ความคล้ายคลึงกันระหว่าง พระแม่คงคาและภีษมะ
พระแม่คงคาและภีษมะ มี 4 สิ่งที่เหมือนกัน (ใน ยูเนี่ยนพีเดีย): พระศิวะพระนารายณ์ศานตนุสหรัฐ
พระศิวะ
ระศิวะ หรือ พระอิศวร (शिव; Shiva) หนึ่งในตรีมูรติ หรือเทพเจ้าสูงสุดสามพระองค์ตามความเชื่อในศาสนาฮินดู (อีกสององค์ ได้แก่ พระพรหม และพระวิษณุ) พระแม่อุมาเทวีประดับโปุรัม ประเทศอินเดีย. พระแม่อุมาเทวีประดับโปุรัม ประเทศอินเดีย. พระศิวะ มีรูปกายเป็นชายหนุ่มร่างกำยำ วรรณะขาว (สีผิวขาว) นุ่งห่มหนังเสือเหมือนฤๅษี มีสังวาล์เป็นลูกประคำหรือกะโหลกมนุษย์ มีงูเห่าคล้องพระศอ ไว้พระเกศายาว ซึ่งจะม้วนเป็นจุฑา (มวยผม) มีพระจันทร์เป็นปิ่น มีคงคาอยู่บนยอดจุฑา ซึ่งพ่นน้ำมาตลอด และมีดวงพระเนตร (ตาที่ 3) กลางพระนลาฏ (หน้าผาก) ซึ่งโดยปกติจะปิดอยู่เสมอ เชื่อว่าหากเปิดขึ้นเมื่อไหร่ ไฟบรรลัยกัลป์จะเผาผลาญล้างโลก (บ้างว่าเป็นพระพรหม) ถือว่าเป็นการสิ้นสุดกัปหนึ่ง ก่อนที่พระพรหมจะสร้างโลกขึ้นมาใหม่ มีพาหนะ คือ โคอุศุภราช (วัวเพศผู้สีขาวล้วน) มีชายา คือ พระอุมา เทพีแห่งความกล้าหาญ มีโอรสสององค์ คือ พระขันทกุมารและพระพิฆเนศ ประทับอยู่ ณ เขาไกรลาส อันเป็นศูนย์กลางแห่งจักรวาล ชายาอีกองค์คือพระแม่คงคา มีธิดาคือพระแม่มนสาเทวีหรือพระยามี พระศิวะเป็นเทพที่จะคอยขับไล่สิ่งชั่วร้ายให้ห่างไกล และทำให้เกิดความดีงามเป็นศิริมงคลเกิดขึ้น ผู้ที่มีความทุกข์ไม่ว่าจะเป็นในทางใด หากบวงสรวงบูชา ขอพรให้พ้นทุกข์ พระศิวะก็จะประทานพรให้ผู้นั้นได้พ้นจากห้วงแห่งความทุกข์ พระศิวะมีท่าร่ายรำอันเป็นการร่ายรำของเทพเจ้า เรียกว่า "ปางนาฏราช" เมื่อแปลงกายลงไปปราบฤๅษีที่ไม่ประพฤติตนอยู่ในเพศดาบส ซึ่งต่อมาชาวฮินดูได้ถือเอาท่าร่ายรำนี้เป็นต้นแบบของการร่ายรำต่าง ๆ มาตราบจนปัจจุบัน นอกจากนี้แล้ว พระศิวะยังถือว่าเป็นเจ้าแห่งผีหรือปีศาจอีกด้วย โดยมีพระนามเรียกว่า "ปีศาจบดี" หรือ "ภูเตศวร" นอกจากนี้แล้วพระอิศวร ยังมีพระนามอื่นอีก เช่น "รุทร", "ศังกร", "ศุลี", "นิลกัณฐ์", "หระ" หรือ "อีสาน" และยังเป็นเทพประจำทิศตะวันออกเฉียงเหนือ หรือ อีสาน อีกด้วย นอกจากนี้แล้ว ยังเชื่อว่าพระศอของพระศิวะมีสีดำ ทั้งนี้เนื่องจากพระองค์ได้ยาพิษของพญานาคไว้เมื่อครั้งกวนเกษียรสมุทรทำน้ำอมฤตเพื่อช่วยโลก ซึ่งบทหนึ่งในกามนิต-วาสิฏฐี วรรณกรรมอิงพุทธศาสนาได้อ้างถึง สีของความรักว่าเป็นสีดำ เสมือนสีคอพระศิวะ พระศิวะ ที่ประเทศศรีลังกา อันเป็นประเทศที่ศาสนาพราหมณ์ได้เข้ามาเผยแพร่ก่อน ก่อนที่จะกลายมาเป็นศาสนาพุทธเป็นศาสนาหลักอย่างเช่นในปัจจุบัน พระศิวะในความเชื่อของที่นี่จะมีพาหนะเป็นนกยูง และกลายมาเป็นเทพเจ้าที่ทำหน้าที่ปกปักษ์รักษาพุทธศาสน.
