รัฐฉาน ประเทศพม่าขึ้นกับแขวงเมืองพะยาค เป็นเมืองที่มีประวัติศาสตร์อันยาวนาน ทั้งเกี่ยวข้องกับ พม่า ล้านนา สยาม ลาว และ เขตสิบสองปันนา ของจีน ผู้ที่อยู่อาศัยในเมือง จะถูกเรียกว่า ชาวลื้อ คนเมืองยองสืบเชื้อสายมาจากผู้คนที่อพยพมาจากเมืองเชียงรุ่งและเมืองอื่น ๆ ในสิบสองพันนา ซึ่งเป็นคนลื้อหรือไทลื้อ และเมื่ออพยพเข้ามาตั้งถิ่นฐานครั้งใหญ่ในเมืองลำพูนในปี..

ใหม่!!: ปืนใหญ่และเมืองยอง · ดูเพิ่มเติม »

เรือรบ

เรือรบในศตวรรษที่ 17 เรือรบ (Warship) คือเรือที่ถูกสร้างมาสำหรับใช้ในการสงคราม เรือรบนั้นจะถูกสร้างให้แตกต่างจากเรือสินค้าอย่างสิ้นเชิง โดยออกแบบมาให้บรรทุกอาวุธ และสามารถทนต่อการยิงของลูกกระสุนของฝ่ายตรงข้ามได้ดี เรือรบถูกใช้มากในสงครามโลกครั้งที่สอง และพัฒนาขึ้นมากจากแต่ก่อน เรือรบอาจจะแบ่งได้หลายลักษณะตามการใช้งาน โดยมีวิวัฒนาการตามรูปแบบของสงครามทางเรือที่เปลี่ยนแปลงไปตามยุคสมัย กล่าวคือในยุคสมัยแรกเรือรบ มีหน้าที่เพียงบรรทุกทหาร เสบียง อาวุธยุทโธปกรณ์ เพื่อนำไปส่งอีกที่หนึ่ง แล้วจึงทำการรบกันบนบกเท่านั้น เช่นเรือแกลเลย์ของกรีกในยุคโบราณ ต่อมาได้มีการติดอาวุธไปกับเรือ คือ ปืนใหญ่ชนิดบรรจุท้าย ทำให้เกิดยุทธนาวีหรือการรบกันกลางทะเลขึ้นมา โดยมีอาวุธปืนเป็นปัจจัยสำคัญในการรบ ในสมัยศตวรรษที่ 16 การเดินเรือด้วยเรือใบมีความสำคัญมาก เทคโนโลยีการต่อเรือสมัยนั้นสามารถต่อเรือที่มีขนาดใหญ่พอที่จะใช้เดินทางข้ามมหาสมุทรอันกว้างใหญ่ไพศาลได้ สำหรับเรือรบของประเทศไทยนั้นจะมีการเรียกว่า เรือหลวง (รล.) มาจาก เรือของในหลวง โดยจะมีหลักการตั้งชื่อตามการใช้งาน และประเภทของเรือ เช่น เรือดำน้ำ ผู้มีอิทธิฤทธิ์ในการดำน้ำ เรือพิฆาต พระมหากษัตริย์ เรือทุ่นระเบิด สมรภูมิที่สำคัญ เรือเร็วโจมตี ชื่อเรือโบราณ เรือฟริเกตต์ แม่น้ำสำคัญ เรือช่วยรบ ชื่อเกาะ รบ หมวดหมู่:ยุทโธปกรณ์ หมวดหมู่:เรือรบ.

