5 ความสัมพันธ์: พระศรีอริยเมตไตรยพระอวโลกิเตศวรโพธิสัตว์พระอักโษภยพุทธะกวนอิมโจโว รินโปเช
พระศรีอริยเมตไตรย
ระศรีอริยเมตไตรย หรือพระเมตไตรย (Metteyya เมตฺเตยฺย; मैत्रेय ไมเตฺรย) เป็นพระโพธิสัตว์ผู้จะได้ตรัสรู้เป็นพระพุทธเจ้าพระองค์ที่ 5 และองค์สุดท้ายแห่งภัทรกัปนี้ พุทธศาสนิกชนเชื่อว่าเมื่อศาสนาของพระโคตมพุทธเจ้าสิ้นสุดไปแล้ว โลกจะล่วงเข้าสู่ยุคแห่งความเสื่อมถอย อายุขัยของมนุษย์ลดลงจนเหลือ 10 ปี ก็เข้าสู่ยุคมิคสัญญี ผู้สลดใจกับความชั่วก็หันมารวมกลุ่มกันทำความดี จากนั้นอายุขัยเพิ่มขึ้นถึง 1 อสงไขยปี แล้วจึงลดลงอีกจนเหลือ 80,000 ปี ในยุคนี้จะมีพระโพธิสัตว์ที่บำเพ็ญบารมีครบ 80 อสงไขยแสนมหากัป ลงมาตรัสรู้เป็น พระเมตไตรยพุทธเจ้.
ใหม่!!: วัดโจคังและพระศรีอริยเมตไตรย · ดูเพิ่มเติม »
พระอวโลกิเตศวรโพธิสัตว์
ระอวโลกิเตศวร เป็นพระโพธิสัตว์องค์สำคัญของพระพุทธศาสนามหายาน ที่มีผู้เคารพศรัทธามากที่สุด และเป็นบุคลาธิษฐานแห่งมหากรุณาคุณของพระพุทธเจ้าทั้งปวง เรื่องราวของพระอวโลกิเตศวรปรากฏอยู่ทั่วไปในคัมภีร์สันสกฤตของมหายาน อาทิ ปรัชญาปารมิตาสูตร สัทธรรมปุณฑรีกสูตร และการัณฑวยูหสูตฺร.
ใหม่!!: วัดโจคังและพระอวโลกิเตศวรโพธิสัตว์ · ดูเพิ่มเติม »
พระอักโษภยพุทธะ
ระอักโษภยะพุทธะ เป็นพระธยานิพุทธะ 1 ใน 5 องค์ พระนามหมายถึง "ไม่หวั่นไหว" ประทับทางทิศตะวันออกของพุทธมณฑล พระกายสีน้ำเงิน รัศมีสีขาว เป็นต้นตระกูลของพระโพธิสัตว์ตระกูลวัชระ เป็นสัญญลักษณ์แทนโพธิจิตในสรรพสัตว์ ถือดอกบัวที่เป็นสัญญลักษณ์แห่งความกรุณา และระฆังที่หมายถึงอิตถีภาวะแห่งเมตตาและขันติ ทรงช้างคู่สีน้ำเงิน อันเป็นสัญญลักษณ์แห่งพลังมหาศาล พระโพธิสัตว์ตระกูลวัชระที่รู้จักกันดีคือพระวัชรปาณีโพธิสัตว์และพระกษิติครรภ์โพธิสัตว.
