โลโก้
ยูเนี่ยนพีเดีย
การสื่อสาร
ดาวน์โหลดได้จาก Google Play
ใหม่! ดาวน์โหลด ยูเนี่ยนพีเดีย บน Android ™ของคุณ!
ฟรี
เร็วกว่าเบราว์เซอร์!
 

007 พยัคฆ์ร้ายดับแผนครองโลกและเจมส์ บอนด์

ทางลัด: ความแตกต่างความคล้ายคลึงกันค่าสัมประสิทธิ์การเปรียบเทียบ Jaccardการอ้างอิง

ความแตกต่างระหว่าง 007 พยัคฆ์ร้ายดับแผนครองโลกและเจมส์ บอนด์

007 พยัคฆ์ร้ายดับแผนครองโลก vs. เจมส์ บอนด์

ัคฆ์ร้ายดับแผนครองโลก หรือในชื่อภาษาอังกฤษว่า The World Is Not Enough เป็นภาพยนตร์เรื่องที่ 19 ในภาพยนตร์ชุดเจมส์ บอนด์ ซีรีส์ ที่ค่ายภาพยนตร์อีโอเอ็นโปรดัคชั่นส์ (EON Productions) จัดทำขึ้น เป็นครั้งที่ 3 ที่เพียร์ซ บรอสแนน แสดงเป็น เจมส์ บอนด์ ให้กับค่ายอีโอเอ็นนี้ ภาพยนตร์เรื่องนี้ออกฉายใน พ.ศ. 2542 โดยดัดแปลงจากบทประพันธ์ของเรย์มอน เบนสัน กำกับโดย ไมเคิล แอปเต็ด ภาพยนตร์เรื่องนี้ใช้ทุนรวมทั้งสิ้น 135 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เทียบเท่าเงิน 174,705,882 ดอลลาร์สหรัฐใน พ.ศ. 2551 ภาพยนตร์เรื่องนี้กวาดรายได้รวมทั้งสิ้น 390 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เทียบเท่าเงิน 504,705,882 ดอลลาร์สหรัฐใน พ.ศ. 2551 เป็นภาพยนตร์ เจมส์ บอนด์ ที่ขายดีเป็นอันดับที่ 13 จากภาพยนตร์ เจมส์ บอนด์ อย่างเป็นทางการ 22 เรื่อง. มส์ บอนด์ (James Bond) เป็นตัวละครสมมติ สร้างโดย เอียน เฟลมมิ่ง เมื่อปี พ.ศ. 2496 ซึ่งปรากฏอยู่ในนวนิยาย 12 ตอนและรวมเรื่องสั้นอีก 2 เล่ม ต่อมาหลังจากเขาเสียชีวิตในปี พ.ศ. 2507 มีนักประพันธ์อีกหลายคนได้สิทธิ์ในการประพันธ์ เจมส์ บอนด์ ต่อ ได้แก่ คิงส์ลีย์ เอมิส, คริสโตเฟอร์ วูด, จอห์น การ์ดเนอร์, เรย์มอนด์ เบ็นสัน, เซบาสเตียน ฟอล์ค, เจฟฟรีย์ ดีฟเวอร์ และ วิลเลียม บอยด์ นอกจากนี้ยังมีผลงานประพันธ์ของ ชาร์ลี ฮิกสัน ในชุด ยังบอนด์ และ เคต เวสต์บรูค ประพันธ์ในรูปแบบไดอารีของตัวละคร มิสมันนีเพนนี เจมส์ บอนด์ ยังได้ถูกดัดแปลงออกมาเป็นสื่อต่างๆ เช่น ละครโทรทัศน์, ละครวิทยุ, การ์ตูน, วิดีโอเกมและภาพยนตร์ ซึ่งประสบความสำเร็จอย่างมากทั่วโลก โดยเป็นภาพยนตร์ชุดที่ทำเงินสูงสุดอันดับที่ 4 เริ่มจากเรื่อง พยัคฆ์ร้าย 007 (Dr.No) เมื่อปี พ.ศ. 2505 โดยมี ฌอน คอนเนอรี รับบท เจมส์ บอนด์ ปัจจุบันออกฉายแล้วทั้งหมด 24 ภาค ผลิตโดย อีโอเอ็น โปรดักชันส์ ภาคล่าสุด ชื่อว่า องค์กรลับดับพยัคฆ์ร้าย (Spectre) แดเนียล เคร็ก เป็นเจมส์ บอนด์ ครั้งที่ 4 และเป็นคนที่ 6 ที่รับบทนี้ นอกจากนี้ยังมีภาพยนตร์ที่ไม่ใช่ของ อีโอเอ็น คือ ทีเด็ดเจมส์บอนด์ 007 (Casino Royale) เมื่อปี พ.ศ. 2510 เดวิด นิเวน เป็นเจมส์ บอนด์ และ พยัคฆ์เหนือพยัคฆ์ (Never Say Never Again) เมื่อปี พ.ศ. 2526 ซึ่งเป็นการรีเมค ธันเดอร์บอลล์ 007 (Thunderball) โดย ฌอน คอนเนอรี กลับมารับบทเป็นเจมส์ บอนด์ อีกครั้ง ตัวเลข 007 ที่อยู่ท้ายชื่อของเจมส์ บอนด์ หมายถึงรหัสลับประจำตัวที่ใช้เรียกแทนตัวเขาในฐานะของสายลับคนหนึ่ง โดยเลข 00 ที่นำหน้าเลข 7 อยู่นั้น ถือเป็นสัญลักษณ์ที่แจ้งให้ทราบว่า ตัวเขาเป็นสายลับที่ได้รับอนุญาตให้สามารถสังหารชีวิตผู้อื่นได้โดยไม่ผิดกฎหมายสมเกียรติ อ่อนวิมล.

