โลโก้
ยูเนี่ยนพีเดีย
การสื่อสาร
ดาวน์โหลดได้จาก Google Play
ใหม่! ดาวน์โหลด ยูเนี่ยนพีเดีย บน Android ™ของคุณ!
ดาวน์โหลด
เร็วกว่าเบราว์เซอร์!
 

จักรวรรดิออสเตรีย

ดัชนี จักรวรรดิออสเตรีย

ักรวรรดิออสเตรีย (Austrian Empire; Kaisertum Österreich) เป็นจักรวรรดิที่ก่อตั้งจากอาณาบริเวณที่เหลือจากจักรวรรดิโรมันอันศักดิ์สิทธิ์ ตั้งอยู่ที่ประเทศออสเตรียในปัจจุบัน รุ่งเรืองในช่วง..

104 ความสัมพันธ์: ชเตฟันสโดมฟรันซ์ ลิซท์พระเจ้าชาร์ลที่ 10 แห่งฝรั่งเศสพระเจ้าฟรีดริชที่ 2 แห่งปรัสเซียกองทัพสมาพันธรัฐเยอรมนีกองทัพใหญ่กามิลโล เบนโซ เคานต์แห่งกาวูร์การรุกรานรัสเซียของฝรั่งเศสการเลิกล้มราชาธิปไตยกุสตาฟ มาห์เลอร์มารี หลุยส์ ดัชเชสแห่งปาร์มามาเรีย ลูโดวีกา แห่งออสเตรีย-เอสเตมาเรีย เทเรซา แห่งเนเปิลส์และซิซิลีมาเรียแห่งเท็คมงกุฎจักรพรรดิแห่งออสเตรียยุทธการที่วอเตอร์ลูยุทธการที่ปารีส (ค.ศ. 1814)ยุทธการที่ไลพ์ซิชรัฐกันชนราชรัฐมุขนายกบริกเซินราชวงศ์ฮาพส์บวร์คราชอาณาจักรลอมบาร์ดี-เวนีเชียราชอาณาจักรอิตาลีราชอาณาจักรซาร์ดิเนียราชอาณาจักรปรัสเซียราชอาณาจักรแดลเมเชียราชอาณาจักรโบฮีเมียรายชื่อสนธิสัญญารายชื่อธงในประเทศออสเตรียรายชื่อธงในประเทศโครเอเชียรายชื่อธงในประเทศเยอรมนีรายพระนามพระมหากษัตริย์ฮังการีรายการตัวละครในพลังอักษะ เฮตาเลียราเด็ตสกีมาร์ชสมัยร้อยวันสมาพันธรัฐแห่งแม่น้ำไรน์สมาพันธรัฐเยอรมันเหนือสมาคมคาร์โบนารีสมเด็จพระเจ้าคาโรลที่ 1 แห่งโรมาเนียสงครามชเลสวิจครั้งที่สองสงครามสืบราชบัลลังก์ออสเตรียสงครามสืบราชบัลลังก์โปแลนด์สงครามออสเตรีย-ปรัสเซียสงครามปฏิวัติฝรั่งเศสสงครามประสานมิตรครั้งที่สามสงครามประสานมิตรครั้งที่หกสงครามประสานมิตรครั้งที่ห้าสงครามนโปเลียนสงครามเจ็ดปีสนธิสัญญาแซ็ง-แฌร์แม็ง-อ็อง-แล (ค.ศ. 1919)...อัลโฟนส์ มูคาอาร์ชดยุกฟรันซ์ แฟร์ดีนันด์แห่งออสเตรียอาร์ชดยุกคาร์ล ลุดวิจ แห่งออสเตรียอาร์ชดยุกคาร์ล ดยุกแห่งเทเชินอาร์ชดัชชีออสเตรียอาร์กเดอทรียงฟ์ดูว์การูแซลอาร์เธอร์ ชนิตซ์เลอร์อาลัวส์ ฮิตเลอร์อิลกันโตเดลยีอีตาเลียนีอินทรีสองหัวจักรพรรดิฟรันซ์ โยเซฟที่ 1 แห่งออสเตรียจักรพรรดิฟรันซ์ที่ 2 แห่งจักรวรรดิโรมันอันศักดิ์สิทธิ์จักรพรรดิออสเตรียจักรพรรดินโปเลียนที่ 1จักรพรรดิแฟร์ดีนันด์ที่ 1 แห่งออสเตรียจักรพรรดิแม็กซีมีเลียนที่ 1 แห่งเม็กซิโกจักรพรรดิโรมันอันศักดิ์สิทธิ์จักรวรรดิจักรวรรดิออสเตรีย-ฮังการีจักรวรรดิโรมันอันศักดิ์สิทธิ์จักรวรรดิเยอรมันจูเซปเป แวร์ดีทรานซิลเวเนียดัชชีมันโตวาดัชชีสติเรียดัชชีคารินเทียดัสลีดแดร์ดอยท์เชินคลารา ฮิตเลอร์คณะพระมหาไถ่คณะประสานเสียงเด็กชายแห่งเวียนนาซิมโฟนีหมายเลข 7 (เบโทเฟน)ซูเดเทินลันด์ประวัติศาสตร์ออสเตรียประเทศสโลวีเนียประเทศโปแลนด์ประเทศเยอรมนีประเทศเซอร์เบียและมอนเตเนโกรปรัสเซียปัญหาเยอรมันนาดทาโทรซาบลีซกานิโคลา เทสลาแกรนด์ดยุกวิลเลมที่ 4 แห่งลักเซมเบิร์กแกรนด์ดยุกอดอล์ฟแห่งลักเซมเบิร์กแคว้นปกครองตนเองเตรนตีโน-อัลโตอาดีเจเพชรฟลอเรนไทน์เพลงสรรเสริญพระบารมีเกรกอร์ เมนเดลเมร์ ไฮเรนิกเวนิสเอ็ดมุนด์ ฮุสเซิร์ลเฮนรี แอดดิงตัน ไวเคานต์ซิดมัธที่ 1เจ้าชายหลุยส์แห่งบัทเทนแบร์กเจ้าหญิงชาร์ลอตแห่งเบลเยียม14 สิงหาคม ขยายดัชนี (54 มากกว่า) »

ชเตฟันสโดม

การขยายอาสนวิหารนักบุญสเทเฟน: The '''หอโรมันและประตูยักษ์''' จากซากไหม้ของโบสถ์แรกใช้เป็นส่วนหนึ่งของสิ่งก่อสร้างแบบโรมาเนสก์'''โบสถ์ที่สอง''' สร้างแทนโบสถ์เดิม สี่สิบปีต่อมา ก็เริ่มก่อสร้าง '''Albertine Choir''' แบบกอธิค; ห้าสิบห้าปีหลังจากนั้นก็สร้าง '''ส่วนต่อเติมดยุกรูดอล์ฟที่ 4''' รอบบริเวณ '''โบสถ์ที่สอง''' ที่ต่อมาถูกรื้อทิ้ง เหลือโบสถ์ที่สามให้เป็นสิ่งก่อสร้างที่เห็นกันอยู่ในปัจจุบัน อาสนวิหารนักบุญสเทเฟน หรือ ชเตฟันสโดม (Stephansdom, St.) เป็นอาสนวิหารโรมันคาทอลิกในอัครมุขมณฑลเวียนนา และเป็นที่ตั้งอาสนะของอาร์ชบิชอปแห่งเวียนนา ตัวอาสนวิหารตั้งอยู่ใจกลางกรุงเวียนนา ประเทศออสเตรีย สถาปัตยกรรมที่เห็นอยู่ในปัจจุบันเป็นแบบโรมานเนสก์ และ กอทิก ริเริ่มโดยรูดอล์ฟที่ 4 ดยุกแห่งออสเตรีย โบสถ์ปัจจุบันตั้งอยู่บนซากโบสถ์เดิมที่สร้างก่อนหน้านั้นสองโบสถ์ โบสถ์แรกเป็นโบสถ์ประจำเขตแพริชที่ได้รับการเสกในปี ค.ศ. 1147 อาสนวิหารนักบุญสเทเฟนเป็นสิ่งก่อสร้างที่สำคัญที่สุดแห่งหนึ่งในกรุงเวียนนาที่เห็นได้อย่างเด่นชัดจากหลังคากระเบื้องหลากสี.

ใหม่!!: จักรวรรดิออสเตรียและชเตฟันสโดม · ดูเพิ่มเติม »

ฟรันซ์ ลิซท์

ฟรันซ์ ลิซท์ (Franz Liszt) หรือ แฟแร็นตส์ ลิสต์ (Liszt Ferenc) เป็นคีตกวีและนักเปียโนชาวฮังกาเรียน เกิดที่เมืองไรดิง เมื่อวันที่ 22 ตุลาคม..

ใหม่!!: จักรวรรดิออสเตรียและฟรันซ์ ลิซท์ · ดูเพิ่มเติม »

พระเจ้าชาร์ลที่ 10 แห่งฝรั่งเศส

ระเจ้าชาร์ลที่ 10 แห่งฝรั่งเศส (Charles X de France, ชาร์ลดิสเดอฟร็องส์; 9 ตุลาคม พ.ศ. 2300 – 6 พฤศจิกายน พ.ศ. 2379), ได้รับพระสมัญญานามว่า ผู้ทรงเป็นที่รัก (le Bien-Aimé; เลอเบียงแนเม), ทรงดำรงตำแหน่งเคานต์แห่งอาร์ตัวก่อนจะขึ้นครองราชย์เป็นพระมหากษัตริย์แห่งฝรั่งเศสและนาวาร์ ตั้งแต่ 16 กันยายน พ.ศ. 2367 - 2 สิงหาคม พ.ศ. 2373 เป็นพระปิตุลา (ลุง) ในเยาวกษัตริย์ผู้ทรงไม่ได้บรมราชาภิเษก พระเจ้าหลุยส์ที่ 17 และพระอนุชาในพระเจ้าหลุยส์ที่ 16 แห่งฝรั่งเศสและพระเจ้าหลุยส์ที่ 18 แห่งฝรั่งเศส ผู้ซึ่งหลังทรงถูกเนรเทศก็สนับสนุนพระอนุชาจนได้สืบราชสมบัติต่อจากพระองค์ พระเจ้าชาร์ลที่ 10 ทรงครองราชสมบัติเป็นระยะเวลาเกือบ 6 ปี และสิ้นสุดลงด้วยการปฏิวัติเดือนกรกฎาคม ส่งผลให้ต้องทรงสละราชสมบัติแก่หลุยส์ ฟิลิปป์ที่ ดยุคแห่งออร์เลอองส์ ซึ่งขึ้นครองราชย์เป็นพระมหากษัตริย์แห่งฝรั่งเศส พระเจ้าชาร์ลส์ที่ 10 ทรงถูกเนรเทศและสวรรคตที่กอริเซีย ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของจักรวรรดิออสเตรี.

ใหม่!!: จักรวรรดิออสเตรียและพระเจ้าชาร์ลที่ 10 แห่งฝรั่งเศส · ดูเพิ่มเติม »

พระเจ้าฟรีดริชที่ 2 แห่งปรัสเซีย

ระเจ้าฟรีดริชที่ 2 (เยอรมัน: Friedrich II.; อังกฤษ: Frederick II หรือ พระเจ้าฟรีดริชมหาราช (24 มกราคม ค.ศ. 1712 - 17 สิงหาคม ค.ศ. 1786 เป็นพระมหากษัตริย์ปรัสเซียจากราชวงศ์โฮเอินโซลเลิร์น โดยทรงครองราชย์ระหว่างปีค.ศ. 1740 จนถึงปีค.ศ. 1786 พระองค์ทรงเป็นลำดับที่สามและ ‘กษัตริย์ในปรัสเซีย(King in Prussia)’ องค์สุดท้าย ก่อนที่จะฉลองพระอิสรยยศขึ้นเป็น ‘กษัตริย์แห่งปรัสเซีย(King of Prussia)’ หลังจากที่ได้รับดินแดนทางประวัติศาสตร์ดั้งเดิมของปรัสเซีย นอกจากนั้นก็ยังทรงดำรงตำแหน่งผู้คัดเลือกแห่งบรันเดนบวร์กในพระนามว่า “ฟรีดริชที่ 4” และทรงได้รับสมญานามว่า ‘พระเจ้าฟรีดริชมหาราช’ และมีพระนามเล่นว่า ‘เจ้าฟริทซ์แก่(der Alte Fritz)” พระเจ้าฟรีดริชทรงมีความสนพระทัยทางศิลปะตั้งแต่ยังทรงพระเยาว์และทรงพยายามหนีจาการควบคุมจากพระบิดาครั้งหนึ่งแต่ไม่สำเร็จ พระเจ้าฟรีดริช วิลเฮล์มที่ 1 พระราชบิดาทรงเข้มงวดจนได้รับสมญานามว่า “กษัตริย์ทหาร” เมื่อยังทรงพระเยาว์ฟรีดริชทรงถูกบังคับให้ดูการประหารชีวิตอย่างทารุณของพระสหายที่ทรงรู้จักกันมาตั้งแต่ยังทรงพระเยาว์ เมื่อทรงขึ้นครองราชย์ในปีแรกทรงโจมตีจักรวรรดิออสเตรียและยึดครองบริเวณไซลีเซีย ซึ่งอยู่ทางตะวันตกเฉียงใต้ของประเทศโปแลนด์ปัจจุบันซึ่งเป็นดินแดนยึดครองที่มีส่วนสำคัญในการวางรากฐานในการขยายดินแดนของปรัสเซียและเพิ่มความแข็งแกร่งให้แก่ราชอาณาจักรปรัสเซีย ในบั้นปลายของชีวิตพระเจ้าฟรีดริชทรงรวมอาณาจักรต่าง ๆ ที่เคยเป็นราชรัฐเล็กของปรัสเซียเข้าด้วยกันรวมทั้งดินแดนที่ทรงได้มาจากการแบ่งแยกโปแลนด์ พระเจ้าฟรีดริชทรงเป็นผู้สนับสนุนการปกครองระบบที่มีพื้นฐานมาจากสมบูรณาญาสิทธิราชย์อันทรงภูมิธรรม ทรงติดต่อสื่อสารกับวอลแตร์ นักปรัชญาเป็นเวลาราวห้าสิบปี และมีความสนิทสนมกันมากแต่ในขณะเดียวกันความสัมพันธ์ก็เต็มไปด้วยความขัดแย้งโดยตลอด พระราชกรณียกิจที่สำคัญ ๆ คือการปรับปรุงระบบการบริหารราชการและข้าราชการ และยังทรงสนับสนุนเสรีภาพของการนับถือศาสนา ทรงเป็นผู้อุปถัมภ์ศิลปินและนักปรัชญา เมื่อสิ้นพระชนม์ร่างของพระองค์ถูกฝังอยู่ที่พระราชวังที่โปรดปรานที่วังซองส์ซูซิที่เมืองพอทสดัม เมื่อสิ้นพระชนม์ บัลลังก์ตกไปเป็นของพระเจ้าฟรีดริช วิลเฮล์มที่ 2 พระราชนัดดาเพราะพระองค์เองไม่มีพระราชโอรส ฟรีดริช วิลเฮล์มที่ 2 เป็นพระโอรสของเจ้าชายเอากุสท์ วิลเฮล์มแห่งปรัสเซีย พระอนุชาของพระเจ้าฟรีดริชเอง.

ใหม่!!: จักรวรรดิออสเตรียและพระเจ้าฟรีดริชที่ 2 แห่งปรัสเซีย · ดูเพิ่มเติม »

กองทัพสมาพันธรัฐเยอรมนี

กองทัพสมาพันธรัฐเยอรมนี (Deutsches Bundesheer) เป็นกองทัพของสมาพันธรัฐเยอรมนี สถาปนาขึ้นเมื่อ ค.ศ. 1815 - ค.ศ. 1866 โดยมีรากฐานจากการรวมกันของกองทหารรัฐต่างๆในสมาพันธรัฐเยอรมัน - มีหน้าที่ปกป้องดินแดน พิทักษ์อธิปไตยของสมาพันธรัฐจากศัตรูผู้รุกราน ในช่วงก่อตั้งฝรั่งเศสได้ส่งกองทัพเข้าร่วมทำสงครามต่อต้านจักรพรรดิโรมันอันศักดิ์สิทธิ์, ทั้งนี้รัสเซีย เข้ามามีบทบาทในระหว่างการผนวกดินแดนของชาวสลาฟ.

ใหม่!!: จักรวรรดิออสเตรียและกองทัพสมาพันธรัฐเยอรมนี · ดูเพิ่มเติม »

กองทัพใหญ่

กองทัพใหญ่ (La Grande Armée, ในภาษาอังกฤษมักแปลว่า "the Great Army" หรือ "the Grand Army") เป็นชื่อของกองทัพฝรั่งเศสในยุคสงครามนโปเลียน กองทัพนี้เริ่มเข้ามามีบทบาทในประวัติศาสตร์ในปี ค.ศ. 1805 เมื่อจักรพรรดินโปเลียนที่ 1 แห่งฝรั่งเศส ได้ตั้งชื่อของกองทัพที่พระองค์ทรงรวบรวมจากชายฝั่งของประเทศฝรั่งเศสแถบช่องแคบอังกฤษเพื่อเตรียมการรุกรานเกาะบริเตนใหญ่ แต่แผนการดังการกลับล้มเหลวเนื่องจากการพ่ายแพ่ในยุทธนาวีทราฟัลการ์ ภายหลังพระองค์ได้ฟื้นฟูกองทัพใหญ่ขึ้นมาอีกครั้งทางด้านตะวันออกของประเทศ เพื่อเปิดฉากการรบต่อจักรวรรดิออสเตรียและจักรวรรดิรัสเซียในปีเดียวกัน.

ใหม่!!: จักรวรรดิออสเตรียและกองทัพใหญ่ · ดูเพิ่มเติม »

กามิลโล เบนโซ เคานต์แห่งกาวูร์

กามิลโล เบนโซ เคานต์แห่งกาวูร์ เชลลาเรนโก และอีโซลาเบลลา (Camillo Paolo Filippo Giulio Benso, conte di Cavour, di Cellarengo e di Isolabella; 10 สิงหาคม พ.ศ. 2353 - 6 มิถุนายน พ.ศ. 2404) รัฐบุรุษชาวปีดมอนต์ผู้มีบทบาทสำคัญในการรวมรัฐต่าง ๆ ในคาบสมุทรอิตาลีให้เป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน และเป็นนายกรัฐมนตรีคนแรกของอิตาลี.

ใหม่!!: จักรวรรดิออสเตรียและกามิลโล เบนโซ เคานต์แห่งกาวูร์ · ดูเพิ่มเติม »

การรุกรานรัสเซียของฝรั่งเศส

การรุกรานรัสเซียของฝรั่งเศส (French invasion of Russia) หรือในรัสเซียรู้จักกันในชื่อ สงครามของผู้รักชาติปี 1812 (Отечественная война 1812 года) หรือในฝรั่งเศสรู้จักกันในชื่อ ปฏิบัติการรัสเซีย (Campagne de Russie) เริ่มต้นขึ้นในวันที่ 24 มิถุนายน ค.ศ. 1812 เมื่อกองทัพใหญ่ของจักรพรรดินโปเลียนที่ 1 ทำการข้ามแม่น้ำเนมันเพื่อหวังเข้าต่อสู้และพิชิตทัพรัสเซีย ซึ่งนโปเลียนหวังที่จะบังคับให้ ซาร์ อเล็กซานเดอร์ที่ 1 แห่งรัสเซีย ยุติการติดต่อค้าขายกับพวกพ่อค้าอังกฤษ ซึ่งนโปเลียนหวังใช้เป็นข้อกดดันทางอ้อมให้อังกฤษสูญเสียรายได้จนต้องขอเข้าสู่กระบวนการสันติภาพกับฝรั่งเศส และปฏิบัติการนี้ก็ยังมีเป้าหมายเพื่อแย่งชิงโปแลนด์มาจากรัสเซี.