ใหม่!!: ปืนใหญ่และเรือรบ · ดูเพิ่มเติม »

เรือรบอวกาศยามาโตะ

รือรบอวกาศยามาโตะ หรือ ในชื่อที่ใช้เมื่อครั้งที่เคยออกอากาศในเมืองไทยครั้งแรกโดยไทยทีวีสีช่อง 9 อ.ส.ม.ท. คือ "สตาร์เบลเซอร์ ตลุยอวกาศ" คืออะนิเมะแนววิทยาศาสตร์ของญี่ปุ่น ซึ่งชื่อของเรี่องนั้นเป็นชื่อของยานอวกาศ อะนิเมะเรื่องนี้มีอีกชื่อในภาษาอังกฤษคือ Space Cruiser Yamato (สเปซ ครุยเซอร์ ยามาโตะ) หรือStar Blazers (สตาร์ เบลเซอส์) สำหรับภาคภาษาอังกฤษ ซึ่งออกอากาศในอเมริกาเหนือและออสเตรเลีย สำหรับภาคภาษาอิตาลีก็ใช้ชื่อ สตาร์ เบลเซอ.

ใหม่!!: ปืนใหญ่และเรือรบอวกาศยามาโตะ · ดูเพิ่มเติม »

เรือประจัญบาน

เรือประจัญบานยามาโตะในปี ค.ศ. 1941 เรือประจัญบาน คือเรือรบหุ้มเกราะขนาดใหญ่ที่มีอาวุธประจำเรือเป็นปืนใหญ่มีระยะยิงไกล ในช่วงปลายสตวรรษที่ 19 ถึงต้นศตวรรษที่ 20 เรือประจัญบานถือเป็นเรือรบที่มีพลานุภาพที่สุดในบรรดาเรือรบทั้งหลาย และการมีฝูงเรือประจัญบานถือว่ามีความสำคัญมาก สำหรับประเทศใดๆก็ตามที่ต้องการคงไว้ซึ่งความเป็นใหญ่ทางทะเล คำว่า เรือประจัญบาน ถูกกำหนดขึ้นเมื่อราว ปี 1794 และเป็นคำลดรูปมาจาก เรือรบแนวเส้นประจัญบาน (ship of the line of battle) หรือที่เรียกสั้นๆว่า เรือเส้นประจัญบาน (ship of the line) อันเป็นเรือรบต่อด้วยไม้ ที่มีบทบาทสำคัญที่สุดใน ยุคสมัยของเรือใบ (Age of Sail)"battleship" The Oxford English Dictionary.

ใหม่!!: ปืนใหญ่และเรือประจัญบาน · ดูเพิ่มเติม »

เรือประจัญบานยะมะโตะ

รือประจัญบานยะมะโตะ เป็นเรือประจัญบานขนาดยักษ์ ตั้งตามชื่อ "ยะมะโตะ" ซึ่งเป็นจังหวัดโบราณในประเทศญี่ปุ่น เป็นเรือประจัญบานชั้นยะมะโตะลำแรกของกองทัพเรือจักรวรรดิญี่ปุ่น เรือประจัญบานยะมะโตะและเรือประจัญบานมูซาชิที่อยู่ในชั้นเดียวกัน เป็นเรือประจัญบานขนาดใหญ่ที่สุดและมีอาวุธทรงประสิทธิภาพมากที่สุดเท่าที่ญี่ปุ่นสามารถสร้างได้ ด้วยระวางขับน้ำ 72,800 ตันและปืนใหญ่ขนาดปากลำกล้อง 460 มิลลิเมตร (18 นิ้ว) ทั้งคู่จมลงในระหว่างสงคราม เรือรบลำนี้มีความหมายอันยิ่งใหญ่สำหรับจักรวรรดิญี่ปุ่นในฐานะสัญลักษณ์ด้านนาวิกานุภาพของชาติ (คำว่า "ยะมะโตะ บางครั้งก็หมายถึงประเทศญี่ปุ่น) และถูกเรือบรรทุกเครื่องบินอเมริกันจมช่วงปลายของสงครามโลกครั้งที่ 2 ในปฏิบัติการฆ่าตัวตายเท็งโง ซึ่งการจมของเรือรบยะมะโตะ บางครั้งถูกมองว่าเป็นสัญลักษณ์ของความพ่ายแพ้ของญี่ปุ่นด้ว.