ความคล้ายคลึงกันระหว่าง 007 พยัคฆ์ร้ายดับแผนครองโลกและเจมส์ บอนด์

007 พยัคฆ์ร้ายดับแผนครองโลกและเจมส์ บอนด์ มี 6 สิ่งที่เหมือนกัน (ใน ยูเนี่ยนพีเดีย): พ.ศ. 2542พ.ศ. 2551ดาย อนัทเธอร์ เดย์ 007 พยัคฆ์ร้ายท้ามรณะเพียร์ซ บรอสแนนเอ็ม (เจมส์ บอนด์)007 พยัคฆ์ร้ายไม่มีวันตาย

พ.ศ. 2542

ทธศักราช 2542 ตรงกับปีคริสต์ศักราช 1999 เป็นปีปกติสุรทินที่วันแรกเป็นวันศุกร์ ตามปฏิทินเกรกอเรียน และสหประชาชาติกำหนดให้เป็น ปีสากลแห่งผู้สูงอายุและเป็นปีมหามงคลในโอกาสที่ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมีพระชนมพรรษาครบ 6 รอบ (พระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนม์พรรรษา ๖ รอบ ๕ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๔๒).

007 พยัคฆ์ร้ายดับแผนครองโลกและพ.ศ. 2542 · พ.ศ. 2542และเจมส์ บอนด์ · ดูเพิ่มเติม »

พ.ศ. 2551

ทธศักราช 2551 ตรงกับปีคริสต์ศักราช 2008 เป็นปีอธิกสุรทินที่วันแรกเป็นวันอังคารตามปฏิทินเกรกอเรียน และเป็น.

007 พยัคฆ์ร้ายดับแผนครองโลกและพ.ศ. 2551 · พ.ศ. 2551และเจมส์ บอนด์ · ดูเพิ่มเติม »

ดาย อนัทเธอร์ เดย์ 007 พยัคฆ์ร้ายท้ามรณะ

อนัทเธอร์ เดย์ 007 พยัคฆ์ร้ายท้ามรณะ (Die Another Day) เป็นภาพยนตร์เรื่องที่ 20 ในภาพยนตร์ชุดเจมส์ บอนด์ ซีรีส์ ที่ค่ายภาพยนตร์อีโอเอ็นโปรดัคชั่น (EON Productions) จัดทำขึ้น เป็นครั้งที่ 4 และครั้งสุดท้ายที่เพียร์ซ บรอสแนน แสดงเป็น เจมส์ บอนด์ เป็นครั้งที่ 4 และครั้งสุดท้ายของ ซาแมนธา บอนด์ ในบท มันนี่เพ็นนี ให้กับค่ายภาพยนตร์อีโอเอ็นนี้ ภาพยนตร์เรื่องนี้ออกฉายใน พ.ศ. 2545 กำกับโดย ลี ทามาโฮรี เขียนบทโดย เนล เพอร์วิสและโรเบิร์ต เวด ภาพยนตร์เรื่องนี้ใช้ทุนรวม 142 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เทียบเท่าเงิน 170,178,988 ดอลลาร์สหรัฐในพ.ศ. 2551 และกวาดรายได้รวม 456 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เทียบเท่าเงิน 546,490,272 ดอลลาร์สหรัฐในพ.ศ. 2551 เป็นภาพยนตร์เจมส์ บอนด์ ที่ขายดีเป็นอันดับที่ 10 จากภาพยนตร์เจมส์ บอนด์ อย่างเป็นทางการ 22 เรื่อง และเป็นเรื่องสุดท้ายที่เป็นไปตามลำดับเวลาของชุด ก่อนที่จะเริ่มต้นใหม่ใน พยัคฆ์ร้ายเดิมพันระห่ำโลก.

007 พยัคฆ์ร้ายดับแผนครองโลกและดาย อนัทเธอร์ เดย์ 007 พยัคฆ์ร้ายท้ามรณะ · ดาย อนัทเธอร์ เดย์ 007 พยัคฆ์ร้ายท้ามรณะและเจมส์ บอนด์ · ดูเพิ่มเติม »

เพียร์ซ บรอสแนน

ียร์ซ บรอสแนน ถ่ายเมื่อ ค.ศ. 2005 ภาพเพียร์ซ บรอสแนน ถ่ายเมื่อ ค.ศ. 2002 เพียร์ซ บรอสแนน กับ Stephanie Zimbalist ในภาพยนตร์ซีรีส์เรื่อง Remington Steele (ฉายระหว่างค.ศ. 1982-ค.ศ. 1987) ภาพถ่ายเพียร์ซ บรอสแนน ในช่วงวัยรุ่น เพียร์ซ ในภาพยนตร์เรื่อง Seraphim Falls เพียร์ซ เบรนดัน บรอสแนน (Pierce Brendan Brosnan),เป็นนักแสดงอเมริกันเชื้อสายไอริช เกิดเมื่อวันที่ 16 พฤษภาคม ค.ศ. 1953 (พ.ศ. 2496) ที่เมืองดรอกเฮดา (Drogheda) ประเทศไอร์แลนด์ ต่อมา ในปี ค.ศ. 1964 พ่อแม่ของเขาก็หย่ากัน เขาได้อยู่กับแม่ และแม่ก็แต่งงานใหม่กับทหารผ่านศึกชาวสหราชอาณาจักร ชื่อ วิลเลียม ชาร์ไมเคิล (William Charmichael) เขาจึงเป็นพ่อบุญธรรมของบรอสแนน เขาไม่ได้พยายามกลั่นแกล้งลูกบุญธรรมเหมือนผู้ปกครองบุญธรรมในละคร ตรงกันข้าม เขารัก และเอ็นดูบรอสแนนมากคล้ายกับเป็นลูกในไส้ เขาส่งเสียให้บรอสแนนได้เรียนหนังสือ โดย เขาได้ศึกษาที่โรงเรียนเอลเลียท (Elliott School) ในลอนดอนตะวันตก และในปี พ.ศ. 2507 นั้นเอง วิลเลียมก็พาบรอสแนน ไปดูภาพยนตร์ชุดเจมส์ บอนด์เป็นครั้งแรก ในตอนที่ 3 คือตอน Goldfinger ต่อมาในปี ค.ศ. 1969 ก็มีผู้ฝึกดาราคนหนึ่งมองเห็นแววความเป็นนักแสดงของเขา ผู้ฝึกคนนั้นจึงรับบรอสแนนไปฝึกเพื่อเตรียมเป็นดารานักแสดงต่อไป เพียร์ซ บรอสแนน แต่งงานกับนักแสดงสาวชาวออสเตรเลียชื่อ คาสแซนดรา แฮร์ริส (Cassandra Harris) ในปี ค.ศ. 1977 และเขาเริ่มโด่งดังขึ้นมาเมื่อภาพยนตร์เรื่องแรกที่เขาแสดงได้ออกฉายในในปี ค.ศ. 1980 ต่อมา เมื่อครั้งที่เจมส์ บอนด์ตอน For Your Eyes Only (เจาะดวงตาเพชฌฆาต) กำลังถ่ายทำ ภรรยาของเขาได้ไปแสดงประกอบด้วยในบางฉาก เมื่อเขาไปเยี่ยมภรรยาขณะถ่ายทำ ผู้อำนวยการสร้าง อัลเบิร์ต อาร.