ใหม่!!: จักรวรรดิออสเตรียและการรุกรานรัสเซียของฝรั่งเศส · ดูเพิ่มเติม »

การเลิกล้มราชาธิปไตย

ในประวัติศาสตร์โลก มีการล้มล้างสถาบันพระมหากษัตริย์ในหลายประเทศทั่วโลก สาเหตุการล่มสลายของราชวงศ์อาจเป็นผลมาจากการปฏิวัติ, การตั้งสาธารณรัฐ, การลงประชามติของประชาชน, การรัฐประหาร หรือจากสงคราม.

ใหม่!!: จักรวรรดิออสเตรียและการเลิกล้มราชาธิปไตย · ดูเพิ่มเติม »

กุสตาฟ มาห์เลอร์

กุสตาฟ มาห์เลอร์ ในวัยเด็ก กุสตาฟ มาห์เลอร์ (เกิด 7 กรกฎาคม ค.ศ. 1860 - เสียชีวิต 18 พฤษภาคม ค.ศ. 1911) เป็นคีตกวีและวาทยกรชาวโบฮีเมียน-ออสเตรียน มาห์เลอร์เป็นที่รู้จักในยุคของเขา ในฐานะวาทยากรชื่อดังแห่งยุค แต่ในปัจจุบัน เขากลับเป็นที่ยอมรับในฐานะคีตกวีแห่งยุคนีโอโรแมนติก โดยเฉพาะอย่างยิ่งจากซิมโฟนี และบทเพลงในลักษณะซิมโฟนี เช่น เพลง Das Lied von der Erde (บทเพลงแห่งโลก) ที่เป็นจุดสุดยอดของบทเพลงขับร้องที่เขาประพันธ์ ส่วนซิมโฟนีหมายเลข 3 ความยาว 95 นาที นับเป็นซิมโฟนีที่ยาวที่สุดที่เคยมีการเปิดแสดง และยังชื่อได้ว่าเป็นซิมโฟนีที่ยาวที่สุดในบรรดาซิมโฟนีทั้งหลายอีกด้ว.

ใหม่!!: จักรวรรดิออสเตรียและกุสตาฟ มาห์เลอร์ · ดูเพิ่มเติม »

มารี หลุยส์ ดัชเชสแห่งปาร์มา

อาร์ชดัชเชสมารี หลุยส์แห่งออสเตรีย (Erzherzogin Maria Lucia von Österreich., Archduchess Maria Lucia of Austria, Marie Louise d'Autriche, Maria Luisa d'Austria) (พระนามเต็ม: มาเรีย ลูโดวิก้า ลีโอโพลดีน่า ฟรานซิสก้า เธเรเซีย โยเซฟา ลูเซีย, (Maria Ludovika Leopoldina Francisca Theresia Josepha Lucia von Habsburg-Lorraine (Bonaparte)) ทรงเป็นอาร์ชดัชเชสแห่งออสเตรีย ก่อนที่จะทรงอภิเษกสมรสกับจักรพรรดินโปเลียนที่ 1 แห่งฝรั่งเศส เพื่อกระชับความสัมพันธ์ระหว่างประเทศของจักรวรรดิฝรั่งเศส และจักรวรรดิโรมันอันศักดิ์สิทธิ์ พระองค์เป็นพระมเหสีองค์ที่ 2 ของนโปเลียน จึงทรงได้รับการสถาปนาเป็นสมเด็จพระจักรพรรดินีแห่งฝรั่งเศส (impératrice Marie Louise des Français) และเมื่อปีพ.ศ. 2360 พระองค์ทรงเป็น ดัชเชสแห่งปาร์มา ปิอาเซนซ่า และกูแอสตาลล่า (Maria Luigia, Duchessa di Parma, Piacenza, e Guastalla) นอกจากนี้ พระองค์ยังเป็นพระราชปนัดดาในสมเด็จพระราชินีมารี อังตัวเนตแห่งฝรั่งเศสอีกด้ว.

ใหม่!!: จักรวรรดิออสเตรียและมารี หลุยส์ ดัชเชสแห่งปาร์มา · ดูเพิ่มเติม »

มาเรีย ลูโดวีกา แห่งออสเตรีย-เอสเต

อาร์คดัชเชสมาเรีย ลูโดวิก้าแห่งออสเตรีย-เอสต์ อาร์คดัชเชสมาเรีย ลูโดวิก้าแห่งออสเตรีย-เอสต์ (ภาษาเยอรมัน: Maria Ludovika von Österreich-Este, ภาษาอังกฤษ: Archduchess Maria Ludovika of Austria-Este) (พระนามเต็ม: มาเรีย ลูโดวิก้า เบียทริกซ์, Maria Ludovika Beatrix von Habsburg-Lorraine) ทรงเป็นสมาชิกราชสกุลฮับส์บูร์ก-ลอร์เรน และเป็นพระชายาองค์ที่ 3 ในสมเด็จพระจักรพรรดิฟรานซ์ที่ 2 แห่งโรมันอันศักดิ์สิท.

ใหม่!!: จักรวรรดิออสเตรียและมาเรีย ลูโดวีกา แห่งออสเตรีย-เอสเต · ดูเพิ่มเติม »

มาเรีย เทเรซา แห่งเนเปิลส์และซิซิลี

มาเรีย เทเรซา แห่งเนเปิลส์และซิซิลี (Maria Theresa of the Naples and Sicily; Prinzessin Maria Theresia von Neapel und beider Sizilien) เป็นพระมเหสีองค์ที่ 2 ของจักรพรรดิฟรันซ์ที่ 2 แห่งโรมันอันศักดิ์สิทธิ์ เป็นจักรพรรดินีแห่งโรมันอันศักดิ์สิทธิ์ จนถึงเมื่อมีการรุกรานของนโปเลียน โบนาปาร์ต จนต้องยุบจักรวรรดิโรมันอันศักดิ์สิทธิ์เมื่อปีพ.ศ. 2349 พระองค์จึงเปลี่ยนพระอิสริยยศเป็นจักรพรรดินีแห่งออสเตรีย และสมเด็จพระราชินีแห่งฮังการี พระนางมาเรีย เทเรซาประสูติเมื่อวันที่ 6 มิถุนายน พ.ศ. 2315 ณ เมืองเนเปิลส์ ราชอาณาจักรซิซิลีทั้งสอง (ปัจจุบันเป็นส่วนหนึ่งของประเทศอิตาลี) เป็นพระราชธิดาองค์โตในสมเด็จพระเจ้าแฟร์ดีนันด์ที่ 1 แห่งซิซิลีทั้งสอง และอาร์ชดัชเชสมารี แคโรไลน์แห่งออสเตรีย (พระราชธิดาในจักรพรรดิฟรันซ์ที่ 1 แห่งโรมันอันศักดิ์สิทธิ์และจักรพรรดินีนาถมาเรีย เทเรซ่าแห่งออสเตรีย) พระองค์สมรสกับพระญาติของพระองค์ อาร์ชดยุกฟรันซ์ มกุฎราชกุมารแห่งโรมันอันศักดิ์สิทธิ์ (พระมารดาของมาเรีย เทเรซาเป็นพระปิตุจฉาในอาร์ชดยุกฟรันซ์) เมื่อวันที่ 15 สิงหาคม พ.ศ. 2333 เมื่อพระสวามีได้ทรงสืบราชสมบัติต่อจากจักรพรรดิเลโอโปลด์ ผู้เป็นพระราชบิดาเมื่อวันที่ 1 มีนาคม พ.ศ. 2335 ทั้งสองพระองค์จึงทรงได้เป็นจักรพรรดิ และจักรพรรดินีแห่งโรมันอันศักดิ์สิทธิ์ แต่เมื่อนโปเลียน โบนาปาร์ต ได้นำกองทัพของจักรวรรดิฝรั่งเศส เข้ามารุกรานและก้าวก่ายทางการเมืองการปกครอง รวมทั้งราชสำนัก จักรพรรดิฟรันซ์จึงทรงเปลี่ยนแปลงการปกครองครั้งใหญ่ในรูปแบบของจักรวรรดิออสเตรีย โดยยุบจักรวรรดิโรมันอันศักดิ์สิทธิ์ลง ทั้งสองพระองค์จึงทรงได้เป็นจักรพรรดิ และจักรพรรดินีแห่งออสเตรียเมื่อวันที่ 11 สิงหาคม พ.ศ. 2347 จักรพรรดิฟรันซ์ และจักรพรรดินีมาเรีย เทเรซามีพระราชโอรส 4 พระองค์ และพระราชธิดา 8 พระองค์ รวมพระราชบุตร 12 พระองค์ ดังนี้.

ใหม่!!: จักรวรรดิออสเตรียและมาเรีย เทเรซา แห่งเนเปิลส์และซิซิลี · ดูเพิ่มเติม »

มาเรียแห่งเท็ค

มาเรียแห่งเท็ค (Maria von Teck) หรือ เจ้าหญิงวิกตอเรีย แมรี ออกัสตา ลูอิส โอลกา พอลีน คลอดีน แอกเนสแห่งเท็ค (Princess Victoria Mary Augusta Louise Olga Pauline Claudine Agnes of Teck) เป็นเจ้าหญิงเยอรมันจากราชอาณาจักรเวือร์ทเทิมแบร์ค ผู้ซึ่งอภิเษกสมรสเข้าสู่พระราชวงศ์อังกฤษ พระนางเป็นพระอัครมเหสีในพระเจ้าจอร์จที่ 5 จึงถูกออกพระนามว่า สมเด็จพระราชินีแมรี (Queen Mary) พระนางยังทรงมีพระยศเป็นจักรพรรดินีแห่งอินเดียและพระราชินีแห่งไอร์แลนด์อีกด้วย หกสัปดาห์ภายหลังจากการหมั้นหมายกับเจ้าชายอัลเบิร์ต วิกเตอร์ ดยุกแห่งคลาเรนซ์ รัชทายาทแห่งราชบัลลังก์อังกฤษ เจ้าชายสิ้นพระชนม์ด้วยโรคปวดบวม ในปีต่อมาเจ้าหญิงแมรีทรงหมั้นหมายกับรัชทายาทพระองค์ใหม่ พระอนุชาในเจ้าชายอัลเบิร์ต วิกเตอร์ คือ เจ้าชายจอร์จ ในฐานะสมเด็จพระราชินีอัครมเหสีตั้งแต่ปี พ.ศ. 2453 พระองค์ทรงสนับสนุนพระราชสวามีตลอดช่วงสงครามโลกครั้งที่หนึ่ง เนื่องจากพระพลานามัยที่ไม่สมบูรณ์และการเปลี่ยนแปลงทางการครั้งใหญ่ที่เกิดมาจากผลกระทบหลังสงครามและการอุบัติขึ้นของลัทธิสังคมนิยมและชาตินิยม หลังการเสด็จสวรรคตของพระเจ้าจอร์จที่ 5 พระราชสวามีเมื่อปี พ.ศ. 2479 เจ้าชายเอ็ดเวิร์ด พระโอรสองค์โตได้ดำรงพระอิสริยยศเป็นสมเด็จพระราชาธิบดี-จักรพรรดิ แต่กลับสร้างความผิดหวังให้กับพระองค์ด้วยการสละราชสมบัติในปีเดียวกันเพื่ออภิเษกกับนางวอลลิส ซิมป์สัน สาวสังคมชาวอเมริกันที่หย่าร้างมาแล้วสองครั้ง พระองค์ทรงสนับสนุนเจ้าชายอัลเบิร์ต ซึ่งทรงสืบต่อราชบัลลังก์อังกฤษเป็นพระเจ้าจอร์จที่ 6 จนกระทั่งเสด็จสวรรคตในปี พ.ศ. 2495 พระองค์ก็เสด็จสวรรคตในปีต่อมา ในช่วงเวลาของพระองค์ สมเด็จพระราชินีแมรีทรงเป็นที่รู้จักถึงการกำหนดลีลาให้พระราชวงศ์อังกฤษดำเนินไป ในฐานะที่ทรงเป็นแบบอย่างของความเป็นระเบียบทางการและขนบธรรมเนียมของพระมหากษัตริย์ โดยเฉพาะในงานพระราชพิธีต่าง ๆ พระองค์เป็นสมเด็จพระราชินีมเหสีที่ทรงเข้าร่วมพระราชพิธีราชาภิเษกของทายาทของพระองค์ นอกจากนั้นพระองค์ที่ยังทรงเป็นที่รู้จักถึงการประดับเพชรพลอยในงานพิธีทางการต่าง ๆ ทรงทิ้งชุดเครื่องเพชรต่างๆ ซึ่งถือว่าประเมินค่ามิได้ในขณะนี้เอาไว้.

ใหม่!!: จักรวรรดิออสเตรียและมาเรียแห่งเท็ค · ดูเพิ่มเติม »

มงกุฎจักรพรรดิแห่งออสเตรีย

้านหน้ามงกุฎจักรพรรดิแห่งออสเตรีย สมเด็จพระจักรพรรดิฟรานซ์ที่ 2 แห่งโรมันอันศักดิ์สิทธิ์ทรงมงกุฎจักรพรรดิแห่งออสเตรีย และทรงถือคทาที่มีลักษณะคล้ายคลึงกับมงกุฎในพระหัตถ์ มงกุฎจักรพรรดิแห่งออสเตรีย (Österreichische Kaiserkrone หรือ Krone des Kaisertums Österreich, Imperial Crown of Austria) เป็นมงกุฎที่เป็นส่วนหนึ่งของเครื่องราชกกุธภัณฑ์แห่งออสเตรียของจักรวรรดิออสเตรีย เดิมเป็นของสมเด็จพระจักรพรรดิรูดอล์ฟที่ 2 แห่งจักรวรรดิโรมันอันศักดิ์สิทธิ์ บางครั้งจึงเรียกว่า “มงกุฎจักรพรรดิรูดอล์ฟที่ 2” หรือ “มงกุฎแห่งจักรวรรดิออสเตรีย”.

ใหม่!!: จักรวรรดิออสเตรียและมงกุฎจักรพรรดิแห่งออสเตรีย · ดูเพิ่มเติม »

ยุทธการที่วอเตอร์ลู

ทธการที่วอเตอร์ลู เกิดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 18 มิถุนายน 1815 ที่ เมืองวอเตอร์ลู ซึ่งปัจจุบันอยู่ในประเทศเบลเยี่ยม, ในขณะนั้นอยู่ภายใต้การปกครองของ สหราชอาณาจักรเนเธอร์แลน.

ใหม่!!: จักรวรรดิออสเตรียและยุทธการที่วอเตอร์ลู · ดูเพิ่มเติม »

ยุทธการที่ปารีส (ค.ศ. 1814)

ทธการที่ปารีส (Bataille de Paris) สู้รบเมื่อวันที่ 30 – 31 มีนาคม..

ใหม่!!: จักรวรรดิออสเตรียและยุทธการที่ปารีส (ค.ศ. 1814) · ดูเพิ่มเติม »

ยุทธการที่ไลพ์ซิช

ทธการที่ไลพ์ซิช (Battle of Leipzig) ระหว่างวันที่ 16 ถึง 19 ตุลาคม..

ใหม่!!: จักรวรรดิออสเตรียและยุทธการที่ไลพ์ซิช · ดูเพิ่มเติม »

รัฐกันชน

รัฐกันชน (Buffer state) คือประเทศที่ตั้งอยู่ระหว่างรัฐมหาอำนาจคู่แข่งหรือเป็นปรปักษ์ระหว่างกัน ซึ่งสาเหตุของการคงอยู่มีเพื่อเป็นการป้องกันความขัดแย้งระหว่างรัฐมหาอำนาจด้วยกัน รัฐกันชนที่มีเอกราชอย่างแท้จริง มักจะดำเนินนโยบายต่างประเทศสายกลาง ซึ่งเป็นการป้องกันตนเองจากการตกเป็นรัฐบริวาร ความร่วมมือกันระหว่างรัฐกันชนเป็นส่วนหนึ่งของทฤษฎีการถ่วงดุลอำนาจ ซึ่งเข้าสู่ยุทธศาสตร์และการคิดในเชิงการทูตของยุโรปในช่วงคริสต์ศตวรรษที่ 17 บ่อยครั้งที่การรุกรานรัฐกันชนโดยหนึ่งในมหาอำนาจที่รายล้อมมันอยู่มักจะก่อให้เกิดสงครามระหว่างประเทศ อย่างเช่น การรุกรานเบลเยียมของเยอรมนี ทำให้สหราชอาณาจักรตัดสินใจเข้าร่วมสงครามโลกครั้งที่หนึ่ง.

ใหม่!!: จักรวรรดิออสเตรียและรัฐกันชน · ดูเพิ่มเติม »

ราชรัฐมุขนายกบริกเซิน

ตมุขนายกบริกเซิน (Bishopric of Brixen) เป็นอดีตมุขมณฑลโรมันคาทอลิกที่ปกครองโดยบิชอปแห่งบริกเซินและเจ้าชายบิชอปแห่งบริกเซินเมื่อได้เลื่อนฐานะเป็นราชรัฐมุขนายก นอกจากนั้นเขตมุขนายกบริกเซินก็ยังเป็นอดีตรัฐในเครือจักรวรรดิโรมันอันศักดิ์สิทธิ์ที่ตั้งอยู่ในมณฑลโบลซาโน-โบเซนในอิตาลีปัจจุบันอีกด้วย เดิมเขตมุขนายกที่ก่อตั้งขึ้นในคริสต์ศตวรรษที่ 6 ตั้งอยู่ในหุบเขาไอซัค/อิซาโค ต่อมาย้ายมาตั้งอยู่ที่บริกเซินราว..

ใหม่!!: จักรวรรดิออสเตรียและราชรัฐมุขนายกบริกเซิน · ดูเพิ่มเติม »

ราชวงศ์ฮาพส์บวร์ค

ราชวงศ์ฮาพส์บวร์ค (Haus de Habsburg) (House of Habsburg, บางครั้งเขียนว่า Hapsburg) เป็นราชวงศ์ที่สำคัญที่สุดราชวงศ์หนึ่งในทวีปยุโรป ราชวงศ์นี้ได้ปกครองประเทศสเปนและประเทศออสเตรีย รวมเวลาทั้งหมดถึง 6 ศตวรรษ แต่ที่รู้จักกันดีมากที่สุดคือ การปกครองในตำแหน่งของ จักรพรรดิโรมันอันศักดิ์สิทธิ์ หลังจากได้มีการสถาปนาจักรวรรดิโรมันอันศักดิ์สิทธิ์ขึ้นมา พระราชวงศ์นี้ได้ปกครองรัฐและประเทศต่าง ๆ ถึง 1,800 รั.

ใหม่!!: จักรวรรดิออสเตรียและราชวงศ์ฮาพส์บวร์ค · ดูเพิ่มเติม »

ราชอาณาจักรลอมบาร์ดี-เวนีเชีย

ราชอาณาจักรลอมบาร์ดี-เวนีเชีย (Kingdom of Lombardy–Venetia; Regno Lombardo–Veneto; Königreich Lombardo–Venetien) เป็นราชอาณาจักรที่ตั้งอยู่ทางตอนเหนือของคาบสมุทรอิตาลีที่เป็นส่วนหนึ่งของจักรวรรดิออสเตรีย ราชอาณาจักรก่อตั้งขึ้นหลังจากความพ่ายแพ้ของนโปเลียนตามความตกลงในการประชุมแห่งเวียนนาเมื่อวันที่ 9 มิถุนายน ค.ศ. 1815 และมาสิ้นสุดลงเมื่อบริเวณสุดท้ายถูกผนวกเข้าเป็นส่วนหนึ่งของราชอาณาจักรอิตาลีในปี ค.ศ. 1866 การประชุมแห่งเวียนนารวมดินแดนที่เป็นของลอมบาร์ดี (ที่ปกครองโดยราชวงศ์ฮับส์บูร์กมาตั้งแต่คริสต์ศตวรรษที่ 16 และโดยสาขาออสเตรียของตระกูลระหว่าง ค.ศ. 1713 ถึง ค.ศ. 1796) เข้ากับภูมิภาคเวนีเชีย (ที่ปกครองเป็นช่วง ๆ โดยออสเตรียมาตั้งแต่ปี ค.ศ. 1797) เข้าเป็นรัฐเดียวกันภาพใต้การปกครองฮับส์บูร์กออสเตรี.