ใหม่!!: วัดโจคังและพระอักโษภยพุทธะ · ดูเพิ่มเติม »
กวนอิม
กวนอิม ตามสำเนียงฮกเกี้ยน หรือ กวนอิน ตามสำเนียงกลาง เป็นพระโพธิสัตว์ในตามคติมหายาน เป็นองค์เดียวกันกับพระอวโลกิเตศวรโพธิสัตว์ในภาษาสันสกฤต ซึ่งมีต้นกำเนิดจากพระสูตรมหายานในประเทศอินเดีย และได้ผสมผสานกับตำนานเรื่องเจ้าหญิงเมี่ยวซ่าน ของศาสนาพื้นบ้านจีนจนก่อให้เกิดเป็นพระโพธิสัตว์กวนอิมในภาคสตรีขึ้น เพื่อแสดงออกถึงความอ่อนโยน และแสดงถึงความเมตตากรุณาให้เด่นชัดยิ่งขึ้นดังเช่นความรักของมารดาที่มีต่อบุตร ซึ่งเป็นการผสมผสานกลมกลืนทางความเชื่อที่ปราศจากข้อขัดแย้ง เนื่องจากในสัทธรรมปุณฑรีกสูตรได้อธิบายว่า พระอวโลกิเตศวรนั้นสามารถแบ่งภาคเพื่อโปรดสรรพสัตว์ได้มากมายทั้งปางบุรุษและสตรี และเป็นธรรมดาของพระโพธิสัตว์มหายานที่เมื่อเข้าไปสู่ดินแดนอื่นทั้งทิเบต จีน หรือญี่ปุ่น ย่อมผสมผสานกลมกลืนได้กับเทพท้องถิ่นนั้น ๆ อย่างในกรณีพระอวโลกิเตศวรนี้ Sir Charles Eliot ได้ตั้งข้อสังเกตว่า "คงเนื่องมาจากความสับสนทางความคิดของชาวจีนในยุคนั้น ซึ่งบูชาเทพเจ้าต่าง ๆ ของตนอยู่แล้ว และเมี่ยวซ่านก็เป็นเทพวีรชนดั้งเดิมอยู่ก่อน พออารยธรรมพระโพธิสัตว์จากอินเดียแผ่เข้าไปถึง ได้เกิดการผสานทางวัฒนธรรมเปลี่ยนชื่อเสียงคงไว้เพียงแต่คุณลักษณะต่าง ๆ พอให้แยกออกว่าเป็นพระอวโลกิเตศวรโพธิสัตว์" เจ้าแม่กวนอิมเป็นผู้.
ใหม่!!: วัดโจคังและกวนอิม · ดูเพิ่มเติม »
โจโว รินโปเช
ว ศากยมุนี หรือ โจโว รินโปเช เป็นพุทธปฏิมาที่ชาวทิเบตเคารพบูชาเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์สูงสุด ประดิษฐานอยู่ที่วัดโจคัง ในนครลาซา เมืองเอกของเขตปกครองตนเองทิเบต คำว่า "โจโว" ในภาษาทิเบตมีความหมายว่า "พระเป็นเจ้า" (อันเป็นคำเรียกขานสิ่งที่มีศักดิ์สูงสุด เช่นเดียวกับที่ชาวไทยแต่โบราณใช้เรียกขานพระพุทธรูป และพระสงฆ์ รวมถึงพระมหากษัตริย์) ด้วยเหตุนี้ โจโว ศากย มุนี จึงพระศายมุนีเป็นเจ้า ประวัติ โจโว รินโปเช เชื่อกันว่าสร้างขึ้นตั้งแต่เมื่อครั้งพระพุทธองค์ยังทรงพระชนม์ชีพอยู่ โดยฝีมือของพระวิศวกรรม หรือพระวิษณุกรรม และยังได้รับการอำนวยพรโดยพระพุทธองค์ ให้มีพลังเยียวยารักษาผู้เคารพสักการะ ต่อมามหาราชแห่งแคว้นมคธได้ถวายพระพุทธรูปนี้แก่จักรพรรดิแห่งราชวงศ์ถัง และต่อมาเจ้าหญิงเหวินเฉิง พระภาติยะของจักรพรรดิถังไท่จง ทรงอาราธนามายังแผ่นดินทิเบต เมื่อคราที่พระองค์เสด็จมาอภิเษกสมรสกับพระเจ้าซงเซินกัมโป กษัตริย์ทิเบต ต่อมาในรัชสมัยของพระเจ้ามังซง มังเซน พระนัดดาของพระเจ้าซงเซินกัมโป พระนางเหวินเฉิงได้ซุกซ่อนพระพุทธปฏิมานี้ในห้องลับของวัดโจคัง เนื่องจากในขณะนั้นอาณาจักรถังคิดรุกรานทิเบต ในเวลาต่อมาองค์หญิงจินเฉิง แห่งอาณาจักรถัง ซึ่งเดินทางมาเป็นพระชายาของกษัตริย์ท้องถิ่น เพื่อประสานไมตรีกับทิเบต ได้ทรงนำพระพุทธโจโว รินโปเช ออกมาประดิษฐาน ณ วิหารใหญ่ ของวัดโจคังอีกครั้ง ราวปี..
ใหม่!!: วัดโจคังและโจโว รินโปเช · ดูเพิ่มเติม »