007 พยัคฆ์ร้ายดับแผนครองโลกและเพียร์ซ บรอสแนน · เจมส์ บอนด์และเพียร์ซ บรอสแนน · ดูเพิ่มเติม »

เอ็ม (เจมส์ บอนด์)

ูดี้ เดนช์ ผู้รับบท "เอ็ม" เป็นผู้หญิงคนแรก ภาพจากเรื่อง ''007 พยัคฆ์ร้ายดับแผนครองโลก'' (The World Is Not Enough) เอ็ม เป็นตัวละครในนิยายชุดเจมส์ บอนด์ แต่งโดยเอียน เฟลมมิง ซึ่งรวมถึงภาพยนตร์และวิดีโอเกมในชุดเจมส์ บอนด์ด้วย "เอ็ม" เป็นรหัสเรียกตำแหน่งหัวหน้าหน่วยงานสืบราชการลับของสหราชอาณาจักร (MI6) เชื่อกันว่าเอียน เฟลมมิงนั้นได้แรงบันดาลใจมาจากผู้อำนวยการหน่วยสืบราชการลับคนแรกเซอร์แมนสฟิลด์ สมิธ-คัมมิง (Mansfield Smith-Cumming) ซึ่งใช้ตัวย่อในเอกสารว่า "ซี" (C) และประเพณีถูกดำเนินต่อมาโดยผู้อำนวยการคนอื่นๆ ในฉบับนิยาย ชื่อจริงของ "เอ็ม" คือ "Sir Miles Messervy" โดยจะมีผู้ช่วยเป็นเลขานุการชื่อมิสมันนี่เพนนี และหัวหน้าสต๊าฟชื่อบิล แทนเนอร.

007 พยัคฆ์ร้ายดับแผนครองโลกและเอ็ม (เจมส์ บอนด์) · เจมส์ บอนด์และเอ็ม (เจมส์ บอนด์) · ดูเพิ่มเติม »

007 พยัคฆ์ร้ายไม่มีวันตาย

ปสเตอร์ต้นฉบับของ "พยัคฆ์ร้ายไม่มีวันตาย" 007 พยัคฆ์ร้ายไม่มีวันตาย หรือในชื่อภาษาอังกฤษว่า Tomorrow Never Dies เป็นภาพยนตร์เรื่องที่ 18 ในภาพยนตร์ชุดเจมส์ บอนด์ ซีรีส์ ที่ค่ายภาพยนตร์อีโอเอ็นโปรดัคชั่น (EON Production) จัดทำขึ้น และเป็นครั้งที่ 2 ที่ เพียร์ซ บรอสแนน แสดงเป็น เจมส์ บอนด์ ให้กับค่ายอีโอเอ็นนี้ ภาพยนตร์เรื่องนี้ออกฉายในพ.ศ. 2540 โดยดัดแปลงจากบทประพันธ์ของเรย์มอน เบนสัน กำกับโดย โรเจอร์ สปอตติสวูด ภาพยนตร์เรื่องนี้เป็นภาคต่อของ พยัคฆ์ร้าย 007 รหัสลับทลายโลก โดยมีภาคต่อจากนี้คือ 007 พยัคฆ์ร้ายดับแผนครองโลก ภาพยนตร์เรื่องนี้ใช้ทุนรวมทั้งสิ้น 110 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งเทียบเท่าเงิน 147,763,240 ดอลลาร์สหรัฐในพ.ศ. 2551 ภาพยนตร์เรื่องนี้กวาดรายได้มารวมทั้งสิ้น 346.6 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งเทียบเท่าเงิน 465,588,535 ดอลลาร์สหรัฐใน พ.ศ. 2551 เป็นภาพยนตร์เจมส์ บอนด์ ที่ขายดีเป็นอันดับที่ 15 จากภาพยนตร์ เจมส์ บอนด์ อย่างเป็นทางการ 22 เรื่อง.

007 พยัคฆ์ร้ายดับแผนครองโลกและ007 พยัคฆ์ร้ายไม่มีวันตาย · 007 พยัคฆ์ร้ายไม่มีวันตายและเจมส์ บอนด์ · ดูเพิ่มเติม »

รายการด้านบนตอบคำถามต่อไปนี้

การเปรียบเทียบระหว่าง 007 พยัคฆ์ร้ายดับแผนครองโลกและเจมส์ บอนด์

007 พยัคฆ์ร้ายดับแผนครองโลก มี 12 ความสัมพันธ์ขณะที่ เจมส์ บอนด์ มี 166 ขณะที่พวกเขามีเหมือนกัน 6, ดัชนี Jaccard คือ 3.37% = 6 / (12 + 166)

การอ้างอิง

บทความนี้แสดงความสัมพันธ์ระหว่าง 007 พยัคฆ์ร้ายดับแผนครองโลกและเจมส์ บอนด์ หากต้องการเข้าถึงบทความแต่ละบทความที่ได้รับการรวบรวมข้อมูลโปรดไปที่:

Hey! เราอยู่ใน Facebook ตอนนี้! »