ใหม่!!: จักรวรรดิออสเตรียและราชอาณาจักรลอมบาร์ดี-เวนีเชีย · ดูเพิ่มเติม »

ราชอาณาจักรอิตาลี

ราชอาณาจักรอิตาลี (Regno d'Italia) เป็นราชอาณาจักรบนคาบสมุทรอิตาลี ซึ่งได้มีการสถาปนาขึ้นใน ค.ศ. 1861 จากการรวมตัวกันของรัฐอิตาลีหลาย ๆ รัฐภายใต้การนำของราชอาณาจักรซาร์ดิเนีย และดำรงอยู่ตราบจนถึงปี ค.ศ. 1946 เมื่อประชาชนชาวอิตาลีได้มีการลงประชามติให้มีการเปลี่ยนผ่านการปกครองจากระบบราชอาณาจักรไปสู่ความเป็นสาธารณรัฐ อิตาลีได้ประกาศสงครามต่อออสเตรียในปี..

ใหม่!!: จักรวรรดิออสเตรียและราชอาณาจักรอิตาลี · ดูเพิ่มเติม »

ราชอาณาจักรซาร์ดิเนีย

ราชอาณาจักรซาร์ดิเนีย หรือ ราชอาณาจักรพีดมอนต์-ซาร์ดิเนีย หรือ ราชอาณาจักรซาร์ดิเนีย-พีดมอนต์ (Kingdom of Sardinia หรือ Piedmont-Sardinia หรือ Sardinia-Piedmont) เป็นดินแดนที่เป็นของตระกูลซาวอย (House of Savoy) ในปี..

ใหม่!!: จักรวรรดิออสเตรียและราชอาณาจักรซาร์ดิเนีย · ดูเพิ่มเติม »

ราชอาณาจักรปรัสเซีย

ราชอาณาจักรปรัสเซีย (Kingdom of Prussia) เป็นราชอาณาจักรหนึ่งของชนชาติเยอรมัน ดำรงอยู่ระหว่างปีค.ศ. 1701 ถึง 1918 ครอบคลุมพื้นที่ในประเทศเยอรมนี โปแลนด์ รัสเซีย ลิทัวเนีย เดนมาร์ก เบลเยียม และเช็กเกียในปัจจุบัน ราชอาณาจักรปรัสเซียกลายเป็นมหาอำนาจของยุโรปในศตวรรษที่ 18 ในรัชสมัยของพระเจ้าฟรีดริชมหาราช และยิ่งทรงอำนาจขึ้นจนสามารถเป็นแกนนำในการชักนำรัฐเยอรมันต่างๆให้ทำการรวมชาติกันเป็นจักรวรรดิเยอรมัน ในปี 1871.

ใหม่!!: จักรวรรดิออสเตรียและราชอาณาจักรปรัสเซีย · ดูเพิ่มเติม »

ราชอาณาจักรแดลเมเชีย

ราชอาณาจักรแดลเมเชีย (Königreich Dalmatien; Kraljevina Dalmacija; Kingdom of Dalmatia) เป็นราชอาณาจักรหนึ่งของจักรวรรดิออสเตรียระหว่าง ค.ศ. 1815 จนถึง ค.ศ. 1918 โดยมีเมืองหลวงอยู่ที่ซาดาร.

ใหม่!!: จักรวรรดิออสเตรียและราชอาณาจักรแดลเมเชีย · ดูเพิ่มเติม »

ราชอาณาจักรโบฮีเมีย

ราชอาณาจักรโบฮีเมีย (Kingdom of Bohemia; České království; Königreich Böhmen; Regnum Bohemiae) เป็นราชอาณาจักรที่ตั้งอยู่ในตอนกลางของทวีปยุโรปที่ได้รับการก่อตั้งโดยสารตราทองแห่งซิซิลีที่ออกโดยจักรพรรดิฟรีดริชที่ 2 แห่งจักรวรรดิโรมันอันศักดิ์สิทธิ์ในปี ค.ศ. 1212 ที่เป็นพระราชโองการที่ยกฐานะดัชชีโบฮีเมียขึ้นเป็นราชอาณาจักร ราชอาณาจักรโบฮีเมียจึงเป็นสมาชิกอิสระของจักรวรรดิโรมันอันศักดิ์สิทธิ์ ต่อมาก็กลายเป็นส่วนหนึ่งของจักรวรรดิออสเตรียและมาถูกยุบในปี ค.ศ. 1918 เมื่อจักรวรรดิออสเตรีย-ฮังการีล่มสลายลง เมื่อพระเจ้าคาร์ลที่ 3 แห่งโบฮีเมียทรงสละราชสมบัติ การประชุมสภาแห่งชาติปลดราชวงศ์ฮับส์บูร์ก-โลทริงเงินและประกาศให้เป็นสาธารณรัฐเชโกสโลวักที่ 1 ราชอาณาจักรโบฮีเมียเป็นส่วนหนึ่งของที่ดินของพระมหากษัตริย์โบฮีเมีย (Lands of the Bohemian Crown) ที่รวมทั้ง.

ใหม่!!: จักรวรรดิออสเตรียและราชอาณาจักรโบฮีเมีย · ดูเพิ่มเติม »

รายชื่อสนธิสัญญา

การลงนามในสนธิสัญญาแวร์ซายในห้องกระจกของพระราชวังแวร์ซายในฝรั่งเศสเมื่อวันที่ 28 มิถุนายน ค.ศ. 1919เพื่อยุติสงครามโลกครั้งที่หนึ่ง รายชื่อสนธิสัญญา เป็นรายชื่อข้อตกลงทางประวัติศาสตร์ฉบับที่สำคัญ ระหว่างรัฐ กองทัพ รัฐบาล และกลุ่มชน.

ใหม่!!: จักรวรรดิออสเตรียและรายชื่อสนธิสัญญา · ดูเพิ่มเติม »

รายชื่อธงในประเทศออสเตรีย

นี่คือธงต่างๆ ที่ใช้ในประเทศออสเตรีย สำหรับข้อมูลเกี่ยวกับธงชาติ ดูที่ ธงชาติออสเตรี.

ใหม่!!: จักรวรรดิออสเตรียและรายชื่อธงในประเทศออสเตรีย · ดูเพิ่มเติม »

รายชื่อธงในประเทศโครเอเชีย

ตารางข้างล่างนี้แสดงภาพของธงต่างๆ ที่ใช้ใน สาธารณรัฐโครเอเชีย หรือใช้โดย ชาวโครแอท.

ใหม่!!: จักรวรรดิออสเตรียและรายชื่อธงในประเทศโครเอเชีย · ดูเพิ่มเติม »

รายชื่อธงในประเทศเยอรมนี

หน้านี้คือรายชื่อธงต่างๆ ที่ใช้อยู่ในประเทศเยอรมนี.

ใหม่!!: จักรวรรดิออสเตรียและรายชื่อธงในประเทศเยอรมนี · ดูเพิ่มเติม »

รายพระนามพระมหากษัตริย์ฮังการี

ระมหากษัตริย์ฮังการี (magyar király) เป็นตำแหน่งที่ปกครองราชอาณาจักรฮังการีตั้งแต่ ค.ศ. 1000 - ค.ศ. 1918 และในรัชสมัยของจักรพรรดิฟรันซ์ที่ 2 แห่งจักรวรรดิโรมันอันศักดิ์สิทธิ์ ราชอาณาจักรฮังการีก็ได้ถูกผนวกรวมเข้ากับจักรวรรดิออสเตรียตั้งแต่บัดนั้นเป็นต้นม.

ใหม่!!: จักรวรรดิออสเตรียและรายพระนามพระมหากษัตริย์ฮังการี · ดูเพิ่มเติม »

รายการตัวละครในพลังอักษะ เฮตาเลีย

นี่คือ รายชื่อของตัวละครในการ์ตูนชุด พลังอักษะ เฮตาเลี.

ใหม่!!: จักรวรรดิออสเตรียและรายการตัวละครในพลังอักษะ เฮตาเลีย · ดูเพิ่มเติม »

ราเด็ตสกีมาร์ช

ราเด็ตสกีมาร์ช โอปุสที่ 228 (Radetzky March, Op.) เป็นเพลงมาร์ชที่แต่งโดยโยฮันน์ ชเตราสส์ ที่หนึ่ง ในปี..

ใหม่!!: จักรวรรดิออสเตรียและราเด็ตสกีมาร์ช · ดูเพิ่มเติม »

สมัยร้อยวัน

มัยร้อยวัน (les Cent-Jours, Hundred Days) หรือเป็นที่รู้จักกันในชื่อ สงครามประสานมิตรครั้งที่เจ็ด (War of the Seventh Coalition) เป็นช่วงเวลาที่เริ่มตั้งแต่เมื่อจักรพรรดินโปเลียนที่ 1 หนีจากเกาะเอลบาขึ้นสู่แผ่นดินยุโรป เมื่อวันที่ 20 มีนาคม..

ใหม่!!: จักรวรรดิออสเตรียและสมัยร้อยวัน · ดูเพิ่มเติม »

สมาพันธรัฐแห่งแม่น้ำไรน์

มาพันธรัฐแห่งลุ่มแม่น้ำไรน์ หรือ สมาพันธรัฐแม่น้ำไรน์ (Rheinbund; États confédérés du Rhin (ชื่ออย่างเป็นทางการ) Confédération du Rhin (ชื่อในทางพฤตินัย)) เป็นรัฐบริวารของจักรวรรดิฝรั่งเศสที่ 1 ก่อตั้งจากรัฐเยอรมันทั้ง 16 รัฐ โดยจักรพรรดินโปเลียนหลังจากรบชนะจักรพรรดิฟรันซ์ที่ 2 แห่งจักรวรรดิโรมันอันศักดิ์สิทธิ์และซาร์อเล็กซานเดอร์ที่ 1 แห่งรัสเซียในยุทธการที่เอาสเทอร์ลิทซ์ การลงนามในสนธิสัญญาเพรซเบิร์กได้นำไปสู่การก่อตั้งสมาพันธรัฐแห่งแม่น้ำไรน์ ซึ่งดำรงอยู่ตั้งแต่ปี ค.ศ. 1806 ถึงปี ค.ศ. 1813 สมาชิกของสมาพันธ์คือเจ้าผู้ครองนครรัฐเยอรมัน (Fürsten) ในความปกครองของจักรวรรดิโรมันอันศักดิ์สิทธิ์ 16 รัฐ ซึ่งในทางเทคนิคแล้ว เจ้าเหล่านี้ล้วนมิใช่ประมุขของรัฐซึ่งตนเองปกครองอยู่ ภายหลังได้มีรัฐอื่นอีก 19 รัฐเข้าร่วมในสมาพันธรัฐ ทำให้เมื่อรวมกันแล้วทำให้มีประชากรภายใต้การปกครองมากกว่า 15 ล้านคน ก่อให้เกิดผลประโยชน์เชิงยุทธศาสตร์อย่างมากต่อจักรวรรดิฝรั่งเศสในแนวรบด้านตะวันออก.

ใหม่!!: จักรวรรดิออสเตรียและสมาพันธรัฐแห่งแม่น้ำไรน์ · ดูเพิ่มเติม »

สมาพันธรัฐเยอรมันเหนือ

มาพันธรัฐเยอรมันเหนือ (Norddeutscher Bund) คือชื่อของรัฐชาติเยอรมันซึ่งดำรงอยู่ระหว่าง กรกฎาคม..

ใหม่!!: จักรวรรดิออสเตรียและสมาพันธรัฐเยอรมันเหนือ · ดูเพิ่มเติม »

สมาคมคาร์โบนารี

ร์โบนารี หรือคาร์โบนีเรีย (Carboneria) เป็นชื่อสมาคมลับของชาวอิตาลีซึ่งยึดหลักอุดมการณ์เสรีนิยมสนับสนุนระบอบการปกครองแบบสาธารณรัฐและเน้นความรักชาติ สมาคมนี้เริ่มต้นจากขบวนการต่อต้านการปกครองฝรั่งเศสในรัฐเนเปิลส์ระหว่างสงครามนโปเลียน (Napoleonic Wars ค.ศ.1803-1815) และต่อมาดำเนินกิจกรรมทางการเมืองเพื่อต่อต้านระบบอนุรักษนิยมตลอดจนอำนาจและอิทธิพลของจักรวรรดิออสเตรียในคาบสมุทรอิตาลี เพื่อบรรลุจุดมุ่งหมายในการรวมชาต.

ใหม่!!: จักรวรรดิออสเตรียและสมาคมคาร์โบนารี · ดูเพิ่มเติม »

สมเด็จพระเจ้าคาโรลที่ 1 แห่งโรมาเนีย

มเด็จพระราชาธิบดีคาโรลที่ 1 แห่งโรมาเนีย (20 เมษายน พ.ศ. 2382 - 10 ตุลาคม พ.ศ. 2457) ประสูติในพระอิศริยยศ เจ้าชายแห่งโฮเฮนโซลเลิร์น - ซิกมาริงเง็น ทรงครองราชย์เป็นเจ้าผู้ครองนครและสมเด็จพระราชาธิบดีแห่งราชอาณาจักรโรมาเนียตั้งแต..

ใหม่!!: จักรวรรดิออสเตรียและสมเด็จพระเจ้าคาโรลที่ 1 แห่งโรมาเนีย · ดูเพิ่มเติม »

สงครามชเลสวิจครั้งที่สอง

งครามชเลสวิจครั้งที่สอง (2.; Deutsch-Dänischer Krieg) เป็นความขัดแย้งทางการทหารระหว่างเดนมาร์ก และ ปรัสเซีย เป็นผลพันธ์ของ ปัญหาชเลสวิจ-ฮ็อลชไตน์ โดยสงครามเริ่มขึ่นในวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 1864, เมื่อ กองทัพปรัสเซียข้ามพรมแดนสู่ชเลสวิจ สงครามจบลงในวันที่ 30 ตุลาคม 1864 ด้วยความพ่ายแพ้ของเดนมาร์ก, โดยตาม สนธิสัญญาเวียนนา เดนมาร์กต้องคืนดัชชีชเลสวิก, โฮลชไตน์, และ Saxe-Lauenburg ให้กับ ปรัสเซีย และ ออสเตรี.

ใหม่!!: จักรวรรดิออสเตรียและสงครามชเลสวิจครั้งที่สอง · ดูเพิ่มเติม »

สงครามสืบราชบัลลังก์ออสเตรีย

งครามสืบราชบัลลังก์ออสเตรีย (War of the Austrian Succession) เป็นสงครามที่เกี่ยวข้องกับทุกมหาอำนาจในทวีปยุโรป สงครามเริ่มจากการที่เมื่อจักรพรรดิคาร์ลที่ 6 แห่งโรมันอันศักดิ์สิทธิ์ เสด็จสวรรคตใน..

ใหม่!!: จักรวรรดิออสเตรียและสงครามสืบราชบัลลังก์ออสเตรีย · ดูเพิ่มเติม »

สงครามสืบราชบัลลังก์โปแลนด์

งครามสืบราชบัลลังก์โปแลนด์ (ค.ศ. 1733 - 1738) เป็นสงครามครั้งใหญ่ของชาวยุโรปซึ่งปะทุขึ้นจากสงครามกลางเมืองในประเทศโปแลนด์ อันมีสาเหตุสืบเนื่องมาจากการสืบราชสมบัติต่อจากพระเจ้าออกุสตุสที่ 2 แห่งโปแลนด์ ความขัดแย้งดังกล่าวได้ขยายเป็นวงกว้างจากการที่ชาติมหาอำนาจยุโรปต่างให้การสนับสนุนคู่ขัดแย้งแต่ละฝ่ายโดยมุ่งหวังเรื่องผลประโยชน์แห่งชาติของตนเองเป็นหลัก ฝรั่งเศสและสเปน ซึ่งเป็นชาติที่มีกษัตริย์ผู้ปกครองจากราชวงศ์บูร์บงร่วมกัน พยายามทดสอบกำลังอำนาจของราชวงศ์ฮับส์บูร์กแห่งออสเตรียที่มีอยู่ในยุโรปตะวันตก ราชอาณาจักรปรัสเซียเองก็ทำเช่นเดียวกัน ขณะที่ฝ่ายซัคเซินและรัสเซียได้เคลื่อนพลเพื่อสนับสนุนชัยชนะของโปแลนด์ในตอนท้าย การสู้รบที่เกิดขึ้นไม่กี่ครั้งในโปแลนด์ได้นำผลไปสู่การขึ้นเสวยราชสมบัติของออกุสตุสที่ 3 ซึ่งเป็นผู้ฝักใฝ่รัสเซียและซัคเซิน โดยได้รับการสนับสนุนทางการเมืองจากราชวงศ์ฮับส์บูร์ก.

ใหม่!!: จักรวรรดิออสเตรียและสงครามสืบราชบัลลังก์โปแลนด์ · ดูเพิ่มเติม »

สงครามออสเตรีย-ปรัสเซีย

งครามออสเตรีย-ปรัสเซีย (Austro-Prussian War) หรือ สงครามเจ็ดสัปดาห์ (Seven Weeks' War) หรือ สงครามรวมชาติ (Unification War) หรือ สงครามพี่น้อง (Brothers War) เป็นสงครามในปี..

ใหม่!!: จักรวรรดิออสเตรียและสงครามออสเตรีย-ปรัสเซีย · ดูเพิ่มเติม »

สงครามปฏิวัติฝรั่งเศส

งครามปฏิวัติฝรั่งเศส (French Revolutionary Wars) เป็นสงครามต่อเนื่องที่เกิดขึ้นระหว่าง..

ใหม่!!: จักรวรรดิออสเตรียและสงครามปฏิวัติฝรั่งเศส · ดูเพิ่มเติม »

สงครามประสานมิตรครั้งที่สาม

งครามประสานมิตรครั้งที่สาม (War of the Third Coalition) เป็นสงครามในทวีปยุโรประหว่างปี..

ใหม่!!: จักรวรรดิออสเตรียและสงครามประสานมิตรครั้งที่สาม · ดูเพิ่มเติม »

สงครามประสานมิตรครั้งที่หก

งครามประสานมิตรครั้งที่หก (War of the Sixth Coalition) หรือชื่อในภาษาเยอรมันคือ สงครามปลดแอก (Befreiungskriege) เป็นการผนึกกำลังระหว่างออสเตรีย, ปรัสเซีย, รัสเซีย, สหราชอาณาจักร, โปรตุเกส, สวีเดน, สเปน และรัฐเยอรมันอีกหลาย ๆ รัฐ เข้าต่อสู้และมีชัยเหนือฝรั่งเศสซึ่งนำโดยนโปเลียน โบนาปาร์ต และเนรเทศนโปเลียนไปยังเกาะเอลบา สงครามนี้เริ่มขึ้นหลังจากที่กองทัพนโปเลียนพ่ายแพ้อย่างพินาศย่อยยับในการรุกรานรัสเซีย มหาอำนาจยุโรปอย่างสหราชอาณาจักร, โปรตุเกส และฝ่ายกบฏในสเปนต่างพากันเข้าร่วมกับรัสเซียในการสยบนโปเลียน กองทัพฝ่ายประสานมิตรที่ได้รับการจัดระเบียบใหม่ สามารถไล่ทหารของนโปเลียนออกจากเยอรมนีได้ในปี..

ใหม่!!: จักรวรรดิออสเตรียและสงครามประสานมิตรครั้งที่หก · ดูเพิ่มเติม »

สงครามประสานมิตรครั้งที่ห้า

งครามประสานมิตรครั้งที่ห้า (War of the Fifth Coalition) เป็นสงครามในปี..

ใหม่!!: จักรวรรดิออสเตรียและสงครามประสานมิตรครั้งที่ห้า · ดูเพิ่มเติม »

สงครามนโปเลียน

งครามนโปเลียน (Napoleonic Wars, Guerres napoléoniennes) เป็นสงครามต่อเนื่องที่เกี่ยวข้องกับจักรวรรดิฝรั่งเศสของนโปเลียน และพันธมิตรต่าง ๆ ของยุโรป และฝ่ายพันมิตรต่อต้านที่เริ่มขึ้นราว..

ใหม่!!: จักรวรรดิออสเตรียและสงครามนโปเลียน · ดูเพิ่มเติม »

สงครามเจ็ดปี

ำหรับสงครามเจ็ดปีในความหมายอื่น อ่าน สงครามเจ็ดปี (แก้ความกำกวม) สงครามเจ็ดปี (Seven Years' War) หรือ สงครามไซลีเซียครั้งที่ 3 (Third Silesian War) เป็นสงครามที่เกิดขึ้นระหว่างปี..

ใหม่!!: จักรวรรดิออสเตรียและสงครามเจ็ดปี · ดูเพิ่มเติม »

สนธิสัญญาแซ็ง-แฌร์แม็ง-อ็อง-แล (ค.ศ. 1919)

นธิสัญญาแซ็ง-แฌร์แม็ง-อ็อง-แล เป็นสนธิสัญญาที่ลงนามเมื่อวันที่ 10 กันยายน ค.ศ. 1919 โดยพันธมิตรในสงครามโลกครั้งที่หนึ่งผู้เป็นฝ่ายที่ได้รับชัยชนะในสงคราม กับสาธารณรัฐออสเตรียอีกฝ่ายหนึ่ง สนธิสัญญานี้ก็เช่นเดียวกับสนธิสัญญาแวร์ซายกับจักรวรรดิเยอรมันที่เป็นสนธิสัญญาที่มีเนื้อหาที่ร่างโดยสันนิบาตชาติ และผลก็มิได้รับการรับรองจากสหรัฐอเมริกา สนธิสัญญาประกาศการยุบเลิกจักรวรรดิออสเตรีย-ฮังการี สาธารณรัฐใหม่ของออสเตรียประกอบด้วยบริเวณแอลป์ที่พูดภาษาเยอรมันของอดีตจักรวรรดิออสเตรีย, ยอมรับอิสรภาพของฮังการี, เชโกสโลวาเกีย, โปแลนด์ และรัฐแห่งชาวสโลวีน โครแอต และเซิร์บ สนธิสัญญารวมการจ่ายค่าปฏิกรรมหรือค่าเสียหายที่เกิดขึ้นจากสงครามเป็นจำนวนมหาศาลโดยตรงต่อฝ่ายพันธมิตร ดินแดนในครอบครองของออสเตรียถูกลดลงไปเป็นเชโกสโลวาเกีย โปแลนด์ และยูโกสลาเวีย และดินแดนส่วนอื่นให้แก่อิตาลี และโรมาเนีย แต่เบอร์เกนแลนด์ที่เดิมเป็นของฮังการีกลับมาเป็นของออสเตรีย ข้อสำคัญของสนธิสัญญาระบุยับยั้งออสเตรียจากการเปลี่ยนสถานะภาพของความเป็นอิสรภาพ ที่หมายถึงสาธารณรัฐใหม่เยอรมันออสเตรียที่เป็นส่วนหนึ่งของเยอรมนี ออสเตรียไม่สามารถเข้าทำการรวมตัวไม่ว่าจะเป็นทางเศรษฐกิจหรือทางการเมืองร่วมกับเยอรมนีโดยมิได้รับความเห็นชอบกับสันนิบาตชาติ กองทัพออสเตรียถูกจำกัดจำนวนลงเหลือเพียงกองทหารอาสาสมัคร 30,000 คน นอกจากนั้นก็ยังมีข้อปลีกย่อยที่เกี่ยวกับการเดินเรือบนลำแม่น้ำดานูบ, การเปลี่ยนมือของระบบการรถไฟ และการแบ่งแยกจักรวรรดิออกเป็นรัฐอิสระย่อย ต่อมาในเดือนพฤศจิกายน..

ใหม่!!: จักรวรรดิออสเตรียและสนธิสัญญาแซ็ง-แฌร์แม็ง-อ็อง-แล (ค.ศ. 1919) · ดูเพิ่มเติม »

อัลโฟนส์ มูคา

อัลโฟนส์ มารียา มูคา (Alfons Maria Mucha) เป็นศิลปินแนวนวศิลป์ (Art Nouveau) ที่มีผลงานออกแบบอย่างหลากหลาย ทั้งภาพโปสเตอร์ ปฏิทิน ภาพประกอบหนังสือ งานพิมพ์ ภาพพิมพ์หิน งานโลหะ งานหนัง การออกแบบเครื่องประดับ และการออกแบบของตกแต่งบ้าน อีกทั้งยังมีผลงานวาดภาพเกี่ยวกับประวัติศาสตร์อีกด้วย นับว่าเป็นศิลปินมากความสามารถ และมีความเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวที่โดดเด่นคนหนึ่ง.

ใหม่!!: จักรวรรดิออสเตรียและอัลโฟนส์ มูคา · ดูเพิ่มเติม »

อาร์ชดยุกฟรันซ์ แฟร์ดีนันด์แห่งออสเตรีย

ฟรันซ์ แฟร์ดีนันด์ คาร์ล ลุดวิก โยเซฟ มารีอา (Franz Ferdinand Carl Ludwig Joseph Maria) ทรงเป็นอาร์ชดยุกแห่งออสเตรีย-เอสเต และยังทรงเป็นราชกุมารแห่งฮังการีและโบฮีเมีย และเป็นรัชทายาทลำดับหนึ่งแห่งจักรวรรดิออสเตรีย-ฮังการีอีกด้วย พระองค์ทรงเป็นองค์รัชทายาทจวบจนถูกลอบปลงพระชนม์โดยนักชาตินิยมหัวรุนแรงชาวเซอร์เบีย ที่เมืองซาราเยโวในแคว้นบอสเนียและเฮอร์เซโกวีนา (ขณะนั้นยังเป็นส่วนหนึ่งของจักรวรรดิออสเตรีย-ฮังการี) หลังพระองค์และพระชายาสิ้นพระชนม์ก็ทำให้จักรวรดริออสเตรีย-ฮังการี ประกาศสงครามกับราชอาณาจักรเซอร์เบียทันที ถือเป็นจุดเริ่มต้นของสงครามโลกครั้งที่ 1.

ใหม่!!: จักรวรรดิออสเตรียและอาร์ชดยุกฟรันซ์ แฟร์ดีนันด์แห่งออสเตรีย · ดูเพิ่มเติม »

อาร์ชดยุกคาร์ล ลุดวิจ แห่งออสเตรีย

อาร์ชดยุกคาร์ล ลุดวิจ แห่งออสเตรีย (อังกฤษ: Archduke Karl Ludwig of Austria, de.: Erzherzog Karl Ludwig von Österreich) (พระนามเต็ม: คาร์ล ลุดวิจ โจเซฟ มาเรีย, Karl Ludwig Joseph Maria von Habsburg-Lorraine) ทรงเป็นอาร์ชดยุกแห่งออสเตรีย และเจ้าฟ้าชายแห่งฮังการี และเป็นพระราชอนุชาในสมเด็จพระจักรพรรดิฟรานซ์ โจเซฟที่ 1 แห่งออสเตรียอีกด้ว.

ใหม่!!: จักรวรรดิออสเตรียและอาร์ชดยุกคาร์ล ลุดวิจ แห่งออสเตรีย · ดูเพิ่มเติม »

อาร์ชดยุกคาร์ล ดยุกแห่งเทเชิน

อาร์ชดยุกคาร์ลแห่งออสเตรีย ดยุกแห่งเทเชิน หรือพระนามเต็มคือ คาร์ล ลุดวิจ โยฮันน์ โยเซฟ ลอเรินซ์ (Karl Ludwig Johann Josef Lorenz) เป็นจอมพลและเจ้าชายแห่งจักรวรรดิออสเตรีย ทรงเป็นพระโอรสองค์ที่สามในจักรพรรดิเลโอโปลด์ที่ 2 แห่งโรมันอันศักดิ์สิทธิ์กับพระนางมาเรีย ลุยซา แห่งสเปน และทรงมีศักดิ์เป็นพระอนุชาของจักรพรรดิฟรันซ์ที่ 1 แห่งออสเตรีย แม้ว่าอาร์ชดยุกคาร์ลจะมีโรคประจำตัวเป็นโรคลมชัก แต่พระองค์ก็ประสบความสำเร็จในการเป็นผู้บัญชาการทหารและผู้ปฏิรูปของกองทัพออสเตรีย และพระองค์ยังเป็นหนึ่งในศัตรูยากจะรับมือของนโปเลียน โบนาปาร์ต อาร์ชดยุกคาร์ลเริ่มเป็นผู้บัญชาหารทหารในสงครามปฏิวัติฝรั่งเศส ในช่วงต้นสงครามประสานมิตรครั้งที่หนึ่ง ทรงได้รับชัยชนะที่เนียร์วินเดนในปี 1793 ก่อนที่พระองค์จะได้ลิ้มรสความพ่ายแพ้ในปี 1793 และ 1794 ต่อมาในปี 1796 ทรงเป็นผู้บัญญชาการกองทัพออสเตรียในลุ่มแม่น้ำไรน์ อาร์ชดยุกคาร์ลสามารถมีชัยเหนือ ฌ็อง-บาติสต์ โยร์ด็อง ที่อัมแบร์กและเวือร์ซบูร์ก และต่อมาสามารถมีชัยที่เอ็มเมนดิงเงิน ซึ่งทำให้กองทหารของ ฌ็อง วิกตอร์ มารี โมโร ถอนกำลังข้ามแม่น้ำไรน์ไป ต่อมาในปี 1809 ทรงเข้าร่วมในสงครามประสานมิตรครั้งที่ห้าและสามารถมีชัยเหนือนโปเลียนได้ในยุทธการที่แอสเพิร์น-เอสสลิง ก่อนที่จะได้มาพ่ายแพ้ให้แก่นโปเลียนในยุทธการที่วากรัม หลังจากศึกที่วากรัม อาร์ชดยุกคาร์ลก็ไม่ได้มีส่วนร่วมที่สำคัญในสงครามนโปเลียนอีก.

ใหม่!!: จักรวรรดิออสเตรียและอาร์ชดยุกคาร์ล ดยุกแห่งเทเชิน · ดูเพิ่มเติม »

อาร์ชดัชชีออสเตรีย

อาร์ชดัชชีออสเตรีย (Erzherzogtum Österreich, Archduchy of Austria) เป็นรัฐสำคัญที่สุดรัฐหนึ่งในจักรวรรดิโรมันอันศักดิ์สิทธิ์และเป็นศูนย์กลางของราชวงศ์ฮับส์บูร์กและราชวงศ์ก่อนหน้าที่จะมาเป็นจักรวรรดิออสเตรีย อาร์ชดัชชีออสเตรียที่รุ่งเรืองอยู่ร่วม 700 ปีก่อตัวขึ้นมาจากอาณาจักรมาร์กราฟจนกระทั่งกลายมาเป็นจักรวรรดิ โดยมีเมืองหลวงอยู่ที่เวียนนา อาณาบริเวณของอาร์ชดัชชีมีศูนย์กลางอยู่ในบริเวณที่เป็นรัฐต่างๆ ของประเทศออสเตรียปัจจุบันของออสเตรียใต้และส่วนใหญ่ของบริเวณในออสเตรียเหนือด้ว.

ใหม่!!: จักรวรรดิออสเตรียและอาร์ชดัชชีออสเตรีย · ดูเพิ่มเติม »

อาร์กเดอทรียงฟ์ดูว์การูแซล

อาร์กเดอทรียงฟ์ดูว์การูแซล (Arc de triomphe du Carrousel) หรือรู้จักกันในชื่อ ประตูชัยแห่งการูแซล เป็นอนุสรณ์สถานที่สำคัญในกรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส ตั้งอยู่กลางจัตุรัสดูว์การูแซล (Place du Carousel) ซึ่งเคยเป็นที่ตั้งของพระราชวังทุยเลอรี อยู่ในเขตที่ 1 ของกรุงปารีส ประตูชัยแห่งนี้สร้างขึ้นในระหว่างปีค.ศ. 1806 - ค.ศ. 1808 เพื่อเป็นการสดุดีวีรชนทหารกล้าที่ได้ร่วมรบเพื่อประเทศฝรั่งเศสในระหว่างสงครามนโปเลียน สร้างในช่วงเดียวกันกับประตูชัยแห่งฝรั่งเศส และสร้างเสร็จก่อน ส่วนประตูชัยแห่งใหญ่นั้นเนื่องจากขนาดที่ใหญ่กว่าถึงสองเท่า จึงทำให้ใช้เวลาถึง 30 ปีในการสร้าง ประตูชัยแห่งนี้ได้ถูกขึ้นทะเบียนเป็นอนุสรณ์สถานทางประวัติศาสตร์ของประเทศฝรั่งเศสเมื่อปี ค.ศ. 1808.

ใหม่!!: จักรวรรดิออสเตรียและอาร์กเดอทรียงฟ์ดูว์การูแซล · ดูเพิ่มเติม »

อาร์เธอร์ ชนิตซ์เลอร์

อาร์เธอร์ ชนิตซ์เลอร์ (Arthur Schnitzler; 15 พฤษภาคม ค.ศ. 1862 – 21 ตุลาคม ค.ศ. 1931) เป็นนักเขียนชาวออสเตรีย เกิดที่กรุงเวียนนาในครอบครัวชาวยิว เป็นบุตรคนโตของพี่น้อง 4 คนของโยฮันน์ ชนิตซ์เลอร์ แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านลำคอกับลุยส์ มาร์กไบรเตอร์ ชนิตซ์เลอร์เรียนวิชาแพทย์ที่มหาวิทยาลัยเวียนนาและทำงานที่โรงพยาบาลเวียนนา แต่ต่อมาเขาหันมาสนใจด้านการเขียน บทละครชิ้นแรกของเขา Anatol ตีพิมพ์ในปี..

ใหม่!!: จักรวรรดิออสเตรียและอาร์เธอร์ ชนิตซ์เลอร์ · ดูเพิ่มเติม »

อาลัวส์ ฮิตเลอร์

อาลัวส์ ฮิตเลอร์, ซีเนียร. (ชื่อตั้งแต่เกิดว่า อาลัวส์ ชิคล์กรูเบอร์; 7 มิถุนายน 1837 – 3 มกราคม 1903)เป็นข้าราชการพลเรือนชาวออสเตรียและเป็นบิดาของ อดอล์ฟ ฮิตเลอร์ นักการเมืองเยอรมันและหัวหน้าพรรคนาซี หมวดหมู่:ชาวออสเตรีย หมวดหมู่:ครอบครัวฮิตเลอร์.

ใหม่!!: จักรวรรดิออสเตรียและอาลัวส์ ฮิตเลอร์ · ดูเพิ่มเติม »

อิลกันโตเดลยีอีตาเลียนี

อิลกันโตเดลยีอีตาเลียนี (Il Canto degli Italiani) หรือ "เพลงแห่งชาวอิตาลี" เป็นชื่อของเพลงชาติแห่งสาธารณรัฐอิตาลี เพลงนี้เป็นที่รู้จักกันดีในหมู่ชาวอิตาลีในชื่อ "อินโนดีมาเมลี" (Inno di Mameli - เพลงสรรเสริญของมาเมลี) อันเป็นการขนานนามตามชื่อผู้ประพันธ์เพลง และ "ฟราเตลลีดีตาเลีย" (Fratelli d'Italia - พี่น้องชาวอิตาลีทั้งหลาย) ซึ่งเรียกตามบทร้องวรรคเปิดของเพลงนี้ บทร้องของเพลงนี้ได้ประพันธ์โดยกอฟเฟรโด มาเมลี (Goffredo Mameli - ขณะนั้นยังเป็นนักศึกษาชาวเจนัวและมีอายุได้ 20 ปี) ในฤดูใบไม้ร่วงของปี ค.ศ. 1847 ที่เมืองเจนัว ท่ามกลางบรรยากาศในการต่อสู้ของประชาชนเพื่อการรวมชาติและการทำสงครามปลดแอกจากจักรวรรดิออสเตรีย อีกสองเดือนต่อมา มีเกเล โนวาโร (Michele Novaro) ซึ่งเป็นชาวเจนัวเช่นกัน ได้ประพันธ์ทำนองสำหรับบทร้องของมาเมลีขึ้นที่เมืองโตริโน เพลงดังกล่าวนี้ได้รับความนิยมอย่างแพร่หลายจากมหาชนท่ามกลางยุคแห่งการรวมชาติ (Risorgimento) นานนับทศวรรษ หลังการรวมชาติสำเร็จลงในปี ค.ศ. 1861 เพลงที่ได้รับเลือกให้เป็นเพลงชาติอิตาลีนั้นมิใช่เพลง "อิลกันโตเดลยีอีตาเลียนี" ซึ่งได้รับความนิยมจากมหาชน แต่เป็นเพลง "มาร์ชาเรอาเลดอร์ดีนันซา" (Marcia Reale d'Ordinanza - เพลงมาร์ชหลวงตามพระราชโองการ) เพลงดังกล่าวนี้เป็นเพลงสรรเสริญประจำราชวงศ์ซาวอย อันเป็นราชวงศ์ของกษัตริย์ผู้ปกครองอิตาลีหลังยุคการรวมชาติ และได้ใช้เป็นเพลงชาติอิตาลีสืบมาจนถึงปี ค.ศ. 1946 เมื่ออิตาลีได้มีการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองโดยการลงประชามติยกเลิกระบอบราชาธิปไตยและสถาปนาการปกครองระบอบสาธารณรัฐขึ้นแทนที่ โดยเพลง "อิลกันโตเดลยีอีตาเลียนี" ได้รับเลือกให้ใช้เป็นเพลงชาติของสาธารณรัฐอิตาลีเป็นการชั่วคราว เมื่อวันที่ 12 ตุลาคม ค.ศ. 1946 และอีกเกือบ 60 ปีให้หลัง เพลงนี้จึงได้รับการรับรองอย่างเป็นทางการตามกฎหมายเมื่อวันที่ 17 พฤศจิกายน ค.ศ. 2005.

ใหม่!!: จักรวรรดิออสเตรียและอิลกันโตเดลยีอีตาเลียนี · ดูเพิ่มเติม »

อินทรีสองหัว

ลูกโลกในอุ้งมือเป็นสัญลักษณ์ของอำนาจทางศาสนาและทางฆราวาส (ภาพนูนจากตึกที่ทำการทางศาสนาในคอนสแตนติโนเปิล) อินทรีสองหัว (Double-headed eagle) เป็นสัญลักษณ์ที่นิยมใช้ในการสร้างตราอาร์มและธง ที่มักจะเกี่ยวข้องกับ “อินทรีสองหัว” ที่เป็นองค์ประกอบหนึ่งที่ปรากฏบนตราอาร์มของจักรวรรดิโรมันอันศักดิ์สิทธิ์, จักรวรรดิไบแซนไทน์ และ จักรวรรดิวิชัยนคร ในตราของจักรวรรดิไบแซนไทน์หัวอินทรีสองหัวเป็นสัญลักษณ์ของอำนาจของจักรพรรดิทั้งในทางทางศาสนาและทางฆราวาส และอำนาจของจักรวรรดิที่เหนือทั้งจักรวรรดิตะวันออกและตะวันตก ประเทศหลายประเทศในยุโรปตะวันออกนำอินทรีสองหัวมาใช้เป็นสัญลักษณ์ประจำชาติจนกระทั่งทุกวันนี้ ที่เด่นที่สุดคือรัสเซีย แต่อินทรีสองหัวเป็นสัญลักษณ์ที่ใช้กันมานาก่อนที่จักรวรรดิไบแซนไทน์จะนำมาใช้เป็นสัญลักษณ์ประจำจักรวรรดิ เช่นที่ใช้เป็นสัญลักษณ์ของอาร์เมเนียในยุคกลางและโดยราชวงศ์จาลุกยะ ในตำนานเทพของฮินดูอินทรีสองหัวเรียกว่า “คัณฑเบรุณฑา" (Gandaberunda”).

ใหม่!!: จักรวรรดิออสเตรียและอินทรีสองหัว · ดูเพิ่มเติม »

จักรพรรดิฟรันซ์ โยเซฟที่ 1 แห่งออสเตรีย

ักรพรรดิฟรันซ์ โยเซฟที่ 1 แห่งออสเตรีย พระนามเต็ม: ฟรันซ์ โยเซฟ คาร์ล (Franz Joseph Karl von Habsburg-Lorraine) ทรงเป็นจักรพรรดิแห่งออสเตรีย และ กษัตริย์แห่งฮังการี และทรงเป็นจักรพรรดิและพระราชาธิบดีพระองค์แรกในจักรวรรดิออสเตรีย-ฮังการีตั้งแต่ปีพ.ศ. 2410 พระองค์ทรงเป็นองค์พระประมุขที่ครองราชย์ยาวนานที่สุดเป็นอันดับที่สามในยุโรป รองจากเจ้าชายโจฮันน์ที่ 2 แห่งลิกเตนสไตน์และพระเจ้าหลุยส์ที่ 14 แห่งฝรั่งเศส ซึ่งทั้งสองพระองค์นี้ทรงครองราชย์เป็นเวลา 70 กว่าปีเท่ากัน.

ใหม่!!: จักรวรรดิออสเตรียและจักรพรรดิฟรันซ์ โยเซฟที่ 1 แห่งออสเตรีย · ดูเพิ่มเติม »

จักรพรรดิฟรันซ์ที่ 2 แห่งจักรวรรดิโรมันอันศักดิ์สิทธิ์

ฟรันซ์ โยเซฟ คาร์ล (Franz Joseph Karl) ทรงเป็นจักรพรรดิองค์สุดท้ายแห่งจักรวรรดิโรมันอันศักดิ์สิทธิ์ ตั้งแต่ปีพ.ศ. 2335 - พ.ศ. 2349 ภายหลังจากที่พระองค์ถูกรุกรานโดยจักรพรรดินโปเลียนที่ 1 อันนำไปสู่สงครามประสานมิตรครั้งที่สาม ทำให้พระองค์ต้องยุบจักรวรรดิ และเปลี่ยนจักรวรรดิรวมทั้งเปลี่ยนแปลงการปกครองใหม่ โดยระหว่างปีพ.ศ. 2347 - พ.ศ. 2349 พระองค์ได้ทรงดำรงตำแหน่งจักรพรรดิ 2 จักรวรรดิเลยทีเดียว โดยหลังจากเปลี่ยนจักรวรรดิแล้ว พระองค์ได้ทรงดำรงตำแหน่งจักรพรรดิแห่งออสเตรีย พระนามว่า จักรพรรดิฟรันซ์ที่ 1 แห่งออสเตรีย หลังจากนั้น พระองค์ได้ทรงนำกองทัพออสเตรีย ไปชำระแค้นกับจักรวรรดิฝรั่งเศส ในสงครามนโปเลียน แต่ก็ยังปราชัยอยู่ดี พระองค์จึงส่งพระราชธิดาองค์โต อาร์ชดัชเชสมารี หลุยส์ ให้ไปอภิเษกสมรสกับนโปเลียน เพื่อเป็นการถวายเครื่องราชบรรณาการ และเริ่มต้นความสัมพันธ์ระหว่างประเทศระหว่างจักรวรรดิออสเตรียและจักรวรรดิฝรั่ง.

ใหม่!!: จักรวรรดิออสเตรียและจักรพรรดิฟรันซ์ที่ 2 แห่งจักรวรรดิโรมันอันศักดิ์สิทธิ์ · ดูเพิ่มเติม »

จักรพรรดิออสเตรีย

งประจำพระยศจักรพรรดิแห่งออสเตรีย ใช้ตั้งแต่ พ.ศ. 2358 จักรพรรดิแห่งออสเตรีย คือพระราชอิสริยยศที่ถูกสถาปนาขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2347 โดยจักรพรรดิแห่งโรมันอันศักดิ์สิทธิ์นามว่า จักรพรรดิฟรันซ์ที่ 2 ซึ่งพระองค์ขึ้นครองราชสมบัติเป็น จักรพรรดิฟรันซ์ที่ 1 และทรงปกครองจักรวรรดิออสเตรียก่อนที่จะเปลี่ยนจักวรรดิและระบอบการปกครองใหม่ พระราชอิสริยยศนี้ใช้จนกระทั่ง พ.ศ. 2461 เมื่อมีการล้มล้างจักรวรรดิออสเตรีย-ฮังการี การเผชิญหน้ากับนโปเลียน โบนาปาร์ต ที่เข้ามาก้าวก่ายบรรดาพระราชวงศ์ในยุโรป ทำให้จักรพรรดิฟรันซ์ทรงกังวลและห่วงถึงอนาคตของจักรวรรดิโรมันอันศักดิ์สิทธิ์และพระราชวงศ์อิมพีเรียล จักรวรรดิอาจถูกล้มล้างและเปลี่ยนระบอบการปกครองใหม่ โดยเมื่อปี พ.ศ. 2349 ออสเตรียได้ส่งกองทัพไปทำสงครามกับฝรั่งเศสในสมรภูมิออสเตอร์ลิตส์ เนื่องจากออสเตรียไม่พอใจที่นโปเลียนเข้ามาก้าวก่ายระบอบการปกครองและพระราชสำนัก ผลของสงครามคือฝรั่งเศสนำโดยนโปเลียนเป็นฝ่ายชนะ นโปเลียนเห็นว่าเป็นโอกาสเหมาะสมของตนจึงเปลี่ยนระบอบการปกครองและตำแหน่งองค์พระประมุขของบรรดาราชวงศ์ในยุโรป รวมทั้งพระราชวงศ์โรมันอันศักดิ์สิทธิ์ของจักรพรรดิฟรานซิสด้วย โดยนโปเลียนได้แยกจักรวรรดิโรมันอันศักดิ์สิทธิ์ออกจากกลุ่มสมาชิกสมาพันธรัฐแห่งไรน์ แล้วทำการยุบพระอิสริยยศจักรพรรดิแห่งโรมันอันศักดิ์สิทธิ์ออก เหลือเพียงจักรพรรดิแห่งออสเตรียและกษัตริย์แห่งฮังการี พระอิสริยยศนี้ได้ถูกใช้สำหรับองค์พระประมุขออสเตรีย-ฮังการีจนถึงปี พ.ศ. 2461 จักรวรรดิออสเตรีย-ฮังการีพ่ายแพ้ในสงครามโลกครั้งที่ 1 ตลอดเวลาที่ผ่านมาไม่ปรากฏเป็นที่แน่ชัดว่าชื่ออย่างเป็นทางการของออสเตรียคือ จักรวรรดิแห่งออสเตรีย (Empire of Austria, Kaisertum Österreich).

ใหม่!!: จักรวรรดิออสเตรียและจักรพรรดิออสเตรีย · ดูเพิ่มเติม »

จักรพรรดินโปเลียนที่ 1

นโปเลียน โบนาปาร์ต (Napoléon Bonaparte) เป็นนายพลในช่วงการปฏิวัติฝรั่งเศส ดำรงตำแหน่งกงสุลเอกของฝรั่งเศส ตั้งแต่ปลายปี..

ใหม่!!: จักรวรรดิออสเตรียและจักรพรรดินโปเลียนที่ 1 · ดูเพิ่มเติม »

จักรพรรดิแฟร์ดีนันด์ที่ 1 แห่งออสเตรีย

ักรพรรดิแฟร์ดีนันด์ที่ 1 แห่งออสเตรีย (พระนามเต็ม: แฟร์ดีนันด์ คาร์ล เลโอโปลด์ โยเซฟ ฟรันซ์ มาร์เซอลิน, ภาษาอังกฤษ: Ferdinand Karl Leopold Joseph Franz Marcelin von Habsburg-Lorraine) ทรงเป็นจักรพรรดิแห่งออสเตรียองค์ที่ 2 แห่งจักรวรรดิออสเตรีย ต่อจากจักรพรรดิฟรันซ์ที่ 1ผู้เป็นพระราชบิดา และทรงเป็นกษัตริย์แห่งฮังการีอีกด้วย พระองค์ทรงสละราชสมบัติให้กับจักรพรรดิฟรันซ์ โยเซฟ ผู้เป็นพระราชนัดดา หลังจากมีการประท้วงการครองราชย์ที่ไร้ประสิทธิภาพของพระอง.

ใหม่!!: จักรวรรดิออสเตรียและจักรพรรดิแฟร์ดีนันด์ที่ 1 แห่งออสเตรีย · ดูเพิ่มเติม »

จักรพรรดิแม็กซีมีเลียนที่ 1 แห่งเม็กซิโก

ักรพรรดิแม็กซีมีเลียนที่ 1 แห่งเม็กซิโก (Emperador Maximiliano I de México, Maximilian I, Emperor of Mexico, Maximilian I, Kaiser von Mexiko) (พระนามเต็ม: แฟร์ดีนันด์ แม็กซีมีเลียน โยเซฟ, Ferdinand Maximilian Joseph von Habsburg-Lorraine) ทรงเป็นอาร์ชดยุกแห่งออสเตรีย และทรงเป็นจักรพรรดิแห่งเม็กซิโก โดยทรงจัดตั้งคณะรัฐบาลของพระองค์เอง แต่หลายประเทศได้ปฏิเสธที่จะยอมรับการจัดตั้งคณะรัฐบาลของพระองค์ โดยเฉพาะสหรัฐอเมริกา อันนำไปสู่การก่อรัฐประหาร และปฏิรูปการปกครอง นำโดยเบนิโต ยัวเรซ ซึ่งต่อมาเป็นประธานาธิบดีคนแรกของเม็กซิโก การก่อรัฐประหารครั้งนี้ เป็นเหตุทำให้พระองค์ทรงต้องถูกประหารชีวิตโดยคณะรัฐประหารในเมืองคัวเรทาโร่ ในปี พ.ศ. 2410.

ใหม่!!: จักรวรรดิออสเตรียและจักรพรรดิแม็กซีมีเลียนที่ 1 แห่งเม็กซิโก · ดูเพิ่มเติม »

จักรพรรดิโรมันอันศักดิ์สิทธิ์

ักรพรรดิแห่งจักรวรรดิโรมันอันศักดิ์สิทธิ์ (Kaiser des Heiligen Römischen Reiches; Emperor of the Holy Roman Empire) หรือจักรพรรดิโรมันอันศักดิ์สิทธิ์ (Holy Roman Emperor) หรือจักรพรรดิโรมัน-เยอรมัน (Römisch-Deutscher Kaiser) เป็นคำที่นักประวัติศาสตร์ใช้หมายถึงประมุขรัฐในสมัยกลางที่พระสันตะปาปาทรงแต่งตั้งให้เป็น "จักรพรรดิแห่งชาวโรมัน" ต่อมาตำแหน่งนี้มาจากการเลือกตั้งแต่ยังคงต้องรับราชาภิเษกจากพระสันตะปาปาอยู่ จนตั้งแต่คริสต์ศตวรรษที่ 16 เป็นต้นมาจึงหมายถึงผู้ปกครองจักรวรรดิโรมันอันศักดิ์สิทธิ์ซึ่งเป็นมีอาณาเขตครอบคลุมดินแดนยุโรปกลาง.

ใหม่!!: จักรวรรดิออสเตรียและจักรพรรดิโรมันอันศักดิ์สิทธิ์ · ดูเพิ่มเติม »

จักรวรรดิ

ักรวรรดิ (อ่านว่า จัก-กฺระ-หฺวัด, อังกฤษ: empire) ถูกนิยามว่าหมายถึง "กลุ่มชาติรัฐหรือชาติพันธุ์ที่อยู่ภายใต้การปกครองของจักรพรรดิหรืออธิปไตยของรัฐอื่นๆที่ทรงอิทธิพล โดยทั่วไปมีอาณาเขตกว้างใหญ่กว่าราชอาณาจักร" นักวิชาการได้ถกเถียงกันมานานเกี่ยวกับคำว่า “Empire” ในภาษาอังกฤษหรือ “จักรวรรดิ” ในภาษาไทย (จากคำภาษาละติน “imperium” ที่หมายถึงสายการบังคับบัญชาทางการทหารของรัฐบาลโรมันโบราณ) โดยทั่วไปมักนิยามให้เป็นรัฐที่มีอาณาจักรอื่นที่มีประชากรและวัฒนธรรมที่แตกต่างชัดเจนอยู่ภายใต้อิทธิพลอำนาจการปกครองหรืออยู่ในเครือจักรภพ เช่นประเทศในเครือจักรภพอังกฤษในปัจจุบัน นิยามอีกรูปแบบหนึ่งอาจเน้นปัจจัยทางเศรษฐกิจหรือการเมือง แต่โดยทั่วไปมักหมายถึงการครอบงำทางอำนาจการทหาร เช่นเดียวกับรัฐทั่วไป จักรวรรดิจะมีโครงสร้างทางการเมืองของตนเอง หรืออย่างน้อยก็โดยวิธีกดขี่บังคับให้อยู่ใต้อำนาจ จักรวรรดิบนแผ่นดินใหญ่ (เช่นจักรวรรดิมองโกล หรือจักรวรรดิอาคีเมนิดเปอร์เชีย – Achaemenid Persia) มักจะขยายไปตามอาณาเขตที่ประชิดต่อเนื่องกัน ส่วนจักรวรรดิทางทะเล (เช่น จักรวรรดิเอเธนีเนียน จักรวรรดิโปรตุเกสและจักรวรรดิอังกฤษ) อาจมีอาณาเขตกระจัดกระจายหลวมๆ แต่อยู่ในอำนาจการควบคุมทางกองทัพเรือเป็นต้น จักรวรรดิที่มีมาก่อนจักรวรรดิโรมันหลายร้อยปี ได้แก่จักรวรรดิอียิปต์ซึ่งได้ก่อตั้งจักรวรรดิเมื่อประมาณ 1000 ปีก่อน..

ใหม่!!: จักรวรรดิออสเตรียและจักรวรรดิ · ดูเพิ่มเติม »

จักรวรรดิออสเตรีย-ฮังการี

ักรวรรดิออสเตรีย-ฮังการี รู้จักกันในนาม ออสเตรีย-ฮังการี (Austria-Hungary) เป็นจักรวรรดิที่มีระบอบการปกครองแบบควบคู่ (Dual Monarchy) เจริญรุ่งเรืองตั้งแต่ปีพ.ศ. 2410 จนถึง พ.ศ. 2461 หลังจากนั้น จักรวรรดินี้ถูกล้มล้างหลังจากสงครามโลกครั้งที่ 1 จักรวรรดินี้ได้สืบทอดมาจากจักรวรรดิออสเตรีย (ค.ศ. 1804-ค.ศ. 1867) โดยมีอาณาเขตพื้นที่เดียวกัน โดยมีต้นกำเนิดจากการเจรจาต่อรองระหว่างออสเตรียและฮังการี เมื่อปีพ.ศ. 2410 ซึ่งทั้งสองประเทศนี้ถูกปกครองโดยราชวงศ์ฮับส์บูร์กมาช้านาน โดยเจรจาให้มีการรวมอาณาจักรเป็นหนึ่งเดียว โดยจักรวรรดินี้เป็นอาณาจักรที่มีหลากหลายเชื้อชาติและมีความเจริญรุ่งเรืองขีดสุด ทั้งในด้านการเมือง เศรษฐกิจ และอุตสาหกรรม ราชวงศ์ฮับส์บูร์กนั้นได้ปกครองประเทศในฐานะจักรพรรดิแห่งออสเตรีย (Emperor of Austria) และราชอาณาจักรฮังการีในฐานะกษัตริย์แห่งฮังการี (Apostolic King of Hungary) ผู้ทรงเปรียบเสมือนเบื้องขวาแห่งองค์พระผู้เป็นเจ้า นอกจากนั้นยังได้ปกครองทั่วทั้งทางตะวันตกและทางเหนือ รวมทั้งครึ่งหนึ่งของทวีปยุโรปเลยทีเดียว โดยทุกประเทศที่อยู่ภายใต้จักรวรรดินี้ มีรัฐบาลเป็นของตนเอง มิได้มีรัฐบาลและศูนย์กลางทางการเมืองหรือรัฐบาลที่ประเทศเดียว เมืองหลวงของจักรวรรดิออสเตรีย-ฮังการีนั้น มีอยู่ 2 เมืองด้วยกันคือ กรุงเวียนนา ที่ประเทศออสเตรีย และกรุงบูดาเปสต์ที่ประเทศฮังการี จักรวรรดินี้มีพื้นที่ใหญ่เป็นอันดับสองรองจากจักรวรรดิรัสเซีย และเป็นอาณาจักรที่มีประชากรหนาแน่นเป็นอันดับ 3 รองจากจักรวรรดิรัสเซียและจักรวรรดิเยอรมัน ซึ่งปัจจุบันนี้ พื้นที่ที่เคยเป็นส่วนหนึ่งของจักรวรรดินั้นมีประชากรรวมทั้งหมดถึง 73 ล้านคน.

ใหม่!!: จักรวรรดิออสเตรียและจักรวรรดิออสเตรีย-ฮังการี · ดูเพิ่มเติม »

จักรวรรดิโรมันอันศักดิ์สิทธิ์

ักรวรรดิโรมันอันศักดิ์สิทธิ์ (ละติน: Sacrum Imperium Romanum, Heiliges Römisches Reich) เป็นอภิมหาอำนาจในอดีต เป็นจักรวรรดิซึ่งประกอบด้วยดินแดนหลากเชื้อชาติในยุโรปกลาง ก่อกำเนิดขึ้นในสมัยกลางตอนต้นและล่มสลายลงในปี..

ใหม่!!: จักรวรรดิออสเตรียและจักรวรรดิโรมันอันศักดิ์สิทธิ์ · ดูเพิ่มเติม »

จักรวรรดิเยอรมัน

ักรวรรดิเยอรมัน (Deutsches Kaiserreich) เป็นชื่ออย่างไม่เป็นทางการที่ใช้เรียกแผ่นดินของชาวเยอรมัน ตั้งแต่ที่พระเจ้าวิลเฮล์มที่ 1 แห่งปรัสเซีย ได้สถาปนาพระองค์ขึ้นเป็นจักรพรรดิเยอรมันใน..

