5 ความสัมพันธ์: บาร์โทโลมิโอ อัมมานาติพ.ศ. 2029มีเกเล ซานมีเกลีสถาปนิกทิเชียน
บาร์โทโลมิโอ อัมมานาติ
ร์โทโลมิโอ อัมมานาติ (Bartolomeo Ammanati; 18 มิถุนายน, 1511 - 13 เมษายน, 1592) เป็นสถาปนิกและประติมากรจากเมืองฟลอเรนซ์ อิตาลี.
ใหม่!!: จาโกโป ซานโซวีโนและบาร์โทโลมิโอ อัมมานาติ · ดูเพิ่มเติม »
พ.ศ. 2029
ทธศักราช 2029 ใกล้เคียงกั.
ใหม่!!: จาโกโป ซานโซวีโนและพ.ศ. 2029 · ดูเพิ่มเติม »
มีเกเล ซานมีเกลี
มีเกเล ซานมีเกลี (อังกฤษ: Michele Sanmicheli, ค.ศ. 1484 – ค.ศ. 1559) เป็นสถาปนิกแห่งสาธารณรัฐเวนิสหรือประเทศอิตาลีในปัจจุบัน เกิดที่เมืองซานมีเกเล (San Michele) ใกล้เมืองเวโรนา (Verona) ซึ่งในขณะนั้นเป็นส่วนหนึ่งของสาธารณรัฐเวนิส เขาได้เรียนรู้ฝึกฝนการออกแบบและก่อสร้างจากพ่อของเขาที่ชื่อ โจวันนี และอา (หรือลุง) ของเขาชื่อ บาร์โตโลเมโอ ผู้ซึ่งเป็นสถาปนิกที่ประสบความสำเร็จในเมืองเวโรนา มีเกเลเองก็มีแนวทางการดำเนินวิชาชีพคล้ายกับจาโกโป ซานโซวีโน (Jacopo Sansovino) คือเป็นสถาปนิกที่รับเงินตอบแทนทำงานให้กับสาธารณรัฐเวนิสโดยตรง แต่สิ่งที่ต่างจากซานโซวีโนคือ งานของมีเกเลจะเป็นงานที่อยู่ในเขตชายแดนนอกเมืองหลวงของสาธารณรัฐ ผู้คนมักจะจดจำมีเกเลในฐานะสถาปนิกผู้ทำการออกแบบเพื่อกิจการการทางทหาร และถูกจ้างมาเพื่อทำการออกแบบเพื่อสร้างความแข็งแกร่งของระบบป้อมปราการให้กับสาธารณรัฐในเมืองต่าง ๆ เช่น ครีต (Crete) กันดีอา (Candia) ดัลเมเชีย (Dalmatia) และคอร์ฟู (Corfù) เช่นเดียวกับปราการหลักที่ลีโด (Lido) ซึ่งเป็นแนวป้องกันเรือที่จะเข้ามาในทะเลสาบเวนิส (Venetian lagoon) จากการที่เขาได้ท่องเที่ยวไปในหลาย ๆ แห่งตามบันทึกแล้ว มีเกเล ซานมีเกลีอาจจะเป็นสถาปนิกชาวอิตาลีเพียงคนเดียวที่ได้เห็นสถาปัคยกรรมกรีกของแท้ ซึ่งอาจจะเป็นแรงบันดาลใจให้เขานำเสาดอริกของโรมัน มาไว้ในงานออกแบบของเขา เขาได้เดินทางไปโรมตั้งแต่เล็ก และคาดว่าน่าจะมีโอกาสได้ฝึกฝนวิชากับอันโตนีโอ ดา ซานกัลโล (Antonio da Sangallo (Murray)) ซึ่งเป็นหนึ่งในสมาชิกของสถาปนิกตระกูลซานกัลโลที่มีชื่อเสียง ณ ที่นี้เขาได้มีโอกาสเรียนรู้เกี่ยวกับสถาปัตยกรรมและงานประติมากรรมแบบคลาสสิก ในปี..