ใหม่!!: ปืนใหญ่และเรือประจัญบานยะมะโตะ · ดูเพิ่มเติม »

เหตุการณ์สะพานมาร์โค โปโล

ำลองเหตุการณ์การรบในเหตุการณ์สะพานมาร์โค โปโล ในพิพิธภัณฑ์ฮ่องกง เหตุการณ์สะพานมาร์โค โปโล (Marco Polo Bridge Incident) คือการรบระหว่างกองทัพจักรวรรดิญี่ปุ่นกับกองทัพคณะปฏิวัติแห่งชาติจีน เป็นจุดแตกหักที่ทำให้เกิดสงครามจีน-ญี่ปุ่นครั้งที่สอง (พ.ศ. 2480-2488) ตัวสะพานหินอ่อนสถานที่เกิดเหตุการณ์ มีชื่อว่า สะพานหลูโกว ที่มีชื่อเรียกอีกอย่างหนึ่งว่า สะพานมาร์โค โปโล โครงสร้างเป็นสถาปัตยกรรมโค้ง 11 โค้งอันสวยงาม ปฏิสังขรณ์โดยจักรพรรดิคังซี (พ.ศ. 2205-2265).

ใหม่!!: ปืนใหญ่และเหตุการณ์สะพานมาร์โค โปโล · ดูเพิ่มเติม »

เออแฌน วียอแล-เลอ-ดุก

ออแฌน วียอแล-เลอ-ดุก (Eugène Viollet-le-Duc,; 27 มกราคม ค.ศ. 1814 - 17 กันยายน ค.ศ. 1879) เป็นสถาปนิกและนักทฤษฎีคนสำคัญชาวฝรั่งเศสของคริสต์ศตวรรษที่ 19 ผู้มีชื่อเสียงจากงานบูรณปฏิสังขรณ์สิ่งก่อสร้างจากยุคกลาง วียอแล-เลอ-ดุกเป็นสถาปนิกผู้มีบทบาทสำคัญของขบวนการสถาปัตยกรรมฟื้นฟูกอธิคในฝรั่งเศสที่อยู่บนพื้นฐานของปรัชญาที่ว่าสถาปัตยกรรมควรจะเป็นสิ่งที่แสดงออกอย่าง “ซื่อตรง” ที่ในที่สุดก็กลายมาเป็นปรัชญาของขบวนการของการฟื้นฟูสถาปัตยกรรมทั้งหมดและเป็นรากฐานของลัทธิสมัยใหม่นิยมที่เริ่มก่อตัวขึ้น.

ใหม่!!: ปืนใหญ่และเออแฌน วียอแล-เลอ-ดุก · ดูเพิ่มเติม »

เจมส์ วัตต์

มส์ วัตต์ (James Watt) (19 มกราคม ค.ศ. 1736 - 19 สิงหาคม ค.ศ. 1819) วิศวกรและนักประดิษฐ์ ชาวสกอตแลนด์ ผู้ปรับปรุงเครื่องปั่นด้าย Spinning Jenny จนนำสหราชอาณาจักรไปสู่ยุคของการปฏิวัติอุตสาหกรรม โดยเฉพาะอุตสาหกรรมการผลิตและการต่อเรือ และทำให้สหราชอาณาจักรเป็นเจ้าอาณานิคมในเวลาต่อมา เครื่องจักรของวัตต์เป็นต้นแบบของเครื่องจักรที่ใช้น้ำมันในปัจจุบัน เขาเป็นผู้บัญญัติศัพท์ แรงม้า เป็นวิธีคำนวณประสิทธิภาพการทำงานของเครื่องจักร และชื่อของเขาได้รับไปตั้งเป็น หน่วยกำลังไฟฟ้า ในระบบหน่วยเอสไอ.

ใหม่!!: ปืนใหญ่และเจมส์ วัตต์ · ดูเพิ่มเติม »

เจ้าฟ้าเสือห่มเมือง

้าฟ้าเสือห่มเมือง ผู้เป็นโอรสของสุพิมฟ้าขึ้นครองชากุยะสืบต่อมา ทรงเป็นประมุขที่กล้าหาญและขยันขันแข็ง อาณาจักรอาหมได้แผ่อาณาเขตออกไปอย่างกว้างขวาง มีอาณานิคมอยู่ทุกทิศทาง พวกชุติยะยอมอยู่ใต้อำนาจและอยู่ใต้การควบคุมดูแลของขุนนางอาหมที่สทิยะและทิหิง ครอบครัวอาหมหลายครัวเรือนก็ได้ไปตั้งหลักแหล่งอยู่โดยรอบ การโจมตีของชาวนาคะก็ถูกปราบลงด้วยกำลังทหารที่แข็งแกร่ง อำนาจของชนชาวกะฉารีถูกลิดรอน และราชธานีทิมาปุระก็ตกเป็นของอาหมถึงสองครั้ง ขุนนางผู้หนึ่งชื่อ มารังกี โควา โกฮาอิน ได้รับแต่งตั้งให้ดูแลดินแดนตอนล่างของลุ่มน้ำทันสิริ และดินแดนส่วนใหญ่ของเนากองก็ตกเป็นของอาหม การรุกรานถึงสามครั้งของพวกโมฮัมหมัดก็ถูกปราบลงได้ สภาพสังคมของพลเมืองอาหมได้รับความดูแลเอาใจใส่ ได้แบ่งออกเป็นหมู่เป็นเหล่า ช่างก่อสร้างถูกส่งตัวมากจากชุติยะและที่อื่นๆ การใช้อาวุธปืนได้มีขึ้นเป็นครั้งแรก ศักราช "สัก" ตามแบบของฮินดูถูกนำมาใช้แทนศักราชเก่าซึ่งคำนวณวันเดือนปีตามแบบโจเวียน และในรัชกาลนี้ ความสำคัญทางศาสนาก็มีมิใช่น้อย นอกจากอิทธิพลของพราหมณ์แล้ว ยังมีการปฏิรูปแบบเวชนาวาซึ่งสังคเทพเป็นผู้นำออกเผยแพร.

ใหม่!!: ปืนใหญ่และเจ้าฟ้าเสือห่มเมือง · ดูเพิ่มเติม »

เจ้าพระยาสุรวงษ์วัฒนศักดิ์ (โต บุนนาค)

นายพลโท เจ้าพระยาสุรวงษ์วัฒนศักดิ์ (นามเดิม: โต บุนนาค; พ.ศ. 2394 - 8 ตุลาคม พ.ศ. 2452) เป็นบุตรของเจ้าพระยาสุรวงษ์ไวยวัฒน์ (วร บุนนาค) กับท่านผู้หญิงอ่วม สุรวงษ์ไวยวัฒน์ จบการศึกษาวิชาทหารปืนใหญ่จากประเทศอังกฤษ เริ่มรับราชการเมื่อ..

ใหม่!!: ปืนใหญ่และเจ้าพระยาสุรวงษ์วัฒนศักดิ์ (โต บุนนาค) · ดูเพิ่มเติม »

1812 โอเวอร์เชอร์

''Battle of Borodino'', by Peter von Hess, 1843 การบรรเลง ''1812 Overture'' ประกอบการยิงปืนใหญ่ ในปี 2005 ที่ออสเตรเลีย The Year 1812, Festival Overture in E flat major, Op.

ใหม่!!: ปืนใหญ่และ1812 โอเวอร์เชอร์ · ดูเพิ่มเติม »

7 เมษายน

วันที่ 7 เมษายน เป็นวันที่ 97 ของปี (วันที่ 98 ในปีอธิกสุรทิน) ตามปฏิทินสุริยคติแบบเกรกอเรียน เมื่อถึงวันนี้จะยังเหลือวันอีก 268 วันในปีนั้น.

ใหม่!!: ปืนใหญ่และ7 เมษายน · ดูเพิ่มเติม »

เปลี่ยนเส้นทางที่นี่:

ทหารปืนใหญ่

ขาออกขาเข้า
Hey! เราอยู่ใน Facebook ตอนนี้! »