ใหม่!!: จักรวรรดิออสเตรียและจักรวรรดิเยอรมัน · ดูเพิ่มเติม »

จูเซปเป แวร์ดี

Verdi จูเซปเป ฟอร์ตูนีโน ฟรันเชสโก แวร์ดี (Giuseppe Verdi) เป็นคีตกวีชาวอิตาลี เกิดเมื่อวันที่10 ตุลาคม พ.ศ. 2356 (ค.ศ. 1813) เสียชีวิตเมื่อวันที่ 27 มกราคม พ.ศ. 2444 (ค.ศ. 1901) โด่งดังจากอุปรากรเรื่อง ลา ทราเวียตตา ไอด้า โอเทลโล ผลงานของเขาได้รับความนิยมอย่างสูงเมื่อเขายังมีชีวิตอยู่ และต่อเนื่องจวบจนปัจจุบัน แวร์ดีเกิดที่หมู่บ้าน Le Roncole ในอำเภอตาโร ซึ่งขณะนั้นอยู่ภายใต้การปกครองของจักรพรรดินโปเลียน โบนาปาร์ต ในปี พ.ศ. 2367 (ค.ศ. 1824) เขาได้ย้ายถิ่นฐานไปอยู่ที่เมืองบุสเชโต ที่ซึ่งเขาได้เรียนดนตรีกับเฟอร์ดินานโด โปรแวร์สิ เขาได้ประพันธ์ซิมโฟนี ขึ้นมาบทหนึ่งจากเพลงโหมโรงของอุปรากรเรื่อง กัลบกแห่งเมืองเซวิลล์ (Il barbiere di Siviglia) ของ จิโออัคคิโน รอสสินี จากนั้นก็ได้ย้ายไปอยู่ที่นครมิลาน เพื่อสมัครเข้าเรียนที่วิทยาลัยดนตรีแต่ก็ถูกปฏิเสธ เขาจึงเรียนแบบส่วนตัวกับวินเซนโซ ลาวินยา ผลงานประพันธ์อุปรากรเรื่องแรกของเขาคือ Oberto, conte di San Bonifacio (เปิดการแสดงครั้งแรกที่กรุงมิลาน เมื่อวันที่ 17 พฤศจิกายน พ.ศ. 2382) ตามด้วยเรื่อง Un giorno di regno (ซึ่งเป็นความพยายามประพันธ์อุปรากรชวนหัวเพียงครั้งเดียว ซึ่งมีเพียง Falstaff อีกเรื่องในช่วงบั้นปลายชีวิตของเขา) แต่เขาประสบความสำเร็จครั้งแรกเมื่อปี พ.ศ. 2385 (ค.ศ. 1842) จากเรื่อง Nabucco ที่ได้เปิดแสดงที่โรงละครลา สกาล่า ในนครมิลาน โดยมีนักแสดงนำได้แก่จูเซปปินา สเตร็ปโปนี ร้องเสียงโซปราโน ในบทของอาบิไก นักร้องสาวได้กลายเป็นภรรยาน้อยของแวร์ดี เขาได้แต่งงานกับหล่อนในอีกหลายปีให้หลัง ภายหลังการเสียชีวิตของภรรยาของเขา หลังจากที่อุปรากรเรื่อง I Lombardi alla prima crociata (เปิดแสดงครั้งแรกที่นครมิลาน เมื่อวันที่ 11 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2386) ที่มีเนื้อหาบางส่วนเกี่ยวข้องกับสถานการณ์การเมือง เรื่องErnani ก็ประสบความสำเร็จในการเปิดแสดงที่โรงละครลา เฟนิกซ์ ในนครเวนีซเช่นกัน ในปีต่อมา อุปรากรเรื่อง Giovanna d'Arco และ La Forza del Destino ก็ตอกย้ำความโด่งดังของแวร์ดี แต่เขาเห็นว่าการแสดงงานของเขาที่โรงละครลา สกาล่านั้นยังไม่เข้าขั้น เป็นเหตุให้เขาปฏิเสธการเปิดแสดงอุปรากรเรื่องต่อ ๆ มาในมิลาน อันได้แก่เรื่อง Atilla, Alzira และ แมคเบ็ท ในได้ถูกนำออกแสดงในเมืองต่าง ๆ ทั่ว ประเทศอิตาลี ส่วนเรื่อง I Masnadieri นั้นได้ถูกประพันธ์ขึ้นที่กรุงลอนดอน ในขณะที่นครมิลาน พ่ายแพ้และถูกจักรวรรดิออสเตรียเข้ายึดครอง แวร์ดีได้ประพันธ์อุปรากรเรื่อง Il Corsaro, La Battaglia di Legnano และ Luisa Miller รวมทั้งเรื่อง Manon Lescaut ที่แต่งไม่จบ หลังจากข่าวอื้อฉาวเกี่ยวกับบทประพันธ์เรื่อง Stiffelio ในปี พ.ศ. 2394 (ค.ศ. 1851) เรื่อง Rigoletto ก็ประสบความสำเร็จอย่างท่วมท้นในการเปิดแสดงที่โรงละครลา เฟนิกซ์ ในนครเวนีซ ในปี พ.ศ. 2396 (ค.ศ. 1853) เขาประสบความสำเร็จครั้งสำคัญอีกครั้งจากเรื่องIl Trovatore ที่โรงละครอพอลโลในกรุงโรม แต่การเปิดการแสดงภาคภาษาฝรั่งเศสในนครเวนีซไม่ประสบความสำเร็จเท่าใดนัก อุปรากรเรื่องอื่น ๆ ที่ประพันธ์ขึ้นในช่วงนี้ ได้แก่ งูพิษแห่งเกาะซิซิลี (เปิดแสดงที่กรุงปารีส) Aroldo (งานที่สร้างขึ้นมาจากเรื่อง Stiffelioเดิม) และเรื่อง Simon Boccanegra กับ Un ballo in maschera (ที่ถูกห้ามนำออกแสดง) แวร์ดีได้เข้ามามีส่วนร่วมอย่างมากในการรวมชาติของประเทศอิตาลี (เขาได้ประพันธ์บทเพลง Inno delle Nazioni ซึ่งได้รวมเอาเพลงชาติต่าง ๆ ในยุโรปไว้ด้วยกัน เช่น เพลง Fratelli d'Italia Marseillaise และ God Save the King ในปี พ.ศ. 2405 (ค.ศ. 1862) และได้รับเลือกตั้งให้ดำรงตำแหน่งวุฒิสมาชิก จากนั้นก็ได้นำผลงานเก่ามาแก้ไขเล็กน้อย จนกระทั่งถึงปี พ.ศ. 2409 (ค.ศ. 1866) เมื่อDon Carlos ได้ถูกนำออกแสดงครั้งแรกที่กรุงปารีส ในปี พ.ศ. 2415 (ค.ศ. 1872) เมื่อเขานำเรื่องไอด้า ออกแสดงที่โรงละครลา สกาล่าก็ประสบความสำเร็จอย่างท่วมท้น เขาได้ประพันธ์ให้แก่ผู้สำเร็จราชการแห่งอียิปต์กับเนื่องในโอกาสพิธีเปิดโรงละครแห่งใหม่ในกรุงไคโร และสำหรับการเปิดคลองสุเอซ ผลงานของแวร์ดีมีความเป็นชาตินิยมของชาวอิตาลีอยู่ในตัว (เป็นต้นว่าเพลงชาวยิวสำหรับกลุ่มนักร้องประสานเสียงขับร้องในเรื่อง Nabucco ที่มีชื่อเรียกอีกอย่างว่า Va Pensiero นั้น ได้รับการเสนอให้เป็นเพลงชาติอิตาลีมาอย่างสม่ำเสมอ โดยไม่ได้มีความหมายในเชิงเหยียดเชื้อชาติ) เป็นที่น่าประหลาดใจ เมื่อมีคนพบว่าชื่อของเขา Verdi เป็นตัวอักษรย่อของคำว่า Vittorio Emanuele Re D’Italia (วิคเตอร์ เอ็มมานูเอล กษัตริย์แห่งอิตาลี) ในช่วงเวลาที่ชาวเมืองมิลาน (ซึ่งยังตกอยู่ภายใต้การปกครองของออสเตรีย) ได้เริ่มหันมาสนับสนุนความพยายามรวมชาติอิตาลีของวิคเตอร์ เอ็มมานูเอล กลุ่มแนวร่วมหลบหนีเข้าเมืองได้เริ่มคบคิดที่จะให้กษัตริย์ Sardaigne บุกมิลาน เนื่องจากการกดขี่ของชาวออสเตรียนั้นรุนแรงเกินไป กลุ่มคนเหล่านี้ได้เริ่มการปลุกระดมที่มีชื่อเรียกอย่างเป็นทางการว่า « Viva VERDI » (« V.E.R.D.I. จงเจริญ ») แวร์ดีทราบเรื่องการนำชื่อของเขาไปใช้ ซึ่งโดยหลักแล้วเขาควรจะห้าม แต่เขาก็ไม่ได้ห้าม เรื่องราวอื่น ๆ ที่เกี่ยวพันกับการเมืองของแวร์ดีได้ถูกนำเสนอในบทอุปรากรเรื่อง I Lombardi แวร์ดีเสียชีวิตอย่างกะทันหันในปี พ.ศ. 2444 (ค.ศ. 1901) ที่นครมิลาน หลังจากการก่อสร้างคฤหาสน์ Casa di Riposo เสร็จสิ้น (เขาตั้งใจให้เป็นที่พักชั่วคราวของเหล่าศิลปินตกยาก) พีธีศพของเขาจัดขึ้นอย่างอลังการ ผู้เข้าร่วมราว 250,000 คนได้มาแสดงความคารวะต่อปูชนียบุคคลผู้หนึ่งของวงการดนตรีอิตาลี.

ใหม่!!: จักรวรรดิออสเตรียและจูเซปเป แวร์ดี · ดูเพิ่มเติม »

ทรานซิลเวเนีย

ทรานซิลเวเนียสีเหลืองบนแผนที่ของโรมาเนียกับเขตแดนของประเทศต่างๆ ภูมิภาคประวัติศาสตร์ บานัต, คริซานา และ มารามัวร์ส สีเหลืองเข้ม ทรานซิลเวเนีย (Transylvania, Ardeal หรือ Transilvania; Erdély) เป็นภูมิภาคประวัติศาสตร์ที่ตั้งอยู่ทางตอนกลางของโรมาเนีย โดยมีเขตแดนด้านตะวันออกและทางใต้ติดต่อกับ เทือกเขาคาร์เพเธียน (Carpathian mountains) ทางตะวันตกจรดเทือกเขาอพูเซนิ (Apuseni Mountains) แต่ “ทรานซิลเวเนีย” ที่ใช้กันมักจะรวมบริเวณที่เลยไปจากตัวทรานซิลเวเนียเองและภูมิภาคประวัติศาสตร์ของบริเวณบานัต, คริซานา (Crişana) และ มารามัวร์ส (Maramureş) ทรานซิลเวเนียเดิมเป็นศูนย์กลางของราชอาณาจักรดาเซีย (82 ก.ค.ศ. - ค.ศ. 106) ในปี..

ใหม่!!: จักรวรรดิออสเตรียและทรานซิลเวเนีย · ดูเพิ่มเติม »

ดัชชีมันโตวา

ัชชีแห่งมานตัว (Duchy of Mantua) เป็นดัชชีแห่งจักรวรรดิโรมันอันศักดิ์สิทธิ์ ที่ปกครองโดยดยุกแห่งมานตัว ดัชชีแห่งมานตัวตั้งอยู่ในแคว้นลอมบาร์เดียในอิตาลีเหนือ หลังจากการล่มสลายของจักรวรรดิโรมันแล้วมานตัวก็ถูกรุกรานโดยจักรวรรดิไบแซนไทน์, ลังโกบาร์ด และ แฟรงค์ ในคริสต์ศตวรรษที่ 11 มานตัวก็ตกไปเป็นของโบนิฟาเซแห่งคานอสสามาร์ควิสแห่งทัสเคนี ประมุขคนสุดท้ายของตระกูลคือมาทิลเด เคานเทสแห่งทัสเคนี (เสียชีวิต ค.ศ. 1115) ผู้ตามตำนานกล่าวว่าเป็นผู้สั่งให้สร้างโรทอนโดดิซานโลเรนโซ (ค.ศ. 1082) หลังจากการเสียชีวิตของมาทิลเด มานตัวก็กลายเป็นราชนครรัฐอิสระ และพยายามต่อต้านอำนาจของจักรวรรดิโรมันอันศักดิ์สิทธิ์ในระหว่างคริสต์ศตวรรษที่ 12 และ 13 ระหว่างที่เกิดความยุ่งเหยิงระหว่างรัฐกับสถาบันศาสนาพินามอนเต โบนาโคลซิก็ถือโอกาสยึดอำนาจในฐานะกัปตันของประชาชน (Captain General of the People) ในปี..

ใหม่!!: จักรวรรดิออสเตรียและดัชชีมันโตวา · ดูเพิ่มเติม »

ดัชชีสติเรีย

ัชชีสติเรีย (Duchy of Styria; Herzogtum Steiermark; Vojvodina Štajerska; Stájerország) เป็นดัชชีที่ตั้งอยู่ทางตอนใต้ของออสเตรียและทางเหนืของสโลวีเนียปัจจุบัน ดัชชีสติเรียเป็นส่วนหนึ่งของจักรวรรดิโรมันอันศักดิ์สิทธิ์จนกระทั่งถูกยุบในปี..

ใหม่!!: จักรวรรดิออสเตรียและดัชชีสติเรีย · ดูเพิ่มเติม »

ดัชชีคารินเทีย

ัชชีคารินเทียหรือดัชชีแคร์นเทิน (Herzogtum Kärnten, Vojvodina Koroška, Duchy of Carinthia) เป็นดัชชีที่เป็นรัฐบริวารของจักรวรรดิโรมันอันศักดิ์สิทธิ์มาตั้งแต่ ค.ศ. 976 จนถึง ค.ศ. 1806 เมื่อจักรวรรดิถูกยุบตัว หลังจากนั้นก็ตกไปเป็นส่วนหนึ่งของจักรวรรดิออสเตรีย จนถึง ค.ศ. 1918 เมื่อจักรวรรดิถูกยุบตัว ตามสนธิสัญญาแซ็ง-แฌร์แม็ง-อ็อง-แล (ค.ศ. 1919) ดินแดนส่วนใหญ่ของคารินเทียก็ก่อตั้งเป็นรัฐคารินเทียของออสเตรีย ส่วนเล็กทางตะวันออกเฉียงใต้ (ราวครึ่งหนึ่งของบริเวณสโลวีน (มณฑลคารินเทีย) และเมืองเยแซร์สโค) รวมเป็นส่วนหนึ่งของราชอาณาจักรแห่งชาวเซิร์บ โครแอต และสโลวีนที่ก่อตั้งขึ้นใหม่ ขณะที่บริเวณหุบเขาคานาเลและเมืองทาร์วิสซิโอตกไปเป็นของราชอาณาจักรอิตาลี.

ใหม่!!: จักรวรรดิออสเตรียและดัชชีคารินเทีย · ดูเพิ่มเติม »

ดัสลีดแดร์ดอยท์เชิน

ลงชาติสหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนีมีชื่อว่า ดัสลีดแดร์ดอยท์เชิน (Das Lied der Deutschen, แปลว่า "เพลงแห่งชาวเยอรมัน) หรือในอีกชื่อหนึ่ง คือ ดัสดอยท์ชลันด์ลีด (Das Deutschlandlied, แปลว่า "เพลงแห่งเยอรมนี") สำหรับในต่างประเทศในบางครั้งจะรู้จักกันในชื่อ "ดอยท์ชลันด์อือเบอร์อัลเลส" (Deutschland über alles, แปลว่า "เยอรมนีเหนือทุกสิ่ง") ซึ่งเป็นวรรคแรกและท่อนแยกของเพลงนี้ในบทที่ 1 แต่ชื่อดังกล่าวไม่ใช่ชื่อของเพลงนี้อย่างแท้จริง ทำนองของเพลงนี้ประพันธ์โดย โจเซฟ ไฮเดิน เมื่อปี..

ใหม่!!: จักรวรรดิออสเตรียและดัสลีดแดร์ดอยท์เชิน · ดูเพิ่มเติม »

คลารา ฮิตเลอร์

คลารา ฮิตเลอร์ (นามสกุลเดิม เพิลเซล; 12 สิงหาคม 1860 – 21 ธันวาคม 1907) เป็นมารดาของ อดอล์ฟ ฮิตเลอร์ นักการเมืองเยอรมันและหัวหน้าพรรคนาซี, หมวดหมู่:ชาวออสเตรีย หมวดหมู่:ครอบครัวฮิตเลอร์.

ใหม่!!: จักรวรรดิออสเตรียและคลารา ฮิตเลอร์ · ดูเพิ่มเติม »

คณะพระมหาไถ่

ณะพระมหาไถ่ (Congregation of the Most Holy Redeemer; Redemtorists) เป็นคณะนักบวชธรรมทูตโรมันคาทอลิกที่นักบุญอัลฟอนโซ มาเรีย เด ลีกูโอรีได้ก่อตั้งขึ้น ณ เมืองสกาลา แคว้นกัมปาเนีย ประเทศอิตาลี ในตอนแรกมีจุดมุ่งหมายเพื่อทำงานช่วยเหลือชาวชนบทที่ถูกทอดทิ้งรอบ ๆ เมืองเนเปิลส์ นักบวช (religious) ของคณะนี้มีทั้งบาทหลวงและภราดา ปฏิบัติงานอยู่ใน 77 ประเทศทั่วโลก.

ใหม่!!: จักรวรรดิออสเตรียและคณะพระมหาไถ่ · ดูเพิ่มเติม »

คณะประสานเสียงเด็กชายแห่งเวียนนา

ณะประสานเสียงเด็กชายแห่งเวียนนาในเครื่องแบบ "ชุดเดินทาง" ในงานคอนเสิร์ตปี พ.ศ. 2546 ที่ห้องโถง Wiener Musikverein ในนครเวียนนา ซิมโฟนีของคนนับพัน'' ของกุสตาฟ มาห์เลอร์ ร่วมกับคณะประสานเสียง Wiener Singverein แห่งเวียนนา, วงศ์ดุริยางค์ Slovenský filharmonický zbor และ Staatskapelle Berlin, มีผู้ควบคุม คือ Pierre Boulez ในเดือนเมษายน พ.ศ. 2552 คณะประสานเสียงเด็กชายแห่งเวียนนา (Wiener Sängerknaben, Vienna Boys' Choir, Vienna Choir Boys, ตัวย่อ VBC) เป็นคณะประสานเสียงของเด็กชายที่มีเสียงระดับโซปราโนและแอลโตแห่งนครเวียนนา ประเทศออสเตรีย เป็นคณะประสานเสียงเด็กชายที่มีชื่อเสียงมากที่สุดคณะหนึ่งในโลก เด็กส่วนใหญ่มาจากออสเตรีย แต่ก็มีที่มาจากประเทศอื่น รวมทั้งประเทศจีน ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ ฟิลิปปินส์ มาเลเซีย อินเดีย และไต้หวัน คณะประสานเสียงเป็นองค์กรเอกชนที่ไม่หวังผลกำไร มีเด็กนักร้องประมาณ 100 คนอายุระหว่าง 10-14 ปี โดยแบ่งออกเป็น 4 คณะที่ออกเดินทาง ตั้งชื่อมุ่งใช้ภายในสถาบันตามผู้ประพันธ์ดนตรีชาวออสเตรียที่ใกล้ชิดกับคณะ คือ บรุกเนอร์ ไฮเดิน โมซาร์ท และชูแบร์ท แต่ละคณะแยกเรียนต่างหากและออกเดินทางประมาณปีละ 11 อาทิตย์ คณะประสานเสียงได้รับค่าเล่าเรียนและเงินสนับสนุนจากการออกคอนเสิร์ตและการขายเสียงอัด นอกจากการร้องเพลงเพื่อพิธีมิสซาทุกวันอาทิตย์ ในโบสถ์ที่พระราชวังฮอฟบูร์กแล้ว คณะจะออกเดินทางไปยังที่ต่าง ๆ โดยได้รับการสนับสนุนจากผู้อุปถัมภ์ จากเทศบาลนครเวียนนา และจากรัฐบาลประเทศออสเตรีย ปกติจะเดินทางไปยังสหรัฐและญี่ปุ่นทุกปี ซึ่งเป็นที่ที่คณะได้รับความนิยมมาก คณะยังเดินทางไปประเทศจีน ไต้หวัน สิงค์โปร์ เกาหลีใต้ เขตตะวันออกกลาง ออสเตรเลีย อเมริกาใต้ และประเทศยุโรปอื่น ๆ เป็นประจำ คณะพิจารณาว่าเป็นองค์การทางวัฒนธรรมที่สำคัญที่สุดองค์การหนึ่งของประเทศ โดยนักการเมืองมักเรียกพวกเด็ก ๆ ว่าเป็น "ทูตที่อายุน้อยที่สุดในออสเตรีย" คณะประสานเสียงเด็กชายแห่งเวียนนา - ร้องเพลง ''ที่ที่ต้นเลมอนออกดอก (Wo die Zitronen bluhn)'' Op. 364 ประพันธ์โดยโยฮันน์ ชเตราสส์ ที่สอง.

ใหม่!!: จักรวรรดิออสเตรียและคณะประสานเสียงเด็กชายแห่งเวียนนา · ดูเพิ่มเติม »

ซิมโฟนีหมายเลข 7 (เบโทเฟน)

ซิมโฟนีหมายเลข 7 ในบันไดเสียง เอ เมเจอร์ (Symphony No.) ผลงานประพันธ์ของลุดวิจ ฟาน เบโทเฟินในปี..