ใหม่!!: จาโกโป ซานโซวีโนและมีเกเล ซานมีเกลี · ดูเพิ่มเติม »
สถาปนิก
ร่างสถาปนิก กับงานออกแบบ สถาปนิก คือบุคคลผู้เกี่ยวข้องในการออกแบบ และ วางแผน ในการก่อสร้าง หรือที่เรียกว่างานสถาปัตยกรรม โดยสถาปนิก จะเป็นผู้ที่เข้าใจในมาตรฐานการก่อสร้างของอาคาร เข้าใจถึงหน้าที่ใช้สอยของอาคารนั้น รวมถึงวัสดุที่จะนำมาเป็นส่วนประกอบของสิ่งก่อสร้างนั้น สถาปนิกจำเป็นต้องได้รับการศึกษาทางสถาปัตยกรรมศาสตร์ และได้รับใบอนุญาตประกอบวิชาชีพสถาปัตยกรรม ถึงจะสามารถทำงานในวิชาชีพสถาปนิกได้ ซึ่งคล้ายกับการทำงานในสาขาวิชาชีพอื่น สถาปก คำเก่าของคำว่าสถาปนิก ได้รับพระราชทานจากพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 6 เป็นศัพท์ภาษาสันสกฤต หมายถึง ผู้สร้าง, ผู้ก่อตั้ง ในเอกสารโบราณก่อนสมัยรัตนโกสินทร์เคยปรากฏคำ "สถาบก" หมายถึง การสร้าง หรือผู้สร้าง รางวัลที่น่ายกย่องของสถาปนิกที่รู้จักในฐานะผู้ก่อสร้างอาคารได้แก่ รางวัลพลิตซ์เกอร์ ซึ่งมักจะถูกเปรียบเทียบเหมือนกับ "รางวัลโนเบลในทางสถาปัตยกรรม".
ใหม่!!: จาโกโป ซานโซวีโนและสถาปนิก · ดูเพิ่มเติม »
ทิเชียน
“ภาพเหมือน” (ราว ค.ศ. 1488) ภาพเหมือนดยุ๊คแห่งเวนิสมาร์คานโตนิโอ เทรวิซานิ (Marcantonio Trevisani) ที่พิพิธภัณฑ์ศิลปะที่บูดาเพช ประเทศฮังการี เทพดานาเอ” (Danaë) ภาพหนึ่งจากหลายภาพจากตำนานเทพที่ทิเชียนเขียน จ้างโดยพระเจ้าฟิลลิปที่ 2 แห่งสเปนใน ค.ศ. 1554 แม้ว่าไมเคิล แอนเจโลจะติจากมุมมองของการวาดเส้นแต่ทิเชียนก็เขียนภาพนี้อีกหลายภาพให้กับผู้อุปถัมภ์อื่นๆ ทิเซียโน เวเชลลี หรือที่รู้จักกันดีในชื่อ ทิเชียน หรือ ทิชัน (Tiziano Vecelli หรือ Tiziano Vecellio หรือ Titian.) (ค.ศ. 1485 - 27 สิงหาคม ค.ศ. 1576) เป็นจิตรกรยุคฟื้นฟูศิลปวิทยาคนสำคัญของประเทศอิตาลีในคริสต์ศตวรรษที่ 16 มีความสำคัญทางการเขียนภาพสีน้ำมัน ทิเชียนเป็นจิตรกรผู้นำของศิลปะเรอเนซองส์ของตระกูลการเขียนแบบเวนิส ทิเชียนเกิดที่พิเว ดี คาดอเร (Pieve di Cadore) ใกล้เมืองเบลลูโน ในรัฐอาณาจักรเวนิส จึงรู้จักกันในนามว่า “ดา คอเดเร” ตามเมืองเกิดด้วย ทิเชียน เป็นจิตรกรที่มีความสามารถหลายด้าน ผู้เขียนได้ทั้งภาพเหมือนและภาพภูมิทัศน์อันเป็นสองลักษณะที่ทำให้มีชื่อเสียง และการเขียนตำนานเทพ และศิลปะคริสต์ศาสนา ถ้าทิเชียนเสียชีวิตเมื่ออายุได้เพียง 40 ปีก็ยังถือเป็นจิตรกรที่มีอิทธิพลที่สุดคนหนึ่งในสมัยนั้น แต่ทิเชียนก็อยู่ต่อมาอีก 50 ปีในขณะที่เปลี่ยนแปลงวิธีเขียนภาพจากเดิมไปเป็นอย่างมาก นักวิจารณ์บางคนไม่เชื่อว่างานที่สร้างเมื่อสมัยต้นและสมัยปลายของทิเชียนเป็นงานของจิตรกรคนเดียวกัน ลักษณะที่ทำให้ทราบว่าเป็นคนเดียวกันคือความสนใจอย่างลึกซึ้งในการใช้สี งานในสมัยหลังแม้จะไม่ใช้สีสดและเรืองอย่างสมัยแรก แต่ฝีแปรงที่พริ้วที่แฝงให้เห็นความที่จะเป็นสีต่างๆ เพียงเล็กน้อยเป็นสิ่งที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนในประวัติศาสตร์ศิลปะตะวันตก.
ใหม่!!: จาโกโป ซานโซวีโนและทิเชียน · ดูเพิ่มเติม »