พระศิวะและพระแม่คงคา · พระศิวะและภีษมะ ·
พระนารายณ์
ระนารายณ์บรรมบนหลังพญาอนันตนาคราช ณ เกษียรสมุทร และให้กำเนิดพระพรหม ดูบทความหลักที่ พระวิษณุ พระนารายณ์ (สันสกฤต: नारायण; Narayana; ความหมาย: ผู้ที่ได้เคลื่อนไหวอยู่ในน้ำ) เป็นเทพเจ้าสูงสุดหนึ่งในสามพระองค์ (ตรีมูรติ) ในความเชื่อของศาสนาพราหมณ์-ฮินดู โดยมากถือว่าเป็นองค์เดียวกันกับพระวิษณุ แต่ทว่าชาวไทยส่วนใหญ่จะคุ้นเคยกับพระนาม พระนารายณ์ มากกว่า เหตุที่มีพระนามแตกต่างกัน เนื่องจากมีบางคัมภีร์ในศาสนาพราหมณ์-ฮินดูเล่าว่า เดิมทีมีเทพเจ้าเพียงองค์เดียว คือ พระนารายณ์ ซึ่งเรียกว่าปรพรหม ซึ่งเป็นพระผู้สร้างทุกสรรพสิ่ง เมื่อพระนารายณ์รำพึงถึงการสร้างโลก ก็ทรงคำนึงถึงการปกปักรักษา แต่พระปรพรหมนั้นเป็นอรูปกเทพ คือ ไม่มีตัวตน จึงไม่สามารถที่จะสร้างโลกได้ จึงแบ่งภาคแยกร่างออกมาเป็น พระวิษณุ ซึ่งทรงประทานพระนามให้ และเมื่อพระวิษณุบรรทมหลับในเกษียรสมุทร ก็ทรงสุบินถึงการสร้างทุกสรรพสิ่ง ซึ่งพระวิษณุเป็นเทพผู้สร้างโลก สิ่งมีชีวิต รวมถึงมนุษย์ และที่พระนาภีของพระองค์ก็บังเกิดมีดอกบัวหลวงผุดขึ้นมา และภายในดอกบัวนั้นก็มี พระพรหม ซึ่งเป็นหนึ่งในตรีมูรติอยู่ภายใน ซึ่งพระวิษณุก็เป็นผู้ให้กำเนิดพระพรหมด้วย บางตำราก็กล่าวว่าเดิมมีพระนามว่า วิษณุ หรือ พิษณุ และได้เปลี่ยนเป็น นารายณ์ ในระยะหลัง โดยพระองค์มีสีพระวรกายเปลี่ยนแปลงไปตามยุคสมัยของโลก ในกฤตยุค ยุคแรกของโลก ยุคที่คุณธรรมความดีของมนุษย์มีเต็มเปี่ยม สีกายพระนารายณ์สีขาว ยุคที่สอง ไตรดายุค ธรรมะและคุณธรรมมนุษย์เหลือสามในสี่ สีกายพระนารายณ์เป็นสีแดง ยุคที่สาม ทวาปรยุค คุณธรรมมนุษย์เหลือครึ่งเดียว สีกายเป็นสีเหลือง ยุคปัจจุบัน เป็นยุคที่สี่ กลียุค คุณธรรมของมนุษย์ลดลงเหลือหนึ่งในสี่ สีกายพระนารายณ์ เปลี่ยนเป็นสีนิลแก่หรือสีดำ.