ใหม่!!: จักรวรรดิออสเตรียและซิมโฟนีหมายเลข 7 (เบโทเฟน) · ดูเพิ่มเติม »

ซูเดเทินลันด์

ซูเดเทินลันด์ (Sudetenland; เช็กและSudety; Kraj Sudetów) คือชื่อดินแดนในภาษาเยอรมัน (และถูกใช้ในภาษาอังกฤษในช่วงครึ่งแรกของคริสต์ศตวรรษที่ 20) ที่ใช้หมายถึงอาณาเขตทางตอนเหนือ ใต้ และตะวันตก ของเชโกสโลวาเกีย อันเป็นบริเวณที่ประชากรเชื้อสายเยอรมันและใช้ภาษาเยอรมันเป็นภาษาแม่อาศัยอยู่จำนวนมาก โดยเฉพาะเขตปกครองที่ติดชายแดนอย่าง โบฮีเมีย โมราเวีย และส่วนของไซลีเซียซึ่งตั้งอยู่ในอาณาเขตของเชโกสโลวาเกีย ซึ่งในขณะนั้นเป็นดินแดนส่วนหนึ่งของออสเตรียไปจนกระทั่งสงครามโลกครั้งที่หนึ่งสิ้นสุดลง ซูเดเทินลันด์ เป็นการสมาสคำในภาษาเยอรมันระหว่าง ลันด์ ซึ่งหมายถึงประเทศหรือดินแดน กับคำว่า ซูเดเทิน ซึ่งเป็นชื่อภาษาเยอรมันของเทือกเขาซูเดเทส (Sudetes) ที่ทอดตัวยาวตามแนวเขตแดนทางตอนเหนือของสาธารณรัฐเช็กและไซลีเซียล่าง (Lower Silesia; ปัจจุบันเป็นส่วนหนึ่งของโปแลนด์) อย่างไรก็ตามซูเดเทินลันด์เป็นคำที่ใช้หมายถึงดินแดนส่วนที่เลยไปจากแนวเทือกเขาดังกล่าวไปมากพอสมควร ในประวัติศาสตร์ไม่ปรากฎคำว่า ซูเดเทินลันด์ ไปจนกระทั่งช่วงต้นคริสต์ศตวรรษที่ 20 และไม่เป็นที่รู้จักหรือใช้กันอย่างแพร่หลายไปจนกระทั่งสงครามโลกครั้งที่หนึ่งสิ้นสุดลง เมื่อจักรวรรดิออสเตรีย-ฮังการีของชาวเยอรมันล่มสลาย ส่งผลให้เกิดการแตกกระจายออกเป็นรัฐต่าง ๆ มากมาย ชาวเยอรมันซูเดเทินที่อาศัยอยู่แต่ดั้งเดิมจึงกลายเป็นชาวเยอรมันผลัดถิ่นในประเทศใหม่อย่างเชโกสโลวาเกียไปโดยปริยาย ต่อมาคำนี้มีความสำคัญมากขึ้นจากวิกฤตการณ์ซูเดเทิน (Sudeten crisis) ปี..

ใหม่!!: จักรวรรดิออสเตรียและซูเดเทินลันด์ · ดูเพิ่มเติม »

ประวัติศาสตร์ออสเตรีย

ตราแผ่นดินของออสเตรียปัจจุบัน ประวัติศาสตร์ออสเตรีย ในช่วงก่อนปลายศตวรรษที่ 8 ประเทศออสเตรียมีชนชาติอพยพต่าง ๆ อพยพเข้ามาตั้งถิ่นฐาน ได้แก่ ชนเผ่าเยอรมันที่ข้ามแม่น้ำดานูบลงมาทางตอนใต้ และชาวสลาฟที่อาศัยอยู่ทางตอนใต้ออสเตรีย จนสิ้นสุดศตวรรษที่ 8 ชาร์เลอมาญ (Charlemagne) ได้ก่อตั้งเขตชายแดนระหว่างแม่น้ำอินส์ แรบและดราวา เพื่อเป็นป้อมปราการ ป้องกันการรุกราน ของชาวเอวาร์ และภายหลังจากที่ชาวโรมันได้อพยพออกไป นักบวชชาวไอริชและสก็อตจึงได้เข้ามาเผยแพร่คริสต์ศาสนา ในดินแดนบริเวณเทือกเขาอัลไพน์แห่งนี้ ราชวงศ์บาเบนแบร์ก (Babenberg) ของชาวบาวาเรียนได้เข้าปกครองออสเตรียในปี..

ใหม่!!: จักรวรรดิออสเตรียและประวัติศาสตร์ออสเตรีย · ดูเพิ่มเติม »

ประเทศสโลวีเนีย

ประเทศสโลวีเนีย (Slovenia; Slovenija) หรือชื่อทางการคือ สาธารณรัฐสโลวีเนีย (Slovene:, abbr.: RS) เป็นประเทศที่ตั้งอยู่ในยุโรปกลาง ซึ่งเป็นเส้นทางการค้าและแหล่งวัฒนธรรมหลักของทวีปยุโรป มีอาณาเขตทางตะวันตกจรดอิตาลี ทางตะวันตกเฉียงใต้จรดทะเลเอเดรียติก ทางใต้และตะวันออกจรดโครเอเชีย ทางตะวันออกเฉียงเหนือจรดฮังการีและทางเหนือจรดออสเตรีย มีพื้นที่ประมาณ 20,273 ตารางกิโลเมตรและมีประชากร 2.06 ล้านคน สโลวีเนียเป็นสาธารณรัฐระบบรัฐสภาและเป็นสมาชิกของสหประชาชาติ สหภาพยุโรปและเนโท เมืองหลวงและเมืองใหญ่สุดคือลูบลิยานา พื้นที่ส่วนใหญ่ของสโลวีเนียเป็นภูเขาและมีลักษณะอากาศแบบภูมิอากาศภาคพื้นทวีปหลัก ยกเว้นภูมิภาคชายฝั่งจะมีภูมิอากาศแบบเมดิเตอร์เรเนียนและภูมิภาคตะวันตกเฉียงเหนือซึ่งมีภูมิอากาศแบบเทือกเขาแอลป์ นอกจากนี้ไดนาริกแอลป์และที่ราบพันโนเนียก็พอได้ในสโลวีเนียเช่นกัน สโลวีเนียเป็นหนึ่งประเทศที่มีความหลากหลายทางชีวภาพเป็นหนึ่งในพื้นที่ ๆ มีแหล่งน้ำอุดมสมบูรณ์มากในยุโรป ทั้งแม่น้ำจำนวนมาก ชั้นหินอุ้มน้ำและแหล่งธารน้ำใต้ดิน สโลวีเรียมีป่าปกคลุมมากกว่าครึ่งหนึ่งของประเทศ ส่วนการตั้งถิ่นฐานของประชากรก็จะกระจักกระจายกันไป ประวัติศาสตร์สโลวีเนียได้รับทั้งวัฒนธรรมและภาษาจากสลาวิกตะวันตก สลาวิกใต้ เจอร์แมนิก โรมานซ์และฮังกาเรียน ถึงแม้ประชากรในประเทศจะไม่ได้เป็นเอกพันธุ์เดียวกันแต่ส่วนใหญ่เป็นชาวสโลวีน ภาษาสโลวีเนียซึ่งเป็นภาษาหนึ่งในกลุ่มภาษาสลาวิกใต้เป็นภาษาราชการของประเทศ ประชากรส่วนใหญ่ในประเทศไม่นับถือศาสนาอย่างแท้จริง แต่วัฒนธรรมและเอกลักษณ์ของประเทศได้รับอิทธิพลจากโรมันคาทอลิกและลูเทอแรน เศรษฐกิจของประเทศสโลเวเนียเป็นแบบเปิดขนาดเล็กและเป็นอุตสาหกรรมมุ่งการส่งออก ที่ได้รับอิทธิพลจากต่างประเทศ และได้รับผลกระทบอย่างรุนแรงจากวิกฤติหนี้สาธารณะยุโรปที่เริ่มช่วงปลายยุค 2000 เศรษฐกิจหลักคืออุตสาหกรรมบริการตามด้วยอุตสาหกรรมและอุตสาหกรรมการก่อสร้าง ในอดีตพื้นที่ของสโลเวเนียเป็นส่วนหนึ่งของรัฐที่แตกต่างกันหลายแห่งทั้งจักรวรรดิโรมัน จักรวรรดิไบแซนไทน์ จักรวรรดิการอแล็งเฌียง จักรวรรดิโรมันอันศักดิ์สิทธิ์และจักรวรรดิโรมันอันศักดิ์สิทธิ์ที่ปกครองโดยราชวงศ์ฮาพส์บวร์ค สาธารณรัฐเวนิส จังหวัดอิลลิเรียของนโปเลียนที่ 1ที่ปกครองโดยฝรั่งเศส จักรวรรดิออสเตรียและจักรวรรดิออสเตรีย-ฮังการี ในเดือนตุลาคม..

ใหม่!!: จักรวรรดิออสเตรียและประเทศสโลวีเนีย · ดูเพิ่มเติม »

ประเทศโปแลนด์

ไม่มีคำอธิบาย.

ใหม่!!: จักรวรรดิออสเตรียและประเทศโปแลนด์ · ดูเพิ่มเติม »

ประเทศเยอรมนี

ประเทศเยอรมนี (Germany; Deutschland ดอยฺชลันฺท) หรือชื่ออย่างเป็นทางการคือ สหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนี (Federal Republic of Germany; Bundesrepublik Deutschland) เป็นสหพันธ์สาธารณรัฐแบบรัฐสภาในยุโรปกลาง มีรัฐองค์ประกอบ 16 รัฐ มีพื้นที่ 357,021 ตารางกิโลเมตร และมีภูมิอากาศตามฤดูกาลแบบอบอุ่นเป็นส่วนใหญ่ มีประชากรประมาณ 82 ล้านคน ซึ่งเป็นประเทศที่มีประชากรมากที่สุดในสหภาพยุโรป ประเทศเยอรมนีเป็นจุดหมายการเข้าเมืองยอดนิยมอันดับสองในโลกรองจากสหรัฐ เมืองหลวงและมหานครใหญ่สุดของประเทศคือ กรุงเบอร์ลิน ขณะที่เขตเมืองขยายใหญ่สุด คือ รูร์ โดยมีศูนย์กลางหลักดอร์ทมุนด์และเอสเซิน นครหลักอื่นของประเทศ ได้แก่ ฮัมบวร์ค มิวนิก โคโลญ แฟรงก์เฟิร์ต ชตุทท์การ์ท ดึสเซิลดอร์ฟ ไลพ์ซิจ เบรเมิน เดรสเดิน ฮันโนเฟอร์และเนือร์นแบร์ก ประเทศนี้มีระบอบการปกครองแบบประชาธิปไตยเชิงเสรีภาพและรัฐสวัสดิการ พรมแดนทางทิศเหนือติดทะเลเหนือ เดนมาร์ก และทะเลบอลติก ทิศตะวันออกติดโปแลนด์และเช็กเกีย ทิศใต้ติดออสเตรีย และสวิตเซอร์แลนด์ ทิศตะวันตกติดฝรั่งเศส ลักเซมเบิร์ก เบลเยียม และเนเธอร์แลนด์ มีเมืองหลวงและเมืองใหญ่ของประเทศคือเบอร์ลิน เยอรมนีมีประชากรประมาณ 80 ล้านคนและเป็นประเทศที่มีความหนาแน่นประชากรสูงสุดแห่งหนึ่ง อีกทั้งยังเป็นประเทศที่มีคนย้ายถิ่นมากที่สุดเป็นอันดับสามของโลก หลังจากที่สหรัฐอเมริกาเยอรมนีเป็นปลายทางการย้ายถิ่นที่สองได้รับความนิยมมากที่สุดในโลก เยอรมนีเป็นหนึ่งในสมาชิกผู้ก่อตั้งสหภาพยุโรปและยังก่อตั้งสหภาพการเงินกับสมาชิกในสหภาพยุโรปอีก 17 ประเทศ โดยใช้ชื่อว่ายูโรโซน เยอรมนีเป็นสมาชิกของกลุ่ม UNO, OECD, NATO, G7 และ G20 เยอรมนีเป็นประเทศที่มีอิทธิพลต่อประเทศอื่นๆในยุโรปและเป็นประเทศที่มีความสามารถที่จะแข่งขันในระดับโลก หากวัดจากผลผลิตมวลรวมภายในประเทศแบบปกติแล้ว เยอรมนีเป็นเศรษฐกิจที่ใหญ่ที่สุดในยุโรปและใหญ่เป็นอันดับสี่ของโลก ในปี 2012 เป็นประเทศที่มีการนำเข้าส่งออกมากที่สุดเป็นอันดับสาม ดัชนีการพัฒนามนุษย์ถือว่าสูงมาก.

ใหม่!!: จักรวรรดิออสเตรียและประเทศเยอรมนี · ดูเพิ่มเติม »

ประเทศเซอร์เบียและมอนเตเนโกร

ซอร์เบียและมอนเตเนโกร (Serbia and Montenegro, SCG) เป็นชื่อของอดีตสหพันธรัฐซึ่งเป็นการรวมอย่างหลวม ๆ ของเซอร์เบียและมอนเตเนโกร อดีตสาธารณรัฐของยูโกสลาเวีย ตั้งแต่ พ.ศ. 2546 จนถึง พ.ศ. 2549 ตั้งอยู่บนคาบสมุทรบอลข่านตอนตะวันตกกลาง ซึ่งแต่เดิมมีชื่อประเทศว่า สหพันธ์สาธารณรัฐยูโกสลาเวีย ต่อมาก็ได้เปลี่ยนชื่อประเทศในปี2003 ในชื่อ สหภาพรัฐเซอร์เบียและมอนเตเนโกร เซอร์เบียและมอนเตเนโกรมีความร่วมมือกันเฉพาะบางด้านในการเมือง (เช่น ผ่านสหพันธ์การป้องกันประเทศ) ทั้ง 2 รัฐมีนโยบายเศรษฐกิจและหน่วยเงินของตนเอง และประเทศไม่มีเมืองหลวงรวมอีกต่อไป โดยที่แบ่งแยกสถาบันที่ใช้ร่วมกันระหว่างเมืองเบลเกรดในเซอร์เบียและเมืองพอดกอรีตซาในมอนเตเนโกร ทั้งสองรัฐแยกออกจากกันหลังจากมอนเตเนโกรจัดให้มีการลงประชามติเมื่อวันที่ 21 พฤษภาคม พ.ศ. 2549 และประกาศเอกราชเมื่อวันที่ 3 มิถุนายน ปีเดียวกัน ทำให้เกิดประเทศใหม่คือประเทศมอนเตเนโกร ส่วนประเทศเซอร์เบียก็กลายเป็นผู้สืบสิทธิ์ต่าง ๆ ของประเทศเซอร์เบียและมอนเตเนโกร.

ใหม่!!: จักรวรรดิออสเตรียและประเทศเซอร์เบียและมอนเตเนโกร · ดูเพิ่มเติม »

ปรัสเซีย

ปรัสเซีย (Prussia) หรือ พร็อยเซิน (Preußen) หรือ โบรุสเซีย (ละติน: Borussia) เป็นรัฐที่รุ่งเรืองที่สุดในบรรดารัฐทั้งหลายของชนชาติเยอรมัน มีจุดกำเนิดจากดัชชีปรัสเซียและรัฐมาร์เกรฟบรันเดินบวร์ค อันเป็นรัฐหนึ่งของจักรวรรดิโรมันอันศักดิ์สิทธิ์ซึ่งตั้งอยู่ตอนกลางของภูมิภาคที่ชื่อว่าพร็อยเซิน รัฐแห่งนี้ถูกปกครองโดยราชวงศ์โฮเอินโซลเลิร์นเป็นเวลาหลายศตวรรษ การมีกองทัพที่เข็มแข็งทำให้ปรัสเซียประสบความสำเร็จในการแผ่ขยายดินแดน ปรัสเซียมีเมืองหลวงเดิมอยู่ที่เคอนิจส์แบร์กก่อนที่จะย้ายเมืองหลวงไปยังเบอร์ลินในปี 1701 ในการประชุมใหญ่แห่งเวียนนา (ปี 1814–15) ซึ่งจัดระเบียบทวีปยุโรปเสียใหม่ภายหลังถูกทำให้ปั่นป่วนจากสงครามนโปเลียน ปรัสเซียได้รับดินแดนส่วนใหญ่ทางตะวันตกเฉียงเหนือของเยอรมนีซึ่งรวมถึงรัฐร่ำรวยถ่านหินอย่างรัฐรูร์ (Ruhr) อิทธิพลทางเศรษฐกิจและทางการเมืองของปรัสเซียได้เติบโตอย่างรวดเร็ว ปรัสเซีบกลายเป็นหัวใจของสมาพันธรัฐเยอรมันเหนือในปี 1867 และของจักรวรรดิเยอรมันในปี 1871 ปรัสเซียในยุคจักรวรรดิเยอรมนี้มีอาณาเขตไพศาลมากกว่ารัฐเยอรมันที่เหลือรวมกันเสียอีก ชนชั้นนำของปรัสเซียมักจะระบุว่าตัวเองนั้นเป็น "ชาวเยอรมัน" มากกว่าบอกว่าตัวเองนั้นเป็น "ชาวปรัสเซีย".

ใหม่!!: จักรวรรดิออสเตรียและปรัสเซีย · ดูเพิ่มเติม »

ปัญหาเยอรมัน

ำถามเยอรมัน (Deutsche Frage; German Question) คือประเด็นการอภิปรายในช่วงคริสต์ศตวรรษที่ 19 โดยเฉพาะในช่วงการปฏิวัติ พ.ศ. 2391 ถึงวิธีการที่ดีที่สุดในการรวมชาติเยอรมัน (Unification of Germany) โดยตั้งแต..

ใหม่!!: จักรวรรดิออสเตรียและปัญหาเยอรมัน · ดูเพิ่มเติม »

นาดทาโทรซาบลีซกา

ลงชาติสาธารณรัฐสโลวัก หรือประเทศสโลวาเกีย มีชื่อว่า "นาดทาโทรซาบลีซกา" (สโลวัก: Nad Tatrou sa blýska) อันมีความหมายว่า "สายฟ้าเหนือเขาทาทราส" ทำนองเพลงมาจากเพลงพื้นเมืองของสโลวาเกีย ส่วนเนื้อร้องประพันธ์ขึ้นเมื่อปี ค.ศ. 1844 (พ.ศ. 2387) โดยยานโก มาตุสกา (Janko Matúška) เพลงนี้มีต้นกำเนิดมาจากอิทธิพลความคิดโรแมนติค (จินตนิยม) และชาตินิยมในแถบยุโรปตอนกลางในเวลานั้น ซึ่งเพลงนี้ต่อมาได้รับความนิยมจากชาวสโลวาเกียทั่วไปในเหตุการณ์การปฏิวัติปี ค.ศ. 1848 (พ.ศ. 2391) เนื้อหาของเพลงโดยรวมเป็นการนำเอาภาพของสายฟ้าเหนือภูเขาทาทราสมาเปรียบเทียบกับภยันตรายที่สโลวาเกียต้องเผชิญและความปรารถนาที่จะฟันฝ่าปัญหาเหล่านั้นไปให้จงได้ ในยุคที่สโลวาเกียยังคงรวมอยู่ในประเทศเชโกสโลวาเกียนั้น ปรากฏว่ามีธรรมเนียมการบรรเลงเพลงนี้ในเวลา 12 นาฬิกาทุกวัน ในเมืองของชาวสโลวัก ต่อมาธรรมเนียมนี้ได้เลิกไปเมื่อมีการแยกตัวเป็น 2 ประเทศ ปัจจุบันนี้ เพลง "นาดทาโทรซาบลีซกา" ใช้บรรเลงเนื่องในวาระพิเศษต่างๆ เช่น การแข่งขันกีฬา เป็นต้น.

ใหม่!!: จักรวรรดิออสเตรียและนาดทาโทรซาบลีซกา · ดูเพิ่มเติม »

นิโคลา เทสลา

นิโคลา เทสลา (Никола Тесла, Nikola Tesla) เกิดเมื่อ 10 กรกฎาคม พ.ศ. 2399 - ถึงแก่กรรม 7 มกราคม พ.ศ. 2486 (86 ปี) เป็น นักประดิษฐ์, นักฟิสิกส์, วิศวกรเครื่องกล, วิศวกรไฟฟ้า และ นักทำนายอนาคต เขาเกิดที่ Smiljan ในอดีตออสเตรีย - ฮังการี ซึ่งปัจจุบันคือสาธารณรัฐโครเอเชีย ภายหลังเขาได้รับสัญชาติเป็นพลเมืองอเมริกัน เทสลามีปัญหาทางประสาทในวัยเด็ก ที่เขาต้องทุกข์ทรมาน จาก โรคย้ำคิดย้ำทำ เขาได้งานแรกในบูดาเปสต์โดยทำงานที่บริษัทโทรศัพท์ เทสล่าได้ประดิษฐ์ลำโพงสำหรับโทรศัพท์ระหว่างที่ทำงานอยู่ที่นี่ ก่อนที่จะเดินทางเร่ร่อนไปอเมริกาในปี 2427 เพื่อที่จะไปทำงานกับ โทมัส เอดิสัน แต่ในไม่นาน เขาก็เริ่มก่อตั้ง ห้องปฏิบัติการ/บริษัท พัฒนาอุปกรณ์ไฟฟ้า ของตัวเองโดยมีผู้สนับสนุนด้านการเงินให้ สิทธิบัตรมอเตอร์ไฟฟ้ากระแสสลับแบบเหนี่ยวนำ และ หม้อแปลงไฟฟ้า ได้รับการจดทะเบียนโดย จอร์จ เวสติงเฮ้าส์ ซึ่งเป็นผู้ว่าจ้างให้เทสลาเป็นที่ปรึกษาและพัฒนาระบบไฟฟ้ากระแสสลับด้วย ผลงานของเทสลาที่ทำให้เขาเป็นที่สนใจในสมัยนั้นอาทิเช่น การทดลองเกี่ยวกับ คลื่นความถี่สูงและแรงดันไฟฟ้าแรงสูง ใน นิวยอร์ก และ โคโลราโด สปริงซ์, สิทธิบัตรของอุปกรณ์และทฤษฎีที่ใช้ในการสร้างวิทยุสื่อสาร, การทดลอง X-ray ของเขา, เขายังเป็นผู้คิดค้นตัวกำเนิดสัญญาณ (oscillator) หลากหลายรูปแบบอีกด้วย และ โครงการ Wardenclyffe Tower ซึ่งเป็นความพยายามในการส่งสัญญาณไร้สายข้ามทวีปแต่โชคร้ายที่โครงการนี้ไม่ประสบความสำเร็จ แม้เทสลาจะเป็นผู้คิดค้นสัญญาณวิทยุ การค้นพบหลักการสนามแม่เหล็กไฟฟ้า แต่ผลงานที่ทำให้เขาเป็นที่รู้จักกันดีคือ การค้นคว้าพัฒนาไฟฟ้ากระแสสลับ ซึ่งในขณะนั้นมีการแข่งขันกับไฟฟ้ากระแสตรงที่ถูกพัฒนาขึ้นมา โทมัส เอดิสัน แต่ในที่สุดไฟฟ้ากระแสสลับก็ได้รับความนิยมมากกว่า เพราะเกิดการสูญเสียน้อยกว่าในการส่งกระแสไฟฟ้าในระยะทางไกล เทสลาประสบความสำเร็จเป็นที่รู้จักและทำให้ผู้คนเห็นถึงความสามารถของจากโชว์สิ่งประดิษฐ์ที่ดูน่าอัศจรรย์ทั้งหลาย ถึงแม้ว่าเขาจะได้เงินจากสิทธิบัตรต่าง ๆ แต่เขาก็ได้ทำการทดลองอย่างมากมายด้วยเช่นกัน ทำให้ในช่วงบั้นปลายชีวิตของเขาต้องเป็นหนี้ และ มีปัญหาด้านการเงิน ต้องอาศัยอยู่อย่างโดษเดี่ยวในห้องพักหมายเลข 3327 ที่โรงแรม New Yorker ด้วยลักษณะและธรรมชาติในการทำงานของเทสลาทำให้เขาถูกขนานนามว่าเป็น "นักวิทยาศาสตร์เพี้ยน" เทสลาถูกพบว่าเสียชีวิตในห้องพักหมายเลข 3327 ที่โรงแรม New Yorker เมื่อวันที่ 7 มกราคม 2486 หลังจากการตายของเขางานของเทสล่าก็ได้เงียบหายไป แต่ในปี 2533 เขาก็เริ่มกลับมาเป็นที่รู้จักอีกครั้ง ในปี 2548 เขาถูกเสนอชื่อให้เป็นตัวแทน 1 ใน 100 คนในรายการโทรทัศน์ "The Greatest American" โดยการสำรวจนิยมโดย AOL กับ ช่อง Discovery การทำงานและสิ่งประดิษฐ์ที่มีชื่อเสียงของเขายังเป็นจุดกำเนิดของทฤษฎีสมคบคิดจำนวนมาก และ ยังได้นำไปใช้สนับสนุนวิทยาศาสตร์เทียม, ทฤษฎียูเอฟโอ และ ไสยศาสตร์ยุคใหม่ อีกด้วย ในปี 2503 หน่วยสำหรับวัดความ ความหนาแน่นของเส้นแรงแม่เหล็ก หรือ การเหนี่ยวนำด้วยพลังแม่เหล็ก (ที่รู้จักกันทั่วไปว่าเป็นสนามแม่เหล็ก B \), ถูกตั้งชื่อว่า เทสลา เพื่อเป็นเกียรติแก่เขา นอกจากนี้ เทสลายังถือเป็นวิศวกรที่สร้างนวัตกรรมล้ำยุคที่ยิ่งใหญ่ที่สุดคนหนึ่งในปลายคริสต์ศตวรรษที่ 19 และต้นคริสต์ศตวรรษที่ 20 สิทธิบัตรของเทสลาและผลงานเชิงทฤษฎีของเขากลายเป็นพื้นฐานของระบบไฟฟ้ากระแสสลับ ได้แก่ ระบบจ่ายกำลังหลายเฟส และมอเตอร์ไฟฟ้ากระแสสลับ ซึ่งเขามีส่วนผลักดันเป็นอย่างมากในช่วงปฏิวัติอุตสาหกรรมครั้งที่สอง.

ใหม่!!: จักรวรรดิออสเตรียและนิโคลา เทสลา · ดูเพิ่มเติม »

แกรนด์ดยุกวิลเลมที่ 4 แห่งลักเซมเบิร์ก

แกรนด์ดยุกวิลเลมที่ 4 แห่งลักเซมเบิร์ก (22 เมษายน พ.ศ. 2395 - 25 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2455) ทรงดำรงเป็นแกรนด์ดยุคผู้ปกครองแห่งราชรัฐลักเซมเบิร์กตั้งแต่ 17 พฤศจิกายน..

ใหม่!!: จักรวรรดิออสเตรียและแกรนด์ดยุกวิลเลมที่ 4 แห่งลักเซมเบิร์ก · ดูเพิ่มเติม »

แกรนด์ดยุกอดอล์ฟแห่งลักเซมเบิร์ก

แกรนด์ดยุกอดอล์ฟแห่งลักเซมเบิร์ก (Adolphe, Grand Duke of Luxembourg) (24 กรกฎาคม 1817 - 17 พฤศจิกายน 1905) เป็นแกรนด์ดยุกแห่งลักเซมเบิร์กพระองค์แรกจากราชวงศ์นัสเซา-ไวล์บวร์ก.

ใหม่!!: จักรวรรดิออสเตรียและแกรนด์ดยุกอดอล์ฟแห่งลักเซมเบิร์ก · ดูเพิ่มเติม »

แคว้นปกครองตนเองเตรนตีโน-อัลโตอาดีเจ

ตรนตีโน-อัลโตอาดีเจ (Trentino-Alto Adige) หรือ เตรนตีโน-ซืททีโรล (Trentino-Südtirol) เป็นแคว้นหนึ่งในยี่สิบแคว้นและหนึ่งในห้าแคว้นปกครองตนเองของประเทศอิตาลี ตั้งอยู่ทางตอนเหนือของประเทศ ประกอบด้วย 2 จังหวัด ได้แก่ เตรนโตและบอลซาโน พื้นที่นี้เคยเป็นส่วนหนึ่งของจักรวรรดิออสเตรีย-ฮังการี (รวมถึงก่อนหน้านี้ ซึ่งคือจักรวรรดิออสเตรีย) เมื่อปี..

ใหม่!!: จักรวรรดิออสเตรียและแคว้นปกครองตนเองเตรนตีโน-อัลโตอาดีเจ · ดูเพิ่มเติม »

เพชรฟลอเรนไทน์

รฟลอเรนไทน์ เพชรฟลอเรนไทน์ (Florentine Diamond) คือเพชรที่สาบสูญ มีต้นกำเนิดมาจากอินเดีย มีสีเหลืองอ่อนเหลือบเขียวจางๆ น้ำหนัก 137.27 กะรัต (27.454 กรัม) เพชรนี้ยังเป็นที่รู้จักอีกชื่อหนึ่งว่า เพชรทัสคานี ของแกรนด์ดยุคแห่งทัสคานี บ้างก็เรียกเพชรออสเตรีย และเพชรออสเตรียเหลือง.

ใหม่!!: จักรวรรดิออสเตรียและเพชรฟลอเรนไทน์ · ดูเพิ่มเติม »

เพลงสรรเสริญพระบารมี

ำว่า "เพลงสรรเสริญพระบารมี" (royal anthem) โดยการแปลเทียบเคียงจากชื่อเพลงสรรเสริญพระบารมีของไทย (แปลตามตัวว่า เพลงยอพระเกียรติพระมหากษัตริย์) เพลงชนิดนี้เป็นเพลงปลุกใจชนิดหนึ่ง โดยมากจะคล้ายคลึงกับเพลงชาติ แต่มักใช้กับบรรดาพระมหากษัตริย์และพระราชวงศ์ต่าง ๆ โดยเฉพาะ เนื้อหาของเพลงมักเป็นไปในทางถวายพระพรแด่สถาบันพระมหากษัตริย์ เพลงประเภทนี้นิยมบรรเลงในยามที่พระมหากษัตริย์และพระราชวงศ์เสด็จออกในที่สาธารณะ เช่น การเสด็จพระราชดำเนินเยือนประเทศต่าง ๆ การเสด็จออกมหาสมาคม และการเสด็จพระราชดำเนินในที่ต่าง ๆ อย่างเป็นทางการ นอกจากนี้ยังใช้บรรเลงในวาระโอกาสสำคัญของพระราชวงศ์ เช่น วันเฉลิมพระชนมพรรษาในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและสมเด็จพระบรมราชินี เป็นต้น.

ใหม่!!: จักรวรรดิออสเตรียและเพลงสรรเสริญพระบารมี · ดูเพิ่มเติม »

เกรกอร์ เมนเดล

กรเกอร์ โยฮันน์ เมนเดล (Gregor Johann Mendel; 20 กรกฎาคม พ.ศ. 2427 - 6 มกราคม พ.ศ. 2427) เป็นนักวิทยาศาสตร์และภราดาคณะออกัสติเนียนชาวโมราเวียที่พูดภาษาเยอรมัน ผู้ซึ่งมีชื่อเสียงจากการก่อตั้งวิทยาศาสตร์ยุคใหม่สาขาพันธุศาสตร์ แม้ว่าชาวสวนทั่วไปจะทราบถึงลักษณะปรากฏที่แตกต่างกันของพืชชนิดต่าง ๆ อยู่แล้ว โดยเมนเดลได้เริ่มศึกษาจากต้นถั่ว จนสามารถตั้งเป็นกฎทางพันธุกรรมมากมาย และภายหลังรู้จักกันในชื่อว่า พันธุศาสตร์ของเมนเดล เมนเดลเสียชีวิตด้วยโรคไตในวันที่ 6 มกราคม..

ใหม่!!: จักรวรรดิออสเตรียและเกรกอร์ เมนเดล · ดูเพิ่มเติม »

เมร์ ไฮเรนิก

มร์ ไฮเรนิก (Մեր Հայրենիք; อักษรโรมัน: Mer Hayrenik; แปลว่า ปิติภูมิของเรา) เป็นชื่อเพลงชาติแห่งประเทศอาร์มีเนียในปัจจุบัน ซึ่งเริ่มใช้มานับตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคม พ.ศ. 2534 โดยประกาศใช้อย่างเป็นทางการครั้งแรกในสมัยของสาธารณรัฐประชาธิปไตยอาร์มีเนีย (พ.ศ. 2461 - 2465) ซึ่งมีชื่อและทำนองเดียวกัน แต่ใช้เนื้อร้องต่างกัน เนื้อร้องเดิมเป็นบทกวีซึ่งประพันธ์โดยมิคาเอล นาลาบาเดียน (Mikael Nabandian, พ.ศ. 2372 - 2409) ภายหลังจึงมีการแต่งทำนองประกอบโดยบาร์เซกค์ คานาชยาน (Barsegh Kanachyan, พ.ศ. 2428 - 2510).

ใหม่!!: จักรวรรดิออสเตรียและเมร์ ไฮเรนิก · ดูเพิ่มเติม »

เวนิส

วนิส (Venice) หรือ เวเน็ตเซีย (Venezia) เป็นเมืองหลักของแคว้นเวเนโต ประเทศอิตาลี มีประชากร 271,663 คน (ข้อมูลวันที่ 1 มกราคม 2547) เมืองเวนิสได้รับฉายาว่า ราชินีแห่งทะเลเอเดรียติก (Queen of the Adriatic), เมืองแห่งสายน้ำ (City of Water), เมืองแห่งสะพาน (City of Bridges) และเมืองแห่งแสงสว่าง (The City of Light) เมืองเวนิสถูกสร้างขึ้นจากการเชื่อมเกาะเล็กๆ จำนวนมากเข้าด้วยกันในบริเวณทะเลสาบเวนิเทีย ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของทะเลเอเดรียติก ในภาคเหนือของประเทศอิตาลี ทะเลสาบน้ำเค็มนี้ตั้งอยู่บริเวณชายฝั่งระหว่างปากแม่น้ำโปกับแม่น้ำปลาวี มีผู้อยู่อาศัยโดยประมาณ 272,000 คน ซึ่งนับรวมหมดทั้งเวนิส โดยมี 62,000 คนในบริเวณเมืองเก่า 176,000 คนในแตร์ราแฟร์มา (Terraferma) และ 31,000 คนในเกาะอื่น ๆ ในทะเล.

ใหม่!!: จักรวรรดิออสเตรียและเวนิส · ดูเพิ่มเติม »

เอ็ดมุนด์ ฮุสเซิร์ล

อ็ดมุนด์ กุสทัฟ อัลเบร็คท์ ฮุสเซิร์ล (Edmund Gustav Albrecht Husserl) เป็นนักปรัชญาชาวเยอรมันเชื้อสายออสเตรีย เขาเป็นผู้ก่อตั้งสำนักปรากฏการณ์วิทยา ทฤษฎีปรากฏการณ์วิทยาที่ฮุสเซิร์ลคิดขึ้นมาถือว่าเป็นจุดเปลี่ยนอย่างยิ่งใหญ่ที่แยกออกจากปฏิฐานนิยม (positivism), ธรรมชาตินิยม (naturalism) และวัตถุนิยม (materialism) อย่างสิ้นเชิง ฮุสเซิร์ลเห็นว่าแทนที่มนุษย์จะอธิบายบรรดาเหตุการณ์ต่างๆที่อุบัติขึ้นในโลกแห่งชีวิตของเราโดยอาศัยกฎเกณฑ์ทางคณิตศาสตร์ทั่วไป มนุษย์ควรจะพยายามทำความเข้าใจโครงสร้างความหมายของโลกแห่งชีวิตว่ามันประกอบขึ้นได้อย่างไร โดยทฤษฎีปรากฎการวิทยาของฮุสเซิร์ลนี้ การค้นหาความจริงที่ปรากฏอยู่โดยไม่มีการคาดการณ์ไว้ล่วงหน้า ผู้ศึกษาเป็นอิสระจากกรอบแนวคิดหรือทฤษฎี โดยให้บุคคลอธิบายเรื่องราวและประสบการณ์ต่างๆที่ตนเองประสบพบเจอโดยตัดอคติและตัดความเอนเอียงในเรื่องที่ศึกษา รวมทั้งขจัดความคิดเห็นของตนออกจากสิ่งที่ตนเองกําลังศึกษา (bracketing) เน้นที่จุดมุ่งหมาย (intentionality) และสาระสําคัญ (essences) ที่บุคคลนั้นรับรู้ม.

ใหม่!!: จักรวรรดิออสเตรียและเอ็ดมุนด์ ฮุสเซิร์ล · ดูเพิ่มเติม »

เฮนรี แอดดิงตัน ไวเคานต์ซิดมัธที่ 1

นรี แอดดิงตัน ไวเคานต์ซิดมัธที่ 1 (Henry Addington, 1st Viscount Sidmouth) เป็นนักการเมืองและรัฐบุรุษชาวอังกฤษ ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีควบรัฐมนตรีคลังระหว่าง..

ใหม่!!: จักรวรรดิออสเตรียและเฮนรี แอดดิงตัน ไวเคานต์ซิดมัธที่ 1 · ดูเพิ่มเติม »

เจ้าชายหลุยส์แห่งบัทเทนแบร์ก

อมพลเรือ หลุยส์ อเล็กซานเดอร์ เมานต์แบ็ตเทน มาควิสแห่งมิลฟอร์ดเฮเวน (Louis Alexander Mountbatten, Marquess of Milford Haven) หรือพระนามเดิมคือ เจ้าชายหลุยส์ อเล็กซานเดอร์ แห่งบัทเทนแบร์ก เป็นทหารเรือชาวอังกฤษและเจ้าชายเยอรมันสัญชาติอังกฤษ พระองค์เสกสมรสกับเจ้าหญิงวิกตอเรีย พระราชนัดดาในสมเด็จพระราชินีนาถวิกตอเรี.

ใหม่!!: จักรวรรดิออสเตรียและเจ้าชายหลุยส์แห่งบัทเทนแบร์ก · ดูเพิ่มเติม »

เจ้าหญิงชาร์ลอตแห่งเบลเยียม

้าหญิงชาร์ลอตแห่งเบลเยียม (ภาษาอังกฤษ: Princess Charlotte of Belgium, ภาษาเยอรมัน: Prinzessin Charlotte von Belgien) (พระนามเต็ม: มารี ชาร์ลอต อเมลี่ ออกัสตีน วิคโตร์ คลีเมนตีน ลีโอโพลดีน, Marie Charlotte Amélie Augustine Victoire Clémentine Léopoldine von Habsburg-Lorraine (de Saxe-Coburg and Gotha)) ทรงเป็นเจ้าหญิงแห่งเบลเยียม และสมเด็จพระจักรพรรดินีมเหสีในสมเด็จพระจักรพรรดิแม็กซีมีเลียนที่ 1 แห่งเม็กซิโกอีกด้ว.

ใหม่!!: จักรวรรดิออสเตรียและเจ้าหญิงชาร์ลอตแห่งเบลเยียม · ดูเพิ่มเติม »

14 สิงหาคม

วันที่ 14 สิงหาคม เป็นวันที่ 226 ของปี (วันที่ 227 ในปีอธิกสุรทิน) ตามปฏิทินสุริยคติแบบเกรกอเรียน เมื่อถึงวันนี้จะยังเหลือวันอีก 139 วันในปีนั้น.

ใหม่!!: จักรวรรดิออสเตรียและ14 สิงหาคม · ดูเพิ่มเติม »

เปลี่ยนเส้นทางที่นี่:

Austrian EmpireEmpire of Austria

ขาออกขาเข้า
Hey! เราอยู่ใน Facebook ตอนนี้! »