พระนารายณ์และพระแม่คงคา · พระนารายณ์และภีษมะ ·
ศานตนุ
ท้าวศานตนุ เป็นโอรสของราชาประตีปะ ซึ่งครองกรุงหัสตินาปุระ แคว้นกุรุ ส่วนตัวของท้าวศานตนุ มีพี่น้องรวมอุทร ๓ คน คือ เทวาปิ(ภายหลังได้รับพรให้เป็นอมตะไป)พี่คนโต พาหลีกะ หรือ วาหลีกะ น้องชายคนสุดท้าย และท้าวศานตนุเป็นคนกลาง ซึ่งต่อมาได้ขึ้นครองราชย์เป็นกษัตริย์ ในขณะนั้นได้เป็นผู้ให้กำเนิดบุคคลสำคัญของเรื่องมหากาพย์มหาภารตะอีกคนหนึ่ง นั่นก็คือ เจ้าชายเทวพรต หรือตอนหลังถูกขนานนามว่า ภีษมะ นั่นเอง ซึ่งเป็นพระโอรสของท้าวศานตนุและพระแม่คงคา หลังจากอยู่กินกับพระแม่คงคาได้ไม่นาน ก็ได้พระโอรสออกมาหนึ่งพระองค์ ท้าวศานตนุดีใจมาก แต่เมื่อจะเสด็จไปหาพระแม่คงคา ปรากฏว่าพระนางนั้นไม่อยู่กับที่ประทับ และกลับทิ้งพระโอรสลงไปในแม่น้ำ โดยทำอย่างนี้กับพระโอรสถึงเจ็ดพระองค์ด้วยกัน (เมื่อครั้งที่ท้าวศานตนุได้เจอกับพระแม่คงคานั้น ได้ให้สัญญาไว้ว่า จะไม่โกรธไม่เกลียดและจะไม่ซักถามเกี่ยวกับสิ่งที่พระแม่คงคาทำทั้งสิ้น) แต่เมื่อพระแม่คงคาได้ให้ประสูติพระโอรสองค์ที่แปดออกมาท้าวศานตนุก็ทนไม่ไหวและซักถามพระแม่คงคา พระนางจึงตรัสบอกกับพระองค์ว่าจะนำพระโอรสองค์ที่ ๘ (ซึ่งก็คือเจ้าชายเทวพรตหรือภีษมะ) ไปเลี้ยงดูเอง หลังจากนั้น ๑๖ ปีพระแม่คงคาก็นำพระโอรสองค์ที่ ๘ มาคืนกับท้าวศานตนุ ท้าวศานตนุอยู่กับเจ้าชายเทวพรตอย่างมีความสุขมาประมาณ ๔ ปี และตั้งให้เจ้าชายเทวพรตเป็นพระยุพราช (ผู้มีตำแหน่งจะได้ครอบครองบัลลังก์ต่อจากกษัตริย์) พระองค์ก็เจอกับลูกสาวชาวประมงซึ่งมีกลิ่นกายหอมมาก ชื่อว่า สัตยวดี จึงไปสู่ขอนางกับพ่อของนาง แต่พ่อของนางกลับบอกว่าต้องให้ลูกที่เกิดจากนางสัตยวดีเป็นกษัตริย์ต่อจากท้าวศานตนุแทนเจ้าชายเทวพรต ท้าวศานตนุไม่ตรัสอะไรและกลับไปยังพระราชวัง จากนั้นก็ซึมเศร้าตลอดมา เจ้าชายเทวพรตจึงไปไถ่ถามกับสารถีของพระบิดาว่าเหตุใดหลังจากกลับมาแล้วพระองค์ดูเศร้าโศกผิดปกติ สารถีจึงตอบไปตามความ เจ้าชายเทวพรตเมื่อเห็นพระบิดาเศร้าโศกเสียพระทัยก็ไม่สบายใจจึงไปที่บ้านของชาวประมงและตกลงว่าพระองค์จะให้ตำแหน่งพระยุพราชแก่น้องชายที่เกิดจากท้าวศานตนุและนางสัตยวดี แต่พ่อของนางกลับไม่พอใจแค่นั้น กลับพูดทำนองที่ว่า "ข้าจะมั่นใจได้อย่างไรว่าลูกหลานที่เกิดจากท่าน เจ้าชายเทวพรต จะไม่มาชิงบัลลังก์ของหลานชายข้า" เจ้าชายเทวพรตก็ค่อนข้างหงุดหงิดแต่ก็ต้องการทำตามพระประสงค์ของพระบิดาจึงให้คำสาบานต่อฟ้าดินว่าจะไม่ยุ่งเกี่ยวกับบัลลังก์พระราชาและจะไม่แต่งงานมีลูกกับผู้หญิงคนใดอีกตลอดชีวิตอย่างหนักแน่น จึงเป็นที่มาของชื่อที่รู้จักกันดีคือ ภีษมะ เมื่อท้าวศานตนุอภิเษกสมรสกับนางสัตยวดีไม่นานก็มีพระโอรสสองพระองค์คือ จิตรางคทะ และ วิจิตรวีรยะ จากนั้นไม่นานพระองค์ก็สิ้นพระชนม์ หมวดหมู่:ตัวละครในเรื่องมหากาพย์มหาภารตะ.
พระแม่คงคาและศานตนุ · ภีษมะและศานตนุ ·
สหรัฐ
หรัฐอเมริกา (United States of America) โดยทั่วไปเรียก สหรัฐ (United States) หรือ อเมริกา (America) เป็นสหพันธ์สาธารณรัฐ ประกอบด้วยรัฐ 50 รัฐ และหนึ่งเขตปกครองกลาง ห้าดินแดนปกครองตนเองสำคัญ และเกาะเล็กต่าง ๆ โดย 48 รัฐและเขตปกครองกลางตั้งอยู่ ณ ทวีปอเมริกาเหนือระหว่างประเทศแคนาดาและเม็กซิโก รัฐอะแลสกาอยู่มุมตะวันตกเฉียงเหนือของทวีปอเมริกาเหนือ มีเขตแดนติดต่อกับประเทศแคนาดาทางทิศตะวันออกและข้ามช่องแคบเบริงจากประเทศรัสเซียทางทิศตะวันตก และรัฐฮาวายเป็นกลุ่มเกาะในมหาสมุทรแปซิฟิกกลาง ดินแดนของสหรัฐกระจายอยู่ตามมหาสมุทรแปซิฟิกและทะเลแคริบเบียน ครอบคลุมเขตเวลาเก้าเขต ภูมิศาสตร์ ภูมิอากาศและสัตว์ป่าของประเทศหลากหลายอย่างยิ่ง สหรัฐมีพื้นที่ขนาด 9.8 ล้านตารางกิโลเมตร มีประชากรราว 326 ล้านคน ทำให้มีพื้นที่ขนาดใหญ่เป็นอันดับที่ 4 ของโลก และมีประชากรมากเป็นอันดับที่ 3 ของโลก เป็นประเทศซึ่งมีความหลากหลายทางเชื้อชาติและวัฒนธรรม และเป็นที่พำนักของประชากรเข้าเมืองใหญ่สุดในโลกAdams, J.Q., and Pearlie Strother-Adams (2001).
รายการด้านบนตอบคำถามต่อไปนี้
- สิ่งที่ พระแม่คงคาและภีษมะ มีเหมือนกัน
- อะไรคือความคล้ายคลึงกันระหว่าง พระแม่คงคาและภีษมะ
การเปรียบเทียบระหว่าง พระแม่คงคาและภีษมะ
พระแม่คงคา มี 86 ความสัมพันธ์ขณะที่ ภีษมะ มี 17 ขณะที่พวกเขามีเหมือนกัน 4, ดัชนี Jaccard คือ 3.88% = 4 / (86 + 17)
การอ้างอิง
บทความนี้แสดงความสัมพันธ์ระหว่าง พระแม่คงคาและภีษมะ หากต้องการเข้าถึงบทความแต่ละบทความที่ได้รับการรวบรวมข้อมูลโปรดไปที่: